เด็กมันยั่ว

1435 คำ
เข็มทิศรู้สึกร้อนรนใจมาก เมื่อห้องของมินตรามืดสนิทไฟปิดทุกดวง ปกติแล้วเธอจะปิดไฟนอนก็ปาไปสามสี่ทุ่มแล้วนี่ แต่มันเพิ่งจะสองทุ่มเองเธอจะเป็นอะไรไปไหม ชายหนุ่มมองซ้ายแลขวา เมื่อแน่ใจว่าบิดามารดาเข้านอนกันหมดแล้ว ชายหนุ่มจึงค่อยๆ เปิดประตูออกมาจากบ้าน ก่อนจะกระโดดปีนขึ้นไปบนกำแพงข้ามมาทางฝั่งบ้านของมินตรา.. เขาเดินสำรวจรอบบ้านหน้าต่างก็งัดไม่ได้ จะปีนก็ไม่มีบันได ชายหนุ่มพยายามใช้ความคิดอยู่สักพัก จนนึกได้ว่าเขาเป็นคนล็อกประตูเอง แล้วไม่ได้ลงกลอนด้านใน เพราะตอนออกมาเขากดเพียงลูกบิดเท่านั้น เมื่อคิดได้เข็มทิศก็เดินไปรอบๆ บ้านเขามองหาลวดอยู่นาน เพื่อใช้ปลดล็อกลูกบิดแต่ก็ไม่เจอเข็มทิศตัดสินใจเดินไปที่ร้านกาแฟ เพราะที่นั่นเพิ่งสร้างเสร็จอาจจะมีลวดหลงเหลืออยู่บ้าง เข็มทิศเปิดไฟฉายในโทรศัพท์หาอยู่สักครู่ก็ได้ลวดตามที่เขาต้องการ ชายหนุ่มตรงไปที่ประตูทันทีก่อนจะทำการสอดลวดแล้วค่อยๆ ดึงออกเขาทำอยู่แป๊บหนึ่งประตูก็เปิดออก. “เยส!..” เข็มทิศพูดพร้อมกับกำปั้นทำท่าทางสะใจ ที่สามารถไขลูกบิดเข้าไปได้.. เขาค่อยๆ เดินขึ้นไปที่ชั้นบน แล้วตรงไปยังห้องนอนของสาวรุ่นพี่ เข็มทิศเคาะประตูไปหลายที แต่ก็ไม่มีคนเปิด เวลานี้หัวใจของเขามันเต้นตุ๊บๆ เพราะกลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไป.. “กินยา ผูกคอ... กดหัวตัวเองลงในอ่างน้ำยี้ แค่คิดก็สยองแล้ว” เขาพูดคนเดียวก่อนจะเคาะประตูรัวๆ อีกครั้ง เมื่อเคาะแล้วเธอยังไม่เปิด เขาจึงใช้วิธีเอาตัวกระแทกประตูแรงๆ ลงไปหลายครั้ง ในที่สุดประตูก็เปิดกว้างออก ชายหนุ่มรีบวิ่งไปที่เตียงนอน ที่เวลานี้แสงไฟข้างนอกกระทบเข้ามาพอให้เห็นเงาของคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียง ก่อนจะใช้ไฟฉายที่มือถืออีกครั้งเพื่อหาสวิตช์ไฟ เมื่อเขาเปิดไฟสว่างจ้าไปทั่วห้องคนที่ตกใจที่สุดคือมินตรา.. “เฮ้ย! นายเข้ามาได้ยังไง นายจะทำอะไรฉันออกไปนะออกไปเดี๋ยวนี้!” มินตราพูดพร้อมกับลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าโคมไฟที่หัวเตียงมาถือไว้ เพราะในเวลานี้มันคืออาวุธเพียงชิ้นเดียวที่อยู่ใกล้เธอที่สุด.. “วางมันลง!” เข็มทิศพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราด “ไม่! ไม่มีทาง! นายอย่าเข้ามานะไม่อย่างนั้นฉันจะปาโคมไฟนี่ใส่นายเลย!” เข็มทิศไม่ฟังที่มินตราพูดเขาเดินเข้าไปใกล้ พร้อมทั้งดึงโคมไฟออกจากมือของเธออย่างง่ายดาย “ฉันไม่สู้แล้วก็ได้อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ถ้านายอยากได้อะไรก็เอาไปเลยทีวีก็ขายได้เอาไปเลย เอาไปสิ โน้ตบุ๊กก็มีเอาไปด้วยก็ได้” มินตราพูดพร้อมกับชี้ไปที่ทีวีจอเล็ก สำหรับเอาไว้ดูบนห้องและโน้ตบุ๊กบนโต๊ะทำงาน จนทำให้เข็มทิศอดที่จะขำไม่ได้ เธอคิดได้ยังไงว่าเขาจะมาปล้น.. “นี่คุณมินตราคุณบ้าไปแล้วเหรอ ที่ผมดึงโคมไฟออกจากมือของคุณ แค่กลัวว่าไฟมันจะช็อตคุณถือขึ้นมาได้ยังไงทั้งที่ยังเสียบปลั๊กอยู่แบบนั้น” “เรื่องนั้นมันไม่สำคัญหรอก แล้วนายเข้ามาในห้องฉันได้ยังไงเข้ามาทำไม” มินตราเริ่มโวยวายออกมาเสียงดัง “ผมเคาะประตูจนมือบวมหมดแล้วเนี่ย... แถมยังเอาตัวกระแทกที่ประตูหลายครั้ง อย่าบอกนะว่าคุณหลับลึกจะไม่ได้ยินอะไร” “เปล่าไม่ได้หลับแค่พักสายตาแล้วก็ฟังเพลงไปด้วยสงสัยจะใส่หูฟังเลยไม่ได้ยินอะไร” เธอพูดพร้อมทั้งยื่นหูฟังให้เขาดู สรุปแล้วชายหนุ่มคิดไปเองทั้งนั้น เธอนอนฟังเพลงเฉยเลยตรงกันข้ามเขาที่เป็นบ้าไปเองคนเดียว “คราวหน้าคราวหลังไม่ต้องใส่แล้วนะหูฟังอันนี้ อยากฟังเพลงก็เปิดเสียงดังไปเลยแต่ไม่ต้องดังมากล่ะ...เดี๋ยวโจรเข้ามาจะไม่ได้ยินเอา” เขาพูดพร้อมกับนั่งลงที่เตียงของเธอ มินตราทำหน้างงในรอบที่ร้อยแล้วมั้งตั้งแต่เจอเขา “ลุกกลับบ้านไปได้แล้ว คราวหน้าคราวหลังก็ไม่ต้องงัดบ้านคนอื่นแบบนี้นะ บ้าไปแล้วเหรอ” “ใช่ผมมันบ้า! บ้าที่เป็นห่วงคุณ” เข็มทิศพูดออกมาด้วยใบหน้าและน้ำเสียงที่ดูจริงจัง “ห่วงมิน... ห่วงทำไม มินก็สุขสบายดีไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย” “ก็ตอนหัวค่ำเห็นร้องไห้ คิดว่าเสียใจจนทำอะไรบ้าๆ คิดสั้นฆ่าตัวตายประมาณนั้น” “ฮ่าๆ!...นายคิดได้ไง” มินตราหัวเราะออกมาตลกในสิ่งที่ชายหนุ่มนั้นคิดไปไกล “ถ้าเป็นเรื่องเจตต์มินลืมมันไปนานแล้ว” “จริงอ่ะลืมแน่นะ!” เขาไม่พูดเปล่าแต่ล้มตัวลงนอนที่เตียง พร้อมทั้งยังดึงผ้าห่มของเธอมาห่ม ราวกับว่าเตียงนี้ห้องนี้เป็นของเขา นี่มันอะไรกันมินตราเริ่มทำหน้างงอีกครั้ง. “ลุกเลยนะนายไม่ใช่เด็กแล้วนะ ลุกไปบ้านนายเดี๋ยวนี้!” พอสิ้นเสียงพูดมินตรา เข็มทิศก็คว้าตัวหญิงสาวให้ล้มเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเขา โดยที่เธอยังไม่ทันได้ตั้งตัว จากนั้นเขาก็จัดแจงให้เธอหันหน้าเข้าหากับอกกว้าง โดยที่หัวของสาวรุ่นพี่ยังนอนหนุนที่แขนซ้ายของเขาอยู่ ส่วนแขนขวานั้นเขาได้โอบกอดเอวคอดของเธอเอาไว้ “ปล่อยนายจะทำอะไร นายจะทำแบบนี้ไม่ได้นะถ้าแม่นายรู้เข้า เรื่องใหญ่แน่” “จุ๊! จุ๊! จุ๊! เงียบๆ” เขาพูดพร้อมทั้งเอานิ้วชี้มาจุ๊ที่ปากเธอเอาไว้ไม่ให้พูดอะไรต่อ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแม่ นอนได้แล้วพรุ่งนี้เปิดร้านเดี๋ยวตื่นสายนะ” “นายรู้ได้ยังไงว่าฉันจะเปิดร้านวันพรุ่งนี้” มินตราถามพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองหน้าชายหนุ่มรุ่นน้อง “เรื่องนั้นช่างมันเถอะเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะไปช่วยที่ร้าน” “ไม่ได้พรุ่งนี้นายต้องไปทำงานไม่ใช่เหรอ” “ลา!” คำพูดสั้นๆ ที่หนักแน่นทำให้สาวรุ่นพี่ถึงกับตกใจ “ฮ๋าา! นี่นายบ้าไปแล้วเหรอ” มินตราพูดพร้อมทั้งดันตัวเองเพื่อลุกขึ้น แต่กลับโดนเขากดหัวลงไปซบอกกว้างนั่นอีกครั้ง เวลานี้ใจของเธอมันเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะอีกรอบ มินตราพยายามบอกกับตัวเองเสมอชายหนุ่มไม่มีทางคิดอะไรกับเธอมากไปกว่าเพื่อนบ้าน แถมเธอยังไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ เพราะเพิ่งผ่านการแต่งงานมาไม่นานด้วยอายุและหน้าตาของเขาคงหาผู้หญิงที่ดีกว่าเธอนั้นได้ไม่ยาก แต่การกระทำและแสดงออกของเข็มทิศในเวลานี้ มันทำให้เธออดที่จะคิดไม่ได้ว่าเขากำลังชอบเธออยู่.. “คิดอะไรอยู่นอนได้แล้ว!” “ปล่อยมันอึดอัด” เธอพูดพร้อมกับดิ้นไปมาจนเขาใช้ขามาทับที่ตัวของเธอเอาไว้ “อย่าดิ้นบอกว่าอย่าดิ้น! ถ้าขืนยังไม่ฟังผมจะทำมากกว่ากอดอยากลองไหม” “ไอ้เด็กบ้า!” “ผมไม่เด็กแล้วนะครับลองดูไหมจะได้รู้” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับโน้มจมูกมาชิดกับใบหน้าของเธอ ที่เวลานี้มันแดงยังกับลูกตำลึงสุก คำพูดของเขาเธอรู้สึกถึงความหมายของมันดี “แค่ล้อเล่นนอนได้แล้วผมไม่ทำอะไรหรอกสัญญาด้วยเกียรติของลูกผู้ชายเลย” จุ๊บ!!..เข็มทิศขโมยจูบไปที่เรียวปากได้รูปของเธอเบาๆ “ไหนว่าจะไม่ทำอะไรมากไปกว่านี้แล้วไงคนขี้โกง” เธอพูดอย่างเอียงอาย เมื่อหลบเขายังไงก็หลบไม่พ้นขาก็ถูกทับไว้ ตอนนี้มือของเขาทั้งสองข้างได้โอบร่างของเธอเอาไว้แน่น มันไม่ต่างอะไรกับเธอกำลังนอนอยู่ภายใต้อ้อมกอดของเขา สิ่งที่เธอพยายามไปให้พ้นมันน่าแปลกเมื่อยิ่งหนีก็ยิ่งเจอ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม