“หม่อมฉันมิบังอาจรบกวนเพคะ หากหม่อมฉันกลัวคำครหาคงไม่พักอยู่ที่จวนสกุลฟ่านตั้งแต่แรกหรอกเพคะ อีกทั้งหม่อมฉันเป็นสหายกับหลันฮวาจึงไม่อยากอยู่ห่างกับนางมากนัก และที่สำคัญหม่อมฉันนับถือนายท่านเว่ยไม่ต่างจากพี่ชายคนหนึ่ง ดังนั้นหม่อมฉันพักอยู่ที่จวนสกุลฟ่านนั้นถูกต้องแล้วเพคะ” “เปิ่นกงได้ข่าวว่านายท่านเว่ยที่องค์หญิงกล่าวถึงนั้น ก่อนหน้านี้เป็นเพียงทาสที่ถูกซื้อตัวมา ซ้ำยังเป็นเพียงบ่าวตัดฟืนในสกุลเหอ เช่นนั้นเหมาะแล้วหรือที่องค์หญิงจะนับถือบุรุษที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าเป็นพี่ชาย” ในขณะที่กล่าว หยางซูเฟยกลับปรายตามองเหอหลันฮวาอย่างดูถูกดูแคลน นี่เหรอสตรีที่กล้าทำเรื่องต่ำช้าลับหลังบุตรชายนาง คว้าบุรุษไหนไม่คว้า กลับคว้าบ่าวในเรือนมาเป็นสามี! ทว่าใบหน้าของนางยังคงมีรอยยิ้มอ่อนโยนส่งมาให้ ช่างเป็นรอยยิ้มที่ซ่อนมีดเสียจริง “เรื่องนั้นหม่อมฉันมิอาจสนใจเพคะ เพราะคุณค่าของมนุษย์ไม่ได้อยู่ที่ชาติกำเ