หนูน้อยหลงรักอาเตอร์ รักตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอในงานแต่งของคุณป๊าลมเหนือกับคุณพี่พลอยมุกสุดสวย ตอนนั้นเธอยังเล็กเพิ่ง 6 ขวบ เธอจำได้เสมอไม่เคยลืม และยังรู้ด้วยว่าอาเตอร์ของเธอหลงรักเจ้าสาวที่ชื่อพลอยมุกของคุณป๊าลมเหนือที่เป็นเพื่อนสนิทคุณป๊าแผ่นดินของเธอ หนูน้อยรักอาเตอร์จนหมดหัวใจและตั้งใจจะเป็นเจ้าสาวของอาเตอร์ เธอจำคำมั่นสัญญาที่ผู้ชายร่างหนาชื่อคอปเตอร์เคยให้กับเธอไว้หนูน้อยไม่เคยลืม
“อ๊ะ! แด๊ดดี้ขา” เสียงอุทานของลูกสาวตัวน้อยของแผ่นดินที่เข้ามาร่วมงานของคุณป๊าลมเหนือดังขึ้นจนคนเป็นพ่ออดสงสัยที่จะเอ่ยถามออกไปไม่ได้
“เป็นอะไรลูกหนูน้อย”
“หนูน้อยรู้สึกหัวใจเต้นแรง เหมือนเจอรักแรกพบ” พลอยสวยลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนที่ทุกคนหวงนักหวงหนาเอ่ยอุทานออกมาเมื่อเจอกับคอปเตอร์ที่เข้ามาร่วมในพิธีงานหมั้นด้วยใจเหี่ยวใบหน้าที่เฉา
“อ้าวเตอร์” แผ่นดินเอ่ยทักอย่างสนิทสนม คอปเตอร์ยกมือไหว้แผ่นดินและเพื่อนๆทุกคนของลมเหนือ พลอยสวยหรือหนูน้อยยืนจ้องคนที่มีอายุห่างกว่าเธอเป็นรอบปีด้วยดวงตาวิบวับเหมือนเจออาหารจานโปรด คอปเตอร์ก้มมองเด็กสาวตัวน้อย เค้าย่อตัวที่เพอร์เฟคลงเพื่อให้ได้ระดับเดียวกันกับเด็กสาว
“ว่าไงคะหนูน้อย” คอปเตอร์เอ่ยทักทายเด็กน้อยด้วยความเอ็นดู พลอยสวยที่ดูจะดีใจตื่นเต้นเกินกว่าเหตุใช้มือปุ้มน้อยๆ ทาบมาที่อกด้านซ้ายของตัวเองอย่างแก่แดด “อุ้ยตะ” ท่าทางไร้เดียงสาของเด็กน้อยที่อายุกำลังจะเข้าหกขวบเรียกเสียงหัวเราะของคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี
“หนูน้อย นับดาวที่ท้องโย้ใกล้คลอดเอ่ยปรามลูกสาวอย่างจริงจัง” ดวงตากลมโตเริ่มเอ่อล้นด้วยน้ำตาเมื่อเจอคุณแม่คนสวยอย่างนับดาวปรามเสียงดุ
“โอ๋!โอ๋! ไม่ร้องนะครับเดี๋ยวอาเตอร์พาทานของอร่อยดีไหม”
“ดีค่ะ ฮึก แต่ต้องอุ้มหนูน้อยนะคะ คุณแม่ดุจนหนูน้อยปวดใจไปหมดเลย” คอปเตอร์ได้แต่หอมแก้มนิ่มอย่างหมั่นเขี้ยวเด็กอะไรช่างเจรจา “อ๊ะ! อาเตอร์หอมแก้มหนูน้อย โตขึ้นอาเตอร์ต้องแต่งงานกับหนูน้อยนะคะ”
"ได้เลยครับเจ้าสาวของอาเตอร์ ฟ่อด ฟ่อด มัดจำไว้ก่อนโตขึ้นอาจะหอบขันหมากไปขอนะครับ"
"ฮึก ใจร้ายที่สุด ฮึก หนูน้อยเกลียดอาเตอร์"ร่างบางนั่งหลบร้องไห้ตรงบันไดหนีไฟ มันเป็นที่ประจำที่เวลาเจออาเตอร์ดุเธอจะมาแอบอยู่ตรงนี้ ไม่มีนิ้วแกร่งหรือจูบหนักๆคอยมาปลอบขวัญหรือเกลี่ยน้ำตาให้หรอก มีแต่ตัวเธอเองนี่แหละที่ร้องไห้ออกมาแล้วต้องเช็ดคราบน้ำตาด้วยตัวเธอเอง โกรธเองก็ต้องหายเอง งอนเองก็ต้องหายเอง อาเตอร์ไม่โอ๋เหมือนตอนเด็กๆแล้ว
ส่วนไอ้ประโยคที่ว่า หนูน้อยเกลียดอาเตอร์ไม่มีอยู่จริงหรอกพูดไปงั้นแหละเวลาน้อยใจ
หนูน้อยผลักประตูเข้ามาเธอใช้เวลางอนเพียงไม่นานที่จัดเก็บความรู้สึก ตาบวมๆจมูกแดงๆดูก็รู้ว่าหนูน้อยร้องไห้มา คอปเตอร์เห็นแต่ไม่ถาม ไม่ใช่ว่าไม่ใส่ใจแต่ไม่อยากให้หนูน้อยเคยตัว ทุกคนในรัตนมณีไพศาลตามใจโอ๋จนหนูน้อยเอาแต่ใจ แม้แต่สายลมน้องชายที่อายุห่างกันยังตามใจหนูน้อยจนเธอเคยตัว
"เมื่อครู่ทำอะไรผิดครับ ตอบอามาหนูน้อย"ปากกาถูกวางเอกสารถูกเก็บ ใบหน้าที่หล่อเหลาตึงขึ้นจนหนูน้อยเองเริ่มใจคอไม่ดีและรู้ดีว่าต้องโดนลงโทษ ไม่ได้ลงโทษด้วยการตีให้เจ็บ แต่เป็นการลงโทษด้วยการตำหนิแต่มันกลับเจ็บกว่าการตีเป็นไหนๆ
"…"
"ถ้าไม่ตอบก็ไม่ต้องมาคุยกัน ถ้ายังไม่สำนึกก็ไม่ต้องมาคุยกับอา พรุ่งนี้อาจะบอกเฮียดินคุณป๊าของเราว่าอาขอลาออก อาไม่อยากมาเจอกับเด็กดื้อ"ทุกครั้งที่เจอคำขู่ หนูน้อยไม่เคยทนได้หรอก เธอกลัวอาเตอร์จะไป เธอกลัวไม่ได้อยู่ใกล้ๆกลัวไม่ได้เจออาเตอร์
บางครั้งก็เหนื่อยที่วิ่งตาม ร่างกายอยากพักแต่ใจไม่อยากหยุด หนูน้อยได้แค่คิด
"ฮึก หนูน้อยพูดจาไม่น่ารัก ฮึก หนูน้อยพูดจาก้าวร้าวกับผู้ใหญ่ ฮึก หนูน้อยไม่เต็มใจที่จะขอโทษเค้า ฮึก หนูน้อยขอโทษนะคะ"น้ำตาที่เพิ่งหยุดไหลกลับโดนอาเตอร์ขยี้ใจด้วยคำขู่ที่ไม่อยากฟัง ไม่มีคำปลอบโยนมีแต่คำดุคำขู่ให้เป็นรางวัลสำหรับเด็กดื้อเด็กไม่น่ารักอย่างหนูน้อย เธอแพ้ทุกครั้งถ้าเป็นอาเตอร์ยอมทุกอย่างถ้าเจอคำขู่นี้เข้าไป
"หนูน้อย ฮึก ขอโทษอีกครั้งนะคะอาคอปเตอร์"เมื่อไรที่ชื่อมาเต็มยศ คอปเตอร์จะรู้ทันทีว่าหนูน้อยกำลังเสียใจและน้อยใจเค้าเป็นที่สุด เค้าคิดแค่ว่าทุกอย่างที่เค้าทำเพราะหวังดีที่ดุก็เพราะรัก แต่คนที่โดนกระทำกลับคิดว่าอีกคนรำคาญและเบื่อ
หนูน้อยเดินออกมาจากห้องไม่ได้หวังที่จะให้ใครตามมา เพราะต่อให้หวังมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว ตั้งแต่วันนั้นวันเธอบอกว่ารักอาเตอร์ รักแบบที่ผู้หญิงคนนึงจะรักได้ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป คำว่าห่างเหิน เฉยชา เมิน ไม่ใส่ใจ ตอนนี้หนูน้อยกำลังเผชิญกับมัน แต่เธอไม่เคยยอมแพ้ถึงภายในใจจะอ่อนแอมากแค่ไหนก็ตาม