ลุ่มหลง

อ่อย

“ ขี้โกงนี่ ทีฉันยังเล่าให้คุณฟังเลย ”

“ ไม่ได้ขี้โกง แต่เรื่องมันซับซ้อน และผมเองก็ไม่อยากจะพูดถึงมันอีก เพราะยังไงมันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ”

“ ถ้างั้น ไหน ๆ โชคชะตาก็พาให้เรามาพบกันในค่ำคืนนี้แล้ว เราก็มาดื่มกันดีไหมคะ ”

“ แต่เบียร์ผมหมดแล้ว ”

“ ฉันยังมีในกระเป๋าอีกกระป๋องหนึ่ง ” เธอว่าพลางก้มลงไปหยิบกระเป๋าขึ้นมา เปิดซิปแล้วหยิบเบียร์ส่งให้กับเขา

“ แล้วของคุณล่ะ ”

“ เดี๋ยวดื่มกระป๋องเดิมที่ทำหกนี่แหละ ปกติแล้วฉันไม่ใช่คนดื่มหรอก แค่ได้กลิ่นก็เมาแล้ว แต่วันนี้อยากดื่มให้ลืมเรื่องบ้า ๆ เท่านั้น ” เธอว่าพลางหยิบกระป๋องเบียร์ที่เหลือมาชูขึ้นเพื่อชนกับเขา ชายหนุ่มยิ้ม เปิดฝา แล้วยกมันขึ้นไปแตะกับของเธอ

“ ชนค่ะ ”

“ ชนครับ ขอให้คืนนี้เราทั้งสองมีความสุข หลุดจากความทุกข์ที่กำลังเผชิญอยู่ แม้จะมีเวลาสุขแค่ตอนที่นั่งอยู่บนรถทัวร์นี้ก็ยังดี ”

คำพูดของเขาทำให้เธอรู้สึกว่า เขาน่าจะเจอความทุกข์ขนาดมหึมากว่าเธอมากนัก เขาพูดเหมือนกับว่าสิ่งนั้นมันจะต้องอยู่กับเขาตลอดชีวิตโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้

แว่บหนึ่งเรศินินรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้ชายตรงหน้าเหลือเกิน แม้จะไม่รู้ชื่อแซ่และพึ่งเห็นหน้ากันไม่ทันถึงเท่าไหร่

“ คืนนี้ ฉันจะเป็นความสุขของคุณนะคะ ”

เธอว่าพลางโน้มใบหน้าไปจูบที่ปลายคางของเขาเบา ๆ ก่อนจะยกกระป๋องเบียร์ขึ้นกระดกดื่ม

ชายหนุ่มมองหญิงสาวด้านข้างด้วยความประหลาดใจกับสัมผัสนั้นที่เธอมอบให้ เขาไม่ใช่คนหลงตัวเอง แต่รู้ตัวดีว่าตัวเองเป็นคนหน้าตาดี รูปร่างดี เพราะที่ผ่านมามีผู้หญิงวิ่งเข้าหาตลอดตั้งแต่เด็กจนย่างเข้าสามสิบในตอนนี้ แต่จูบของเธอเมื่อครู่มันไม่ใช่การอ่อย ไม่มีการยั่ว แต่เป็นความอบอุ่นที่เธอตั้งใจจะมอบให้ และเขาก็ซาบซึ้งเหลือเกินกับสถานการณ์ที่ได้ประสบพบเจอในตอนนี้

เขายกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่มเช่นเดียวกับเธอ รวดเดียวหมดไปครึ่งกระป๋อง ก่อนจะคิดได้ว่าควรจะตอบแทนสัมผัสอบอุ่นของเธอบ้าง จึงได้ก้มลงไปจูบแผ่วเบาที่หน้าผากของเธอบ้าง

“ ถ้าอย่างนั้น ผมก็ขอเป็นความสุขให้กับคุณเช่นกันครับ คนสวย ” เธอหลับตาพริ้มรับจูบที่หน้าผาก รับรู้ได้ถึงความเย็นจากเบียร์ที่เขาพึ่งดื่ม หากริมฝีปากของเขาที่เม้มจูบมันกลับอุ่นชื้น และสร้างความร้อนให้กับเรือนกายของเธอเหลือเกิน

“ ขอบคุณนะคะ ” เธอว่าเมื่อเขาถอนจูบจากหน้าผากออกไป ในใจนึกเสียดาย อยากให้เขาทำมากกว่านั้น

ถ้าเป็นริมฝีปากจะดีกว่าหน้าผากไหมนะ แล้วถ้าเป็นที่อื่นจะดีกว่าแค่ไหน...

คงเพราะบรรยากาศอันสลัวรางบนรถทัวร์ บวกกับอารมณ์อ่อนไหวของทั้งคู่ ทั้งยังมีแอลกอฮอล์เป็นตัวกระตุ้น ไฟในกายหนุ่มสาวค่อยระอุคุโชนขึ้นเรื่อย ๆ

เรศินินรับรู้ได้ถึงความ แฉะ ที่ตรงกลางระหว่างขาของตัวเอง อยากให้เขาทำมากกว่านี้...

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาคือเขาก็ทำเพียงนั่งพิงเบาะแล้วยกเบียร์ขึ้นดื่มก่อนจะหันมายิ้มให้อย่างสุภาพ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เรศินินไม่อยากให้ผู้ชายเป็นสุภาพบุรุษ อยากให้เขาลวนลาม อยากให้เขาทำอะไร ๆ กับเธอมากกว่านี้ เพราะเพียงสัมผัสบางเบา เขาก็ยังทำให้เธอ เงี่ยน ได้ขนาดนี้

เรศินินยกเบียร์ขึ้นดื่มอีกอึกใหญ่ก่อนตัดสินใจว่าจะลองอ่อย ดู

เธอเอนกายไปซบที่ไหล่แข็งแรง เขาก็ยังคงนิ่งอยู่เช่นนั้น เธอเลยดึงผ้าห่มออกไปวางข้าง ๆ ตัว เพราะรู้ดีว่าตำแหน่งสายตาของเขาที่สูงกว่าเธอจะสามารถมองลงมาเห็นร่องนมรวมไปถึงเต้านมที่ตูมเต่งอลังการของเธอได้ถนัดชัดเจน

หญิงสาวได้ยินเสียงจังหวะหายใจของเขาที่ดูเหมือนจะหนักขึ้น แต่เขายังคงนิ่ง ดูเหมือนเธอจะกำลังสนุกในเกมนี้จนไม่เหลือสติยั้งคิดอะไรแล้ว

เธอยกเบียร์ขึ้นดื่มและแกล้งทำมันหกรดตั้งแต่หน้าอกจนไปถึงเนินเนื้อหว่างขา แล้วแกล้งอุทานอย่างตกใจ

“ อูย เบียร์หกอีกแล้วค่ะ ” ก่อนจะลุกขึ้นจากการที่เอนกายพิงเขาแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนเดิมที่เปียกจากคราวแรกมาซับเช็ดที่ตัว หากคราวนี้เธอไม่ได้แค่เช็ดจากด้านนอก แต่ล้วงเข้าไปในคอเสื้อแล้วเช็ดบนเต้านมของตัวเอง

“ นมเปียกหมดเลย ” เธอว่าพลางทำทีไม่สนใจเขา ขะมักเขม้นกับการซับเช็ดเบียร์ที่เปียกแฉะ