ชิน : ผมอยากรู้จักคุณเร็วๆ แล้วสิ "ณัฐณิชา"...ฮึ เขาพร่ำพูดคนเดียวแล้วแสะยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ แขนแกร่งกอดอกพร้อมเอนแผ่นหลังหนานั้นกับเก้าอี้ราคาแพง ด้วยเธอที่มีเสน่ห์ดึงดูดจนเขานั้นอยากพบเจอ
เช้าวันใหม่ที่แสนสดใส แสงแดดอ่อนที่เล็ดลอดลำแสงทะลุผ่านเข้ามาในห้องจนเธอนั้นต้องขยับตัวตื่น
เอม : อื้ด ...
ร่างบางรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของวันใหม่ เธอบิดร่างกายให้เล็กน้อยจากการพักผ่อนตลอดทั้งคืนเพื่อให้ผ่อนคลาย “ ขี้เกียจจัง”
เอม หญิงสาวผู้น่ารักในวัย 30 เดินทางไปทำงานด้วยรถยนต์ของเธอ จากคอนโดที่พักของเธอกับที่ทำงานนั้น ไม่ได้ไกลมากนักใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 20 นาที
08.30 น. เวลาทำงานของเอม หญิงสาวในวัย 30 กำลังเดินทอดน่องมุ่งหน้าสู่ห้องทำงานของเธอ ระหว่างทางก็มีเพื่อนพนักงานทักทายปกติ “สวัสดีค่ะพี่เอม “หนึ่งในพนักงานแผนกเดียวกันเอ่ยทักขึ้นอย่างเป็นมิตรเมื่อพบหน้า เธอยิ้มตอบกลับและก้มหัวรับอย่างให้เกียรติคนทัก
เอม : เอมไปทำงานก่อนนะคะ (เธอพูดตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงไพเราะแล้วเดินเข้าห้องทำงานทันที)
เมื่อหญิงสาวเดินมาในห้อง เสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะเธอก็ดังขึ้นทั้งที่ยังไม่ได้หย่อนก้นนั่งลงเก้าอี้สักนิด
เอม : ณัฐณิชา พูดสายค่ะ ... : น้องเอม พี่แจนนะคะ เอม: ค่ะ พี่แจนมีอะไรด่วนเหรอโทรมาแต่เช้าเลย แจน: คุณชิน เรียกพบนะคะ ตอน 09.30 เอม: เรียกเอมหรอ ? … มีอะไรหรือเปล่าอ่ะพี่แจน (หญิงสาวเกิดความงงเล็กน้อยก่อนจะย้อนถามปลายสายไป)
แจน : ใช่ค่ะ...อย่าว่าแต่เอมสงสัยเลย พี่ก็สงสัยเหมือนกันค่ะ เอม : ค่ะเดี๋ยวเอมไปค่ะ 09.30 นะคะ แจน : จ๊ะ (แล้วแจนเลขาหน้าห้องก็วางสายไป) *********
เอม : นี่ฉันทำอะไรผิดหรือเปล่า (หลังจากวางสายแล้วเธอนั่งทวนว่ามีสิ่งใดที่เธอนั้นทำผิดพลาดไปหรือเปล่า จึงทำได้แค่บ่นคนเดียวในห้องทำงานเท่านั้น) *********
ด้านชินกิ
วันนี้ผมเข้าบริษัทมาตั้งแต่ 8 โมงเช้าซึ่งยังไม่ถึงเวลาเข้างานของพนักงาน บริษัทที่นี่เข้างาน 08.30-17.00 ผมไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทำไมต้องมาแต่เช้าหรือผมอาจตื่นเต้น เพราะวันนี้ผมตั้งใจจะเรียก " ณัฐณิชา" ให้มาพบผม ผมเคยพลาดมาครั้งหนึ่งแล้ว ผมจะไม่พลาดอีก การพลาดพลั้งครั้งนั้นมันทำให้ผมจำฝังใจจนไม่อยากมีใครในชีวิต แต่เมื่อผมได้พบเจอเธอมันทำให้ความคิดของผมแปรเปลี่ยนไป อยากได้เธอมาครอบครอง... ชินกิ : วันนี้แล้วสินะ ที่ผมจะได้พบคุณอย่างเป็นทางการซักที "ณัฐณิชา" (เขายิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าที่มีเสน่ห์เปื้อนยิ้มอย่างดีใจ ทันใดที่จบคำพูดลง ชายหนุ่มเอื้อมมือไปที่โทรศัพท์ แล้วกดต่อสายไปยังหน้าห้องเพื่อต่อสายสอบถามเลขาทันที นี่เขาร้อนใจขนาดนั้นเชียวหรือ)
ชินกิ : คุณแจน ณัฐณิชา มาทำงานหรือยัง (เขาถามเสียงนิ่งด้วยบุคลิกที่เป็นมาแต่ไหนแต่ไร)
แจน : มาแล้วค่ะคุณชิน แจนโทรนัดน้องเอมให้เรียบร้อยแล้วค่ะ (เลขาสาวตอบบอกไปตามสิ่งที่เป็น)
ชินกิ : โอเค ขอบคุณครับ (หูโทรศัพท์ถูกวางลงที่เดิมก่อนที่เขาจะทวนชื่อเธอ) เอมหรอ ? ชื่อน่ารักจัง (ชายหนุ่มพูดพร่ำคนเดียวแล้วยิ้มเหมือนดั่งคนบ้า ไม่ได้สนใจคนสนิทที่อยู่ในห้องเดียวกันเลยสักนิด จนโชเกิดสงสัยในท่าทางของเจ้านายตัวเองที่ปกติที่เคยเป็นนั้นวันนี้เขากลับดูเปลี่ยนไป
โช : คุณชิน เป็นอะไรหรือเปล่าครับ พูดคนเดียวก็เป็น
ชินกิ : เรื่องของฉัน...ยิ้ม
โช : อารมณ์ดีแปลกๆ นะผมว่า
ชินกิ : เงียบไปก็ไม่มีใครหาว่านายเป็นใบ้หรอกนะ ฉันจะอารมณ์ดีบ้างไม่ได้หรือไง
09.20 น. เวลานัดหมายเลื่อนคล้อยใกล้มาถึงการพบผู้บริหารที่นานทีเธอจะถูกเรียก ซึ่งเมื่อก่อนน้อยครั้งมากที่จะได้ถูกเรียกพบแบบนี้ หญิงสาวเงยหน้าจากเอกสารกองโต แล้วมองนาฬิกาในข้อมือ
เอม : ใกล้ถึงเวลาแล้วนิ หญิงสาวเปรยออกมาคนเดียว เมื่อมองนาฬิกาซึ่งตอนนี้ใกล้ถึงเวลาที่เธอต้องไปพบเจ้านายสุดหล่อของเธอแล้ว เธอเดินออกมาจากห้องทำงานของเธอ แล้วเอ่ยปากบอกกับพนักงานด้านหน้าเพื่อให้รับรู้ว่าเธอไปไหนเผื่อมีใครถามหา
เอม : ฝ้าย พี่ไปพบคุณชินนะ เผื่อมีใครถามหาพี่
ฝ้าย : ค่ะพี่เอม
ฝ้ายคือรุ่นน้องที่ทำงานของเธอ และเหมือนสนิทกับเธอที่สุด เธอจะบอกกับเพื่อนร่วมงานในแผนกเดียวกันทุกครั้งเมื่อเธอไม่อยู่ในห้องทำงาน ถึงแม้บางครั้งฝ้ายจะไม่อยู่ก็ตาม เธอก็จะบอกให้คนอื่นรับรู้เสมอ
สวัสดีค่ะ คงจะรู้จักกับเอม คร่าวๆ แล้วเนอะเอมเป็นคนอีสานค่ะแต่เข้ามาทำงานในเมืองกรุง ตอนนี้เอมอายุ 30 แล้วค่ะ สถานะโสด โสดมากและซิงด้วย คงเพราะไม่มีผู้ชายที่ไหนกล้าเข้ามาหามั้งนะ ด้วยหน้าตาที่ดูหยิ่ง ๆ นิ่ง ๆ แต่ที่จริงแล้ว เอมอ่ะเป็นคนตลกนะ ถ้าใครรู้จักหรือสนิทกับเอมจริง ๆ เท่านั้นแหละจะรู้ว่าเอมเป็นคนยังไง แต่ก็มีไม่กี่คนเท่านั้นแหละ เพราะเอมไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไหร่ เพราะเอมเลือกคบเพื่อน(เอาที่จริงใจไม่ตอแหล) บอกตรง ๆ ไม่ได้หยิ่งอะไรนะ แต่ไม่มีใครอยากคบ เอมจะดูเป็นคนจริงจังเฉพาะตอนทำงานเท่านั้น แต่พอหมดเวลาสำหรับงานแล้วเอมจะเป็นตัวของตัวเอง ครอบครัวของเอมก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ฐานะปานกลาง ยาย ตา และป้าเลี้ยงเอมมาตั้งแต่เอมยังแบเบาะ เพราะพ่อกับแม่ต้องไปทำงาน ยายกับตาทำไร่มันเทศเลี้ยงเอมช่วยแม่กับพ่อมา ป้าส่งเงินเลี้ยงเอมมาตั้งแต่เอมเกิดมาเลย จนเอมโตมาพอที่จะรู้และมีความคิดขึ้นมา เอมสัญญากับตัวเองว่า เอมจะต้องมีเงินเลี้ยงผู้มีพระคุณของเอมให้สบาย เพราะท่านเหนื่อยกับเอมมาเยอะแล้ว และนี่คือเหตุผล อีกอย่างหนึ่ง ที่เอมไม่ค่อยสนใจเรื่องผู้ชายเท่าไหร่ แต่เอมก็ไม่ซีเรียสนะ เพราะเอมทำงานหาเงินเองได้ แถมได้ส่งให้คนทางบ้านได้ใช้จ่ายด้วย แค่นี้เอมก็มีความสุขแล้วล่ะ เดี๋ยวเราค่อยมาทำความรู้จักกับเอมไปเรื่อย ๆ แล้วกันเนาะ เพราะตอนนี้เจ้านายของเอมจะกินหัวเอาเสียก่อน เพราะวันนี้เอมถูกเรียกพบ ซึ่งเอมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรียกทำไม คนยิ่งงานเยอะๆ อยู่
เอม : พี่แจน เอมสาย 2 นาที เอมจะโดนกินหัวไหมอ่ะ (เธอพูดแซวแหย่เพราะเท่าที่รู้เรื่องเวลานั้นสำคัญเป็นอย่างมาก บ่งบอกถึงความรับผิดชอบของเจ้านายที่นี่)
แจน : น้องเอมเข้าไปเลยจ๊ะ คุณชินรออยู่
เอม : ค่ะ เอมไปก่อนนะ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เชิญ !!
เอม : ชิ_หาย เสียงโคตรขรึม จะตายไหมวะกู (เธอพูดพึมพำก่อนจะเปิดประตูเข้าไป)
หญิงสาวเดินเข้าไปในห้องทำงานของผู้บริหารหนุ่มแล้วหยุดตรงหน้าเค้าพร้อมกับยกมือไหว้ ทั้ง ๆ ที่เขายังก้มดูเอกสารอยู่ แต่ด้วยมันคือการให้เกียรติและเคารพจึงต้องทำ
เอม : สวัสดีค่ะ คุณชินเรียกเอมมีอะไรหรือเปล่าคะ ชิน : นั่งซิ (เขาตอบเธอแต่ตายังก้มมองดูเอกสาร) เอม : ค่ะ (เธอตอบเสียงนิ่งแล้วหย่อนก้นอันงามงอนลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับบอสหนุ่มที่ยังไม่ละสายตาห่างจากเอกสารที่อยู่ตรงหน้า) ชิน : โชออกไปก่อน ผมขอคุยกับ ณัฐณิชาส่วนตัว โช : ครับ ชิน : ที่พบเรียกคุณมา ก็ไม่มีอะไรมาก แค่จะถามคุณณัฐณิชา นิดหน่อย (เขาเงยหน้ามองหญิงสาวตรงหน้าพร้อมพิงหลังลงพนักเก้าอี้ ท่าทีมาดนิ่งจนทำให้คนหยิ่งอย่างณัฐณิชานั้นยอมเลยเพียงแค่สายตามองเท่านั้น มีคนนิ่งกว่าเธออีกอย่างเหรอ สิ่งที่เธอพูดพร่ำในใจ) เอม : เอมค่ะ เรียก เอม เฉยๆ ก็ได้ค่ะ ชิน : อืม เอม … (แอบยิ้มในใจ แต่ต้องเก๊กหน้านิ่งไว้ ถึงแม้อยากจะแสดงออกมาเพียงใด ด้วยท่าทางนิ่งหยิ่งยิ่งทำให้เขานั้นอยากเข้าใกล้ ความท้าทายในตัวเธอมันดึงดูดเขา) เอม : คุณชิน รีบพูดเรื่องที่ต้องการเถอะค่ะ เอมมีงานต้องทำต่อ
ชิน : คุณรีบหรอ ( เขามองหน้าเธอด้วยท่าทีนิ่งและขรึม เพราะเขาไม่คิดว่าเธอจะกล้าขนาดนี้ก่อนจะย้อนถามเสียงเย็นนิ่งพร้อมจ้องหน้าเธอ) เอม : ค่ะ เอมรีบเพราะงานเอมเยอะมากค่ะวันนี้ ชิน : รีบก็กลับไปทำซะสิ เอม : อ้าว ... ("กวน Teen" เธอเบือนหันหน้าออกข้างแล้วบ่นคนเดียวเบา ๆ ทำไมเจ้านายถึงได้ยียวน) ชิน : คุณว่าอะไรนะ ผมไม่ได้ยิน เอม : เปล่าค่ะ (เธอตอบเสียงเย็นชา พร้อมกับมองหน้าคนเป็นนาย) ชิน : คุณทำงานที่นี่มานานเท่าไหร่แล้ว เอม : 2 ปีกว่าค่ะ ชิน : คุณอายุเท่าไหร่ ? (แสร้งถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว แต่ก็ไม่แคล้วอยากก่อกวนเย้าอารมณ์เธอ) เอม : ปีนี้ 30 ค่ะ ..... ว่าแต่คุณชินไม่มีเรื่องอื่นจะถามเอมแล้วหรอคะ (ความเอือมระอา ในวาจาของเจ้านาย จนไม่รู้ว่าถามแบบนี้เพื่ออะไร จึงตอบกลับไปอย่างเซ็ง ๆ) ชิน : เรื่องของผม เอม : เฮ้อ !! (เธอได้แต่แอบถอนหายใจเบาๆ "อะไรของเค้าวะเนี่ย จะบ้าตาย") คือ เอ.......... (เธอพูดยังไม่ทันจบ ก็โดนเขานั้นพูดดักคอเสียก่อน) ชิน : เอมมีงานต้องทำค่ะ (ท่าทางยียวนกวนประสาทย้อนคำพูดเธอออกไป ทำไมเขาเป็นแบบนี้) เอม : ค่ะ เอมมีงานต้องทำ และงานเอมต้องเสร็จภายในวันนี้ รบกวนคุณชินช่วยเข้าใจเอมหน่อย หาไม่มีอะไรจะถาม เอมขอตัว (คำพูดนิ่งเย็นชา แต่อารมณ์และวาจานั้นเหมือนดั่งไฟแผดเผา เพราะเขานั้นถามแต่ไร้สาระ) ชิน : ฮึ (เสียงเค้นหัวเราะในลำคอแกร่ง แสยะยกยิ้มมุมปากอย่างยียวน ชวนให้คนที่มองนั้นแทบอยากบีบคอให้ตายแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเขานั้นเป็นเจ้านาย) เอม : ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เอมขอตัว............
เธอดีดตัวลุกจากเก้าอี้แล้วหันหลังมุ่งหน้าสู่ประตูสุดหรู แต่หารู้ไม่มีสายตาของคนเป็นนายมองเธอจากด้านหลังตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไม่ละสายตา
แก๊ก (เสียงลูกบิดประตูกำลังจะเปิดออกแต่มีเสียงก้องเอ่ยเรียกเสียก่อนจนเธอนั้นสะดุ้งตัวโหยง)
เดี๋ยว !!!