“นายถามคำถามเดียวกันที่เราถามอารอน”
เรอัลบอกน้องชาย พอเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายชัดๆ ก็แทบกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ และแทนที่จะบอกน้องชายว่าบนในหน้าหล่อๆ และต้นคอของอีกฝ่ายมีรอยลิปสติกสีแดงสดเปื้อนอยู่ กลับเก็บเงียบ เพราะอยากแกล้งน้องชายให้โดนมารดาเฉ่งเล่นสักยกสองยก
“แล้วอารอนบอกว่ายังไงบ้าง” รอสส์เอ่ยถามต่อ ขณะเดินเคียงคู่กับแฝดพี่ออกมาจากห้องทำงานของตนเอง
“อารอนบอกให้ไปถามมาดามเอาเอง” เรอัลตอบกลั้วเสียงหัวเราะร่วน สร้างความหมั่นไส้ให้กับคนถามเป็นอย่างมาก
“อุว่ะ! อุตส่าห์รอฟังคำตอบ นึกว่าคุยกับอารอนรู้เรื่องแล้ว”
รอสส์บ่นอุบ พอเห็นแฝดพี่มองหน้าเขาแล้วกลั้นเสียงหัวเราะพร้อมกับหันหน้าหนี ก็ขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่ง พึมพำพูดอยู่คนเดียว
“เป็นอะไรของมันว่ะ หน้าตาเราดูตลกขนาดนั้นเลยหรือยังไง”
ทางด้านของเรอัลได้ยินเสียงบ่นงึมงำของน้องชาย ก็แทบกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ เขากลั้นหัวเราะไว้จนปวดกรามไปหมด
‘เดี๋ยวเถอะไอ้รอสส์ นายโดนมาดามเล่นงานเละแน่’
เรอัลเอ่ยด้วยความขบขำอยู่ในใจ พอเดินไปถึงห้องประชุมแล้ว ก็เป็นฝ่ายเอื้อมมือเปิดประตูออกกว้าง และเห็นอารอนพี่ชายคนโตกำลังสวมกอดมารดาสุดที่รักของพวกเขาอยู่
“เฮ้ยๆ พี่อารอน กอดมาดามคนเดียวได้ยังไงครับ ให้ผมกอดมาดามด้วยสิครับ ผมคิดถึงมาดามชะมัด”
รอสส์ซึ่งขี้เล่น อารมณ์ดีกว่าใครเพื่อน รีบปรี่เข้าไปหามารดา แถมยังกางแขนออกกว้างทำท่าจะสวมกอดมารดาไว้ดั่งที่ตะโกนร้องออกไป แต่แล้วก็ต้องชะงึก เมื่อถูกมารดาขึงตาใส่ สั่งห้ามเสียงดังลั่นไม่แพ้กัน
มาดามแคทรียา เนวิลล์ หรือ ที่หนุ่มๆ ทั้งสามมักจะเรียกท่านว่า ‘มาดาม’ สั่งห้าม พร้อมกับถลึงตาเขียวปั้ดมองทั่วใบหน้าหล่อๆ ของลูกชายคนเล็ก
“หยุดเดี๋ยวนี้นะรอสส์”
รอสส์ชะงักฝีเท้า พอถูกมารดาถลึงตาใส่ ไม่ยอมให้สวมกอด ก็แสร้งร้องคร่ำครวญราวกับน้อยอกน้อยใจหนักหนา
“อะไรกันครับมาดาม ให้พี่อารอนกอดแค่คนเดียวได้ยังไง ผมก็คิดถึ๊ง คิดถึงมาดามนะครับ ขอรอสส์กอดหน่อยนะครับ”
ร่างใหญ่ล่ำสันของรอสส์เดินตรงดิ่งเข้าหามารดา พอเข้าไปใกล้ ก็กางแขนออกกว้าง ทำท่าจะสวมกอดร่างเล็กของมารดา แต่กลับถูกท่านยกมือจิ้มหน้าผากดันร่างใหญ่ล่ำสันไว้ พร้อมกับเอ่ยบอก ว่าเพราะเหตุใดถึงไม่ยอมให้สวมกอดง่ายๆ
“เดี๋ยวนี้เปลี่ยนรสนิยมมาชอบสาวปากแดงแล้วหรือ รอสส์”
มาดามแคทรียาเค้นเสียงถามลูกชาย พอเจ้าตัวแสบเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ ก็หยิกลงไปบนต้นแขนแข็งแกร่งของลูกชายเต็มแรง ลงโทษเจ้าตัวแสบ ไม่ต่างจากรอสส์เป็นเด็กตัวเล็กๆ
“นี่แนะ! ทำไมถึงชอบเล่นจ้ำจี้กับลูกน้องในที่ทำงาน”
“อูยยย...มาดาม...เจ็บนะครับ...อย่าหยิกแรงสิครับ...”
รอสส์ร้องโอดครวญ ตีสีหน้าเหยเกเมื่อถูกมารดาหยิกต้นแขนของเขาโดยไม่มีออมแรงแม้แต่นิดเดียว
“ต้องหยิกให้เนื้อเขียวแบบนี้นี่แหละ จะได้จำสักที...” มาดามแคทรียาตำหนิลูกชายต่อด้วยความโมโห “กินเด็กในสังกัดบ่อยๆ ทำให้เสียการปกครอง รู้ไหม รอสส์ เนวิลล์!”
“โอ๊ยยย...มาดามจ๋า...ต้นแขนรอสส์เขียวช้ำหมดแล้วครับ...”
รอสส์ตะโกนร้องดังลั่น เจ็บระบมตรงบริเวณต้นแขนที่ถูกมารดาหยิกเต็มแรง พอหันไปมองพี่ชายทั้งสองคน ซึ่งพากันหัวเราะก๊ากด้วยความขบขำระคนสะใจ ก็ร้องโวยวายขอความ
เห็นใจจากทั้งสองคน
“อารอน เรอัล ช่วยผมด้วยสิครับ เอาแต่หัวเราะเยาะอยู่นั้นแหละ”
“สมน้ำหน้านาย เราบอกนายแล้วนี่ให้พาสาวๆ ไปเล่นจ้ำจี้ที่คอนโด นายเสือกไม่เชื่อเราเองนี่หว่า”
อารอนต่อว่าน้องชาย พอถูกรอสส์ถลึงตาใส่ ก็ปล่อยเสียงหัวเราะเยาะยักคิ้วใส่ ก่อนจะเดินไปทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ นั่งมองอีกฝ่ายถูกมารดาเล่นงานต่อ
“รักน้องเหลือเกินนะ คุณพี่อารอน” รอสส์เค้นเสียงประชด กำลังจะต่อว่าพี่ชายคนโตต่อ แต่ก็ถูกมารดาเล่นงานเค้นเสียงห้าม
“ยังจะไปโทษคนอื่นอีก น่าตีจริงๆ เลยนะ รอสส์”
แม้ลูกชายมีอายุปาไปสามสิบต้นๆ แล้ว ทว่ามาดามแคทรียาก็ยังคงลงโทษเหมือนตอนลูกๆ ยังเป็นเด็กตัวเล็กไม่มีผิด
รอสส์หันมาทำตาละห้อย ตีหน้าเศร้า พร้อมกับเอ่ยเสียงออดอ้อนให้มารดาเห็นใจ
“มาดามจ๋า...มาดามสุดที่รักของรอสส์...รอสส์ผิดไปแล้ว รอสส์ขอโทษครับมาดาม ปล่อยแขนรอสส์สักทีสิครับ เจ็บจะแย่อยู่แล้วครับ...”
มาดามแคทรียากลั้นเสียงหัวเราะ หมั่นไส้ลูกชายคนเล็กที่ขี้อ้อนจับใจ แต่ก็พยายามตีหน้าบึ้งขู่ลูกชายต่อ
“ห้ามทำแบบนี้อีกนะรอสส์”
“ครับมาดามสุดที่รักของรอสส์” รอสส์รับคำเสียงอ่อย ทำตาละห้อยให้มารดาเห็นใจและสงสาร
“รับปากมาดามแล้วต้องทำให้ได้ด้วย อย่าคิดนะว่ามาดามไม่รู้ว่ารอสส์ทำอะไรบ้าง”
“รับปากครับมาดาม ต่อไปจะไม่เล่นจ้ำจี้ในที่ทำงานอีกแล้วครับ”
รอสส์รับคำอย่างรวดเร็ว จ้องมารดาตาปริบๆ แล้วเอ่ยบอกเสียงอ่อยไม่ต่างจากครั้งแรก
“มาดามครับ รอสส์เจ็บจริงๆ นะครับ ขอกอดมาดามให้หายเจ็บหน่อยไม่ได้หรือครับ”
“หมั่นไส้ลูกคนนี้จริงๆ เลย” มาดามแคทรียาอดหัวเราะออกมาไม่ได้กับท่าทีออดอ้อนของจอมเจ้าเล่ห์
“ไปเช็ดหน้าเช็ดตาให้สะอาดก่อน ไม่ยังงั้นอย่าหวังว่าจะได้หอมแก้มมาดาม”
“ขู่ได้น่ากลัวชะมัด”
รอสส์บ่นอุบ แต่ยอมรับว่าถูกขู่แบบนี้ทำให้เขากลัวที่สุด พวกเขาสามพี่น้องกลัวการไม่ได้กอดร่างอบอุ่น ไม่ได้หอมแก้มของมารดาที่พวกเขารักมากที่สุด
ได้ลงโทษลูกชายฝาแฝดคนเล็กแล้ว มาดามแคทรียาก็ยอมปล่อยมือจากต้นแขนของลูกชาย จากนั้นก็ควานหาผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าสะพายยื่นให้ลูกชายด้วย
“ขอบคุณครับ มาดาม”
รอสส์ยกมือไหว้ รับผ้าเช็ดหน้ามาจากมารดา แต่แทนที่จะเช็ดคราบลิปสติกออกจากใบหน้า กลับหันไปแยกเขี้ยวเล่นงานแฝดพี่ตัวแสบ
“ไอ้เรอัล! ไอ้พี่ชายบ้า! รู้มามีรอยลิปติกติดอยู่บนแก้ม ก็เสือกไม่บอกเรา”
“ฮ่าๆๆ” เรอัลปล่อยเสียงหัวเราะร่วน เอ่ยตอบแบบกวนๆ “ก็อยากเห็นนายโดนมาดามด่า ก็เลยไม่อยากบอกว่าเลขาฯ หุ่นสะบึมฝากรอยรักไว้บนใบหน้าหล่อๆ ของนายด้วย”
“ขอเตะพี่ชายให้หายแค้นหน่อยเถอะ”
ไม่ได้เค้นเสียงบอกปากเปล่าเท่านั้น ร่างใหญ่ล่ำสัน ดาหน้าเดินเข้าใส่แฝดพี่ ทำเสียงฮึ่มๆ อยู่ในลำคอ ดวงตาคมกริบถลึงจ้องมอง
เรอัลเขม็ง