ตอนที่2 หนิงเหมย3

1307 คำ
หนิงเหมยได้เจอกับเจิ้งเหวินหลางที่ตลาดในวันหนึ่ง เขาเข้ามาช่วยเหลือหญิงสาวในยามที่นางถูกขโมยถุงเงินไปโดยไม่รู้ตัวและไม่มีเงินจ่ายค่าเสื้อผ้าทำให้นางถูกด่าว่ากล่าวเสียงดังนำพาความอับอายมาให้ เจิ้งเหวินหลางเข้ามาปกป้องนางในวันนั้นและนับแต่นั้นมาหนิงเหมยกับเจิ้งเหวินหลางจึงตกลงคบหากันหมายสานสัมพันธ์จากสหายเป็นคนรักถึงขั้นคิดจะแต่งงานกันเมื่อพร้อมทั้งสองฝ่าย หนิงเหมยตัดสินใจพาเจิ้งเหวินหลางเข้าบ้านเพื่อมาพบกับบิดาหมายเจรจาหมั้นหมาย เจิ้งเหวินหลางเข้ามาที่บ้านของหนิงเหมยในฐานะคนรักแบบเปิดเผย แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันพลันบังเกิด เมื่อน้องสาวของนางนามว่าลี่จูบุตรสาวของเจียวลู่ได้เจอกับเจิ้งเหวินหลางในวันที่หนิงเหมยพาเขาเข้าบ้าน หลังจากนั้นเจิ้งเหวินหลางก็เริ่มเปลี่ยนไป เจิ้งเหวินหลางที่เคยมีเวลาให้หนิงเหมยเริ่มไม่มีเวลาให้ จากที่เคยมีจดหมายฝากมาให้กลับเริ่มไม่มีเหมือนเคย จากที่เคยนัดเจอกันเที่ยวที่ตลาดกลับชอบที่จะมาบ้านของหนิงเหมย เดิมทีหญิงสาวคิดว่าเจิ้งเหวินหลางสมกับเป็นชายที่เปิดเผย เมื่อได้เปิดตัวกับบิดาของนางแล้วจึงชอบมาหากันที่บ้าน แต่เปล่าเลย เวลาที่เจิ้งเหวินหลางนั่งคุยอยู่กับเหนิงเหมยก็มักจะมีลี่จูร่วมนั่งคุยอยู่ด้วยเสมอ พวกเรานั่งคุยกันสามคนด้วยเหตุผลที่ว่าเพื่อกันการถูกครหาระหว่างหนิงเหมยกับเจิ้งเหวินหลางที่เป็นเพียงคนรักหาใช่คู่สามีภรรยาที่ผ่านพิธีแต่งงานร่วมผูกผม แต่หนิงเหมยมิใช่คนโง่ สายตาที่ลี่จูมองเจิ้งเหวินหลางไยนางจักไม่เข้าใจ สายตาที่เปลี่ยนไปของเจิ้งเหวินหลางไยนางจักไม่เห็น บุรุษก็เท่านี้ ไม่ว่าจะเป็นบิดาของนางหรือกับเจิ้งเหวินหลาง ทุกคนเหมือนกันหมด! รักหรือ? หึ! และแล้วหนิงเหมยจึงได้เข้าใจในเรื่องราวความรักของมารดากับบิดาของนาง ที่บอกว่าต้นเหตุเกิดจากหนิงเหมยนั้นจริงๆ แล้วมิใช่เลย เพราะมารดาของนางเปลี่ยนไปจากเดิมหรือ? นิสัยโหดร้ายมากหรือ? อารมณ์ที่อยู่เหนือเหตุผลของมารดาและความเป็นชายที่หยิ่งทระนงตนของบิดาจึงทำให้ทุกชีวาต้องมาอยู่ยังจุดนี้มีสภาพเยี่ยงนี้หรือ? ไม่ว่ามารดาของนางจักรักบิดามากมายปานใดย่อมไม่สำคัญ ไม่ว่ามารดาจะเปลี่ยนไปหรือไม่ ย่อมไม่สำคัญ ไม่ว่ามารดาของนางจะตั้งครรภ์นางหรือไม่มันไม่สำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญก็คือบิดาของนางต่างหากที่เปลี่ยนไป ทุกอย่างล้วนเกิดจากใจชายทั้งสิ้น! บิดาของนางรักมารดาของนางหรือ? หากรักแล้วเหตุใดยังยอมให้เจียวลู่แทรกเข้ามา การช่วยเหลือกันย่อมมิใช่ต้องตอบแทนบุญคุณด้วยการรับเป็นเมียเพื่อย่ำยีสตรีอีกคน เจิ้งเหวินหลางบอกว่ารักนางจะแต่งงานกับนางหรือ? หากรักนางจริงแล้วที่นั่งคุยกันสามคนในศาลาคืออันใด? “พี่ใหญ่จะต้องไปถือศีลที่วัดในวันรุ่งแล้ว ข้าเป็นห่วงพี่ใหญ่เหลือเกินเจ้าค่ะ” น้ำเสียงหวานใสของลี่จูเอ่ยขึ้นไปทางเจิ้งเหวินหลางที่นั่งอยู่ทางอีกฝากหนึ่งของโต๊ะกลมในศาลา ทั้งๆ รูปประโยคของลี่จูคุยเรื่องของหนิงเหมยแต่ลี่จูกลับมองแต่เจิ้งเหวินหลาง! “เจ้าจะเดินทางไปพรุ่งนี้แล้วหรือเหมยเอ๋อร์ ไยถึงรวดเร็วนักเล่า” เจิ้งเหวินหลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มคล้ายไม่ยินดีที่หนิงเหมยจะต้องเดินทางไกล “สามเดือนเชียวนะเจ้าค่ะ พี่เหวินหลาง” ลี่จูยังคงเอ่ยไปทางเจิ้งเหวินหลางทั้งๆ ที่หัวข้อเกี่ยวกับเหนิงเหมย “สามเดือนเชียวรึ?” เจิ้งเหวินหลางมีสีหน้าตกใจสายตาจับจ้องอยู่ที่วงหน้าเรียวสวยของลี่จู “เจ้าค่ะ สามเดือน” ลี่จูพยักหน้ากะพริบตาอย่างน่ารัก “นานทีเดียวเชียว พี่เหวินหลางคงเหงาแย่” เจิ้งเหวินหลางคลี่ยิ้มอบอุ่นพูดจาอ่อนโยน “แน่นอนว่าข้าย่อมเหงา ข้าคงคิดถึงเหมยเอ๋อร์ทุกวัน” เขาปรายสายตาลึกล้ำมองมาทางหนิงเหมยเพื่อสื่อความนัยตามที่พูดก่อนจะหันไปยิ้มกับลี่จูแล้วเอ่ย “ข้าคงมิได้มาเจอกับเหมยเอ๋อร์ถึงสามเดือนเชียว” ลี่จูกะพริบตาปริบๆ ทำตากลมโตยิ่งน่ามองยามสบตอบ หนิงเหมยเพียงแต่นั่งเงียบรับฟังหัวข้อสนทนาของตนเองผ่านริมฝีปากของคนรักกับน้องสาวต่างมารดาด้วยกริยาสงบไร้คลื่นอารมณ์ใดๆ สายตาเย็นชาบนใบหน้าเรียบเฉยมองไปยังงิ้วตรงหน้าที่แสดงโดยชายหญิงทั้งสอง นี่มิใช่ครั้งแรกที่ชายหญิงตรงหน้าร่วมกันเล่นงิ้วกับนาง ลับหลังนางพวกเขาเคยนัดเจอกันไยนางจะไม่รู้ ความหมายที่พวกเขาพูดออกมาไยนางจะไม่เข้าใจ เหตุการณ์ขโมยปิ่นทองคำและไข่มุกเม็ดงามไปขายทอดตลาดจนแม่นมซือเสียนถูกโบยจนตายและนางต้องโทษทัณฑ์ให้ไปถือศีลยังวัดวัดฉือหนิงอันห่างไกลไยนางจะไม่ประจักษ์ การที่นางหายไปสามเดือนเป็นการเปิดโอกาสในหญิงโฉดชายชั่วตรงหน้าได้อยู่ด้วยกันโดยไม่มีนางคอยเป็นก้างขวางคอ! ลี่จูต้องการให้เจิ้งเหวินหลางอยู่ห่างจากนางจึงเอาปิ่นทองคำและไข่มุกของเจียวลู่ที่รักหนักหนามาซ่อนในเรือนของนางและเนื่องจากเจียวลู่ได้รับของขวัญชิ้นนี้จากบิดาของนางในวันคล้ายวันเกิดที่ผ่านมาเมื่อไม่นานจึงยังชมชอบอยู่มากแรงโทสะจึงมีมากตามไปด้วย แม่นมซือเสียนที่อายุมากแล้วทั้งยังมีโรคประจำตัวจะตายวันตายพรุ่งก็ยังไม่แน่จึงอาสาออกตัวรับโทษทัณฑ์เพื่อหมายปลิดชีพตนให้พ้นความทรมานจากโรครุมเร้าโดยการบอกกล่าวว่าตนเป็นคนขโมยเพื่อนำเงินมาซื้อหายา หากแต่การตายของแม่นมยังนับว่าสูญเปล่าเพราะหนิงเหมย กลับถูกข้อกล่าวหาว่ารู้เห็นเป็นใจกับบ่าวประจำตัว หนิงเหมยหลับตาลงซ่อนแววตาร้าวลึกกักเก็บเอาไว้ใต้เปลือกตาร้อนผ่าวมิให้ใครได้เห็นซึ่งความเจ็บปวดรวดร้าวใดๆ นางไม่คิดจะแก้ตัวเรื่องขโมยปิ่นและไข่มุก นางไม่คิดจะปฏิเสธการเดินทางไปวัดอันห่างไกล นางไม่คิดจะอยู่กับใครที่ไม่รักนางจริง สามเดือนหรือยังน้อยไปด้วยซ้ำ! หนิงเหมยลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะมองไปยังลี่จูและเจิ้งเหวินหลางด้วยสายตาว่างเปล่า นางคลี่ยิ้มบางเบาออกมาให้ได้เห็นไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ ยากแก่การคาดเดาถึงแก่นแท้แห่งห้วงความคิดที่คล้ายมีหลุมดำสนิทในดวงตา สตรีบอบบางและอ่อนแอเช่นนางทำได้เท่านี้ แค่นี้เท่านั้น! หญิงสาวลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกนอกศาลาไปอย่างเงียบงันปล่อยทิ้งเอาไว้ให้สองชายหญิงได้นั่งเล่นงิ้วกันต่อไปไร้ใครนั่งดู นางเหนื่อยเหลือเกินที่ต้องนั่งชมภาพสะเทือนอารมณ์ตรงหน้า พอกันที!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม