มุขลินเดินเข้ามาภายในผับด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว แม้ว่าเธอจะคิดและตัดสินใจแน่วแน่แล้ว แต่ก็ยังอดที่จะกลัวกับสิ่งที่เพิ่งจะตัดสินใจลงไปหมาดๆ ไม่ได้ หญิงสาวเดินเข้าไปหาเจ๊โรส ที่กำลังนั่งจิบชาอยู่ที่เคาน์เตอร์ในผับ
"เจ๊โรส!... "
"มีอะไรเหรอมุขลิน ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น" เจ๊โรสวางถ้วยชาในมือลง แล้วหันมามองมุขลิน ที่ในเวลานี้ใบหน้าสวยคมของเธอนั้น ดูมีความกังวลใจอย่างเห็นได้ชัด ดวงตากลมโตกลับดูเศร้าหม่นอย่างบอกไม่ถูก
"หนูจะขาย เจ๊หาใครก็ได้ที่ให้ราคาดี รับประกันสินค้าได้ ลินไม่เคยมีตำหนิมาก่อน"
"ฮ๋า!!" เจ๊โรสตกใจจนร้องอุทานออกมาเสียงดัง
"ทำไมถึงเปลี่ยนใจมาขาย" เจ๊โรสรู้สึกผิดหวังในตัวของมุขลิน เมื่อเธอไม่คิดมาก่อนว่าหญิงสาวแสนสวยจะตัดสินใจทำอะไรแบบนี้
"แม่ป่วยหนักลินต้องใช้เงินจำนวนมาก!" คำบอกเล่าของมุขลิน ทำให้เจ๊โรสเปลี่ยนสีหน้าจากผิดหวังในตัวเธอ กลายเป็นเห็นอกเห็นใจแทน หากมุขลินจำเป็นจะต้องขายความสาวให้กับใคร ในเวลานี้เจ๊โรสไม่คิดถึงใครนอกจากหมอภาคิน
"แน่ใจแล้วใช่ไหมว่าจะทำมันคือชีวิตทั้งชีวิตเลยนะ"
"ค่ะเจ๊!" มุขลินตอบอย่างไม่ลังเล หากมันจะทำให้มารดาของเธอมีชีวิตอยู่ต่อบนโลกใบนี้ เธอก็ยินดีที่จะทำ แม้จะต้องแลกมันมาด้วยชีวิตก็ตาม
"ความจริงแล้วเจ๊ก็ไม่อยากให้มุขลินทำงานนี้เลย" ถึงแม้ว่าเจ๊โรสจะรู้ดีว่าหมอหนุ่มต้องการหญิงสาวมากเพียงใด เธอก็ไม่อยากให้เด็กดีอย่างมุขลินต้องมีมลทินติดตัวไปจนตาย หากว่าหมอภาคินรัก หรือชอบเธอด้วยใจจริงมันก็ดีไป แต่หากว่าเขาเห็นเธอเหมือนดังกับผู้หญิงทั่วไป แค่วันไนท์สแตนด์ทุกอย่างก็คงจบลงแบบไม่สวยแน่
"มันจำเป็นค่ะเจ๊ ชีวิตแม่สำคัญกว่าสิ่งอื่นใดในเวลานี้ เจ๊โรสช่วยลินด้วยนะคะ" หญิงสาวพูดอ้อนวอนขอความช่วยเหลืออย่างคนที่สิ้นไร้หนทาง ที่เจ๊โรสนั้นไม่อยากช่วยเลยสักนิด เพราะสิ่งที่กำลังจะช่วยนั้นอาจนำพาไปซึ่งความหายนะมาสู่ชีวิตของมุขลิน แต่เมื่อมันจำเป็นเธอก็ต้องช่วย เพราะไม่อย่างนั้นมุขลินอาจจะหนีเตลิดไปหาแขกเอง คนที่จะเดือดร้อนมากที่สุดก็คือตัวของเจ๊โรส เพราะหมอภาคินเล่นงานยับแน่
"รออยู่นี่แป๊บหนึ่งนะ!” เจ๊โรสะกดโทรศัพท์แล้วเดินออกไปคุยด้านนอก ปลายสายของเธอคงไม่ต้องเดาว่าเป็นใคร เพราะคนของใจเจ้านายหนุ่มนั้นกำลังจะยอมจำนน
มุขลินนั่งแท็กซี่ตรงไปตามนามบัตรที่เจ๊โรสให้มา พร้อมกับคีย์การ์ดของห้องครั้งแรก กับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในชีวิตของเธอ ยิ่งรถแท็กซี่แล่นเข้ามาใกล้คอนโดนั่นเท่าไหร่ ใจของมุขลินก็เต้นแรงขึ้นเท่านั้น
มุขลินลงจากรถแท็กซี่แหงนมองขึ้นไปยังคอนโดหรู ผู้ชายที่ซื้อเขาคงมีฐานะดีมาก ถึงขั้นเศรษฐีเลยทีเดียว ถึงมีเงินซื้อคอนโดหรูใจกลางเมืองแบบนี้ได้ ชาตินี้ทั้งชาติมุขลินคงไม่มีปัญญาที่จะได้มาเหยียบที่แบบนี้หากชีวิตไม่ผกผัน ทำให้หันมาทำในสิ่งที่ใจไม่ปรารถนาแล้ว คงทำได้แค่แหงนมองตึกสูงนี้เหมือนดังหมาเห่าเรือบิน
แต่เวลานี้เธอกำลังจะได้เข้าไปด้านใน พร้อมกับร่างกายที่พร้อมจะบำเรอเจ้าของห้องหรูด้านในคอนโดมุขลินใช้นามบัตร และคีย์การ์ดในการผ่านผู้รักษาความปลอดภัย และพนักงานเฝ้าอยู่หน้าเคาน์เตอร์ ซึ่งทุกอย่างได้วางเอาไว้หมดแล้วทุกคนรู้ดีว่าเธอจะมา พอเข้ามาแล้วมุขลินกดลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นที่เจ๊โรสบอกเอาไว้
ขณะที่อยู่ในลิฟต์ใจของมุขลินเริ่มเต้นโครมคราม ราวกับตึกกำลังจะถล่ม ผู้ชายคนนั้นหน้าตาจะเป็นอย่างไร การที่เธอต้องเสียเวอร์จิ้นนี้ให้กับเขาไป ผู้ชายคนนั้นเขาจะดีใจไหม กับการที่ได้เป็นคนแรกของเธอลิฟต์เปิดกว้างออก
มุขลินเดินตรงไปยังห้องที่เจ๊โรสแจ้งเอาไว้ เธอใช้คีย์การ์ดเปิดประตูเข้าไปแล้วต้องตกใจกับชายตรงหน้า เขาหล่อยังกับดารา อย่างน้อยครั้งแรกของเธอมันก็พอจะทำให้หัวใจดวงน้อยนี้ กระชุ่มกระชวยได้บ้าง เพราะรูปลักษณ์หน้าตาของหนุ่มตรงหน้าที่ดูดี มันคงจะทำให้ใจของเธอรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง สักสิบเปอร์เซ็นต์ก็ยังดี และที่สำคัญเขาคือผู้ชายที่เคยช่วยเธอให้พ้นจากพวกเสี่ยหัวงู
"เธอชื่ออะไร" หมอหนุ่มแกล้งถามออกไป ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าเธอชื่ออะไรเป็นใครมาจากไหน
"สวัสดีค่ะฉันชื่อมุขลิน"
"โอเคฉันจะไม่อ้อมค้อม นี่คือสัญญาเซ็นลงไปซะพร้อมกับเงินสิบล้าน หนึ่งปีกับการบำเรอฉัน เธอห้ามยุ่งกับชายใดเป็นอันขาด ถ้าเธอทำได้ก็เซ็นสัญญานั่นให้เรียบร้อย"
“ฮ๋า!! สิบล้านเลยเหรอ” มุขลินตกใจจนอ้าปากค้าง เธอไม่ได้ตกใจเพราะสัญญาแต่ตกใจเพราะเงินสิบล้านนั่นต่างหาก ทำไมค่าตัวของเธอถึงได้แพงลิ่วขนาดนั้น แต่มันก็ดีไม่ใช่เหรอ เงินนั่นจะทำให้แม่ของเธอหายดีแถมชีวิตก็ไม่ต้องดิ้นรนอีก มุขลินไม่รีรอหยิบปากกามาเซ็นลงไปทันที โดยไม่ได้อ่านรายละเอียดใดๆ ทั้งสิ้น
"จะไม่อ่านมันหน่อยเหรอ"
"ฉันเซ็นเสร็จแล้วจะให้ทำอะไรต่อ" มุขลินพูดขณะที่ยืนอยู่ต่อหน้าชายหนุ่ม หมอภาคินนั่งอยู่ที่โซฟานั่นอย่างใจเย็น ความจริงวันนี้เขาต้องเข้าเวร แต่เพื่อแลกกับเธอแล้วเขายอมเปลี่ยนเวรกับเพื่อน เพื่อมาเช็กคุณภาพของสินค้าที่พึ่งได้มาหมาดๆ อยู่ตรงหน้านี้