บทที่ 4 แผนล้วงความลับ

1387 คำ
“โอ๊ะ!” “ว้าย!” ปูเป้ยกมือขึ้นยันร่างเขาไว้โดยอัตโนมัติแต่น้ำหนักของเขาที่โถมเข้ามาทำให้ร่างเธอเซไปชิดผนังด้านหนัง จังหวะนั้นประตูก็เปิดผัวะออก ร่างสูงใหญ่ก้าวอาดๆ เลี้ยวเข้าห้องนอนมายืนหน้าคนทั้งสองพอดี “อ๊ะ! มิกกี้!” ปูเป้หันขวับไปมองผู้ชายที่มาใหม่ เธอจำได้แม่นว่าเขาคือแจ็คเจ้าของเล้าจน์คู่แข่งที่อยู่ใกล้ๆ ‘ฉิบหายล่ะ! นี่มันคุณแจ็คนี่? หรือว่าคู่ขาที่มิกกี้พูดถึงคือคนนี้’ ใบหน้าของมิกกี้ซบอยู่บนไหล่อีกข้างของปูเป้ เขาค่อยๆ ผละออกแล้วมองคนมาใหม่ “มาแล้วเหรอ? บอกให้รีบมาดูแลก็ไม่คิดจะรีบเลยนะ” “แล้วนี่ล่ะใคร?” หนุ่มเจ้าสำอางร่างสูงใหญ่ไม่ตอบแต่ใช้สายตาสาดมา “จำเลยของกูเอง! คนที่ทำกูแขนหักไงล่ะ มึงอ่ะไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง! กูบอกแล้วให้รีบมาดูกู มึงไม่มากูก็ต้องบังคับเขาให้อยู่เฝ้ากูก่อนสิ” หนุ่มร่างโปร่งใบหน้าคมคายทำปากมุบมิบสวดคนร่างใหญ่ด้วยท่าทางคล้ายหญิงสาวกำลังงอนคนรัก แจ็คกับมิกกี้อายุเท่ากันแต่ต่อหน้าคนอื่นแจ็คขอให้มิกกี้เรียกเขาว่าเฮีย แม้ว่าพวกเขาจะพูดกันมึงกูอย่างสนิทสนม ปูเป้นึกไม่ถึงว่ามิกกี้คนชอบเหวี่ยงจะมีมุมขี้อ้อนอย่างนี้ ที่คาดไม่ถึงก็คือ แจ็ครีบเข้ามาประคองร่างของมิกกี้แล้วพูดจาขอโทษขอโพย ปูเป้ได้แต่ยืนตาปริบๆ ดูคนทั้งสองพูดคุยกัน “มึงอาบน้ำเองสะอาดไหมล่ะ? มีแขนเดียวยังงี้ ดูสิ! คราบสบู่ยังล้างไม่หมดเลย ไปๆ เข้าไปอาบใหม่ เดี๋ยวกูอาบให้” หญิงสาวได้ยินถึงกับทำตาโต เธอถอยออกมายืนห่างๆ ในใจก็นึกถึงนิยายวายที่ชอบอ่าน ‘อ๋า! เอาอกเอาใจกันแบบนี้เลยเหรอ?’ ราวกับเธอไม่มีตัวตน ชายหนุ่มคู่นั้นประคองกันเข้าไปในห้องน้ำ มีเสียงทุ่มเถียงกันเล็กๆ น้อยๆ ดังออกมาพร้อมกับเสียงฝักบัวที่เปิดแรง หญิงสาวนั่งกลอกตากลืนน้ำลายอยู่โซฟา ในใจก็จินตนาการฉากเร่าร้อนระหว่างชายกับชายในห้องน้ำ “อ๊าย!.........เบาๆ หน่อยสิวะ” เสียงมิกกี้เหมือนจะหงุดหงิด “ถูสบู่ตรงนี้อีกนิดน่า...ยังไม่สะอาดเลย” น้ำเสียงปลอบโยนของคุณแจ็คทำเอาปูเป้จิตใจเตลิด ‘นี่พวกเขาไม่คิดจะสนใจชะนีอย่างฉันเลยเหรอวะ? รอให้ฉันกลับก่อนก็ไม่ได้’ “เดี๋ยวนะ! พอผู้ชายมา เขาก็ไล่แกกลับห้องเลยเหรอ?” “เออ...ฉันนี่แบบช็อคไปเลยนะแก ต่อหน้าฉันก็ไม่ได้แคร์สักนิดกระเง้ากระงอดประคองกันเข้าไปอาบน้ำถูสบู่ พอออกมาก็พากันเข้าห้อง คุณแจ็คนั่นโผล่มาออกมาบอกให้ฉันกลับได้เลย ถ้าไม่อยู่ทำอย่างว่ากันต่อ แกว่าผู้ชายสองคนจะไปหมกอยู่ในห้องกันตามลำพังทำไม? คิดดูเหอะ หลัวนางนะไม่คิดจะถามชื่อฉันสักคำ” แพมมี่ได้ฟังก็ตาโต พวกเธอเคยได้ยินว่าคุณแจ็คเจ้าของเล้าจน์แบล็ค บัตเตอร์ฟลายนิยมหนุ่มหล่อหุ่นโปร่งบางแต่ไม่คิดว่าจะจุดไต้ตำตอขนาดนี้ “คุณแจ็คถึงกับให้อยู่คอนโดหรูขนาดนี้คงไม่ใช่คู่ขาธรรมดาซะแล้ว” “ใช่! ฉันก็ว่าเป็นคู่ขาทองคำเลยล่ะ คุณมิกกี้หน้าตาหล่อจนออกจะสวย ปากเป็นกระจับน่ารัก รูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวเนียนขนาดนั้นไม่หลงยังไงไหว?” แพมมี่ได้ยินคำพรรณนาถึงชายหนุ่มห้องข้างล่างถึงกับน้ำลายหก “เฮ้ๆ ท่าทางอีตามิกกี้นี่คงจะหล่อมากเชียว แกถึงขนาดพร่ำเพ้อถึง เห็นทีฉันต้องหาโอกาสย่องลงไปดูบ้างล่ะ” ปูเป้ถึงกับส่ายหน้า “แกก็บ้าคนหล่ออยู่ไม่เลิก ระวังหลัวแกจะมาถลกหนังหัวเอาล่ะ” “ไม่มีทาง! วินรู้อยู่แล้วว่าฉันชอบคนหล่อแต่ก็แค่ชอบน่า ไม่กล้านอกใจหลัวสุดที่รักหรอก จะไปหาแบบวินได้อีกที่ไหนล่ะ? ทั้งน่ารักทั้งใจดี ตามใจฉัน ทุกอย่าง” “จ้า...รู้ก็ดีแล้ว มัวแต่มองผู้ชายอื่น ระวังสาวๆ ที่บริษัทคุณวินจะวางแผนมางาบคุณวินก็แล้วกัน แกระวังเอาไว้บ้างเหอะ สมัยนี้เขานิยมแย่งหลัวชาวบ้าน บอกว่าคุณภาพดีผ่านคิวซีแล้ว” “เออจริงด้วย! วันหลังต้องแอบไปดูวินที่บริษัทซะหน่อยแล้ว ไม่ได้ไปเช็คเรตติ้งหลัวเสียนาน” แพมมี่กำลังคิดเรื่องแฟนเพลิดๆ ก็พลันคิดได้ “ปูเป้ แกต้องคอยดูแลโจทก์ของแกอีกหลายเดือนไม่ใช่เหรอ? นี่ไม่ใช่ว่าต้องคอยลงไปดูแลเขาตลอดหรอกนะ” “นั่นอ่ะดิ! เฮ้อ! อยู่ห่างกันชั้นเดียวฉันก็ต้องเทียวขึ้นเทียวลงบันไดนี่ล่ะ เมื่อวานก็โทร.เรียกฉันทั้งวันจนฉันจะประสาท อ้างว่าเป็นวันหยุดฉันต้องดูแลอย่างเต็มที่” ปูเป้เกาหัวแกร็กๆ หลังจากวันนั้นคุณแจ็คก็ไม่อยู่อีกหลายวัน ทำให้ภาระต้องตกหนักที่เธอ มิกกี้เป็นคนจุกจิกเขาโทร.เรียกเธอลงไปคอยทำโน่นนี่นั่นให้แทบจะตลอดวัน ไหนจะชงกาแฟเอย หยิบหนังสือให้ หรือแม้แต่เปลี่ยนผ้าปู ที่นอน แพมมี่ได้ยินก็ดีดนิ้วเปาะ “อ่า! เอางี้เดี๋ยวฉันจัดการให้แกไปอยู่ใกล้เขาเองจะได้ดูแลกันง่ายๆ” ปูเป้ลืมไปเลยว่าพ่อของแพมมี่ซื้อห้องในคอนโดมิเนียมนี้ไว้หลายห้องเพื่อให้คนเช่า ย่านนี้เป็นย่านธุรกิจสามารถทำเงินได้ไม่น้อย ก่อนหน้าจะมีการระบาดของไวรัสโควิดสิบเก้ามีคนต่างชาติเช่าอยู่มากมายแต่ตอนนี้คนเหล่านั้นล้วนกลับประเทศไปเพราะบริษัทปิดสาขาในประเทศไทยทำให้ห้องว่างหลายห้อง วันต่อมา แพมมี่ก็ส่งคนจากเล้าจน์ที่ช่วงนี้ว่างงานมาช่วยปูเป้ขนของย้ายห้อง “เฮ้ย! เอางี้เลยเหรอ?” “เออน่า! ฉันให้คนทำความสะอาดเอาไว้แล้ว ก็แค่ย้ายห้องเองจะเป็นไรไป ห้องนั้นตกแต่งไว้อย่างดีเสียด้วยเพราะผู้จัดการบริษัทไฟแนนซ์คนก่อนชอบความหรูหราแกไปดูก่อนรับรองจะปลื้ม” ปูเป้ไม่กล้าโต้แย้งเพราะถึงยังไงเธอก็ไม่ได้จ่ายค่าเช่าเหมือนเดิม แพมมี่ผู้ซึ่งมีอำนาจบีบบังคับคนในบ้านได้เบ็ดเสร็จจัดการให้เธอได้พักอยู่ห้องหนึ่งหนึ่งหนึ่งศูนย์ ติดกับห้องของมิกกี้ภายในวันต่อมา เลขห้องที่เป็นเลขคู่จะอยู่ฝั่งเดียวกัน ส่วนเลขคี่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม ห้องหนึ่งหนึ่งหนึ่งสองของเขาจึงมีประตูอยู่ห่างจากห้องเธอไม่ถึงสามเมตร “แพมมี่ ฉันว่าแกไม่น่าหวังดีถึงขนาดให้ฉันย้ายไปอยู่ห้องติดเขานะ บอกความจริงมา...แกต้องการอะไรกันแน่?” แพมมี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ “นี่มันเป็นแผนของเจ๊เจนต่างหาก พอได้ยินว่าคู่กรณีแกคือคู่ขาของคุณแจ็ค พี่สาวฉันก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมาทันที” ปูเป้หัวเราะหึๆ เจ๊เจนก็เหมือนกับแพมมี่สองพี่น้องคู่นี้ไม่มีทางเสียเปรียบคนอื่น “อยากให้ล้วงความลับคุณแจ็คว่างั้นเหอะ!” “ว้าว! แกเดาถูกอีกแล้ว!” “หึ! นิสัยแกสองคนพี่น้องมีเหรอฉันจะเดาไม่ถูก จู่ๆ ให้ฉันย้ายมาอยู่ข้างเขานี่กะจะให้ตีสนิทว่างั้นเหอะ” แพมมี่ตบหลังมือปูเป้เบาๆ “เอาน่าๆ แกทำได้สำเร็จฉันเลี้ยงมื้อใหญ่เป็นไง? แกก็เห็นนี่ว่าตอนเปิดเล้าจน์แข่งกัน ของคุณแจ็คปังยังกับอะไรดี เวลาเปิดแคมเปญใหม่ๆ ออกมาก็โกยลูกค้ากระเป๋าหนักไปได้เพียบ ทำเอาเจ๊ของฉันตาแทบจะลุกเป็นไฟ” ************************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม