ฉันให้เวลาเธอโกรธหนึ่งวิ

3716 คำ
15.40 น. “อือ” ฉันรู้สึกตัวขึ้นมาแล้วอยากบิดขี้เกียจแต่มันทำไม่ได้อะ ฉันลืมตาขึ้นมาและมองไปที่คนตัวสูงที่นอนคว่ำหน้าแล้วนอนอยู่บนหมอนใบเดียวแล้วทั้งแขนทั้งขาคือพาดมาที่ตัวฉันแบบเต็มที่ด้วยนะ พอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาก็ตัดสินใจลุก เพราะเดี๋ยวต้องเอาเสื้อผ้าไปซักแล้วก็ต้องไปเก็บอุปกรณ์ต่างๆที่ตอนนี้ยังอยู่ในตู้ล้างจานอยู่เลย ฉันค่อยๆ ใช้มือดันตัวเขาเพื่อจะให้คนตัวสูงหันไปทางอื่น “อื้อ แบม จะนอน” ฉันมองคนตัวสูงที่นอกจากจะไม่หันไปทางอื่นแล้วยังจะขยับมาแทบจะทับฉันไปทั้งอยู่แล้วมั้ง “อือหื้อ หนัก ขาดอากาศตายซะมั้งกู วิน วิน” ฉันเรียกเขาพร้อมกับใช้มือสะกิดที่แขนของนายนี่เบาๆ เพราะกว่าจะทำอะไรเสร็จแล้วก็ต้องทำกับข้าวเย็นอีก ตารางในชีวิตประจำวันแน่นมากแม่ “อือ” “ปล่อยก่อน จะลงไปซักผ้า” “จิ๊ มันก็มีตั้งเยอะปะ ช่างมันไม่ต้องซัก ชุดธรรมดาก็ใส่ไปเรียนได้ นอน!” ผมบอกยัยตัวแสบที่ชุดนักศึกษามันก็มีอีกสองชุดปะ แล้วชุดธรรมดาก็ใส่ไปเรียนได้ ผมบอกยัยตัวแสบจบก็หลับตาลงอีกรอบแต่ยังไม่ทันจะสนิทเลยยัยนี่ก็เรียกขึ้นมาอีก อยากจะฆ่าเมียตัวเองจริงๆ “วิน วิน จะไปทำกับข้าวด้วย” “เฮ้อ เอา!! อยากไปก็ไปซะ!!” ฉันมองคนตัวสูงที่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดแล้วก็หันหน้าไปอีกทางและนายนี่ก็นอนต่อ ฉันเลยลุกขึ้นแล้วก็มาล้างหน้าแปรงฟันหยิบกระดาษทิชชูมาซับหน้าให้แห้ง ฉันเดินมาที่ห้องแต่งตัวก็เดินมาที่โต๊ะกระจกที่เอาไว้แต่งหน้า ฉันหยิบกันแดดขึ้นมาทาบนหน้าแล้วก็ทาลิปสติกปิดท้ายด้วยแป้งฝุ่นแค่นี้ก็พอ “อืม เปลี่ยนเป็นชุดนอนแบบเสื้อกับกางเกงดีกว่า” ฉันตกลงกับตัวเองก่อนจะถอดชุดนอนที่ใส่อยู่ออกแล้วก็โยนใส่ตะกร้าที่อยู่ข้างๆ ฉันเดินมาเปิดตู้เสื้อผ้ามองชุดนอนตัวเองอยู่สักพักก็หยิบชุดนอนกางเกงลายสก๊อตสีเหลืองอ่อนขึ้นมาใส่แล้วก็ใช้มือรวบผมและม้วนเอาไว้กลางศีรษะและใช้กิ๊บตัวใหญ่สีใสแล้วก็มีตุ๊กตาตกแต่งติดลงไป “หึ สามตะกร้า ผัวกูบอกไม่เยอะ” ฉันเท้าเอวมองตะกร้าผ้าที่วางเรียงกันแต่ดีหน่อยที่ฉันแยกประเภทไว้ด้วยแบบชุดนอนหนึ่งตะกร้า ผ้าสี ผ้าขาว นี่แค่ผ้าที่ใส่นะ ยังมีพวกผ้าขนหนูที่ใช้แล้วอีกหลายผืน ทั้งผืนใหญ่ ผืนเล็ก ไหนจะพวกชุดชั้นในแล้วก็ถุงเท้าอีก แม๊ ไปค่ะ “ข้าขออัญเชิญวิญญาณองค์แม่แห่งมนุษย์เมียที่แสนดีลงมาประทับด้วยเถิด เพี้ยง สงสัยองค์แม่กูจะมาละ อยู่ๆ ก็รู้สึกดีด” อืม แกอย่าถือสาฉันนะ มันเป็นการเรียกพลังฉบับของฉันอะ ฉันเริ่มหยิบตะกร้าผ้าออกมาทีละตะกร้าแล้วก็เดินออกมาที่ห้องนอนพร้อมกับเปิดประตูห้องค้างไว้แล้วก็ทยอยเอาออกมานอกห้องทีละตะกร้าพอรวมกันแล้ว 6 ตะกร้าจุกๆ จ่ะ นี่ขนาดซักทุกอาทิตย์นะ แต่ก็นะ มันเรียนแค่ครึ่งวัน พอกลับมาก็อาบน้ำ ก่อนนอนก็อาบน้ำเสื้อผ้ามันก็เลยเยอะ พอทยอยตะกร้าออกมาจนครบแล้วฉันก็เดินมาหยิบไอแพด โทรศัพท์มือถือ แล้วก็ปิดประตูห้อง หลังจากนั้นก็เอาไอแพดใส่ไว้ในตะกร้าผ้าแล้วก็ค่อยๆ ทยอยลงมาชั้นล่างทีละตะกร้าจนครบ “อือหื้อ บันไดบ้านแม่งก็เยอะจัง เดี๋ยวผัวกูจัดกูวันไหนต้องขอลิฟต์ในบ้านละ คนอื่นมีผัวนี่อ้วนขึ้น สภาพกูตอนนี้นั้น ฮึ ไอ้พวกที่ผัวทำให้มึงไม่มีความแข็งแกร่งหรอกค่ะ กูนี่ มีผัวแล้วแมนเป็นสิบเท่า” ฉันเดินมาถึงห้องซักรีดที่นายนั่นทำไว้ แล้วดีหน่อยที่มีเครื่องซักผ้าแล้วก็เครื่องอบผ้าอย่างละสองเครื่อง ถามว่ามันดูว่าสิ้นเปลืองแล้วดูเวอร์ไหม สำหรับฉันคือไม่ เพราะผ้ามันเยอะมีอย่างละสองคือดีเอาตะกร้านี้ออกแล้วก็ใส่เครื่องอบแล้วเอาผ้าอีกตะกร้ามาสลับกันแบบนี้ก็แป๊บเดียว แล้วอีกอย่างพออบแล้วก็จบเลยแห้งสนิทพร้อมใส่ไม่ต้องตากไม่ต้องเก็บ เริ่ดตรงนี้ “กูเนี่ยนะก็พูดกับผัวกูทุกวัน ว่าให้แม่งแยกเสื้อขาวกับเสื้อสีแล้วค่อยใส่ตะกร้าก็ยังจะมีเสื้อช็อปมาทุกตะกร้า แล้วแม่งรวยจริงๆ เงินก็อยู่ทุกกระเป๋า ปากกาเอย ดินสอเอย ดีนะแม่งไม่มีจานข้าวอยู่ในนี้ด้วย หัวจะปวด” ฉันหยิบของออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วพอเอามากองรวมกันไว้ แม๊ ดินสอกับปากกาเกือบจะโหลได้มั้ง ไหนจะเงินสดอีก ทั้งๆ ที่กระเป๋าเงินมันก็มีปะวะ พอเอาทุกอย่างออกเสร็จเรียบร้อยฉันก็เอาเสื้อสีขาวแล้วก็เสื้อนักศึกษาใส่ลงไปในเครื่องซักผ้าแล้วก็ใส่ผงซักฟอกตามด้วยน้ำยาปรับผ้ากลิ่นที่ใช่ประจำ จากนั้นก็กดเลือกโหมดว่าเป็นผ้าประเภทไหนสักพักเครื่องมันก็เริ่มทำงาน แล้วก็เปิดอีกเครื่องเอาพวกเสื้อช็อปแล้วก็เสื้อยืดสีต่างๆ ใส่ลงไปแล้วก็กดให้มันทำงาน เดี๋ยวพวกกางเกงค่อยซักอีกที “ไปเก็บอุปกรณ์ก่อนดีกว่า เดี๋ยวผัวกูจะพูดว่าเอามาใช้แล้วก็ไม่เคยเก็บ บ่นจัง แต่แม่งก็ไม่เคยจะช่วยเก็บ” ฉันบ่นพึมพำกับตัวเองและเดินมาในห้องครัว ฉันเปิดเครื่องล้างจานออกแล้วก็เอาอุปกรณ์ที่ใช้ทำเค้ก แล้วก็พวกถ้วย จาน ช้อนเก็บเข้าที่เดิมกว่าจะเก็บเสร็จก็ใช้เวลาพอสมควรอะ ฉันกดเปิดเครื่องทำน้ำแข็งแล้วก็เดินมาที่ห้องซักรีดแล้วย้ายผ้าที่ซักเสร็จแล้วปั่นแห้งแล้วเอามาใส่เครื่องอบแล้วก็เลือกโหมดของผ้าว่าที่อบเป็นประเภทไหนจากนั้นเครื่องก็เริ่มทำงานแล้วก็เอาผ้าที่เหลืออยู่ในตะกร้าใส่ไปที่เครื่องซักเหมือนเดิม “เอาราวไป ตะกร้าสี่เหลี่ยมไปหมดนี่เลยเพราะต้องพับพวกชุดชั้นในแล้วก็ผ้าขนหนู ที่รองรีด เตารีดทั้งสองแบบ น้ำยารีดผ้า” ฉันเริ่มทยอยทุกอย่างที่พูดไปออหมาที่ห้องรับแขกเพราะห้องนั้นมันอ้าวอะ อากาศไม่ค่อยถ่ายเท แล้วก็เปิดทีวีเลือกซีรี่ย์เรื่องที่จะดูให้มันเล่นไปไม่งั้นบ้านมันเงียบมากพอสมควร หลังจากนั้นก็เริ่มลงมือรีดเสื้อผ้าโดยที่นั่งรีดกับพื้นจ่ะ ดีนะที่รองรีดคือมีแบบสำหรับนั่งรีดด้วย ฉันเริ่มรีดเสื้อนักศึกษาของฉันและของเขาแล้วก็รีดเสื้อช็อป แล้วก็พวกเสื้อยืด แต่ถ้าเป็นชุดนอน ชุดเดรส กระโปรงนักศึกษา กางเกงต่างๆ ฉันใช้เตารีดไอน้ำแบบยืนแบบนั้นมันไวดี แต่ถ้าผ้าที่เน้นกลีบก็เตารีดแบบที่ใช้กันปกตินี่แหละดีสุด “อือหื้อ จะหกโมงเย็นแล้วเหรอวะเนี่ย กินจิ้มจุ่มแล้วกัน ของสดมี ผักก็มี แล้วก็ผัดข้าวผัดกระเทียมให้ผัว เดี๋ยวค่อยมาจัดการผ้าอีกหนึ่งตะกร้าที่เหลือ อืม ต้องพับผ้าขนหนูแล้วก็พับชุดชั้นใน หลังจากนั้นก็เสร็จสิ้นภารกิจของแม่บ้านแล้วโว้ย” “นี่เธอขนอุปกรณ์ออกมาห้องรับแขกอีกแล้ว” ผมล้างแปรงฟันแล้วก็หยิบโทรศัพท์ก่อนจะเดินลงมาชั้นล่าง พอลงมาแม่งนึกว่าเดินมาในร้านรับซักรีด “สวัสดีตอนหัวค่ำนะคะคุณผัว ยมทูตยอมปล่อยตัวออกมาแล้วเหรอคะ โชคดีนะคะเนี่ยที่เขายอมปล่อยผัวมา” “หึ เดี๋ยวฉันจะเตะเธอ แบม” “ว่า” “หิว” ฉันเบะปากใส่คนตัวสูงไปหนึ่งกรุบ แล้วก็บอกเขาว่าวันนี้จะทำอะไรบ้าง “วันนี้กินจิ้มจุ่ม ไม่ต้องกลัวว่าจะหิวตอนดึก ฉันจะทอดปีกกลางไก่แล้วก็หมูสามชั้นทอดน้ำปลาพร้อมกับทำข้าวผัดกระเทียมให้นาย” “อือ งั้นรีบไปทำ หิวมากๆ แล้ว” ผมบอกยัยตัวแสบออกไปแบบจริงจัง เพราะส่วนมากก็เวลาประมาณนี้แหละที่กินข้าวเย็นกันอะ “นายทยอยเอาเสื้อผ้าไปใส่ตู้ แล้วทำดีๆนะ ยิ่งชุดนักศึกษาถือระวังด้วย พอเสร็จแล้วก็เข็นราวไปเก็บที่ห้องซักรีด” “เห็นหน้าผัวเธอก็ใช้ผัวเลยเหรอห๊ะ แล้วฉันก็คือต้องทำ” “เออสิ ไม่ใช้ผัวจะใช้ใครอยู่กันสองคน หรือนายจะไปทำกับข้าว” “รีบไปทำซะก่อนที่ฉันจะเตะเธอไป” “เชอะ ย้ำอีกครั้งทำดีๆ” “เออ! จะไม่ดีตรงเธอย้ำเนี่ยแหละ!” “ชิ” ฉันบอกเขาเสร็จเรียบร้อยก็เดินเข้ามาในครัวแล้วก็เริ่มเอาปีกกลางไก่ที่เขาหมักมาสำเร็จแล้วออกมาจากตู้แช่แข็งแล้วก็หมูสามชั้น อ๋อ ฉันซื้อหมูมาแผ่นใหญ่ๆ เลยอะ เวลาจะใช้ก็ใช้มีดคมๆ กรีดแบ่งออกมาใช้ แล้วก็เอามันไปแช่น้ำให้น้ำแข็งละลายส่วนที่เหลือก็ใช้เครื่องสไลด์ที่ซื้อสไลด์ออกมาเป็นแผ่นบางๆ หลังจากนั้นก็เริ่มเตรียมเนื้อหมู เนื้อไก่ กุ้ง ปลาหมึก แล้วก็แซลมอนเอามาหมักรวมกันแล้วก็ใส่ในถ้วยแก้วใบใหญ่สีขาวใส พอเตรียมเสร็จก็ตอกไข่ไก่ลงไปห้าใบเพราะเนื้อสัตว์มันค่อนข้างเยอะ เสร็จแล้วฉันก็เอาเต้าหู้ชีสแล้วก็พวกลูกชิ้นต่างๆ ออกมาใส่ในจานใบใหญ่ไว้ พอเตรียมของสดเสร็จก็เตรียมผักสดต่างๆ ใส่ตะกร้าเอาไว้หลังจากนั้นก็เอาหม้อดินเผาขนาดกลางที่ซื้อไว้ออกมาจากช่องเก็บของ คือเตาไฟฟ้ามันก็มีแหละแต่มันไม่ได้บรรยากาศ “อือหื้อ แค่ถือหม้อกลิ่นก็มาแล้ว” พอเตรียมน้ำซุปสำหรับจิ้มจุมเสร็จเรียบร้อยก็ผัดข้าวผัดกระเทียมแล้วก็ตักใส่หม้อน่ารักๆ หมูสามชั้นทอดน้ำปลาก็ทอดเสร็จแล้ว น้ำจิ้มแจ่วก็เสร็จแล้ว พอทุกอย่างเสร็จก็เรียกคนตัวสูงที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าผัวอยู่ส่วนไหนของบ้านเลยเรียกดังๆ ไปเลย “วิน!! วิน!!” “โอ้โห!! ผัวเธอหายเหรอ! ตะโกนจนบ้านจะสั่นอยู่แล้วมั้ง! ตะโกนขนาดนี้ไม่ไปแจ้งความตามผัวเลยล่ะ!” “คริคริ ก็กลัวไม่ได้ยินปะ ยกเตาแก๊สอันนี้ออกไปแล้วก็มายกหม้อดินเผาออกไป เหลือทอดไก่อย่างเดียว” “เค เปิดแก๊สเลยนะ” “อือๆ แล้วเทน้ำในถังน้ำแข็งเมื่อเช้านี้ออกแล้วเอาน้ำแข็งที่ทำใหม่อยู่ในเครื่องอะใส่ลงไปแล้วก็ยกออกไป” “อะเค” ผมช่วยกันยกของออกมาจนตอนนี้ก็เสร็จเรียบร้อยหมดแล้วเหลือแต่เมียผมนั่นแหละที่ยังไม่เสร็จ “วิน” “ว่า” “ช่วยกันขยับตะกร้าผ้าไปไว้มุมก่อนเดี๋ยวเอาผ้ามาคลุมไว้เดี๋ยวกลิ่นติดเสื้อผ้า” “มา ให้เร็ว ตอนนี้ท้องฉันร้องมากละ” “เหมือนกันแหละค่ะ” ฉันช่วยกันขยับตะกร้าผ้ามาไว้ที่มุมห้องรับแขกแล้วก็เดินกลับไปนั่งที่เดิม พอน้ำเริ่มเดือดฉันก็เริ่มเอาเนื้อสัตว์ลงไปในหม้อแล้วดูผัวฉันตอนนี้ “แบม ตักข้าวให้ด้วย” “วิน หม้อมันก็อยู่ข้างๆ นี่ไง” “ไม่เอา เธอตัก” “งั้นรอ อย่าหน้างอด้วย เอาของลงในหม้อจิ้มจุ่มอยู่” ผมมองยัยตัวแสบที่ตอนนี้เอาเนื้อสัตว์ที่หมักเสร็จแล้วลงหม้อแล้วก็ใส่ผักลงไปจนเต็มหม้อหลังจากนั้นก็หยิบจานมาตักข้าวให้ผม “เอาเยอะไหม” “เยอะ” “อะ แค่นี้นายก็ตักเองไม่ได้” “ไม่ได้ ปกติเธอก็ตักให้ฉันปะ” “ดีนะฉันไม่ต้องป้อนข้าวนายอะ” “เออวะ” “หยุดซะ” “แบม” “หื้อ ว่า” ฉันตักข้าวผัดกระเทียมใส่ถ้วยเล็กๆ ก่อนหันหน้ามามองคนตัวสูงที่ตอนนี้หน้าเหมือนไม่ปลื้มอะไรบางอย่างอะ หรือว่า ไม่นะ “ไก่เธอไม่ได้หมักเอง” “อ๋อ ใช่ ก็มันเป็นไก่ที่ไปซื้อกันมาวันนั้นไง ทำไมมันมีอะไร หือ มันก็ปกตินะ มันก็รสชาตินี้แหละ” ผมมองยัยตัวแสบที่หยิบไก่ขึ้นไปกินแต่ปกติที่กินคือยัยนี่หมักเองอะ แล้วอันนี้มันเหมือนมีกลิ่นเครื่องเทศอะไรก็ไม่รู้ “ปกติอะไรของเธอ ไม่เห็นจะอร่อย มีกลิ่นเครื่องเทศอะไรก็ไม่รู้” อืม เอาแล้วกู แล้วมาอยู่กันได้ไม่เท่าไหร่จำรสชาติอาหารฉันได้แล้ว ใช้ชีวิตลำบากแล้วทีนี้อิแบม ฉันกวาดสายตามองไปบนโต๊ะก็เห็นจานหมูสามชั้นทอดน้ำปลาเลยหยิบมาวางแทนจานไก่ทอด “อะ สามชั้นทอดน้ำปลา” ผมใช้ส้อมจิ้มหมูสามชั้นแล้วก็เอามันเข้าปาก อือ อันนี้ยัยนี่ทำ “อือ อร่อย” “งั้นนายก็กินซะ มีตั้งเยอะ” “อืม ไอ้ไก่นั่นเธอก็เอาไปทิ้งซะ แล้วต่อไปไม่ต้องซื้อมันมา รสชาติไม่ได้เรื่อง” “ใครเค้าก็กินกันปะ กูอุตส่าห์เลือกอันที่แพงที่สุดแล้วนะ ผัวกูแม่งก็ลิ้นอ่อนไหวเหลือเกิน” “บ่นอะไรของเธออยู่อะ บ่นผัวเหรอห๊ะ ปากขมุบขมิบเลยเนาะ” “บ่นไก่อะสิ นึกว่าจะอร่อย อือหื้อ เอาถ้วยมา” ฉันเปิดผ้าหม้อออกแล้วพอควันในหม้อจิ้มจุ่มลอยมาเท่านั้นแหละ สู่ขิตมากแม่ พอคนตัวสูงส่งถ้วยมาให้ฉันก็ใช้ที่กระชอนสำหรับตักโดยเฉพาะตักเนื้อสัตว์ต่างที่สุกแล้ว ผัก แล้วก็พวกลูกชิ้นใส่ลงในถ้วยก่อนจะวางตรงหน้าเขา “อะ นี่น้ำจิ้ม อันนี้สำเร็จออกมาจากขวดบอกไว้ก่อน ส่วนอันนี้ทำเอง” “อือ” ผมพยักหน้าก่อนจะหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบหมูสามชั้นจิ้มน้ำจิ้มที่ยัยนี่ทำก่อนจะขมวดคิ้วหลังจากเห็นยัยนี่มองมาเหมือนลุ้นอะไรสักอย่างอะ “อะไรของเธอ แล้วไม่กินอะ มองหน้าผัวแล้วอิ่มเหรอ” “โอ๊ย ชีวิตนี้ยังต้องพึ่งไขมันของหมูเป็นแรงขับเคลื่อนอยู่เนาะ กินได้ไหมนายอะ” ฉันถามคนตัวสูงออกไปด้วยสีหน้าจริงจัง แล้วถ้าผัวบอกไม่ปลื้มกับน้ำจิ้มนี่คือ ปิดจบเลยนะจิ้มจุ่มอะ เอามาม่ามาใส่แล้วแยกย้ายจ่ะ “ก็กินอยู่นี่ไง อะไรของเธอ” “เฮ้อ เก่งมากเลยค่ะผัวตัวเล็กๆ ทานเยอะๆ เลยนะคะ” ผมมองยัยตัวแสบที่พูดพร้อมกับใช้มือลูบที่แก้มผมเบาๆ เหมือนพูดกับเด็กอะ “ฉันผัวเธอปะ ไม่ใช่ลูก” “เออ ขาดแค่อาบน้ำกับป้อนข้าวให้นายเท่านั้นแหละ นอกนั้นยิ่งกว่ามีลูกอีก” “หึ อีกอย่างหนึ่งที่ลูกทำให้เธอไม่ได้แต่ผัวทำได้” “ใช้เมียน่ะสิ” “เออ ใช้เมียมาทำเรื่องบนเตียง เรื่องนี้ลูกทำให้เธอไม่ได้หรอก” “หัวฉันจะปวดมากนะ กินเลย” ฉันบอกคนตัวสูงที่เริ่มกินแล้วก็เปิดละครดูไปด้วย เพราะซีรีส์ก็ยังไม่อัพอะ ไม่มีอะไรจะดู พอดูไปสักพักก็ได้ยินคนตัวสูงพูดขึ้นมา “แบม เปิดหนังดู หนังมีอีกเป็นพันเรื่อง นางเอกโง่ฉิบหาย” “พรืด มันเป็นบทละครปะ” ผมดูละครที่ยัยนี่เปิดแล้วรู้สึกแบบแม่งดูไปก็เปลืองไฟอะ เรื่องราวแบบ โอ๊ะ ดูหนังยังสนุกกว่า อันนี้น้ำเน่าจัด “หึ บ้านจนมากไม่มีเงินสักบาท แต่ใส่เสื้อแบรนด์ กระเป๋าแบรนด์เนม มันเอากระเป๋าไปขายก็มีเงินกินหลายวันละ” “คริคริ ไอ้บ้า ก็นางเอกปะ มันก็ต้องเออนิดหนึ่ง เค้าทำเพื่ออรรถรส ใครจะบ้าเอาความจริงมาใส่ขนาดนั้นล่ะ” “แล้วดูความโง่ ฉันก็งงมากนะ เห็นหลายเรื่องละ แม่งมาแอบฟังเขานะแต่ไม่ฟังให้จบแล้วเดินออกมาร้องไห้ โอ๊ะ เปลืองไฟ เปิดหนังดู” “ก็มันละคร มันจะเหมือนชีวิตจริงได้ไงล่ะ” “มันก็เวอร์ไปปะ หาอะไรดูที่มันโอเคกว่านี้สิ” ฉันพยายามนึกแล้วมันจะมีอะไรที่สร้างสรรค์วะ เวลานี้ก็มีแต่ละครเท่านั้นแหละ เลยเปิดไปช่องอื่น พอดูไปสักพักผัวเอาอีกละ “เปลี่ยนๆ เมียหลวงเมียตบแย่งผู้ชายน่าเบื่อ แล้วเหมือนผู้ชายแม่งมีคนเดียวอะ” “โอ๊ยเนาะ ท่านผู้กำกับใหญ่คะ ก็เทรนสองบ้านมันมา” “ไร้สาระ” “แต่อันนี้มันมีในชีวิตจริงนะ” “ปวดประสาท เปลี่ยนๆ” “เอ้า ดูอันนี้แหละ สร้างสรรค์ มีตลอดทั้งวัน ภาพสวย สบายตา” ฉันเปิดช่องการ์ตูนที่มีการ์ตูนตลอด 24 ชม. อะ แล้วนั่งดูไปสักพักผัวฉันถูกไอ้หมีสามตัวแม่งดูดไปละ แล้วแบบนี้คือไม่บ่นด้วยนะ “อันนี้คือถูกใจแล้ว” “เออดิ ไม่ปวดประสาท ดูอะไรก็ดูที่มันสร้างสรรค์ วันพักผ่อนจะดูที่มันปวดประสาทเพื่อ การ์ตูนแม่งดีกว่าเมื่อกี้เยอะ” ผมบอกยัยตัวแสบ เพราะมันก็จริงๆ อะ จะมาดูอะไรที่น่าปวดหัว ด่ากันไปด่ากันมาน่าเบื่อ พอนั่งกินไปสักพักของในถ้วยก็หมดเลยเรียกยัยตัวแสบที่ตอนนี้แม่งนั่งจ้องนิ่งๆ กว่าผมอีก “แบม” “หื้อ” “หมูหมดแล้ว” “แป๊บหนึ่ง” “เร็วๆ ไม่งั้นฉันปิด” “อร้ายย! นายรู้ไว้เลยนะ ถ้าวันไหนที่วิญญาณนายหลุดลอยฉันนั่นแหละเป็นคนลอบฆ่านาย” ฉันหันบ่นแล้วก็ใช้ถ้วยมาตักเนื้อสัตว์ในหม้อให้เขาแล้วก็ให้ตัวฉันเองแล้วก็ใส่พวกเนื้อต่างๆ เพิ่มลงไป “ลูกชิ้นชีสอันกลมของแม่ มาอยู่ในท้องแม่ดีกว่า” ผมมองยัยตัวแสบที่ใช้ตะเกียบคีบลูกชิ้นแล้วคุยกับไอ้ลูกชิ้นนั่นเหมือนแม่งมีชีวิตอะ พอยัยนั่นกัดไปเท่านั้น โบกไม้โบกมือไปมา “โอ๊ะ” “เป็นอะไรของเธอ เจ้าเข้าหรือไง” “ฟูว โอ๊ย ร้อนอะ” “โง่จริงๆ” “นี่!!” “มันก็ออกมาจากหม้อ แล้วหม้อแม่งร้อนขนาดนั้นแต่ก็ยังใช้ปากกัดเธอเอาอะไรคิด จานกับช้อนเธอไม่มีเหรอ” ฉันมองคนตัวสูงที่ตอนนี้รับบทผัวขี้บ่นแล้วหนึ่ง แม่งบ่นเหมือนฉันไปฆ่าอะไรสักอย่างอะ “มี” “เออ แล้วทำไมไม่ใช้ ถ้าไม่ใช้จะได้เก็บทิ้งแม่งให้หมดซะ ของจะเข้าปากอยู่ละยังไม่รู้จักระวัง” “จ้า สำนึกเกือบจะไม่ทันอยู่แล้วค่ะ” ผมส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะหยิบแก้วน้ำของยัยตัวแสบส่งให้ไป แม่งก็รู้ว่าร้อนนะ แล้วแบบนี้จะไม่ให้โมโหได้ไง “เอา น้ำ เดี๋ยวปากพองคนอื่นเค้าจะเข้าใจผิดคิดว่าเธอโดนผัวต่อย” “พรืด ฮ่าๆ เออวะ ลุคนายก็เถื่อนซะน่าเชื่อถือเลยนะ” ฉันหัวเราะออกมาเพราะนายนี่แบบเบ้าดีนะแต่ลุคดูเป็นคนเถื่อน ดุๆ มีรอยสักตรงหน้าอก หลัง แล้วก็แขน แต่ดีหน่อยที่มันไม่ได้เยอะขนาดนั้นไม่งั้นฉันก็ไม่โอเค สักนิดหน่อยก็พอดีแล้ว เพื่อนฉันยังไม่ค่อยกล้าพูดกับนายนี่เลยอะ มันหล่อแหละ แต่มันเข้าถึงยาก “กินไปซะ ไอ้คนสมองไม่ค่อยสั่งการแบบเธออะ” “งื้อ พูดแบบนี้คืออะไร๊” “ก็คืออันนั้นแหละ” “ฉันโกรธนาย” “อืม ฉันให้เวลาเธอโกรธหนึ่งวิ” “แม่งสั้นยิ่งกว่าตัวฉันอีก” “หึหึ ก็รู้นี่ว่าตัวเองเตี้ยอะ” “เค้าเรียกว่าผู้หญิงตัวเล็กไม่ใช่เรียกว่าเตี้ย ทำไม ชอบเมียที่สูง 170 เซนติเมตร ขึ้นไปหรือไง” “นี่ไง เธอดูแต่ละครน้ำเน่า ถ้าฉันชอบแบบนั้นฉันจะมาเอาเธอทำไม ถามอะไรไม่คิด” “ง้วววว ฉันทั้งสวย ทั้งน่ารักอะเนาะ บ้า ฉันรู้ๆ” ผมมองยัยตัวแสบที่นั่งทำตาปริบๆ เลยยิ้มมุมปากก่อนจะตอบยัยนี่กลับไป “เพราะตอนนั้นเธอยังสติครบอยู่ไง” “หมดอารมณ์เลยกู ไม่ต้องกินเลยนายอะ” ฉันมองผัวตัวเองแม่งไม่เคยจะชมเมียตัวเองด้วยนะ เวลาคนอื่นชมเมียก็มีปัญหา ฉันยกถ้วยเขาออกแล้วนายนี่ก็สวนขึ้นมาอย่างเร็ว “เอามาวางที่เดิม ไม่งั้นเธอเจอฉันแน่ แล้วเจอแบบเสื้อผ้าไม่ใส่ ฉันไม่สนหรอกนะว่าเธอจะปวดหลังอยู่หรือเปล่าอะ ถ้าอารมณ์มาไม่สนหรอก” “งั้นเชิญทานต่อนะคะคุณผัวตัวน้อยของเมีย พอไหมคะ เอาเพิ่มหรือเปล่าคะ” “หึ อย่างน้อยยังรู้จักเอาตัวรอด” “เชอะ” ผมนั่งกินกันอยู่สักพักใหญ่ๆ ก็ช่วยกันยกของไปเก็บแล้วก็บังคับให้ยัยนี่ขึ้นห้องไปพัก ตอนแรกเมียผมยังจะรีดผ้าต่อ แล้วก็พับผ้าอะไรอีกไม่รู้ พอขึ้นมาผมก็พากันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม