7 - ความลับ

922 คำ
วันต่อมา ฉันมาเล่นที่ห้องชะเอมเพราะอยู่คนเดียวมันเหงา มีนก็มาที่ห้องเอมด้วยเหมือนกัน “ทำไมลูกชายเจ้าของทุนไม่เห็นจะเรียกฉันกับยัยมีนไปแบบแกเลยล่ะ” ชะเอมถามอย่างแปลกใจ มีนก็พูดเสริม “นั่นสิ ฉันอยากจะเห็นจริง ๆ นะว่า หน้าตาลูกชายเจ้าของทุนเป็นยังไง” ทั้งเอมและมีนต่างมองมาที่ฉันพร้อม ๆ กัน “แกสองคนมองหน้าฉันแบบนั้นทำไม” “ลูกชายเจ้าของทุนหล่อไหมยัยเอย” พอถูกถามแบบนี้สมองของฉันมันก็จินตนาการไปถึงใบหน้าคมคายที่ได้เจอเมื่อวาน ถ้าใช้คำว่าหล่อคงจะน้อยเกินไป ต้องใช้คำว่าหล่อมาก ๆๆๆ ปกติฉันไม่สนใจผู้ชายแต่สำหรับเขาคนนั้นมันเหมือนมีเวทมนต์มาสะกดจิตยังไงก็ไม่รู้ “คิดอะไรอยู่ยัยเอย รีบตอบมาสิ” มีนถามย้ำ ทำให้ฉันมีสติอีกครั้ง “อื้อ เขาหล่อมาก ๆ เลย” “งุ้ย ฉันอยากเห็นจัง” ชะเอมรีบพูด “ท่าจะหล่อจริงเพราะปกติฉันไม่เคยเห็นยัยเอยชมใครว่าหล่อเลย” “แล้วทำไมเขาถึงเรียกแกไปพบคนเดียว แถมวันนั่นก็ส่งกุหลาบมาให้แก” ชะเอมถามด้วยความสงสัย “คุณเพลิงบอกว่าถ้าว่างจะเรียกพวกแกสองคนไป ช่วงนี้เขาน่าจะยุ่ง ๆ ส่วนเรื่องกุหลาบฉันว่าเขาส่งให้เราสามคนนั่นแหละ เป็นการต้อนรับ” “อื้อ ฉันลืมไปเลย คุณเพลิงจะฝากแกสองคนเข้าทำงานที่โรงแรมด้วยนะ ^_^” พอฉันบอกแบบนั้นเพื่อนสองคนก็ดีใจกันใหญ่ “จริงหรอยัยเอย นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม” “ฉันคิดว่าเราจะต้องหางานกันเป็นเดือน ๆ แต่นี่โชคดีจัง” “เขาใจดีมากเลยนะ ถึงจะมีท่าทางขรึม ๆ น่ากลัวไปหน่อย” ฉันคุยกับเพื่อนอยู่ครู่หนึ่งก็กลับมาที่ห้องตัวเอง เปิดโทรศัพท์เช็กเวลาที่ไทยว่ากี่โมงของที่นั่น ก่อนจะโทรไปหายาย “ยาย ยายจ้าหนูคิดถึงยายจังเลย” (เป็นไงบ้างลูก ได้เรียนหรือยัง) “ยังจ้ะยาย หนูกับเพื่อนมาก่อนที่มหาวิทยาลัยจะเปิดเทอม เดี๋ยวอาทิตย์หน้าก็ได้เรียนแล้ว” (หนาวไหมที่นั่น ถ้าหนาวต้องหาเสื้อผ้าหนา ๆ ใส่ด้วยนะหลาน) “ช่วงนี้ไม่ใช่หน้าหนาวจ้ะยาย แต่บรรยากาศดีมาก ๆ เลย หนูอยากให้ยายมาเห็นด้วยจังเลยว่าสวยขนาดไหน” อ๊อด อ๊อด~ เสียงออดหน้าห้องดังขึ้น “แป๊บนึงนะยาย มีคนมากดออดหน้าห้องเดี๋ยวหนูไปเปิดประตูก่อน” ฉันถือโทรศัพท์ลุกขึ้นไปเปิดประตูห้อง เห็นคนมายืนกดออดคือผู้ชายที่ไปรับฉันกับเพื่อนที่สนามบินและมาส่งที่โรงแรม “มีอะไรหรือเปล่าคะ” ฉันขมวดคิ้วถามอย่างแปลกใจ “คุณเพลิงให้เอาเอกสารสัญญาว่าจ้างมาให้เซ็นครับ” “อ๋อ ค่ะ ๆ” ลืมไปเลยว่าคุณเพลิงจะส่งเอกสารมา “ยังไงรบกวนเซ็นตอนนี้ด้วยนะครับ นี่ครับปากกา” (โอ้ย ไอ้งูตัวนี้มันเข้าบ้านอีกแล้ว โอมเอ้ยโอม) เสียงของยายที่พูดผ่านปลายสายทำให้ฉันที่กำลังจะอ่านเอกสารนั้นตกใจ รีบเซ็นไปแบบลวก ๆ โดยไม่อ่าน จากนั้นก็ยื่นปากกากับกระดาษคืนพี่คนนั้นไปแล้วปิดประตู “งูเข้าบ้านเหรอจ๊ะยายแล้วโอมอยู่หรือเปล่า ยายออกมาจากบ้านก่อนนะ” (โอมมาไล่ไปแล้ว เดี๋ยววางสายก่อนนะยายจะไปดูโอมมันสักหน่อย) “จ้ะ ยายระวัง ๆ ด้วยนะ เผื่องูยังอยู่ในบ้าน” แล้วยายก็วางสายไป พอวางสายฉันก็มานั่งคิดว่าเมื่อครู่ตัวเองเซ็นอะไรไป น่าจะอ่านก่อนไม่น่ารีบร้อนเซ็นไปแบบนั้นเลย ไม่รู้เลยว่าคืองานอะไร ฉันนี่นะ เฮ้อ! เอาไว้พรุ่งนี้เริ่มงานก็คงจะรู้เอง เช้าวันต่อมา ฉันรีบตื่นแต่เช้าเพราะวันนี้ต้องเริ่มงานวันแรก งานที่ทำคงไม่กระทบต่อการเรียนแน่นอนเพราะคุณเพลิงน่าจะรู้ดีว่าฉันต้องเรียนควบคู่กับทำงานไปด้วย ฉันแต่งตัวด้วยชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขายาวและสะพายกระเป๋าราคาห้าสิบบาทแถวตลาดนัดที่ไทย ทั้งตัวเป็นเสื้อผ้ามือสอง ฉันชอบซื้อใส่เพราะเห็นว่ามันยังใหม่และราคาถูก ขนาดโทรศัพท์ที่ใช้อยู่ฉันยังใช้มือสองเลย อะไรที่ประหยัดได้ก็ต้องประหยัดเอาไว้ก่อน อ๊อด อ๊อด~ เสียงออดหน้าห้องดังขึ้น คนของคุณเพลิงคงจะมารับแล้ว ฉันเดินไปเปิดประตูห้องอย่างตื่นเต้น วันแรกของการทำงานที่ต่างประเทศแถมเงินเดือนก็ยังเยอะมาก ๆ ฉันต้องทำตัวยังไงนะ แล้วก็ไม่รู้ว่าพวกมีนกับชะเอมได้เริ่มงานกันวันนี้หรือเปล่า “เชิญครับคุณเอย” เป็นพี่ผู้ชายคนเดิมที่มารับฉัน มันรู้สึกแปลก ๆ ที่เขาเรียกฉันว่าคุณ “เอยต้องไปทำงานที่ไหนเหรอคะ พี่รู้ไหม” ในขณะที่เดินไปที่ลิฟต์ฉันก็ซักถามเขา แต่เขาก็ส่ายหน้าไปมา “ผมไม่ได้รับอนุญาตให้พูดครับ เอาไว้ไปถึงคุณเอยก็จะรู้เอง” ฉันกระซิบถามเบา ๆ “เป็นความลับขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม