แสงแดดส่องเข้ามาตามรอยแยกของผ้าม่านทำให้คนที่กำลังนอนหลับสบายอย่างเกดกนก ต้องพลิกตัวหันหลังให้แล้วหลับต่ออีกครั้งเธอยังคนนอนหลับไหลอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งเที่ยงวันจึงค่อยๆงัวเงียตื่นขึ้นมา ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆห้องนอนแล้วทำให้เธอรู้สึกใจหาย
“ที่นี่ที่ไหนกันนะ เรามานอนที่นี่ได้ยังไง” แล้วก็ไม่ต้องหาคำตอบนานรูปถ่ายที่ตั้งบนหัวเตียงเป็นตัวบ่งบอกให้เธอรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังอยู่ที่ไหนเธอหยิบรูปนั้นมาดูแล้วขมวดคิ้วความโกรธเริ่มประทุขึ้นมา
“ ผมนายนี่ทำไมผมสีดำล่ะ ตาก็สีดำสนิทเลย” เธอหยิบรูปอื่นๆมาเพื่อพิจารณาก็เห็นว่าเป็นเหมือนกันหมดเธอร้องกรี๊ดออกมาอย่างสุดจะทนแล้ว
“อ้าย บ้าที่สุดเราถูกเขาหลอกตั้งแต่แรกเลยหรือไงนะคอยดูนะคนหลอกลวงเราได้เห็นดีกันแน่”
“ไงตื่นแล้วเหรอ” เสียงนุ่มทุ้มของเขาทำให้ เกดกนกต้องเงยหน้าขึ้นมองเห็นเขายืนอยู่หน้าประตูด้วยท่าทางสบายๆเธอเม้มปากแน่นแล้วขว้างรูปถ่ายในมือใส่เขาทันที
“เพล้ง”
“เกดกนก” เขาตวาดเธอเสียงเข้มตาสีดำสนิทของเขาลุกเรืองขึ้นอย่างน่ากลัว แต่ทว่าตอนนี้ความโกรธมันอยู่เหนือทุกสิ่ง
“นายหลอกฉัน หลอกฉันตั้งแต่ต้นเลยใช่ไหม ไอ้บ้าแกลรี่ นี่แนะๆๆ” หมอนเอย ผ้าหม่เอย ของที่อยู่ใกล้ๆ มือ ถูกสาวร่างเล็กขว้างใส่เขาเมื่อบนเตียงไม่มีแล้ว โคมไฟข้างๆ ถูกคว้ามาเตรียมพร้อมที่จะปาออกไป ชายหนุ่มกระโจนเข้าหาเธอทันทีแต่เกดกนกดิ้นทั้งเต๊ะทั้งถีบเขากว่าที่เขาจะทำให้เธอสงบลงพาเอาเหนื่อยไปเหมือนกัน
“ปล่อยนะไอ้บ้า”
“หยุดโวยวายเป็นหมาบ้าซะทีแล้วหุบปากซะก่อนที่ฉันจะฆ่าเธอ” เสียงเข้มเอ่ยกับเธอ พร้อมกับดวงตาเรียวที่จ้องมา ทำเอาเกดกนกถึงกับใจหายวาป พอความโกรธลดลงความกลัวก็บังเกิดขึ้น ยิ่งเมื่อเงยหน้าขึ้นสบสายตากับเขาเธอก็กลัวจนตัวสั่นน้ำตาคลออยู่ใต้ร่างเขา
“ปะ ปล่อยนะ” เธอเอ่ยเสียงสั่นเครือ
“อย่ามาทำตัวแบบนี้กับผม ผมไม่ชอบ” แกลรี่ว่าเธอน้ำเสียงอ่อนโยนลงเมื่อเห็นว่าเธอกลัวเขาจนตัวสั่นน้ำตาคลอ
“ปล่อย ฉันนะ นายจะฆ่าฉันงั้นเหรอ” เธอถามเขาเสียงสั่นดวงตากลมโตไหวระริก
“เห้อ ดูเธอก็สบายดี” เขาปล่อยเธอให้เป็นอิสระ ไม่รอช้าเธอรีบดีดตัวไปยืนอยู่ห่างจากเขาเป็นเมตรหันซ้ายแลขวาเลิกลักไปหมดชายหนุ่มได้แต่ส่ายหน้าไปมายกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ทำไมนะเขาถึงได้รู้สึกว่าท่าทางของเธอช่างน่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้
“ก็เห็นแล้วนี่ ไม่สบายจะมายืนอยู่นี่หรือไง หิวจังมีอะไรให้ทานไหม” ตอบไปอย่างกวนๆ ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นเดินเลยเขาไปยังประตูห้อง เมื่อประตูเปิดเธอถึงกับยืนนิ่งตะลึงกับภาพที่อยู่ตรงหน้า สระว่ายน้ำขนาดไม่ใหญ่มากนักเป็นรูปนาฬิกาทรายล้อมรอบด้วยแปลงดอกไม่ ที่เน้นดอกกุหลาบสีแดงกับสีขาวมีเก้าอี้สำหรับนอนเล่นอยู่สามตัวพร้อมร่มสนาม มองไปทางซ้ายมือเป็นห้องฟิสเน็ตโอ้ช่างเพอร์เฟคอะไรอย่างนี้ หญิงสาวมองซ้ายมองขวาสายตาเป็นประกายพราวระยับซุกซน
“ไปทานที่บ้านคุณสิ ผมต้องรีบไปทำงานนะ เร็วๆ ผมจะไปส่ง” ชายหนุ่มพูดขึ้นมาอย่างหงุดหงิดที่ เกดกนกมัวแต่เอ้อระเหยมองนั่นมองนี่ทั้งๆที่เขากำลังรีบ
“ไม่ไป ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันจะอยู่ที่นี่ กับคุณ” คำตอบของสาวเจ้าทำให้เขาถึงกับพูดไม่ออกไปพักหนึ่ง ต่างยืนจ้องตากันโดยไม่พูดอะไรอีก จนกระทั่งเสียงถอนหายใจของเขาทำลายความเงียบลง
“เห้อ ไม่ได้ ผมไม่อนุญาต เอาล่ะผมให้เวลาคุณ ถึงตอนค่ำ ถ้าผมกลับมาคงไม่เห็นคุณอยู่ในบ้านผมอีกนะ” แล้วเขาก็เดินออกไปอย่างหัวเสีย บ้าที่สุดผู้หญิงอะไรตอนมาใหม่ๆก็พูดง่ายอ่อนหวาน น่ารักดีหรอกทำไมตอนนี้ถึงเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ไม่เข้าใจผู้หญิงเลยจริงๆ
ความจริงแล้วใช่ว่าเขาอยากอยู่คนเดียวหรอกนะเขาน่ะก็ผู้ชายทั้งแท่งไม่เคยเลยที่จะขาดแคลนสาวๆสวยๆที่เขาไม่ยอมเปิดเผยว่าเขาแต่งงานแล้วก็เพราะเขากลัวว่าคาร์โล่ที่จ้องเล่นงานเขาอยู่จะทำร้ายเธอ เขาเองก็ไม่อยากให้เธอเป็นอันตราย มาถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่มั่นใจว่าคาร์โล่จะยอมรามือไปจริงๆ อีกอย่างเขาก็ไม่ต้องการอยู่กับผู้หญิงคนไหนเขาชินกับการอยู่คนเดียวที่เขาต้องแต่งงานก็เพราะปู่ของเขาต้องการให้เขาแต่งงานกับสะบีน่าซึ่งเป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทของท่านเขาจึงใช้วิธีนี้หลีกเลี่ยงการแต่งงานแบบคลุมถุงชน
ทางด้านเกดกนก เมื่อมานั่งคิดๆดูแล้วเรื่องอะไรที่เธอจะยอมไปจากที่นี่ ในเมื่อเธอเจอเขาแล้วอย่างน้อยเขาต้องชดใช้ในสิ่งที่เขาทำไว้กับเธอ ดังนั้นเธอจึงจัดการตกแต่งห้องนอนของตัวเองโดยยึดห้องนอนใหญ่ของเขาซะเลยเธอลงไปหาซื้อเสื้อผ้า ชุดว่ายน้ำมาจากข้างล่างของคอนโดหรูแห่งนี้ แล้วกลับมาแวกว่ายน้ำในสระอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งห้าโมงเย็นเธอจึงเข้าไปอาบน้ำในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ในห้องนอนของเขา
“ ช่างสบายจริงๆ ไม่เคยได้อาบน้ำในอ่างอย่างนี้มาก่อนเลย อย่างกับฝันแนะ อื่ม สบายๆ” เกดกนก ตีฟองสบู่อย่างสนุกสนานอยู่คนเดียวพร้อมกับฮัมเพลงเบาๆอย่างมีความสุขโดยไม่รู้เลยว่าการกระทำทุกอย่างของเธอได้ตกอยู่ในสายตาของใครคนหนึ่งที่ตอนนี้มันเปล่งประกายทั้งโกรธ ทั้งขำ ทั้งอะไรอีกสารพัดแต่ที่แน่ๆ เขาอยากจะเดินเข้าไปกระชากร่างกายเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยฟองสบู่สีขาวราวกับหิมะเข้ามาอยู่ใต้ร่างเขา แล้วรักเธอให้สมกับความต้องการภายในที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ แล้วเขาก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นเมื่อสาวเจ้าทะลึ่งพรวดลุกขึ้นยืนแล้วโยกตัวไปมาพร้อมกับลูบไล้ฟองสบู่ไปทั่วร่าง เขาทั้งตะลึง ทั้งโมโห ทั้งต้องการเธอในเวลาเดียวกัน บ้าที่สุดเขาไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน ไม่ว่ากับผู้หญิงคนไหนไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นผู้หญิงเปลือยมาก่อนแต่ดูเขาตอนนี้สิ
“ผลัวะ” เสียงเปิดประตูให้กว้างขึ้นกระแทกเข้ากับข้างฝาผนังอย่างแรงทำให้ เกดกนกสะดุ้งแล้วหันไปมองอย่างตกใจแล้วต้องยืนตัวแข็งทื่อ อ้าปากค้างเมื่อเห็นว่าใครที่เข้ามายืนอยู่ตรงด้านหน้าเธอ ภาพที่เห็นตรงหน้าช่างเป็นภาพอะไรที่ยั่วยวนในสายตาของแกลรี่เหลือเกิน ช่างสวยงามอะไรอย่างนี้
“ปัดโธ่ เว้ย แต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วออกไปหาฉันข้างนอก เดี๋ยวนี้เกดกนก” เขาสบทออกมาอย่างหัวเสีย แล้วตะคอกเธออย่างดังเพื่อกลบเกลื่อนความต้องการของตัวเองก่อนจะกระแทกเท้าหันหลังออกไปทันที
“ปัง ยายบ้าเอ้ย กล้าดียังไงมาใช้ห้องของเขา บอกให้ไปตั้งแต่บ่ายแล้วยังไม่ยอมไปอีกเดี๋ยวได้เห็นดีกันแน่” เขาปิดประตูเสียงดังเดินไปเดินมาอยู่ในห้องรับแขกสบทออกมาเป็นระยะๆ