“คนสุดท้ายแล้วสินะ ท่านเซียนมีนามว่ากระไร” มหาเทพมู่ซีต้องการจบขั้นตอนการแจกจ่ายผลท้อสวรรค์ให้แล้วเสร็จ นางจงใจเอ่ยถามนามของท่านเซียนหนุ่มด้วยเสียงอันดัง เพื่อเรียกความสนใจจากเทพและเซียนทั้งหมดกลับมาที่ตนและเซียนหนุ่มตรงหน้า
“ข้าผู้น้อยนามหลวนหลง ตั้งมั่นบ่มเพาะพลังอยู่ในสายเทพมังกรขอรับ”
“สายสัตว์เทพเช่นนั้นหรือ ดีจริง ท่านเซียนองอาจสง่าผ่าเผยเลือกการฝึกฝนได้เหมาะสมดีจริงๆ” มหาเทพมู่ซีย่อมพึงพอใจเป็นพิเศษหากจะมีเทพในสายสรรพสัตว์มากขึ้น เพราะนางไม่รู้จะรับท่านเซียนหน้าใหม่สายพฤกษาและพืชพรรณไว้ในตำแหน่งอะไรแล้ว
ยังไม่ต้องนับอีกว่าท่านเซียนหนุ่มผู้นี้เลือกบ่มเพาะพลังเฉพาะเจาะจงในสายเทพมังกร การจัดหน้าที่ให้เขาก็ยิ่งสะดวกง่ายดายสำหรับมหาเทพสิงเทียนอีกด้วย
“ท้อสวรรค์ผลสุดท้ายในรอบ 3,000 ปีเป็นของท่านแล้ว ท่านเซียนหลวนหลง” มหาเทพมู่ซีเอื้อมมือไปยังฝักสีชมพูอ่อนของเถาวัลย์ต้นใหญ่ด้านข้าง
แต่นางกลับไม่พบอะไร..
มหาเทพผู้งดงามหันกลับไปมองในฝักของเถาวัลย์ พลิกคว่ำพลิกหงายดูอยู่อีกหลายรอบนางกลับไม่พบท้อสวรรค์ผลสุดท้ายตามต้องการ
“ท้อสวรรค์หายไปหนึ่งผล!” เสียงอุทานด้วยความตกใจของมหาเทพมู่ซีดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับเทพและเซียนรวมทั้งมหาเทพอีกสองท่านไม่น้อย
“บนแดนสวรรค์ไม่เคยมีเรื่องเช่นนี้มาก่อน ผู้ใดกันที่ขวัญกล้าคิดขโมยสิ่งของบนแดนสวรรค์!!”
“ช้าก่อนมหาเทพสิงเทียน ท่านอย่าเพิ่งบันดาลโทสะไป บนเกาะแก้วของข้าถูกป้องกันไว้แน่นหนาไม่มีผู้ใดข้ามไปได้ง่าย” มหาเทพมู่ซียับยั้งโทสะของมหาเทพสิงเทียนเอาไว้ไม่ให้วู่วาม
“คนนอกไม่สามารถข้ามไปได้ เช่นนั้นท่านมหาเทพคงคิดว่าเป็นคนในล่ะสินะ” มหาเทพสิงเทียนเริ่มร้อนใจ ผู้ที่เข้าออกเกาะแก้วสถานที่เพาะปลูกท้อสวรรค์ได้ มีทูตสวรรค์ซึ่งเป็นผีเสื้อเกล็ดแก้วผู้บ่มเพาะสายสรรพสัตว์ภายใต้การปกครองของตนอยู่ด้วย
มหาเทพมู่ซีหลุบตาลงต่ำ นอกจากผีเสื้อเกล็ดแก้วที่นางปล่อยให้เข้าออกเกาะแก้วได้โดยอิสระ ก็ยังมีเซียนน้อยเหยาจีอยู่อีกหนึ่งคน แต่เด็กนั่นจะกล้าทำเรื่องใหญ่โตเช่นการขโมยท้อสวรรค์ไปกินเชียวหรือ
“ข้ารู้จักทูตสวรร์ผู้ซื่อสัตย์เหล่านั้นดีท่านมหาเทพสิงเทียน ข้าคิดว่าไม่ใช่พวกเขาหรอกที่เอาผลท้อสวรรค์ของข้าไปข้ารับเอาเซียนน้อยวัยเยาว์ผู้หนึ่งไว้ทำงานที่เกาะแก้ว บางทีนางอาจจะให้คำตอบนี้กับข้าได้” กล่าวจบมหาเทพมู่ซีก็ปล่อยผีเสื้อเกล็ดแก้วตัวหนึ่งให้ไปตามเซียนน้อยออกมาจากสวนท้อของตน
เหตุการณ์ท้อสวรรค์สูญหายเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับเทพเซียนทุกคนเบนแดนสวรรค์ อย่าว่าแต่ผลท้อสวรรค์ที่ล้ำค่าถึงเพียงนี้เลย แดนสวรรค์ข้าวของเล็กน้อยที่ไม่มีค่าก็ไม่เคยสูญหายมาก่อน
ทุกสายตาเฝ้ารอคอยการปรากฏตัวของเซียนน้อยเหยาจี ผู้ที่น่าจะให้คำตอบได้ดีที่สุดในเรื่องนี้อย่างใจจดใจจ่อ เพราะในระหว่างที่รอ มหาเทพมู่ซียังได้เปิดเผยหน้าที่มอบหมายของเหยาจีบนเกาะแก้ว ว่านางจะเป็นผู้ดูแลต้นท้อทุกต้นบนเกาะและเป็นผู้นับจำนวนผลท้อทุกผลมารายงานกับท่านมหาเทพโดยตรง
บนเกาะมีทั้งท้อธรรมดา ท้อโอสถ และท้อสวรรค์ ซึ่งต้นท้อธรรมดาและท้อโอสถมีจำนวนมากออกผลมาให้นับไม่หวาดไม่ไหว มหาเทพมู่ซีจึงไม่ได้สนใจรายละเอียดของพวกมันมากนัก
แต่สำหรับผลท้อสวรรค์ มหาเทพมู่ซีจำได้ว่าเมื่อสองพันปีก่อนยามที่ผลท้อเพิ่งเติบโตเป็นผลเล็กๆ นางเคยไปนับจำนวนของพวกมันร่วมกับผีเสื้อเกล็ดแก้วผู้ติดตามหลายตน จากนั้นก็ปล่อยให้เหยาจีดูแลต่อไป
กระทั่งถึงวันที่ต้องเก็บเกี่ยว ก็เป็นผีเสื้อเกล็ดแก้วที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุด 7 ตนกับเหยาจีเท่านั้นที่ช่วยกันนำท้อสวรรค์มาเก็บไว้ในฝักของเถาวัลย์เขียว ทูตสวรรค์ในคราบของผีเสื้อเกล็ดแก้วเป็นทูตที่ได้รับการยกย่องว่าซื่อสัตย์เป็นอันดับหนึ่ง ไม่มีผู้ใดเชื่ออยู่แล้วว่าพวกเขาจะขโมยมัน ผู้ต้องสงสัยเพียงหนึ่งเดียวย่อมเป็นเหยาจี
ไม่นานนักร่างเล็กของเด็กสาวอายุเทียบเคียงกับมนุษย์ก็ราว 11-12 ปี ลอยตามผีเสื้อเกล็ดแก้วออกมาจากสวนท้อเข้ามายังวิมานแก้ว ใบหน้าไร้เดียงสาและแววตากระจ่างใสบริสุทธิ์ของเซียนน้อย ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่อาจทำใจกล่าวหานางได้ลงคอ ทั้งยังเริ่มมีความคิดว่าน่าจะมีปัญหาบางประการเกิดขึ้นกับผลท้อสวรรค์และเซียนน้อยในชุดสีชมพูผู้นี้อาจไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็เป็นได้
เหยาจี ข้าจำได้ว่าเมื่อสองพันปีก่อนพวกเราหลายคนช่วยกันนับผลท้อสวรรค์ไว้ถี่ถ้วนดีแล้วมิใช่หรือ? เจ้าจำได้หรือไม่ว่ามันมีทั้งหมดกี่ผล” มหาเทพมู่ซีตั้งคำถามประเมินสถานการณ์ดูก่อน
“จดจำได้เจ้าค่ะ ท้อสวรรค์สีทองมีทั้งหมด 384 ผลเจ้าค่ะท่านมหาเทพ”
มหาเทพมู่ซีเสียอาการไปเล็กน้อย นางหวังเหลือเกินว่าเหยาจีจะตอบว่ามีเพียง 383 ผล หากว่าเป็นการนับจำนวนผิดพลาดนางยังพอจะรับเอาความผิดไว้เอง จะได้ไม่ต้องมีการไต่สวนกันให้มากความ แต่เหยาจีกลับยืนยันว่ามี 384 ผล นั่นหมายความว่าผลท้อสวรรค์หายไปจริงๆ
“เซียนน้อยเหยาจี ได้ยินว่าเจ้าเป็นผู้ดูแลผลท้อทุกผลบนเกาะแก้วเพียงผู้เดียวใช่หรือไม่” มหาเทพสิงเทียนยังต้องการยืนยันความบริสุทธิ์ของผีเสื้อเกล็ดแก้วในสังกัดของตน แม้ไม่อยากจะคาดคั้นเอาความกับเซียนน้อยแต่เรื่องนี้จะทำให้ชื่อเสียงของผีเสื้อเกล็ดแก้วเสื่อมเสียชื่อเสียงไม่ได้เป็นอันขาด
“ใช่แล้วเจ้าค่ะ ผีเสื้อเกล็ดแก้วไม่ได้รับอนุญาตให้คืนร่างในยามที่อยู่บนเกาะแก้วเว้นแต่จะมีท่านมหาเทพมู่ซียืนอยู่ด้วย ดังนั้นตลอดมาข้าจึงเป็นผู้ดูแลและสัมผัสผลท้อทุกชนิดทุกผลได้เพียงผู้เดียว”
สามมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ ขมวดคิ้วแน่นตามกัน พวกเขาชื่นชมกับความซื่อสัตย์ของเซียนน้อย แต่คำตอบของนางยามนี้เท่ากับว่านางยอมรับว่าตนเป็นผู้กระทำผิดพลาดใช่หรือไม่
โดยเฉพาะกับมหาเทพมู่ซี ที่นางรับเอาเซียนน้อยเหยาจีมาไว้บนเกาะก็เพราะเห็นว่าเหยาจีมีความสามารถพิเศษในเรื่องการเพาะปลูกเหมาะสมที่จะบ่มเพาะพลังในสายเทพพฤกษา
ที่สำคัญที่สุดคือร่างกายของเหยาจีมีกลิ่นอายบางประการที่สัมพันธ์กับต้นท้อ แม้แต่ท้อสวรรค์ที่เพาะปลูกได้ยากเย็นก็สามารถเริ่มเพาะปลูกได้ด้วยฝีมือของเซียนน้อยเหยาจีถึง 3 ต้นเลยทีเดียว
ด้วยเหตุนี้มหาเทพมู่ซีจึงยังไม่เคยยกตำแหน่งเทพผลท้อให้กับเทพหน้าใหม่คนใด ตั้งใจเก็บตำแหน่งนี้ไว้ให้เหยาจีเป็นการเฉพาะ แต่ยามนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับเซียนน้อยใสซื่อบริสุทธิ์ผู้นี้กัน?
“ท่านมหาเทพทั้งสาม ข้ารู้ว่าท่านเรียกตัวข้าออกมาจากเกาะด้วยเหตุใด ข้ายอมรับผิดเองเจ้าค่ะ ผลท้อสวรรค์ที่หายไปเป็นข้าที่กินมันไปแล้ว ขอพวกท่านลงโทษข้าด้วย”
เสียงฮือฮากระซิบพูดคุยกันดังลั่นขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ มีทั้งตำหนิเซียนน้อยที่ภายนอกบริสุทธิ์ไร้เดียงสาแต่ไม่อาจรู้ลึกถึงจิตใจ บ้างก็คิดว่านางอาจรับผิดแทนผู้อื่น และเสียงส่วนใหญ่ก็เป็นการแสดงความเสียใจกับเซียนหนุ่มหลวนหลงที่อุตส่าห์ได้รับเลือกแต่กลับต้องมาผิดหวังเอาตอนจบ
“เหยาจีมีผู้ใดข่มขู่ให้เจ้ารับผิดแทนหรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่เจ้าจะถูกลงโทษในสถานหนักเลยทีเดียวนะ บอกพวกเรามาเราสามคนจะให้ความยุติธรรมแก่เจ้าเอง”
“ไม่มีผู้ใดบังคับข้าได้เจ้าค่ะท่านมหาเทพทั้งสาม ข้าต้องขอโทษผีเสื้อเกล็ดแก้วทุกตัวด้วยซ้ำที่ทำให้ชื่อเสียงของเขาต้องมัวหมองเพราะข้า แต่เป็นข้าที่แอบกินทั้งผลท้อธรรมดา ผลท้อโอสถบนเกาะมามากมายมายาวนาน และสุดท้ายก็ห้ามใจไม่ไหวเด็ดผลท้อสวรรค์มากัดกินไปตั้งแต่เมื่อ 1,000 ปีก่อนในยามที่มันยังสุกไม่เต็มที่เจ้าค่ะ”
คำสารภาพที่เด็ดเดี่ยว แววตาที่มองตอบกลับมายังท่านมหาเทพทั้งสามของเหยาจีเต็มไปด้วยความจริงทุกประการ จนแม้แต่มหาเทพมู่ซีที่คิดจะปกป้องเหยาจีเอาไว้ก็ต้องยอมจำนนกับคำกล่าวที่ออกมาจากใจไร้การโป้ปดนั้น
“กฎย่อมเป็นกฎ เจ้าทำผิดครั้งใหญ่เลยทีเดียวเด็กน้อย โทษของเจ้าก็คือการถูกขับออกจากสวรรค์และต้องไปอยู่ในแดนมนุษย์!!"