ตอนที่ 2 ฉันมาทำอะไรที่นี่...? 2/2 (รีไรท์)

1435 คำ
“นังเด็กบ้านั่นเป็นใคร? ทำไมถึงมาเป็นลมที่นี่ เรียกร้องความสนใจเหรอ?” สายตาคาดแค้นมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ ตั้งแต่ซันย้ายมาเรียนที่นี่ ไม่เคยเห็นว่าชายหนุ่มจะสนใจใครเลยสักนิด มีเพียงเธอเท่านั้นที่คอยดูแลจน (คิดว่า) สนิทกัน หากจะให้มีข่าวลือว่าเขาสนใจใครสักคน ก็ควรจะเป็นเธอไม่ใช้ยัยเด็กบ้าที่ไหนก็ไม่รู้แบบนี้ “ไม่รู้สิ อาจจะรู้จักกันก็ได้” ‘เจนวาด’ หันกลับไปมองที่นั่งหลังสุดข้างประตูทางเข้าออกซึ่งซันมักชอบนั่งเป็นประจำ สลับกับจุดเกิดเหตุตรงอยู่หน้าห้องเรียน ดูจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่คนเฉยชากับทุกเรื่องอย่างเขาจะเสนอตัวอุ้มใครที่ไหนก็ไม่รู้ออกไป แต่ถ้าหากว่าซันสนใจยัยเด็กบ้านั่นขึ้นมาจริง ๆ ล่ะ มีหวังคนทั้งโรงเรียนได้หัวเราะเยาะเธอแน่ เพราะเจ้าหล่อนเล่นพยายามเอาตัวเองติดกับซันแจขนาดนั้น “ไม่มีทาง ซันเพิ่งย้ายมา จะไปรู้จักใครได้ยังไง แค่คนที่คุยด้วยในห้องยังนับคนได้เลย” เจนวาดเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะอย่างใช้ความคิด “ฉันจะคิดเสียว่ายังไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วกัน แต่หากมีอะไรขึ้นมา” สายตาเฉียบขาดตวัดมองคนข้าง ๆ ที่เป็นทั้งเพื่อน และเบ๊ของเธอ “รู้ใช่มั้ยว่าแกต้องทำอย่างไร” ผู้ถูกคาดหวังมองเจนวาดลุกจากที่นั่งแล้วออกจากห้องไปโดยไม่แคร์อะไรคาบเรียนซึ่งกำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า ต่อให้ไม่ต้องเข้าเรียน ด้วยอำนาจและเงินของพ่อเธอ ก็มากพอที่จะทำให้หญิงสาวจบจากโรงเรียนแห่งนี้ด้วยเกรดสวย ๆ ได้ไม่ยาก แต่ที่ต้องมานั่งเรียนแบบนี้ มันก็มีเพียงเหตุผลเดียวซึ่งมันเดาได้ไม่อยากเลย... ‘ซัน ณ ห้องพยาบาล “ครูครับ!” ชายหนุ่มตะโกนสุดเสียง พร้อมโอบอุ้มคนในอ้อมกอดมาด้วย ใบหน้าหล่อละมุนของเขา ขมวดคิ้วเข้มเพราะหญิงสาวยังไม่รู้สึกตัว “ช่วยด้วยครับครู!” “มีอะไรยะ!?!” เสียงของเด็กหนุ่ม มันช่างรบกวนเวลาทำงานของเธอจริง ๆ นอกจจะมาเป็นอาจารย์ห้องพยาบาลแล้ว ยังต้องทำงานนั่นนี่ นู้นโน้นเต็มไปหมด ไหนต้องออกไปสอนในบางครั้งด้วย แทนที่จบมาแล้วจะสบายขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่าหนักกว่าเดิม เอาล่ะ ๆ เลิกบ่นแล้วออกไปดูเสียงโวยวายปริศนาจะดีกว่า แต่พอออกมาเท่านั้น ร่างอันไร้สติ พร้อมกับเด็กหนุ่มซึ่งอุ้มเธอมา ก็ทำเอาผู้ใหญ่อย่างเธอตกใจไม่แพ้กัน รีบรุดเข้าไปดูอาการเด็กสาวทันที “ไปทำอะไรมา ถึงได้เป็นแบบนี้?” “ผมก็ไม่รู้ครับ จู่ ๆ เพก็เป็นลมไป” “พาเข้ามาก่อน” ครูสาวเสียงร้อนรน ก่อนจะตามเด็กหนุ่มเข้าไป พร้อมหันไปหยิบอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อเตรียมเช็กอาการให้เด็กสาวผู้น่าสงสารด้วย ซันวางร่างของภรรยาให้อ่อนนุ่มที่สุด ประคองศีรษะเธอลงถึงหมอนด้วยความทะนุถนอม พร้อมสายตาที่บ่งบอกว่าเขากำลังเป็นห่วงเธอสุดหัวใจ แน่ล่ะ ภาพตรงหน้าเป็นภาพที่ดูน่ารักดี แต่ก็ขัดใจคนโสดวัยเกินเลขสามไม่ใชน้อย ครูซึ่งกำลังมองภาพเหตุการณ์ทุกอย่างได้แต่เบะปากมองบนตามสัญชาตญาณความอิจฉาเล็ก ๆ ในใจ ‘ไอ้ความรักหนุ่มสาวเนี่ย มันร้อนแรงจังเลยนะ! ชิ!’ เด็กหนุ่มยังคงมองหน้าภรรยาตนด้วยความเป็นห่วง ยิ่งได้เห็นใบหน้าของเธอซีดเผือดแบบนี้แล้ว ใจเข้าก็ยิ่งทรมานกว่าเก่า แต่คงจะลืมไปว่า... ทั้งเขาและเธอ ไม่ได้อยู่กันเพียงลำพัง “จะให้ครูเข้าไปดูได้หรือยังจ๊ะ?” เสียงแดกดันมาจากด้านหลัง พร้อมรอยยิ้มแหยเป็นของแถม “อะ... อ่อ รบกวนด้วยครับ” ซันตอบพร้อมถอยห่างจากเตียง หลีกทางให้คนขี้อิจฉา เอ๊ย! คุณครูเข้าไปดูอาการคนป่วย “จ้า~” ‘ครูอิงอร’ ครูประจำห้องพยาบาลแสนดี (?) เป็นที่รักของเด็กนักเรียนหลายคน เดินเข้าไปดูอาการเบื้องต้นของเด็กสาวบนเตียงด้วยความชำนาญ และผลที่ได้รับก็เป็นไปตามคาด เธอแค่หมดสติไปเฉย ๆ แต่ที่น่าหนักใจก็คือคนที่พาเจ้าหล่อนมานี่แหละ ทั้ง ๆ ที่ครูคนนี้พูดจนปากจะฉีกถึงหูว่าเธอไม่เป็นอะไร แต่เขาก็ยังจะดึงดันอยู่ต่อให้ได้ “ครูบอกแล้วไง ว่าเธอไม่เป็นอะไร แค่เป็นลมเฉย ๆ เดี๋ยวก็ฟื้น” พูดก่อนจะถอนหายใจออกมาก้อนใหญ่ ไม่รู้ว่าอิงอรพูดประโยคประมาณนี้ไปกี่รอบแล้ว แต่เด็กหนุ่มตรงหน้าก็ยังดื้อไม่เลิก “ผมดูแลเพของผมเองได้ครับ ผมไม่อยากรบกวนครู อีกอย่าง เพไม่ชอบอยู่คนเดียวในที่ไม่คุ้น ผมไม่อยากให้เพตื่นมาตกใจครับ” “ไอ้เด็กนี่! เพอะไรของแกไม่ใช่เด็กสามขวบนะโว๊ย ที่จะตื่นมาแล้วร้องไห้หาแม่น่ะ” “ผมขอดูแลเธอเองครับ” ซันยังตั้งมั่น และไม่ยอมปล่อยให้เพกาอยู่คนเดียวเด็ดขาด เพราะเขาเคยปล่อยให้เธออยู่คนเดียวมาแล้ว และผมที่ตามมา... ก็คือเธอจากไปตลอดกาล “แต่นี่มันเวลาเรียน เธอต้องไปเรียน!” “ถึงไม่ต้องเรียน ผมก็สอบได้คะแนนดี ๆ และเข้ามหาวิทยาลัยดี ๆ ได้ครับ!!” “โว๊ย!!” อิงอรคร้านจะอธิบายเต็มที ขนาดชักแม่น้ำมาตั้งหลายสายก็ดูเหมือนเด็กหนุ่มคนนี้จะไม่ฟัง ถ้าอย่างนั้น... “นี่... คบกันเหรอ?” เอาล่ะ เพราะไล่อย่างไรเขาก็คงไม่ไปแน่ ๆ อีกอย่าง เด็กหนุ่มคนนี้ก็ฮอตปรอทแตกใช่เล่น ไม่มีสักวันที่จะไม่ได้ยินเรื่องของเขาผ่านนักเรียนสาว ๆ เลย แต่พอเห็นว่าตอนนี้มีคนจับจองเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็อยากจะถามให้แน่ใจ อิงอรผู้มาก่อนกาลผู้นี้จะได้ไม่ตกข่าว ซันยังคงห่วงเพกาไม่เลิก แต่พอได้ยินคำถามก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ ว่าตอนนี้ ทั้งเขาและเธอ ต่างก็เป็นคนอื่น ยังไม่เป็นแฟน หรือสามีภรรยาอย่างที่ควรจะเป็น “ตอนนี้ยังครับ” “เหอะ ๆ ... เออ อยากทำอะไรก็ตามใจพวกเธอเลยก็แล้วกัน อย่าเสียงดังล่ะ” ‘สาว ๆ อกหักกันระนาวแน่คราวนี้ นี่ขนาดยังไม่คบกันยังคลั่งรักปานนี้ ถ้าคบกันแล้ว... คงมีฉากสะเทือนความรู้สึกออกมากระตุกต่อมอิจฉาให้อีกหลายคน’ อิงอรส่ายหัวช้า ๆ ถอนหายใจอีกครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ ก่อนจะกลับไปยังโต๊ะทำงานของตัวเอง แต่เพื่อความเหมาะสม และปลอดภัย ยังคงชะโงกเข้ามาดูทั้งคู่เป็นระยะ พอได้เห็นเด็กหนุ่มนั่งเฝ้าอยู่เคียงข้างเด็กสาว ตัวเองที่โสดมาหลายปี ก็ได้แต่อิจฉา ความรักวัยรุ่นนี่มันดีจังเลยนะ สมัยนั้นเธอเอาแต่เรียนและเรียน พอมาเจอความรักสักครั้ง ก็ห่วยแตกจนอยากอยู่คนเดียวแทน ‘ฉันอิจฉาเด็กไม่แปลกใช่หรือเปล่า? ... ไม่แปลกหรอก เห็นแบบนั้นเป็นใครก็ต้องอิจฉา’ อิงอรได้แต่กรีดร้อนในใจ และก้มหน้าทำงานที่รักต่อไป “พี่สัญญานะเพ พี่จะไม่ยอมให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเพอีกเด็ดขาด” ฝ่ามือหนาปัดปอยผมยาวของเด็กสาวออกไป ดวงตาเข้มยังคงจ้องมองเธอไม่ยอมห่าง มือนิ่มของเธอ นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้สัมผัสมัน แม้ความจริง มันอาจจะไม่ควร แต่อย่างน้อย... ซันก็อยากจะเติมพลังอีกสักหน่อย ริมฝีปากนุ่มกดจูบบางเบาลงหลังมือนิ่ม สูดดมกลิ่นกายของเธอเพียงเล็กน้อย แม้เวลานี้ เธอจะยังไม่ใช่ภรรยาของตนเองโดนสมบูรณ์ แต่ในความคิดของชายหนุ่ม มันมีสิทธิ์มากกว่าคนอื่นโดยปริยาย “พี่รักเพนะ” คำบอกรักที่เขามักพร่ำบอกเป็นประจำ มันชินปากเสียจนพูดออกมาโดยไม่มีความขวยเขิน ต่างจากคนที่บังเอิญได้ยิน... “ขนาดยังไม่คบกัน แต่บอกรักกันแล้วเนี่ยนะ ตาย ๆ เด็กพวกนี้มันจะใจร้อนเกินไปแล้ว!” อิงอรได้แต่บ่นพึมพำกับตัวเอง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม