“หึ หึ! ผมชอบจังเลยมินตราเวลาที่คุณทำท่าทางกลัวแบบนี้”
“ออกไปให้พ้นนะเจตต์!” มินตราถอยหลังชิดผนัง ก่อนที่เจตต์จะเข้ามาล็อกตัวเธอไว้ หญิงสาวก็รีบคว้าเอาโคมไฟมาถือ ซึ่งเป็นอาวุธชิ้นเดียวที่มีใกล้ตัวเธอในเวลานี้..
“ถ้าเจตต์ยังไม่หยุด มินจะฟาดด้วยโคมไฟนี่ถอยไป บอกให้ถอยไปยังไงล่ะ!”
“หึหึ!!” เสียงหัวเราะในลำคอของเจตต์ดังขึ้นอีกครั้ง
“ถ้าคิดว่ามันจะทำให้มินรอดไปได้ก็เขวี้ยงมาเลย เขวี้ยงมาสิมิน!”
เพล้ง!!
เจตต์หลบไปได้ทำให้โคมไฟนั้นแตกกระจายไปทั่วพื้นห้อง มินตราเห็นท่าไม่ดีเธอนั้นพยายามจะหลบหนี หวังรอดออกไปให้ได้ แต่เขากลับวิ่งต้อนเธอไปมุมนั้นมุมนี้ที ราวกับคนกำลังบ้าคลั่ง
“คิดเหรอว่าจะหนีพ้น ไอ้หน้าอ่อนก็ไม่อยู่มันไม่มีทางมาช่วยมินได้หรอก ดูสิว่าถ้ามินตกเป็นเมียเจตต์อีกครั้ง และท้องลูกของเจตต์ไอ้หน้าอ่อนมันยังจะต้องการมินอยู่ไหม”
“เลว! ไอ้คนสาระเลว!” มินตราตะคอกเสียงออกมาอย่างเหลืออด ไม่คิดว่าเจตต์จะเป็นคนแบบนี้
“ถึงเลวมันก็เคยเป็นผัวเธอมาก่อน และก็กำลังจะยัดเยียดให้เป็นตลอดกาล” ชายตรงหน้าพูดด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว พร้อมกับเดินเข้าหามินตราอย่างใจเย็น เธอเองก็พยายามหลบและเลี่ยงเขา เพื่อออกไปทางประตูให้ได้..
“โอ๊ะ! โอ๊ยยย!!” มินตราร้องออกมา พร้อมกับนั่งลงกุมที่เท้าเมื่อเธอเหยียบเศษแก้วจากโคมไฟ เลือดที่ไหลออกมาเป็นทางนั้น ไม่ได้สร้างความสะเทือนใจให้กับเจตต์เลยสักนิด เขากระชากมินตราแล้วลากเธอขึ้นมา ก่อนจะโยนลงไปที่เตียงนอนอย่างแรง..
ตุ๊บบ!!
“โอ๊ะ!” มินตราร้องออกมา เมื่อเธอรู้สึกจุกกับแรงกระแทก และเจ็บเท้าทั้งสองข้าง เศษแก้วมันน่าจะเสียบเข้าลึกอยู่มาก ดูจากเลือดที่ไหลไม่หยุด
“ปล่อยมินไปเถอะนะเจตต์ อย่าทำอะไรมินเลย เรื่องราวระหว่างเรามันจบลงแล้ว” คราวนี้มินตราพูดจาด้วยน้ำเสียงที่อ้อนวอนเจตต์ เมื่อเธอนั้นคิดว่าคงไม่มีทางหนีพ้นเขาแน่
“เจตต์เคยบอกเหรอว่ามันจบ มันเพิ่งเริ่มต้นต่างหากละมิน” เจตต์พูดพร้อมกับถอดเสื้อของเขาออก ก่อนจะแกะเข็มขัดแล้วปลดกระดุมกางเกงยีนออกทีละเม็ดอย่างใจเย็น แต่สายตาที่เขาจ้องมองมาที่มินตรานั้นกลับดูเลือดเย็นอย่างบอกไม่ถูก ไม่นานเสื้อผ้าของเขาก็ลงไปกองรวมกันที่พื้น เวลานี้ร่างกายท่อนล่างของเขามีเพียงบ๊อกเซอร์ที่รัดเป้าตุงเท่านั้น ที่มันพร้อมจะถอดออกได้ทุกเมื่อ
เขาค่อยๆ คลานเข้ามาใกล้เธอ มินตราเองก็พยายามดันตัวถอยออกห่าง จนชิดหัวเตียง แต่มันก็ไม่เป็นผล เมื่อเขาคืบคลานเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เธอใช้แรงทั้งหมดที่มี พร้อมกับยกเท้าถีบไปที่อกของเจตต์
“โอ๊ยย!!” แต่คนที่ร้องออกมาอย่างเจ็บปวดกลับเป็นมินตราเอง เมื่อเศษแก้วติดอยู่ที่แผลนั่นเข้าไปลึกกว่าเดิม จากแรงกระแทกที่เธอถีบเขาเมื่อครู่ เลือดเริ่มไหลออกมาจนเลอะเปื้อนที่นอนไปหมด เจตต์ดึงข้อเท้าของมินตรา เพื่อให้ร่างอรชรไถลเข้าหาตัวเขา โดยไม่สนใจว่าเธอนั้นจะรู้สึกเจ็บ
“เดี๋ยวนี้คิดสู้ผัวเหรอ...ฮะ!”
ผั๊วว!! พูดจบเจตต์ได้ต่อยไปที่ท้องน้อยของเธออย่างแรง
“อึ้บโอ๊ย! คนสาระเลว” มินตราร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เมื่อเจตต์ไม่ยั้งมือเลยสักนิด
“หึหึ!...” เสียงของเจตหัวเราะในลำคอขึ้นมาอีกครั้ง ในขณะที่มินตรานอนขดตัว พร้อมทั้งเอามือกุมไว้ที่ท้องน้อย เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดลงได้บ้าง
แคว๊กก!!
เขากระชากเสื้อของมินตราออกจนขาดหลุดลุ่ย ก่อนจะปลดกระดุมและดึงกางเกงของเธอออกอย่างง่ายดาย เพราะเวลานี้เลือดที่ไหลไม่หยุด กับท้องที่โดนชกอย่างจัง จนแรงจะยกขาเธอก็ยังไม่มีด้วยซ้ำ
เวลานี้ร่างอรชรมีเพียงบรากับชุดชั้นในตัวจิ๋วจนเกือบจะเปลือยเปล่านั้น ทำให้ปลุกอารมณ์ชายในตัวของเจตต์ได้เป็นอย่างดี
มือทั้งสองข้างของเธอถูกเขาจับตรึงขนานไว้กับขอบเตียง เจตต์ค่อยๆ กดจมูกไซร้ไปตามซอกคอระหงของเธอ ก่อนจะบรรเลงลิ้นลงไปกับร่องอกตูมที่มันล้นออกมาจากบราสีแดงที่เธอสวมใส่
เจตต์แหงนหน้าขึ้นมองใบหน้ารูปไข่ เขายกยิ้มที่มุมปาก แล้วกดริมฝีปากลงไปบดขยี้เรียวปากบาง ราวกับว่าเก็บกดมานานเขาพยายามดันลิ้นหนานั้นเข้าไปในโพรงปากของเธอ แต่มินตราไม่อ้ารับเหมือนดังเช่นเคยที่ผ่านมา เพราะเวลานี้เธอรู้สึกขยะแขยงเขาเต็มที ความรู้สึกที่เคยมีให้มันไม่เหมือนเดิม แถมเธอยังรู้สึกเกลียดเขาด้วยซ้ำในเวลานี้
มินตรารู้ดีว่าเวลานี้ เทวดาที่ไหนก็มาช่วยเธอไม่ได้ ความรักที่เคยมีหัวใจดวงนี้มันเคยเป็นของเขามาก่อน หากมันจะต้องตกเป็นของเขาอีกครั้งมันก็ไม่แปลก ถ้าหากว่าเขาไม่มีใคร แล้วเธอยังมีใจให้กับเขาดังเดิม แต่เวลานี้ใจของเธอมันไม่มีที่ว่างเหลือให้กับเขาอีกต่อไปแล้ว น้ำตาใสๆ ของเธอค่อยๆ ไหลออกมา ก่อนที่มันจะไหลเป็นทางเมื่อนึกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเธอในไม่ช้า
ใบหน้าหนุ่มน้อยที่เคยช่วยเหลือตลอดเวลาได้ลอยเข้ามา หากเขายังอยู่เธอคงไม่ต้องเผชิญชะตากรรมแบบนี้..และต่อจากนี้ไปเธอคงไม่มีหน้าไปเจอเขาอีกแล้ว ความสาวไม่เคยมีหลงเหลือไว้ให้หนุ่มน้อย แต่กลับกำลังจะเพิ่มมลทินติดตัวเข้ามาอีก
เลือดที่ไหลไม่หยุดนั้นอาจทำให้มินตราช็อกได้ เธอพยายามดิ้นให้พ้นจากพันธนาการของเจตต์ ร่างเล็กที่บอบช้ำจากแรงกระแทกและแรงกดบวกกับหมัดที่เจตต์ชกมาที่ท้อง ทำให้มินตราหมดแรงฮึดสู้ แต่เธอก็พยายามสู้เท่าที่แรงมีจนหลุดพ้นจากจูบนั้นมาได้
ถุ๋ยยย!! มินตราถุยน้ำลายใส่หน้าเจตต์อย่างเหลืออดกับการกระทำของเขา
เพียะ!! เพียะ!!
เจตต์ได้ตบลงไปที่ใบหน้างามของมินตราซ้ายขวาอย่างไม่ยั้งมือ จนใบหน้าของเธอนั้นหันไปตามแรงตบ แล้วกระแทกกับขอบเตียงอย่างแรง
“โอ๊ย!!” ความรู้สึกของมินตราเธอเจ็บจนชาไปทั้งใจ เมื่อถูกคนที่เคยรักลงมือทำร้าย
“หึหึ! อย่าคิดสู้ผัว! ไว้จำใส่สมองกลวงๆ ของเธอเอาไว้”
“โอ๊ย! ปล่อย” มินตราร้องออกมา เมื่อเจตต์บีบลงไปที่กระพุ้งแก้มของเธออย่างแรง ก่อนที่เขาจะก้มลงไปจูบ ริมฝีปากหนาบดขยี้ลงไปที่เรียวปากเล็กได้รูปอย่างต่อเนื่อง แบบไร้ความปรานีใดๆ ต่อเรือนร่างอันบอบบาง ในขณะที่หญิงสาวไม่มีอารมณ์ร่วม มินตราเริ่มหมดแรงร่างกายที่อ่อนระทวยในยามนี้ไม่ได้เกิดจากความพิศวาสในกามารมณ์ แต่มันคือความอ่อนล้าของคนกำลังจะสิ้นใจ
เจตต์ผละจากจูบนั้นแล้วเขาก็ค่อยๆ สอดมือไปปลดตะขอบราของเธอออก ไม่นานเต้าตูมอันอวบอิ่มทั้งสองก็ว่างเปล่าจากสิ่งห่อหุ้มใดๆ ยอดปทุมถันที่ชูชัน มันช่างเหมาะเจาะรับกับอกตึงนั่นเหลือเกิน
ทรวงอกสวยได้รูปนั้นถูกขย้ำด้วยมือของเจตต์อย่างเมามัน ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือสอดไปที่กางเกงในตัวจิ๋วแล้วดึงมันออกอย่างแรงจนขาดคามือ เศษผ้าที่ห่อหุ้มเนื้อนูนบวมเป่งถูกโยนทิ้งลงไปกองกับพื้นอย่างไม่แยแสต่อร่างอรชรที่กำลังเปลือยเปล่า
เรือนร่างเปลือยเปล่ากับสติที่เหลือน้อยบวกกับเลือดที่ไหลออกมาไม่หยุดนั้น ช่างเป็นภาพที่น่าสมเพชเสียจริง ใครกันที่เป็นคนกำหนดโชคชะตาให้เธอต้องมาเจอกับเรื่องโหดร้ายได้ถึงเพียงนี้ เขาเป็นคนผลักไสให้เธอเดินออกมาเองผู้ชายที่มักมากอย่างเจตต์ ที่มองกำไรของชีวิตคือการได้นอกใจมันช่างเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้เป็นที่สุดแล้ววันนี้เขายังจะมาต้องการอะไรจากเธอ ในเมื่อชีวิตคู่เขาเป็นคนที่ทำมันพังเองกับมือ
ดวงตากลมโตเริ่มเบลอลงเรื่อยๆ กับความรู้สึกที่ด้านชา เนื่องมาจากเลือดที่ไหลอย่างต่อเนื่องนั้นมันกำลังจะทำให้มินตราช็อก และเธออาจหมดสติไปในไม่ช้านี้