ท่าอากาศยานนานาชาติ นครวาฮิรัม
ร่างงามระหงในชุดกางเกงยีนรัดรูป เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวเข้ารูปสวย รองเท้าส้นสูงสีดำสนิท ชุดลำลองที่หญิงสาวเลือกใส่ขึ้นเครื่องมาในครั้งนี้ราคารวมแล้วยังไม่ถึงสองพันบาทเสียด้วยซ้ำ
ถ้าไม่นับกระเป๋ายี่ห้อดังของแท้ใบละ 3 ล้านที่เธอถูกมหาดเล็กของว่าที่เจ้าบ่าวคะยั้นคะยอให้ถือขึ้นเครื่องเพื่อมาเป็นเจ้าสาวให้กับเจ้าชายหนุ่มขวัญใจสาวๆ ทั้งโลก เสื้อผ้าแม้จะราคาถูกแต่เมื่ออยู่บนร่างงามจากราคาสองพันบาทกลายเป็นราคาสองแสนบาทไปชั่วพริบตา ช่างรับกับเรือนร่างอันงดงามที่สมส่วนเย้ายวนตาได้อย่างลงตัว
ยิ่งเครื่องหน้าที่ถูกสรรสร้างดั่งตั้งใจวาดให้งดงามราวกับนางในวรรณคดี รับกับเส้นผมสีดำสนิทยาวถึงระดับกลางหลังไร้สิ้นการทำสีเคมีแทรกซึม
กลิ่นหอมจากเรือนกายตลบอบอวลหาใช่กลิ่นจากน้ำหอมยี่ห้อดังแต่อย่างใดหญิงงามประดุจนางสวรรค์กลับคืนมามีชีวิต มีตัวตนจริงในโลกปัจจุบัน ความงดงามที่มาจากธรรมชาติไร้การทำศัลยกรรมอย่างสิ้นเชิง สวยจริง งามแท้ แลตะลึงเป็นยิ่งนัก
แคทลียา อัศวเมธากุลหรือลีย่า สตรีสาวแสนสวยสายเลือดไทยอายุเพิ่งเต็ม 22 ปี บุตรสาวเพียงคนเดียวของเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ของนายอัครเดช อัศวเมธากุล กับท่านผู้หญิงมาลาตี อัศวเมธากุล
สาวสวยวัยสดใสเธอเพิ่งจะเรียนจบจากรั้วมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศไทย ในคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาภาควิชาการออกแบบพัสตราภรณ์ ซึ่งเธอมีผลการเรียนดีเลิศประเสริฐศรีจนได้รับเกียรตินิยมอันดับ 1 และมีโครงการเรียนต่อในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกในประเทศอังกฤษ
ทว่าชะตาชีวิตกลับพลิกผันดันเล่นตลกเมื่อครอบครัวของเธอสนิทสนมกับราชวงศ์ของประเทศในตะวันออกกลางของเจ้าชายฮาคิมสมัยที่นายอัครเดช ได้มีโอกาสดำรงตำแหน่งเป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำนครวาฮิรัม และนั่นจึงทำให้หญิงสาวได้พบกับเจ้าชายหนุ่มสุดหล่อและเพอร์เฟค จากประเทศที่มีแต่บ่อน้ำมันดิบมหาศาลและร่ำรวยติดอันดับโลก นามว่าชีคฮาคิม บินฟาฮัด บินชารีฟ อัลอักฮามี
และด้วยเหตุผลบางประการที่มิอาจปฏิเสธได้ ทำให้หญิงสาววัยแรกแย้มต้องเข้าสู่ประตูวิวาห์กับเจ้าชายหนุ่มวัย 35 ปี ที่มีอายุห่างกว่ากันถึงหนึ่งรอบ จนเป็นข่าวดังไปทั่วโลกกลายเป็นซินเดอเรลล่าเมืองไทยได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายตราบไปจนชั่วชีวิตของเธอ
หากแต่พิธีอภิเษกสมรสของชีคฮาคิมในครั้งนี้ บุคคลภายนอกไม่ล่วงรู้ตื้นลึกหนาบาง ซึ่งเป็นเงื่อนไขของการแต่งงานครั้งนี้แต่อย่างใดเพราะถึงอย่างไรเสีย พระชายาลำดับที่หนึ่งของชีคฮาคิมจะต้องเป็นเจ้าหญิงที่มาจากคาบสมุทรอาหรับเพียงเท่านั้น ซึ่งเป็นพระญาติในเครือเดียวกันกับราชวงศ์อัลอักฮามี
ดังนั้นแคทลียา อัศวเมธากุล ซึ่งถือได้ว่าเป็นสตรีชาวต่างชาติและเป็นสามัญชน จึงต้องอยู่ในฐานะพระชายาลำดับที่สองของชีคฮาคิม ด้วยเหตุนี้พิธีอภิเษกสมรสจึงไม่มีการแพร่ภาพให้สื่อต่างๆ ล่วงรู้แต่อย่างใดด้วยเพราะการสมรสในราชวงศ์ของประเทศทางคาบสมุทรอาหรับจะถูกจัดขึ้นเป็นการภายในเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย รวมไปถึงเหตุผลทางการเมืองของประเทศ
ถึงแม้ว่าพิธีอภิเษกสมรสในครั้งนี้ ชีคฮาคิมจะต้องเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงต่างรัฐในคาบสมุทรอาหรับไปด้วยพร้อมกันก็ตามที ทั้งนี้เพื่อความมั่นคงของราชวงศ์อัลอักฮามี และให้เป็นไปตามเงื่อนไขของพระราชบิดา เพราะหากพระองค์ไม่ยินยอมก็จะไม่สามารถแต่งงานกับแม่สาวน้อยผู้ซึ่งเป็นเจ้าของหัวใจของพระองค์ได้นั่นเอง
ใบหน้าคมสวยและดวงตาสีนิลคู่งามภายใต้แว่นกันแดด เพื่อบดบังความร้อนแรงของดวงอาทิตย์กลางทะเลทราย กำลังมองตรงไปเบื้องหน้าเมื่อเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ เรียงแถวหน้ากระดานในชุดสูทสากลเพื่อคอยอารักขาเธอให้ไปถึงที่พำนัก
ท่ามกลางกลุ่มชายฉกรรจ์ ปรากฏร่างสูงของชายหนุ่มรูปงามในชุดประจำชาติของชาวตะวันออกกลาง ซึ่งในประเทศแถบอาหรับจะเรียกว่า “กันดูร่า”
ชีคฮาคิม บินฟาฮัด บินชารีฟ อัลอักฮามี ในพระชันษา ปีที่ 35 ฉลองพระองค์ในชุดประจำชาติ “กันดูร่า” เจ้าชายหนุ่มรูปงามในราชวงศ์ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก
พระองค์ทรงเนื้อหอมและเร้าใจ มีหญิงสาวติดตามและมีแฟนคลับเป็นสุภาพสตรีจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยพระองค์เป็นที่หมายปองของหญิงสาวจากทุกระดับชนชั้น ใครเล่าจะไม่อยากได้คู่ครองที่สุดแสนจะเพอร์เฟคอะไรเช่นนี้ ทั้งชาติตระกูล ความมั่งคั่ง เต็มร้อยเปอร์เซนต์โคตรๆ ไปเลย
“ยินดีต้อนรับสู่นครวาฮิรัมแม่สาวน้อย”พระสุระเสียงมีถ้อยรับสั่งกับร่างงามแน่งน้อยตรงเบื้องพระพักตร์
เมื่อหญิงสาวแสนสวยก้าวมาหยุดยืนตรงหน้า แคทลียายืนนิ่งมองพระพักตร์หล่อเหลาของเจ้าชายหนุ่มก่อนจะฉีกยิ้มหวานส่งให้โดยพลัน
“หนูหิวข้าว! หิวมากเลยหิวจนจะกินไก่ กินช้างทั้งตัวได้แล้วเพคะ”คำกล่าวทักทายของแม่สาวน้อยจากประเทศไทย เอ่ยพร้อมยกมือเรียวลูบท้องตัวเองไปมา
อุ๊บส์!!! เจ้าชายหนุ่มกลั้นเสียงพระสรวลของพระองค์อย่างรวดเร็ว แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่วายมีเสียงเอ็ดออกมาเบาๆ แกมเอ็นดู
“อะไรกันลีย่า บนเครื่องบินส่วนตัวที่ส่งไปรับ มีอาหารชั้นดีมากมายคอยให้บริการอยู่ตลอดเวลามิใช่รึ เหตุไฉนจึงยังบอกว่าหิวโหยอะไรเช่นนี้”พระองค์รับสั่งถามอย่างแปลกพระทัยระคนสงสัย
เจ้าชายหนุ่มหันกลับไปทอดพระเนตรมหาดเล็กที่ยืนอยู่เบื้องหลังของพระองค์ ซึ่งมีท่าทีคล้ายต้องการจะบอกอะไรบางอย่างกับพระองค์อยู่ในเวลานั้น
“กระหม่อมมีเรื่องกราบทูลพ่ะย่ะค่ะ”มหาดเล็กร่างสันทัดเอ่ยกราบทูลพร้อมกระซิบเบาๆ เพื่อถวายรายงานก่อนจะจบลงพร้อมสุระเสียงของเจ้าชายหนุ่มดังก้องขึ้นมาโดยพลัน
“ว่าอะไรนะ! ลีย่านะเหรอทานอาหารทุกอย่างที่อยู่บนเครื่องจนหมดและครบทุกเมนู”พระองค์รับสั่งด้วยมิอยากจะทรงเชื่อในสิ่งที่ได้ยินจากมหาดเล็ก
“จริงๆ พ่ะย่ะค่ะ คุณลีย่ารับประทานหมดเกลี้ยงไม่เหลืออะไรเอาไว้เลย เป็นหญิงสาวที่ทานจุมาก ไม่รู้เอาไปเก็บไว้ตรงไหน รับประทานทั้งวันจนทุกเมนูหมดภายในระยะเวลารวดเร็ว แต่ดูรูปร่างก็ยังเพรียวลมอยู่เช่นเดิม”มหาดเล็กถวายรายงานถี่ยิบ
หญิงสาวยืนฟังมหาดเล็กร่างสันทัดที่กำลังถวายรายงานเรื่องของเธอโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด จนต้องตัดสินใจเบรกการสนทนาของทั้งสองเอาไว้ทันที
“เจ้าชายฮาคิมเพคะ! ลีย่าหิวข้าวมาก! จะยืนคุยกันอีกนานไหมเพคะ ปล่อยให้ว่าที่เจ้าสาวหิวแบบนี้ได้อย่างไงเดี๋ยวก็ไม่แต่งงานด้วยแล้วนะ” เจ้าหล่อนเอ่ยคำขู่ออกมาทันที
“ปะ...ไป...ไปสิลีย่า หิวใช่ไหม...เดี๋ยวพี่จะพาเธอไปทานข้าวไม่ต้องโมโหหิวนะคนดี”เจ้าชายหนุ่มรับสั่งพร้อมเสด็จตรงเข้าไปหาร่างอรชร ที่กำลังยืนหน้างออยู่ตรงหน้าพระพักตร์
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น หญิงสาวอารมณ์ดีขึ้นมาทันตาเห็น ฉีกยิ้มหวานจนเห็นฟันขาวเรียงตัวสวยอย่างเป็นระเบียบ ดวงตาสีนิลกลมโตแวววาวขึ้นมาทันที เมื่อนึกถึงเมนูอาหารที่เธออยากลิ้มลองและสถานที่อยากจะไปซึ่งตั้งใจเอาไว้นานแล้ว ว่าต้องมาให้ได้และวันนี้ก็มาถึง
“ลีย่าอยากไปทานข้าวโรงแรมที่สร้างเป็นรูปคล้ายเรือใบได้ไหมคะ ชื่อว่าอะไรนะ ย้าว ยาว”คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันพยายามนึกชื่อโรงแรมที่เธอกล่าวถึง
“โรงแรม Burj Al Arab” เจ้าชายหนุ่มรับสั่งตอบแทนพร้อมกับเสียงหวานของแม่สาวน้อยขานรับขึ้นมา
“ใช่ๆ โรงแรมนี้แหละคะอยากไปม้ากมาก ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว ตอนคุณพ่อมาประจำอยู่ที่นครวาฮิรัม โรงแรมนี้ยังสร้างไม่เสร็จเลย และลีย่าก็ยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ คราวนี้ละได้เห็นกับตาตัวเองเสียทีจะได้ไปคุยอวดกับใครต่อใครได้ ว่าเคยไปมาแล้วกับเขาเหมือนกัน”
หญิงสาวกล่าวพร้อมส่งเสียงหัวเราะคิดคักเป็นการใหญ่ ท่ามกลางทุกสายตาที่กำลังมองมาที่เธอเป็นจุดเดียว
เจ้าชายหนุ่มได้แต่ส่ายพระเศียรไปมาในพฤติกรรมที่ไร้เดียงสาของโฉมสะคราญตรงหน้าพระพักตร์ แคลียา ช่างเป็นหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความงดงาม ทว่านางก็รั่วสุดขั้วให้ตายเถอะ คิดถูกหรือคิดผิดที่เลือกนางมาเป็นพระชายา พระองค์ถอนหายใจออกมาเบาๆ พร้อมมีรับสั่ง
“ไปกันได้แล้วอย่าเสียเวลาอยู่เลย เพราะโรงแรมที่เราจะไปอยู่ที่นครดูไบในประเทศ UAE พวกเราต้องนั่งรถต่อไปอีกไกลเลยเชียวนะ เดี๋ยวก็หิวข้าวเป็นลมตายกว่าจะถึง เราก็อดแต่งงานกันพอดี”รับสั่งหยอกเย้าพลางเสด็จนำหน้าก่อนจะหันกลับมายื่นพระหัตถ์ให้ว่าที่เจ้าสาวของพระองค์เข้าเกาะกุม
ดั่งเด็กน้อยแม่โฉมงามตรงเข้าเกาะกุมพระหัตถ์ที่ทรงยื่นออกมาให้เธอจับอย่างไม่เก้อเขินแต่อย่างใด
“ใช่แล้ว! ถ้าเจ้าสาวตายเพราะอดข้าว หากรู้ไปถึงไหนอายเข้าไปถึงนั่นเลยเชียวเพคะเจ้าชาย”โฉมงามยังมิวายกล่าววาจาติดตลก
ขาเรียวสวยก้าวเดินเคียงคู่ไปกับว่าที่เจ้าบ่าวของเธอโดยมีสายตาของเหล่าข้าราชบริพารน้อยใหญ่มองตามหลังว่าที่พระชายาของเจ้าชายตน
ทว่าหนึ่งในสายตาดังกล่าว กำลังมองตรงไปที่ร่างของหญิงสาวตาไม่กระพริบ ร่างสูงเดินตามหลังไปพร้อมกลุ่มบอดี้การ์ดที่ถูกจ้างมาเป็นกรณีพิเศษ
และหนึ่งในนั้นก็มีบอดี้การ์ดฝีมือเยี่ยมจำนวนสองคนที่ถูกส่งมาจากโลแกน อาเชอร์เพื่อคอยจับตามองหญิงสาวจากประเทศไทย ซึ่งกำลังจะกลายเป็นพระชายาในดินแดนแห่งทะเลทรายผืนนี้