“ยอมรับซะเพราะฉันเองก็ไม่ยอมแต่งตัวและทำตัวเหมือนน้องสาวท่านหรอก เพราะอ่อนแอแบบนั้นเลยโดนแกล้งและสุดท้ายต้องจบชีวิตลงไป ถ้าต่อสู้และต่อต้านซะบ้างมันอาจจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ก็ได้ที่พูดเนี่ยเข้าใจไหม?” ฉันกอดอกและมองหน้าของยมบาล
“เข้าใจแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าข้าอนุญาตให้เจ้าแต่งตัวและทำตัวแบบนี้!!”
“ฉันเป็นแบบนี้และจะเป็นตลอดไปด้วย ตอนนี้ร่างนี้เป็นของฉันแล้วเพราะงั้นฉันจะทำอะไรกับมันก็ได้ไม่ใช่เรื่องของท่าน” ฉันมองหน้าและพูดเสียงเรียบในเมื่อยกให้แล้วมันก็เป็นสิทธิของฉันที่จะทำอะไรกับร่างกายนี้ก็ได้
“เจ้า!!”
“ฉันช่วยท่านในการแก้แค้นและจัดการคนร้ายที่ทำร้ายน้องของท่าน แต่ฉันก็จะเป็นฉันแบบนี้ไม่ปรับเปลี่ยนอะไรทั้งนั้นแหละ” ถ้าจะต้องอยู่ในร่างคนอื่นแล้วยังต้องพยายามเป็นแบบเจ้าของร่างฉันไม่เอาด้วยหรอก
“เฮอะ!!ข้าคิดผิดสินะ”
“ฉันช่วยท่าน แต่ท่านก็ต้องเข้าใจฉันเหมือนกันเพราะว่าฉันอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคยมันทั้งน่ากลัวและไม่ปลอดภัย ฉะนั้นสิ่งที่ฉันทำได้คือเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด”
“...”
“ท่านรับได้ก็รับถ้ารับไม่ได้ก็ฆ่าฉันซะ” ฉันมองอย่างไม่หลบสายตาและฉันคิดว่าเขาคงไม่กล้าหรอกเขาอยากแก้แค้นแต่ไม่สามารถทำได้เพราะงั้นเลยต้องให้ฉันเป็นคนจัดการแทนนั่นเอง
“จะทำอะไรก็อย่าให้มันมากเกินไปแล้วกัน!” เถียงไม่ออกน่ะสิ
“งั้นถามไรหน่อยสิ”
“อะไร?” น้ำเสียงไม่พอใจฉันโคตร ๆ แต่แล้วยังไงละไม่สนใจหรอกย่ะ!!
“ท่านชื่ออะไรขี้เกียจเรียกท่านยมบาลมันยาววววว~”
“ทองอิน”
“อุ๊บ!!ฮ่า ๆ ๆ ท่านชื่อโคตรโบราณเลยอะ ฮ่า ๆ ” เมื่อได้ยินชื่อฉันก็ขำออกคิดว่าจะทันสมัยกว่านี้แต่ก็ยังดีที่ไม่ใช่ปลาหมอ ปลาเข็ม หรือปลากราย ก็น้องชื่อปลานิลนิ
“-_-^”
“ฮ่า ๆ ขอโทษ ๆ นะแต่ว่ามันอดไม่ได้จริง ๆ อะ โอ๊ยยย!!น้ำตาไหลเลยเนี่ยท่านทองอินเกิดสมัยไหนคะเนี่ย?”
“ข้าเกิดสมัยอโยธยาตายนานแล้วแต่ยังไม่ได้เกิดเพราะทำงานเป็นยมบาลในนรก ส่วนปลานิลเป็นน้องสาวข้าเมื่อชาติก่อนนานแล้ว”
“อ่อ แบบนี้เองคนเราจะมีหลายภพหลายชาตินิเนอะแล้วทำไงถึงจะไม่ได้เกิดใหม่อะฉันเหนื่อยกับการใช้ชีวิตนิด ๆ เหมือนกัน” ฉันแกล้งถาม
“ไหนบอกว่าอยากกลับไปเจอพ่อแม่ไปตอบแทนบุญคุณแล้วทำไมอยากตาย?”
“ไม่ใช่ตอนนี้สักหน่อยแค่ถามเผื่อเอาไว้เฉย ๆ”
“เจ้าน่ะ...ตายแล้วก็ต้องชดใช้กรรมก่อนยังไม่ได้ไปไหนง่าย ๆ หรอก”
“อ้าว! การฉันช่วยท่านเนี่ยไม่ได้ช่วยลดโทษเลยเรอะ?!” แบบนี้มันเอาเปรียบชัด ๆ เลยนะเนี่ย
“แค่ให้เข้ามาอยู่ในร่างน้องสาวข้าก็นับว่าบุญหนักหนาแล้ว เฮ้ออ!! ข้าคงต้องไปก่อนนะเจ้าก็อย่าแต่งตัวให้มันโป๊มากนักละข้าห่วงร่างกายน้องข้า”
แวบบบ!!
พรึ่บ!! และอยู่ ๆ ก็หายไปและไฟก็กลับมาสว่างเหมือนเดิม
“อยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไป...”
“ใช่ เพราะงั้นก็ไปได้แล้ว” ฉันหันไปมองเจ๊ข้าวสวยที่ยืนพิงประตูอยู่บางทีฉันอาจจะต้องจัดการคนพวกนั้นก่อนค่อยมาจัดการเจ๊คนสวย
“กลับก็ได้งั้นยืมเสื้อหน่อยนะ” หมับ! ฉันหยิบเสื้อคุมตัวหนึ่งของเจ๊มาคลุม
“...”
“ไปละเดี๋ยวมานอนคืนอื่นก็ได้ บายยย~ ฝันดีนะคะ จุ๊บ ๆ ” ฉันส่งจูบให้ก่อนจะเดินออกจากห้องเจ๊ข้าวซอย
(เจ๊ข้าวซอย)
ปัง!
“เฮ้อออออ!!กว่าจะไป...แต่ว่าอยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไปง่าย ๆ เธอมันยังไงกันแน่เนี่ยปลานิล” ผมมองผ้าห่มหมอนที่กำลังจะเตรียมมาให้เด็กนั่นนอนแต่ก็กลับไปแล้ว
ก็ดี!!นอนคนเดียวสบายกว่าเยอะเลย!!
แต่ว่าเมื่อกี้มันแปลก ๆ แหะมันเหมือนเวลาหยุดไปขณะหนึ่งเลยแล้วก็ได้ยินเสียงแว่วเหมือนปลานิลกำลังคุยใครอยู่แต่มันก็คงเป็นผมที่คิดไปเองนั่นแหละ เวลามันจะหยุดได้ยังไงกัน??
สวัสดีครับผมชายแท้ทั้งแท่งไม่เชื่อมาดูได้ชื่อไรซ์ ผมมีความจำเป็นต้องที่ปลอมตัวเป็นสาวประเภทเพื่อหลบหนีใครบางคน โดยใช้ชื่อว่าเจ๊ข้าวซอยและเปิดหอพักนี้มา 4 ปีแล้วและปลานิลก็เป็นเด็กที่ผมเอ็นดูมาตั้งแต่วันแรกที่เจอเพราะเธอเรียบร้อย พูดเพราะ และยิ้มเก่งแต่ผมก็ไม่ได้อะไรหรอกแค่เอ็นดูเฉย ๆ และรับรู้ว่าเธอโดนแกล้งจากเพื่อนที่มหาวิทยาลัยบ่อย ๆ เพราะว่าเป็นเพียงเด็กทุนเท่านั้น ผมเคยเสนอว่าจะจ่ายค่าเทอมให้เพื่อให้เธอไม่โดนแกล้งอีกแต่เธอไม่ยยอมรับความช่วยเหลือและเลือกที่จะเดินตามเส้นทางของตัวเองที่เลือกมา
แต่วันนี้เด็กที่ผมเอ็นดูเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเหมือนกับว่าเป็นคนละคนเลยละ จะบอกว่านี่คือตัวตนที่แท้จริงเหรอ??
ผมว่าไม่ใช่นะ...ปลานิลที่ผมรู้จักคือเด็กน่ารักโดยไม่ต้องพยายามเลยด้วยซ้ำ แต่ปลานิลคนนี้ก็จูบหวานจนเกือบห้ามตัวเองไม่ได้เหมือนกัน
“เฮ้อออ!!เธอเป็นคนยังไงกันแน่นะ?” และเหมือนว่าปลานิลคนนี้จะฉลาดทันคนและรู้จักสังเกตุมากกว่าปลานิลคนเก่าที่บางครั้งก็ดูไม่ทันคนเท่าไหร่จนผมหงุดหงิด แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปเยอะเลยจนผมเกือบคนอะไรฟุ้งซ่านไปว่าเธออาจจะโดนผีเข้าหรือเปล่า??
“ไร้สาระวะไอ้ไรซ์” ผมส่ายหัวไปมาก่อนจะทิ้งตัวนั่งที่ปลายเตียง
พรึ่บ!!
ผมทิ้งตัวนอนที่เตียงกลิ่นของปลานิลยังคงทิ้งเอาไว้ไม่ตามเจ้าของไปด้วย พอนึกถึงรอยยิ้มและชุดที่ใส่มาวันนี้ก็ทำให้อะไร ๆ มันตื่นตัวขึ้นมา ถ้าผมไม่จำเป็นต้องปลอมตัวบอกเลยปลานิลเหลือแต่ก้างแน่ไม่ได้ออกไปจากห้องอย่างแน่นอน และเหมือนว่าเธอจะเริ่มสงสัยเรื่องของผมแล้ว
Rrrrr
“มีอะไร?” ผมรับสายโดยไม่ได้มองหมายเลขที่โทรเข้ามาเพราะว่ามีเบอร์เดียวเท่านั้นคือสายสืบจากที่บ้านผม
(ตอนนี้ท่านหญิงและนายท่านทราบแล้วครับว่าคุณไรซ์ไม่ได้ออกนอกประเทศและกำลังส่งคนออกตามหาอยู่ครับ)
“เข้าใจแล้วต่อไปนี้มึงก็ไม่ต้องโทรหากูถ้ากูอยากติดต่อจะโทรไปหาเอง” ผมบอกมือขวาของผมที่มันหนีมาด้วยไม่ได้เพราะต้องอยู่สืบเรื่องที่นั่นเพื่อรายงานผม
(ครับ คุณไรซ์)
“ดีมาก” ผมบอกก่อนจะรีบวางสายเพราะกลัวว่าจะโดนดัดฟังและติดตามสัญญาณผมยังไม่อยากกลับบ้านตอนนี้หรอกตราบใดที่พ่อแม่ผมยังไม่เลิกคิดจะบังคับผม
เช้าวันต่อมา...
“มอนิ่งงงงง~ เมื่อคืนนอนสบายไหมคะเจ๊ขาของเค้า >0<” เช้านี้ก็เหมือนเดิมเสียงทักทายใสใสของปลานิล
“ก็สบายดีเพราะไม่มีหล่อนมานอนด้วย” ผมตอบไปแบบเจ๊ข้าวซอยอย่างที่ทำตลอดตอนแรกก็คิดว่าปลอมเป็นอย่างอื่นเถอะแต่แบบนี้ก็ปลอดภัยกว่าปลอมเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายคนอื่น
“แหม ๆ แต่นิลนอนไม่สบายเลยงะตัวมันสั่นนนน อยากนอนกับเจ๊แค่หลับตาจูบบบบ หวาน ๆ ของเจ๊ก็ลอยมาแล้วค่ะ” คิดว่าเป็นแค่เธอหรือไง?
“เหอะ!!ส่วนเนี่ยนะเอาน้ำยาล้างแทบไม่ทันเลยละ”
“ไอ้ซันไลน์ไม่ได้นอนด้วยเหรอ?” จะมานอนทำไมผู้ชายพวกนั้นผมแกล้งเลี้ยงไปอย่างนั้นแหละเพื่อความสมจริงเฉย ๆ
“เขาอ่านหนังสือย่ะ!!เธอน่ะอ่านบางหรือเปล่าเดี๋ยวไม่ค่อยเห็นอ่านและอีกอย่างกระโปรงสั้นขึ้นทุกวันเลยเนอะ” ผมมองขาขาวของปลานิลที่โพล่งออกมาและจนเผลอกลืนน้ำลายลงคอ
“อ่านสิ้!!”
“เหอะ!!อย่ามัวแต่เล่นจนลืมเรื่องเรียนเข้าใจไหม?” หมับ! ผมเผลอยื่นมือไปลูบหัวของเธอ
“รับทราบค่ะ ^////^” เธอทำท่าตะเบ๊อย่างตำรวจก่อนจะยิ้มหวานตอนนั้นผมรู้ตัวเลยว่าตกหลุมพรางของเธอเข้าแล้ว
“ปะไปเรียนได้แล้วไป”
“แล้วเจอกันตอนเย็นนะคะ...ที่รักกกกกกกก~”
“ที่รักบ้าน!!เธอดิย่ะ!!!”
เฮ้อออออ!!!แม่งเอ๊ยยย!!จะทนได้อีกกี่น้ำวะไอ้ไรซ์!!
~ เด็กมันยั่วเลยหลวมตัวไปหน่อย ผีซ้ำด้ามพลอย ถึงคราวมันต้องเปลืองตัว ผู้หมวดครับถึงจะจับผมก็ไม่กลัวที่ผมทำชั่วเพราะเด็กมันยั่วจริงจริง ~~~
แหม!!แล้วรถขายปลาหมึกย่างมาพอดีแล้วดูเปิดเพลง -_-
“ลุ๊งงงงง!!!ซื้อปลานิล เอ๊ยย!!ปลาหมึกหน่อยยยย~”