ชินกิ : ว่าไงครับ....ยิ้ม / ผมรอฟังอยู่
หญิงสาวยืนชั่งใจอยู่นาน เธอคิดไม่ตกว่าต้องทำยังไงดี ใช่ว่าเธอไม่มีเคยแฟนมาก่อน เธอเคยมีแฟน เคยมีความรัก แต่การมีความรักครึ่งนั้นมันทำให้เธอเข็ดและจำจนไม่กล้าจะมีความรักอีกจนถึงตอนนี้
เอม : คะ คือ...คือว่า (เธอลังเลที่จะตอบเพราะไม่รู้เขานั้นจะเชื่อใจได้แค่ไหน อีกอย่างเธอคงไม่เหมาะกับเขา)
ชินกิ : ครับ ว่า ...
ชายหนุ่มเปรยออกไปอย่างติดตลกเล็กน้อยแบบใจเย็นพร้อมกับยิ้มให้เธอ ลำตัวที่สูงยาวจึงโน้มลงมาหาเธอ ทำให้ใบหน้าระหว่างเธอกับเขานั้นใกล้กันในระยะประชิด จนเธอนั้นตกใจถอยหลังออกห่างอย่างอัตโนมัติ จนเธอพลาดเสียหลักเกือบล้มเนื่องจากเธอใส่รองเท้าส้นสูง
เอม : อ๊ะ !!
แต่โชคดีที่ชายหนุ่มใช้มือเขาคว้าเอวเธอไว้ได้ทัน แต่มือข้างหนึ่งของเธอดันฟาดกับกระจกรถอย่างแรง จนเธอเกิดอาการเจ็บแปลบตรงข้อมือจนต้องนิ่วหน้า
ชินกิ : เอมเป็นอะไรหรือเปล่า
เอม : ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะที่ช่วยรับเอมไว้ทัน...(เธอกล่าวขอบคุณและส่งยิ้มอ่อนให้เขา รอยยิ้มที่แสนจะตรึงใจ ชายหนุ่มตรงหน้าที่ได้พบเห็นจนอดที่จะหยอดคำหวานไม่ได้)
ชินกิ : หืม...ยิ้มแล้วน่ารักขนาดนี้ทำไมเอมถึงไม่ยิ้มบ่อย ๆ ล่ะ
คำชมที่เขาเอ่ย แต่ไฉนเลยถึงต้องทำให้เธอนั้นรีบหุบยิ้มคืนทันที เขินอาย ?
เอม : เรื่องของฉันค่ะ (เธอพูดเสียงเบา แต่เขานั้นกลับได้ยินมันชัดเจน)
ชินกิ : ว่าไงนะเมื่อกี้...(ชายหนุ่มย้อนตาอีกครั้ง เพื่อย้ำให้เธอนั้นทวนสิ่งที่พูดไป เพราะอะไรเธอนั้นรู้ดี)
เอม : เรื่องของเอมค่ะ...ตอนนี้คุณปล่อยเอมได้ละ อย่ามาตีเนียน
เขาไม่พูดอะไรและปล่อยเธอออกจากอ้อมแขนอย่างอ่อนโยนและเบามือ
ชินกิ : แล้วเรื่องที่ผมพูดไป... (เมื่อคำตอบที่ต้องการยังไม่ได้ยิน เขาจึงย้อนถามทวนออกไปอีกครั้ง อย่างรอคอย)
เอม : เอมยังไม่พร้อมค่ะ...ขอตัวกลับก่อนนะคะ (คำตัดพ้อที่แสนจะเย็นชา วาจาที่แข็งกระด้างเอ่ยบอกไปตรง ๆ ซึ่งเป็นปกติสำหรับเธอไม่มีการอ้อมค้อม)
ชินกิ : ไม่เป็นไร ผมรู้ว่าเอมคงตั้งตัวไม่ทัน (ด้วยความเข้าใจในสิ่งที่เป็น แค่ระยะเวลาที่น้อยนิด คงไม่มีใครคิดตัดสินใจได้เร็วเพียงแค่ไม่กี่นาที ซึ่งเขาเองก็รอได้)
เอม : ก็เออนะสิวะ (เธอเบือนหน้าหนีแล้วบ่นอุบอิบคนเดียว)
ชินกิ : ไม่ให้ผมไปส่งจริงเหรอ...(เขาถามด้วยน้ำเสียงทะเล้น ส่งสายตาปริบกระพริบถี่ ๆ นี่หรือคนมาดนิ่งที่เขาเจอก่อนหน้า ทำไมตอนนี้ช่างแปลกไป หรือด้วยนิสัยเดิมเป็นแบบนี้)
เอม : เห็นไหมคะว่าเอมมีรถ กลับเองได้ค่ะ
ชินกิ : งั้นขับรถดี ๆ นะ
เอม : ค่ะ...เอมไปนะคะ
หลังจากบอกลาณัฐณิชาจึงใช้มือขวาข้างที่ถนัดเปิดประตูรถเข้าไป เธอรู้สึกเจ็บแปลบทันใดตรงข้อมือ จึงชะงักมือเล็กน้อยซึ่งนั่นทำให้คนข้าง ๆ สังเกตุเห็นปฏิกิริยานี้
ชินกิ : เป็นอะไรหรือเปล่า ?....(ชายหนุ่มถามออกไปด้วยความเป็นห่วงใย)
เอม : แค่รู้สึกเจ็บข้อมือนิดหน่อย คงไม่เป็นไรค่ะ
ชินกิ : ไหนผมขอดูหน่อย...(ชายหนุ่มขยับเข้าไปหาหญิงสาวพร้อมกับจับมือเธอขึ้นมานั่นทำเอาเธอถึงกับร้องเสียงหลงออกมา และชักมือกลับเล็กน้อยแต่คนตัวใหญ่รั้งมือเธอไว้เพื่อสำรวจ)
เอม : อ๊ะ !!
ชินกิ : เจ็บตรงนี้หรอ ... (เขาจับตรงข้อมือเธออย่างเบามือ เมื่อเธอร้องอย่างเจ็บปวด)
เอม : ค่ะ...คงจะโดนเส้น
ชินกิ : พรุ่งนี้ต้องปวดและบวมแน่ ๆ ... แล้วนี่จะขับรถกลับยังไง (เขาถามออกไปด้วยสีหน้าของความห่วงใยและกังวลว่าเธอจะขับรถไหวไหม)
เอม : เอมขับได้ค่ะ..ไม่เป็นไรเมื่อกี้แค่ไม่ทันระวังแค่นั้นเอง
ชินกิ : แน่ใจนะ
เอม : แน่ใจค่ะ...งั้นลานะคะ เอมง่วงมาก
ชินกิ : อืม
ในเมื่อคงห้ามเธอไม่ได้ เขาต้องจำยอมเธอแบบนั้นทั้ง ๆ ที่อดห่วงเธอไม่ได้ เพราะเธอดื้อซะเหลือเกิน ชายหนุ่มยืนมองรถของหญิงสาวขับออกไปจนพ้นประตูหน้าบริษัทจึงหันหลังเดินกลับไปยังรถของตัวเอง เพื่อมุ่งหน้ากลับที่พักของเขาทันที ในใจก็นึกห่วงหญิงสาวคนรักอยู่ไม่น้อย เธอจะเป็นยังไงบ้าง