ตอนที่ 6

935 คำ
EP.06 นนท์มองตามร่างระหงที่รีบเดินขึ้นไปบนชั้น 2 ไม่รู้ว่าผีห่าซาตานตนใดหรือว่าจินตนาการนักเขียนนิยายของเขาพลุ่งพล่านมันทำให้เขาก้าวตามหล่อนขึ้นไปทันที และก็ได้เห็นว่าไม่ใช่แค่ด้านล่างที่ได้รับการรีโนเวท แต่ด้านบนที่เขาเคยมาเล่นกับดินเมื่อครั้งเป็นเด็กก็ถูกต่อเติมตกแต่งใหม่ด้วย เพราะที่เห็นตรงหน้าเป็นประตูบานเลื่อนปิดกั้นบันไดกับพื้นที่ชั้น 2 ให้ความเป็นส่วนตัวระหว่างออฟฟิศด้านล่าง กับด้านบนเป็นที่อยู่อาศัยส่วนตัว ดาราพรรณที่รีบตรงไปยังเสียงแผดลั่นของโทรศัพท์ก็ไม่คิดจะปิดงับประตูลงกลอน ใจไวกว่าความคิดเขาอีกแล้ว นนท์วางกระเป๋าสะพายที่ใส่ต้นฉบับของตัวเองไว้บนบันไดขั้นสุดท้ายก่อนถึงชั้น 2 เผื่อฉุกเฉินเขาจะได้วิ่งแล้วคว้าทัน ฝ่ามือใหญ่กระชับที่บานประตูก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนออกให้เบาที่สุด รีบแทรกตัวเข้าไปโดยเร็ว และก็ได้เห็นว่าด้านในตกแต่งเป็นห้องรับแขกสไตล์โมเดิร์นในกึ่งลักษณะห้องจัดเลี้ยง คาดเดาได้จากโฮมเธียเตอร์ขนาดใหญ่จดเพดานและเคาน์เตอร์บาร์เครื่องดื่มที่ตั้งเรียงรายกันสุดระเบียงบ้านชั้น 2 “ว่าไงปลา เรื่องที่ให้สืบได้เรื่องไหม” เสียงของดาราพรรณดังออกมาจากห้องด้านในที่เขาเดาว่าเป็นห้องนอน แม้หล่อนไม่ได้พูดเสียงดังแต่ในภาวะที่ความเงียบปกคลุมแบบนี้ แค่พูดธรรมดาก็ได้ยินจนทั่วแล้ว ร่างสูงใหญ่ในชุดดำมิดชิดก้าวไปจนชิดประตูห้องหวังจะฟังหัวข้อสนทนาให้ชัดเจน เรื่องอะไรกันที่ดาราพรรณให้คนชื่อปลาไปสืบ และปลาคนนี้เป็นเจ้าหน้าที่คัดสรรต้นฉบับของ สนพ.พราวแสงดาว คนเดียวกับที่ บก. ของสำนักพิมพ์เขาติดต่อมาหรือเปล่า ถ้าใช่... เรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับเขาแน่ “ได้เรื่องว่าไงบ้าง เล่าให้พี่ฟังดิ” ดาราพรรณกรอกน้ำเสียงเจือความหงุดหงิดเล็กน้อยออกไป ไม่ใช่หงุดหงิดคนต้นสาย แต่เป็นเพราะหงุดหงิดตัวเองมากกว่า เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เกิดปัญหาการขโมยต้นฉบับใน สนพ. ของหล่อน สิ่งที่ตลอดระยะเวลา 5 ปี ของการเป็นบรรณาธิการสำนักพิมพ์ไม่อยากพบเจอ เพราะนี่เป็นงานที่หล่อนรักและเลือกที่จะสร้างมันขึ้นมาด้วยสองมือของตัวเอง แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว ทางเดียวที่จะทำได้ดีที่สุดก็คือต้องแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด “เออ... เล่ามาเหอะ เอาตรงๆ พี่ไม่ชอบเอียงซ้ายเอียงขวา แกก็รู้นี่” คำพูดสองแง่สองง่ามกลั้วหัวเราะที่หวังให้คนต้นสายผ่อนคลายและบอกเล่าเรื่องราวมาให้หมด แต่ที่ดาราพรรณไม่รู้ก็คือคนที่ยืนฟังอยู่หน้าประตูก็เสียววาบ ก้มมองสิ่งที่เอียงซ้ายของตัวเองโดยเร็ว นนท์กัดปากเมื่อไอ้ลูกชายตัวโตของเขามันผงาดไม่บอกไม่กล่าวเป็นครั้งที่ 2 แล้วตั้งแต่เจอหน้าดาราพรรณ และอยู่ในบ้านกันสองต่อสองแบบนี้ ในหัวเขาตอนนี้คิดเรื่องดีๆ ไม่ได้เลย แต่ก็จำต้องสะกดกลั้นและตั้งใจฟังสิ่งที่หล่อนกำลังสนทนาต่อไป ดาราพรรณอมยิ้มน้อยๆ เมื่อได้ยินเสียงปลาหัวเราะแห้งๆ ดังมา ร่างระหงในชุดเสื้อคลุมเตรียมตัวจะอาบน้ำเดินมาหยุดอยู่ที่ผนังกระจกกั้นห้องนอนกับระเบียงด้านนอก นิ้วมือเกลี่ยผ้าม่านเพียงนิด ดวงตากลมโตมีแววกังวลมองผ่านกระจกใสเพื่อมองบรรยากาศด้านนอกซึ่งก็คือเงียบสงัดดังเดิม แต่ในค่ำคืนนี้หล่อนกลับรู้สึกกังวลใจอย่างบอกไม่ถูก ถึงขนาดหลอนว่าหล่อนไม่ได้อยู่คนเดียวในบ้านที่ดัดแปลงเป็นโฮมออฟฟิศแห่งนี้ แต่เมื่อลงไปดูทุกอย่างก็ปกติ ประตูด้านหน้ายังคงคล้องสายยูไว้ดังเดิม ไม่มีสิ่งใดผิดปกติ จะมีก็แค่ใจของหล่อน ผิดปกติที่ได้เจอนักเขียนรูปหล่อเหรอ... แล้วเอียงซ้ายหรือขวาล่ะ ใบหน้าสวยใสตามแบบฉบับสาวเหนือส่ายไปมากับความคิดแบบเพี้ยนๆ แล้วก็อมยิ้มให้กับตัวเอง ความกังวลใจเมื่อครู่คลายลงก่อนจะพุ่งปรี๊ดเมื่อได้ยินสิ่งที่ปลาเล่า “ฮะ! สรุปว่าต้นฉบับเป็นของคุณนนท์จริงๆ แต่ไอ้นายอิทธิพลนั่นเอามาหลอกเราเหรอ” นั่นไง หล่อนคุยเรื่องของเขาอยู่จริงๆ รู้แล้วสินะว่าถูกอิทธิพลหลอก แต่แล้วยังไงต่อล่ะ “เฮ้ย! ขโมยได้ไง ก็ใครจะไปรู้วะ! ว่านายนั่นขโมยต้นฉบับมา เราก็แค่ทำตามขั้นตอนของสำนักพิมพ์เท่านั้นแหละ มีคนส่งต้นฉบับ สนพ. ถูกใจ ก็เซ็นสัญญา ใจเย็นๆ ปลา เอางี้นะ ปลาไปตามตัวนายอิทธิพลมาให้ได้ พี่จะคุยกับเขาเองว่าจะเอายังไง ฮะ! ไม่ยอมรับสายเหรอ งึ่มๆๆๆ ไอ้นี่... จะทำยังไงดีวะทีนี้” และเสียง งึ่มๆๆๆ ทำให้นนท์อดใจที่จะแอบดูไม่ได้เลย อยากเห็นสีหน้าของดาราพรรณตอนนี้นักว่าจะทำเมินเฉย สวย เริ่ด เชิด หยิ่ง เหมือนตอนที่คุยกับเขาเมื่อกลางวันหรือเปล่า คิดดังนั้นนนท์จึงค่อยๆ เคลื่อนใบหน้าผ่านช่องประตู แค่แว้บเดียวเท่านั้นต้องเสี่ยงดูก่อน ภาวนาอย่าให้หล่อนหันมาทางนี้ และก็โชคดีที่ดาราพรรณหันหน้าไปทางระเบียง หันหลังให้เขา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม