Chapter 8 ใจอ่อน

1084 คำ
Chapter 8 ใจอ่อน “ทะ...ท่านเทพ กะ...เกิดอะไรขึ้นขอรับ” บ่าวรับใช้ชายซึ่งเป็นเซียนกระต่ายชั้นผู้น้อยถึงกับตื่นตกใจเมื่อพบว่ามีหญิงงามหลับอยู่บนตักของผู้เป็นนาย และที่สำคัญหญิงผู้นี้คือ ‘บุปผานารีผล’ อย่างไม่ผิดเพี้ยน เขาจำได้แม่นยำนั่นเพราะเขาก็เป็นหนึ่งในบุรุษนับพันนับหมื่นที่เดินทางไปชื่นชมความงดงามยามเมื่อนางสุกงอมจนร่วงหล่นจากต้น ดวงตาสีอเมทิสต์ เส้นผมสีดำสลวยยาวจดพื้น ผิวขาวราวกับน้ำนม และริมฝีปากอวบอิ่มคล้ายผลไม้สีแดงสดเช่นนั้น จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากนารีผลคนงามที่ทำให้บุรุษต้องหลั่งเลือดนับพัน เสียชีวิตไปอีกนับร้อย! “ระ...หรือว่าท่านเทพจำแลงกายไปแย่งชิงแม่นางบุปผามาขอรับ ขะ...ข้าไม่คิดเลยว่าท่านเทพจะ....จะ....” “หุบ! ปาก!” จ้าวฉงซานถลึงตาใส่บ่าวรับใช้แล้วจึงค่อยๆ อ้าปากเน้นเสียงทีละคำช้าๆ ไม่ได้ตวาดเช่นเคยเพราะอะไรนะหรือ... ก็เพราะบุปผานารีผลในอ้อมกอดเขานะสิ! กว่าสองชั่วยามที่นางร้องไห้จนหลับไป โดยที่นั่งอยู่บนตักอีกทั้งยังโอบกอดรอบเอวเขาไม่ยอมปล่อย เทพแห่งภูเขาไม่รู้จะจัดการอย่างไรดี จึงจำต้องหายตัวกลับมาที่ตำหนักซานกู่ทั้งแบบนั้น แล้วนั่งหน้ายุ่งคิ้วขมวดแทบผูกเป็นปมอยู่บนเตียง ไม่กล้าแม้แต่จะขยับหรือหายใจแรงๆ ด้วยเกรงว่านางจะตื่น โชคดีที่เขามักเข้าฌานบำเพ็ญเพียรมาตลอดชีวิต เขาจึงไม่มีปัญหากับการนั่งนิ่งๆ โดยไม่ขยับเขยื้อนกายเป็นเวลานาน ปราณทิพย์ในร่างไหลลื่นอย่างคุ้นชิน บางคราเข้าฌานนั่งนิ่งๆ ไม่กิน ไม่ดื่ม ไม่นอนติดต่อกันถึงสามเดือนเลยก็มี อีกทั้งนารีผลตนนี้มีน้ำหนักเบา ไม่ต่างจากหมอนยัดนุ่น จะมีก็แต่กลิ่นกายและความนุ่มนิ่มและสัดส่วนโค้งเว้าน่าหลงใหลของนางที่ทำให้เขาไม่อาจรวบรวมสมาธิได้อย่างที่ควรจะเป็น แล้วพอไม่มีสมาธิ ปราณที่ควรจะเคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอก็มีอันต้องสะดุด ทำให้เขารู้สึกยิบๆ ที่ปลายเท้าและต้นขา ราวกับกำลังจะเป็นเหน็บอย่างไรอย่างนั้น บ้าฉิบ! “อะ...เอ่อ” กันชี่ยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อเม็ดโตที่หน้าผาก อย่างไม่เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าเท่าใดนัก แต่สิ่งหนึ่งที่รู้ก็คือ เขาควรผ่อนน้ำเสียงให้เบาลงตามอย่างผู้เป็นนาย เพื่อไม่ให้นารีผลรู้สึกตัวตื่น “เกิดอะไรขึ้นขอรับ” “ไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าในการซักถามข้า จงไปนำยาสมานแผล ผ้าชุบน้ำอุ่น และ...” เขาก้มมองคนตัวเล็กแล้วพิศมองอยู่ครู่ใหญ่อย่างประเมิน ก่อนจะออกคำสั่งต่อไป “หาน้ำแกงร้อนๆ รสชาติอ่อนๆ มาให้ด้วย” “ท่านเทพจะทานเองหรือขอรับ ถ้าอย่างนั้นจะได้สั่งให้แม่ครัวเคี่ยวน้ำแกงสูตรพิเศษใส่สุราชั้นดีที่ท่านโปรดปรานลงไปด้วย” กันชี่กระตือรือร้นเสนออย่างเอาใจ “ไม่ต้องใส่สุรา น้ำแกงรสจืดเคี่ยวกับผักไม่ต้องปรุงรสชาติให้มากความ นางน่าจะยังไม่รู้จักรสชาติอาหารของสิ่งมีชีวิตดีนัก ให้กินรสอ่อนไปก่อนน่าจะดีที่สุด” ผู้เป็นบ่าวถึงกับอ้าปากค้าง แล้วร้อง ‘อ๋อ’ ในใจ ที่แท้ก็จะนำน้ำแกงมาให้แม่นางบุปผาแสนสวยรับประทานนี่เอง เป็นข้ารับใช้ท่านเทพจ้าวฉงซานมาหลายพันปี ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นความอ่อนโยนต่ออิสตรีของท่านเทพผู้มีใบหน้าหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องเกลียดสตรีเป็นอันดับหนึ่งของสวรรค์เก้าชั้นฟ้า นับเป็นบุญตาเหลือเกิน! “รีบไปได้แล้ว” “ขอรับท่านเทพ” ผู้เป็นนายโบกมือไล่พลางถอนหายใจกับการไม่รู้จักความของบ่าวรับใช้ ก่อนจะใช้หลังมือแตะลงบนนวลแก้มของคนตัวเล็กในอ้อมกอดแผ่วเบา ปลายนิ้วโป้งสัมผัสลงบนหยาดน้ำตาที่แห้งกรังไปแล้วด้วยความรู้สึกว้าวุ่นใจ น้ำตาของสตรี! ขึ้นชื่อว่าสตรีแล้วนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่ประกอบขึ้นล้วนมีพิศต่อบุรุษเพศทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นใบหน้างดงาม คำหวานจากริมฝีปากอิ่ม ดวงตาออดอ้อน หรือแม้แต่หยาดน้ำตาแห่งความเสียใจ สตรี! คือสิ่งที่ขัดขวางการบำเพ็ญเพียร แล้วเหตุใดสตรีจึงได้มาอยู่ในอ้อมกอดของเขาได้เล่า อีกทั้งยังเป็นสตรีที่งดงามกว่าหญิงใดบนสรวงสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ไม่ว่าชายใดก็ต่างหมายปองจนถึงขั้นหลั่งเลือดทาแผ่นดิน ทำไม! “อื้อ...” ใบหน้าบูดบึ้งของคนตัวโตถึงกับชะงักเมื่อจู่ๆ คนตัวเล็กในอ้อมกอดก็ขยับตัวคล้ายเมื่อยขบ มือหนารีบตบลงบนไหล่บางเบาๆ เพื่อขับกล่อมนางให้หลับใหลโดยอัตโนมัติ เมื่อทำไปแล้วก็ถึงกับถอนหายใจพรืด นี่ข้ากำลังทำอะไรอยู่ ทำไมข้าต้องกลัวว่านางจะตื่นด้วย ทำไมข้าต้องยอมทนเมื่อยขบจนเป็นเหน็บเพื่อให้นางได้นอนหลับพักผ่อนอย่างสุขสบาย ตัวข้าช่างน่าสมเพชเหลือเกิน! เรียวปากเล็กสีชาดอวบอิ่มอ้ากว้างหาวหวอดด้วยความง่วงงุน แพขนตายาวงอนค่อยๆ กระพือช้าๆ ก่อนจะเปิดเปลือกตาให้เห็นดวงตาสีม่วงสดใสราวกับอัญมณีเลอค่า ทว่าจู่ๆ ประกายตางดงามกลับหมองหม่นระเรื่อไปด้วยหยาดน้ำใส เพียงพริบตาเดียวหยดน้ำก็กลิ้งกลอกลงบนแก้มนวล “นายท่าน!” นางผวากอดผู้เป็นนายเอาไว้แน่น ความเหนื่อยล้าอันตรธานหายไปจากการหลับใหล ทว่าความเสียใจจากการถูกทอดทิ้งยังคงเต็มตื้ออยู่ในหัวใจ ราวกับฝันร้ายที่วนเวียนหลอกหลอนไม่จบสิ้น มือเล็กขยุ้มเสื้อที่อกของจ้าวฉงซาน ราวกับกลัวว่าถ้าหากนางปล่อยมือ เขาจะหนีหายไปอีก “นายท่านอย่าทิ้งข้า อย่าทิ้งข้า...” นางสะอื้นไห้ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ริมฝีปากสั่นระริก ใบหน้าเปรอะเปื้อนหยาดน้ำตาราวกับเด็กทารกไม่ประสา หัวใจแข็งกร้าวของคนตัวโตถึงกับอ่อนยวบซ้ำแล้วซ้ำเล่า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม