ผับทันสมัยใจกลางแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเชียงใหม่
@Scrub Bar
เพลงที่เปิดอยู่ในผับแห่งนี้ ดังมากจนกลบทุกเสียงพูดจาของผู้คนที่เป็นนักท่องเที่ยวยามราตรี คืนนี้เป็นคืนที่พาฝันมีโอกาสได้มาสังสรรค์กับเพื่อนๆที่เรียนในคณะเดียวกักันเนื่องในโอกาสที่เรียนจบปริญญาตรี
เรียกได้ว่า เป็นคืนวันฉลองการเรียนจบ แล้วเธอก็ได้ไปสมัครงานเอาไว้หลายที่ และเป็นก้าวใหม่ที่จะไปต่อในชีวิต จากเด็กสาวกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ต้องรับผิดชอบตัวเอง
พาฝันไม่ใช่นักดื่ม นักเที่ยว แต่ก็ทนเสียงรบเร้าของเพื่อนๆในกลุ่มทุกคนไม่ได้ แต่พอเมาได้ที่เพื่อนสาวในกลุ่มกลับแยกย้ายหายหัวไปซะหมด
ทิ้งพาฝันให้นั่งที่โต๊ะเพียงคนเดียว เธอเต้นเป็นเสียที่ไหน เต้นได้แต่มันคร่อมจังหวะไปหมด สมัยตอนเรียนมัธยม แต่ด้วยเธอเป็นคนหน้าตาดี ๆ ครูบาอาจารย์ก็มาชักชวนให้ร่วมกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นรำไทย และเต้นเข้าจังหวะ พอเธอไปอยู่ในทีม เรียกได้ว่าหล่มไม่เป็นท่า จนทุกคนยอมยกธงขาว ไล่ให้พาฝันออกจากทีม
ดื่มไปหลายแก้ว ก็ชักจะมึน ๆ แต่ด้วยเป็นคนขี้งก แม้แต่สุราก็ไม่อยากให้เหลือในแก้มแม้สักหยด เธอจึงได้ยกเหล้าขึ้นดื่มจนหมดแก้ว พาฝันเพ่งสายตามองหาเหล่าเพื่อนสาวที่บอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำแต่นานสองนานยังไม่เห็นทีท่าว่าจะมีใครสักคนเดินกลับมายังโต๊ะ
“นานแล้วนะ ไปไหนของพวกแกเนี่ย”
แต่แล้วฉับพลันสายตาก็หันไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่เต้นเหมือนกันกับเธอ เขายืนนิ่งอย่างสุขุมในชุดสูท ไม่ได้เหมือนนักท่องเที่ยวที่แต่งกายทันสมัยและคล่องตัวเหมือนคนอื่น ๆ เพราะเขาอยู่ในชุดสูทมาเลยทีเดียวขาดแต่เพียงเนกไทเท่านั้น
พาฝันเห็นเขาถือแก้วเหล้าในมือ ด้วยความที่ใบหน้าของเขาหล่อเหลา เรียกว่าหล่อลากไส้ แค่แสงไฟสลัว ๆ กระทบกับเสี้ยวใบหน้าของเขา ยังทำให้หญิงสาวหัวใจเต้นแรง พาฝันหันไปคว้าขวดเครื่องดื่ม และเทริน ด้วยความไม่ชำนาญ เธอจึงรินใส่แก้วตัวเองเยอะเป็นพิเศษ
จากนั้นก็เทน้ำและโซดาตามที่สังเกตวิธีการมาจากเพื่อนๆ และเด็กเสิร์ฟ
หญิงสาวใช้ก้านคนเครื่องดื่มคนน้ำให้เข้ากัน แล้วก็ยกแก้วนั่นคล้ายกับจะชนกับผู้ชายแปลกหน้า
เขาถึงกับยกนิ้วชี้เข้าหาตัวเอง ในเวลาที่สุดจะเซ็ง เพราะเลิกประชุมก็ถูกคู่ค้าธุรกิจลากพามาที่นี่ ทั้ง ๆ ที่ตลอดทั้งสัปดาห์ เขาทำงานอย่างไม่มีพัก แล้วจะมาเต้นเย้ว ๆ แบบนี้ มันไม่เข้าท่าสักนิด
แต่… ชายหนุ่มก็หยิบแก้วเหล้าของเขา แล้วชูขึ้น
พาฝันยิ้มหวานให้ชายหนุ่มแต่ต้องสลัดความเคลิ้มกับใบหน้าหล่อเหลานั้นทิ้งไปเพราะ ตอนนี้ตาเยิ้ม เพราะเริ่มกรึ่ม ๆ ตาเริ่มลาย เพราะแสงไฟวับ ๆ แวม ๆ
แต่พอเอาเหล้าเข้าปากอีกแก้ว แทบจะเรียกว่าขมยิ่งกว่าน้ำบอระเพ็ด หน้าตาของพาฝันบ่งบอกว่า มันไม่ไหวจะเคลียร์ เธออมเหล้านั้นเอาไว้ในปาก เรียกว่าความร้อนฉ่าของแอลกอฮอล์นั้นทำให้ปากบางแทบพอง
พาฝัน ‘ต้องไปบ้วนทิ้งที่ห้องน้ำ’ คำสั่งเดียวที่แล่นดังในหัว
พาฝันรีบพาตัวเองออกจากเก้าอี้ มุ่งตรงไปยังป้ายไฟที่กะพริบๆ ที่เขียนว่า… ห้องน้ำ โดยไม่ทันสังเกตอะไรทั้งนั้น เมื่อเข้ามาถึงห้องน้ำเธอก็บ้วนสิ่งที่อมอยู่ในทิ้งลงไปในอ่างล้างหน้า เปิดก๊อกน้ำ แล้วบ้วนปากทิ้งอีกหลายรอบ
“ยี้! ไม่เห็นจะอร่อยเลย” แต่มันก็ทำให้ตาลาย ๆ เธอหยิบทิชชูที่ใกล้มือขึ้นมาพร้อมกับเช็ดรอบมุมปาก หลังจากนั้นเดินออกทางเดินแต่แล้วในมุมนั้น มุมที่อยู่ห่างออกจากฝั่งโถง ด้วยไฟที่สว่างขึ้น เสียงเพลงเบาเนื่องจากเป็นโซนที่ไม่มีลำโพงดังมาก สายตาก็พลันมองไปเห็นมีคนกำลังจูบกันอยู่ ลักษณะคือนัวเนีย แทบจะล้วงควักกันอย่างจะสอดใส่กันเสียให้ได้
เสื้อผ้าของคนสองคนนั้นต่างหากที่หยุดฝีเท้าของพาฝันที่กำลังพาตนเองเดินเข้าไปหาคนทั้งคู่ และพาฝันจำได้ทันทีว่าคนสองคนที่ยืนทำการจูบนัวเนียนั้นคือใคร
‘เมษากับพี่วัฒน์’
เมษาคือเพื่อนที่เธอรักมาก เธอกำลังจูบกับผู้ชายที่ได้ชื่อว่าคบหากับพาฝันมาแล้วเกือบสองปี อนุวัฒน์… นักศึกษาในมหาวิทยาลัยเดียวกัน และในคณะเดียวกัน ที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทและคนที่เป็นเจ้าของหัวใจของเธอด้วย
พาฝันพาตัวเองไปยืนใกล้ทั้งสองในระยะประชิด ใจทั้งดวงแตกสลาย พาฝันถูกคนรักและเพื่อนสนิมหักหลัง ร่วมกันสวมเขาให้เธอ
ที่เจ็บสุด… เมษาก็คือเพื่อนที่เธอรักมากที่สุด และพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง และเวลาที่เธอมีปัญหากับอนุวัฒน์ เมษาให้คำปรึกษาที่ดีมาก
“เมษา… วัฒน์” เธอเอ่ยเรียกชื่อทั้งสองคน คนที่ถูกเรียกขาน ถึงกับผละห่างออกจากกัน สีหน้าซีดจาง
“วัฒน์ทำไมทำแบบนี้” เธอตั้งคำถามกับคนรักทันที
“คะ คือ…” ดูเหมือนจะพูดไม่ออก
“เมษา… ฉันเสียใจนะที่เป็นเธอ” มองเพื่อนอย่างเจ็บปวดพอ ๆ กัน พาฝันเริ่มควบคุมน้ำตาของตัวเองไม่ได้แล้ว
“ฉันกับวัฒน์ เราเพิ่งรู้ใจตัวเอง” เมษาหน้าไม่อาย
“หา!” เสียงที่เปล่งออกมาจากกลีบปากของพาฝัน หัวใจแตกสลาย
“รู้ใจเหรอ เธอสองคนเรียกมันว่าอะไร ความรัก แต่นี่… เธอหักหลังฉัน”
“หลายปีมานี้เธอไม่ค่อยสนใจวัฒน์ เขาบ่นน้อยใจว่าเธอเป็นคนรักที่ไม่น่ารักเอาเสียเลย”
“แล้วไง?” พาฝันหันไปจ้องหน้าของอนุวัฒน์
เธอแทบไม่อยากจะเชื่อถึงเห็นผลที่ทั้งสองนอกใจเธอ
“ก็เธอทำให้ฉันน้อยใจอยู่เสมอ จับมือก็ไม่ได้ ควงแขนก็ไม่ได้ จูบก็ไม่ได้ แล้ว… แล้วยังไม่ยอมนอนกับฉันด้วย”
“อ้อ… ถ้าอย่างนั้นก็หมายถึง เธอสองคนนอนด้วยกันแล้วล่ะสิ”
สายตาของพาฝันมองมือของทั้งสองคนที่จับกันแน่น
“เมษาทั้งสวย ทั้งน่ารัก และอ่อนหวานมากกว่าเธอ ที่แข็งกระด้างจนเกินไป ฉันคิดว่า… ตอนนี้ฉันน่าจะชอบผู้หญิงสไตล์แบบเมษามากกว่าเธอ”
“แล้วทำไมต้องหลอกกันด้วย แค่บอกไม่รักแล้ว ค่อยคบไม่ได้เลยเหรอ ” พาฟันถามออกไปด้วยเสียงสั่นด้วยความเจ็บปวดใจ
“ฮะ!” มันน่าเจ็บใจที่สุด ตลอดเวลาเมษาทั้งยุและเชียร์ให้พาฝันเป็นแฟนกับอนุวัฒน์
เผียะ… ฝ่ามือของเธอตบไปที่หน้าของเมษาแรง ๆ
“ตบครั้งนี้สำหรับเธอไม่จริงใจกับฉัน”
“หยุดนะ” อนุวัฒน์จับมือของพาฝันเอาไว้
พาฝันจึงใช้อีกมือข้างที่เหลือฟาดไปที่ใบหน้าของอนุวัฒน์ดังผลัวะ กำปั้นหนัก ๆ ซัดให้จนเขาเจ็บ และคอแทบหัก เพราะความแรงของความโกรธของพาฝัน
“นี่สำหรับให้คนเฮงซวย ก็เอาสิ ฉันขอให้เธอสองคนรักกันไปตลอดรอดฝั่งก็แล้วกัน”
พาฝันพยายามข่มน้ำตาของเธอที่จะไหลรินลงมาก ก่อนจะหมุนตัว ก้าวขาและเดินจากไปอย่างรวดเร็ว การ์ดของร้านเดินไปทางนั้นพอดี ทำให้คนสองคนที่ถูกตบไม่ได้ตอบโต้แต่อย่างใด
พาฝันเดินกลับไปที่โต๊ะ ก่อนจะคว้าเอากระเป๋า บอกกับตัวเองว่าจะไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ขณะนั้นนั้นทั้งโต๊ะก็มีบรรดาเพื่อสาวของเธอกลับมากันแล้ว
“อ้าว! จะไปไหนพาฝัน” เพื่อนสาวที่กลับมากจากฟลอร์เต้นเอ่ยถาม
“จะกลับแล้ว ” พาฝันตอบ กลั้นเสียงเครือเอาไว้เต็มที่ หันไปเห็นแก้วเหล้าของตัวเองเมื่อกี้ จึงได้เทโซดาลงไปอีกนิดหนึ่ง และคว้าแก้วขึ้นมา พาฝันเทรินน้ำสีอำพันลงไปในลำคอ ก่อนจะกลืนลงไปย้อมใจตัวเองให้มีความกล้าก่อนจะคิดทำการณ์บางอย่างลงไป