" อ้อ งั้นลิตาขอตัวก่อนนะคะยังมีของที่ต้องซื้ออีกหลายอย่าง "
" เชิญครับ "
ฉันเดินซื้อของได้แป๊ปเดียวก็รู้สึกว่าเหมือนมีคนเดินตามเลยหันกลับไปมอง
" อ้าวคุณหมอเดินตามลิตาทำไมคะ "
" อ้าวหรอครับสงสัยจะเผลอผมไม่เห็นจะรู้ตัวเลยสักนิด " แถไปครับอย่ายอม
" เผลอเดินตามแบบไม่รู้ตัวเนี่ยนะคะ เหตุผลของคุณฟังขึ้นมาก " ประโยคหลังฉันได้แต่กัดฟันพูดเบาๆ
" ใช่ครับไม่รู้จะซื้ออะไรก็เลยเดินตามแบบเพลินๆ แค่เห็นข้างหลังก็ยิ้มแก้มปริแล้ว " ผมพูดแบบเบาๆ
" คุณหมอว่าอะไรนะคะ ลิตาไม่ค่อยได้ยินเลยพูดดังๆก็ได้ " ผมขยับเข้าไปไกล้จนหน้าเราเกือบจะติดกันแล้วก็ก้มลงกระซิบข้างหูเธอว่า
" ผมขอเข็นรถให้นะครับพอดีผมว่างไม่รู้จะทำอะไร " ฉันนี่ขนลุกเลยก็เขาดันเข้ามาไกล้ฉันแบบเอ่ออ
" อะ..เอ่องั้นตามใจเลยค่ะ " โอ้ยยยห้ามคิดนะยัยลิตาห้ามคิด
" ลิตาไม่ค่อยชินเลยค่ะที่คุณหมอมาเดินตามลิตาแบบนี้ "
" ผมชอบ เอ้ยไม่ต้องเกรงใจครับผมว่างมากจริงๆ "
" ดูท่างานคุณหมอคงไม่เยอะนะคะ ดูชิวดีจัง " เธอก็ประชดแหละผมดูออก
" ที่จริงเยอะมากครับแต่วันนี้ผมหยุด " หยุดก็บ้าน่ะสิโทรไปขอแลกวันหยุดกับไอ้เข็มทิศเป็นการเร่งด่วน โดนบ่นหูชาแถมมันยังขู่ให้เลี้ยงเหล้ามันด้วย ผมจะทำอะไรได้ครับ
" ที่จริงเมื่อก่อนลิตาไม่ได้อยู่ที่นี่หรอกค่ะ ลิตาถูกส่งไปเป็นหมออาสาในชนบททางใต้ จะบอกว่าชาวบ้านที่นั่นน่าสงสารมากค่ะโดยเฉพาะเด็กๆ ชอบป่วยกลางดึกบางครั้งแทบไม่ได้นอนกันเลยค่ะ ไม่ใช่แค่ลิตาคนเดียวนะคะมีคุณหมอีกหลายท่านเลย ถึงจะลำบากกายแต่สุขใจที่ได้ช่วยเหลือคนยากจน "
" คุณลิตานี่จิตใจดีมากเลย เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้ดูแกร่งและเก่งมาก ผมนับถือเลยถึงผมจะไม่เคยไปที่แบบนั้นแต่ก็รู้ดีว่ามันลำบากเพียงใด "
" มันลำบากมากจริงๆ แหละค่ะ แต่ทุกคนก็ทำได้จนมีคนใจบุญมาสร้างโรงพยาบาลให้พวกเขา ลิตาจึงได้กลับมาทำงานในเมืองอีกครั้ง "
" ผมฟังเพลินจนลืมถามไป คุณลิตา เป็นหมอหรอครับ "
" อ้อ ใช่ค่ะลิตาลืมบอก "
" ได้ไหมถ้าผมจะถามว่าคุณลิตาทำงานอยู่ที่ไหน "
" ฉันขออุ๊บ..ไว้ก่อนได้ไหมคะถ้าเราได้เจอกันอีกลิตาจะบอก "
" ได้สิครับไม่มีปัญหาผมดีใจนะที่เราเป็นหมอเหมือนกัน " ยังไงเราได้เจอกันบ่อยๆ แน่คุณลิตาผมได้แต่คิดในใจ
" งั้นลิตาขอแยกกับคุณหมอตรงนี้เลยละกัน ขอบคุณสำหรับวันนี้ค่ะ " แล้วเธอก็เดินแยกออกไป
เมื่อฉันเดินถึงลานจอดรถ เก็บของเสร็จเรียบร้อย สายตาก็เหลือบไปเห็นรถคันข้างๆ เจ้าของรถก้มๆ เงยๆ อยู่
" เอ้าคุณหมออีกแล้วรถเป็นอะไรหรอคะ " ใช่ค่ะฉันใช้คำว่าอีกแล้วเฮ่อดูก็ รู้จงใจชัดๆ ร้ายจริงคุณหมอ..เคยได้ยินป่ะถึงเขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอก..อิอิแกล้งโง่หน่อยละกัน
" อ้าวคุณลิตาเองหรอ รถผมเป็นอะไรไม่รู้อยู่ดีๆ ก็สตาร์ทไม่ติดผมเลยต้องเปิดดูหน่อย " แผนอ่อยหญิงครับไม่มีไรมากหยุดแล้วต้องเอาให้คุ้ม
" คุณซ่อมรถเป็นด้วยหรอ " เขาคุยกับฉันแต่ก็ไม่ยอมหันมาสักที
" ไม่เป็นครับผมทำเท่ห์ไปงั้นแหละ "
" อ้าวแล้วกันสิ คุณโทรเรียกช่างหรือยังมีอะไรให้ลิตาช่วยมั๊ย " พอเขาเงยหน้าขึ้นมาเท่านั้นแหละความฮาก็บัง เกิดเลยจ้า
" ฮ่า ฮ่า ฮ่า โอ้ยคุณหมอ ฮ่า ฮ่า "
" คุณลิตาขำอะไร หน้าผม หน้าผมมีอะไรติดหรือเปล่าครับ " พูดไปเขาก็คลำหน้าไปจนเลอะเยอะไปใหญ่
" เอามือออกเลยค่ะยิ่งคลำยิ่งเลอะ..แชะ ดูเอาเองเถอะค่ะ " ฉันถ่ายรูปแล้วให้เขาดู
" หืม หน้าผมด่างเป็นแมวเลย "
" ฮ่า ฮ่า ฮ่า มาค่ะลิตาเช็ดให้ " เธอหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กๆ สีขาวออกมาจากรถแล้วเดินกลับมาเช็ดคราบดำให้ผม มันไกล้กันมากจนเราหายใจรดกัน
" อ่ะเอ่อ คุณหมอโทรเรียกช่างแล้วรอลิตาอยู่ตรงนี้ก่อนนะคะ "
พูดจบก็เดินหายไป เธอเขินผมอีกแล้วไม่นานเธอกลับมาพร้อมกับถุงกระดาษใบหนึ่ง
" อ้าวช่างยังไม่มาหรอคะ "
" ยังครับ " จะบอกเธอได้ยังไงว่ารถไม่ได้เสียเลยมันคือแอคติ้งของผมล้วนๆ
" งั้นไม่ต้องรอแล้วค่ะ นี่ก็ไกล้ค่ะแล้วไปอาบน้ำที่ห้องของลิตาก่อนก็ได้ " พูดอะไรออกไปเนี่ยยัยลิตาเอ้ย ฉันได้แต่พึมพำกับตัวเองเบาๆ
" ห้องคุณหรอครับ " ผมถามย้ำอีกครั้งทั้งที่ได้ยินอย่างชัดเจน
" อะ เอ่อ ก็ค่ะชุดคุณเปื้อนคุณจะไปไหนได้ล่ะคะเลอะแบบนี้หน้าฉันนี่ร้อนวาบๆเลยพอพูดจบ " ป้าไปแล้วยัยลิตาชวนผู้ชายขึ้นห้องทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน แถมพึ่งจะรู้จักกันด้วยเมื่อมาถึงคอนโด เขาก็อาสาถือของเองทั้งหมด
" เอาของวางไว้เลยค่ะ เดี๋ยวลิตามา " เธอหายเข้าไปพักนึง
" คุณหมอคะเข้ามาได้เลย " จังหวะที่ผมเดินเข้าไปเธอก็เดินออกมาจากห้องน้ำพอดี
" ว้าย "
" เป็นอะไรไหมครับ " พอดีเราเดินชนกันจนเธอเซแต่ผมคว้าเอาไว้ได้ทัน
" เออ ลิตาไม่เป็นไรขอบคุณค่ะ ของอยู่ในห้องน้ำนะคะลิตาเตรียมไว้แล้วขอตัวก่อนค่ะ "
ผมเห็นเธอหน้าแดงก็แน่ล่ะชนอกผมเข้าเต็มๆ เตรียมไว้ซะเรียบร้อยเชียว เหมือนเมียเตรียมให้ผัวงั้นแหละโอ้ยคิดไปไกลแล้วกู ก็แน่ล่ะในเมื่อแม่อยากมีหลานตอนนี้ก็เจอคนที่ใช่จะรออะไรละ ต้องทำทุกทางเพื่อให้ได้เธอมาครอบครอง
เมื่อผมอาบน้ำเสร็จแล้ว เดินออกมาตัวหอมฟุ้งแต่กลิ่นอาหารหอมกว่า วันนี้ผมยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยนี่หว่า ดังนั้นท้องของผมก็ร้องประท้วงทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะอาหาร เป็นโต๊ะขนาด 4 คนนั่งได้ผมว่ากำลังดีไม่เล็กไม่ใหญ่
" โครก~~ "
" อุ้ยคุณหมอเสียงวัวร้องหรอคะ ฮ่า ฮ่า " วันนี้ผมทำตัวน่าอายชะมัด
" รู้แล้วยังจะถามผมอีก " เวลาเธอหัวเราะแล้วน่ารักมาก
" ลิตาแซวเล่นค่ะ นั่งก่อนค่ะลิตาไม่รู้ว่าคุณหมอชอบทานอะไรลิตาเลยทำแต่อาหารพื้นๆ นะคะหวังว่าจะถูกปากคุณ "
ผมมองอาหารตรงหน้าอืมนี่พื้นหรอ หมูทอดเอย ตัมยำกุ้งเอย ผัดฉ่าทะเลเอย
" พื้นก็พื้นครับที่จริงแค่ไข่เจียวผมก็ทานได้แล้ว " ลางานวันนี้ไม่เสียเที่ยวเลยจริงๆ
" แหม มีแขกมาทั้งทีเลี้ยงจะเลี้ยงไข่เจียวก็ยังไงอยู่ "
ออด~ ออด~
" ใครมาตอนนี้อย่าบอกนะว่า "
...ตี๊ด..ตี๊ด..ตี๊ด..แก๊ก
" วันนี้ฉันขอฝากกกก.." นางพูดได้แค่นั้นแหละ
" ตลอดแหละแกอ่ะ "
" เล่ามาให้หมดเขามาอยู่ห้องแกได้ไง " สายตานี่คือแบบเคืองฉันอย่างแรง
" มาขอข้าวกินไม่พอยังถามซอกแซกอีก ทำไมฉันต้องบอกแกด้วยล่ะ "
" ฉันว่าเขาหน้าคุ้นๆ นะ "
" หรอ แกรู้จัก "
" ปัง " เธอตบโต๊ะดังฉาด
" ฉันคิดออกแล้ว ก็อีตาขี้เก๊กคนนั้นไงที่ฉันไปทักเขาแล้วเขาบอกว่าจำชื่อตัวเองไม่ได้อ่ะ " ยิ่งคิดยิ่งแค้นแล้วดันจะมาจีบเพื่อนฉันหรอเหอะๆ..
" แกจำคนผิดป่าว "
" ไม่ฉันจำได้แม่น แล้วดูกับข้าววันนี้สิ ปกติก็ทำแต่กระเพราะไข่ดาวให้ฉันนะเท่าที่จำได้ " มันออกจะพิเศษเกินไปหน่อยสำหรับคนที่พึ่งรู้จักกัน
" พูดมากไปแล้วกินๆ เข้าไปเลย " ฉันตักข้าวคำใหญ่ๆ ยัดใส่ปากยัยขนมไปเต็มๆ
" อื้ออ..อู้ "
" เวลากินข้าวอย่าพูดดีกว่าเดี๋ยวข้าวติดคอ " เป็นเสียงของชายหนุ่มเพียงคนเดียว
ฝากไว้ก่อนเถอะอีตาจอมหยิ่งทีกับฉันนี่เชิดหน้าขึ้นคอแทบหัก ทีกับเพื่อนฉันตานี่ลอยเชียวสองมาตรฐานชัดๆ คอยดูเถอะแม่จะกีดกันให้ตายกันไปข้างนึงเลย ฉันรู้นะว่านายจะจีบเพื่อนฉันเชอะ มีฉันอยู่อย่าฝันไปเลย
" นินทาผู้อื่นตอนกินข้าวมันบาปนะครับคุณขนม "
" แค่ก แค่กๆ " บ้าบอพูดเหมือนได้ยิน
" นินทาเขาอยู่หรอยะ ฮ่า ฮ่า แกอย่าเผลอคิดอะไรในใจเด็ดขาดนะฉันขอเตือน "
ทั้งสองได้แต่ส่งสายตาฟาดฟันกันเป็นระยะ เหมือนแค้นกันมาแต่ชาติปางก่อน
" แค่ผมไม่สนใจคุณคืนนั้นคุณต้องโกรธผมขนาดนี้เลยหรอ แต่ผมก็เห็นคุณไปกับคนอื่นแถมยังทิ้งเพื่อนอีก ไม่น่ารักเลยอย่าหาทำอีกแล้วกัน "
" นี่นายเกินไปไหม มีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน " ฉันนี่ปรี๊ดเลยค่ะ
" เป็นเพื่อนกันควรคิดถึงกันให้มากกว่านี้ ยิ่งเวลาดึกดื่นแบบนั้นแถมเป็นผู้หญิงเหมือนกันใจเขาใจเราคุณเห็นผู้ชายที่พึ่งรู้จักดีกว่าเพื่อนได้ยังไงมันอดอยากขนาดนั้นเลยหรอ ผมพูดในฐานะผู้ชายที่ผ่านโลกมามากกว่าคุณ " คุณหมอพูดด้วยความเดือดดาลเช่นกัน
" นี่นายฉันก็แค่ต้องการบางอย่างเท่านั้น ฉันเหงา ฉันเบื่อ ฉันก็เป็นแบบนี้แหละยัยลิตาไม่เคยว่าฉันเลย "
" เพื่อนไม่เคยว่าก็เลยต้องทำตัวแบบเดิมๆ ต้องไปกับผู้ชายตลอด คิดว่าวันไหนไม่ได้นอนกับผู้ชายจะนอนไม่หลับคิดว่าวันไหนขาดเซ็กส์ไป มันจืดชืดใช่ไหมครับ "
" คุณหมอคะ " ฉันนั่งฟังทั้งสองเถียงกันไปจนรู้สึกว่าเหตุการณ์ชักจะบานปลาย คุณหมอที่ฉันรู้จักไม่ใช่แบบนี้เลยนะ
" อย่ามาทำเป็นรู้ดีถ้าคุณไม่รู้จักฉัน ฉันไปก่อนนะยัยตา ป้ง " พูดกับหมอจบก็หันไปบอกเพื่อนเสียงปิดประตูห้องอย่างแรง
" คุณหมอทำไมพูดแบบนั้นคะ " ฉันถามด้วยความสงสัยเพราะเท่าที่เห็นคุณหมออกจะเป็นคนใจเย็นด้วยซ้ำ
" ถ้าเป็นเรื่องจริงคือเพื่อนคุณน่าจะเป็นโรคชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Hysteria เป็นโรคจิตชนิดหนึ่งแต่มันรักษาได้ คุณคบกับเธอมานานแค่ไหนแล้ว คุณควรบอกเธอให้ไปพบแพทย์บ้างไม่ได้พูดเพราะผมเกลียดเธอ แต่พูดเพราะเห็นเธอเป็นเพื่อนกับคุณต่างหาก "
" ค่ะไว้ฉันจะลองดู "
" รหัสห้องก็เปลี่ยนซะนะ สนิทกันขนาดไหมก็ควรมีพื้นที่ส่วนตัวกันบ้าง "
" รับทราบค่ะคุณหมอ ทานข้าวกันเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันไปส่ง "
" ไม่ต้องครับแค่นี้ก็รบกวนมากแล้วผมกลับเองได้ "
" ตามใจคุณหมอเลยค่ะ อ้อรอลิตาแป๊ปนะคะ " ระหว่างที่ผมรอก็สำรวจห้องไปพลางๆ ห้องดูสะอาดเป็นระเบียบมาก
" นี่ค่ะเสื้อลิตาซักแล้ว "
" ถึงว่าหอมเชียว ไม่รู้ว่าคนซักจะหอมเหมือนเสื้อหรือเปล่า " ผมเห็นเธอหน้าแดงไปถึงหูเลย
" เอ่อ นี่ก็ค่ำแล้วคุณหมอกลับเถอะค่ะลิตาไม่ลงไปส่งนะ " พูดจบเธอก็ดันตัวผมออกจากห้องแล้วปิดประตูใส่เฉยไล่ผมดื้อๆ งี้เลยหึหึ..ฝากไว้ก่อนเถอะ ผมก็ได้แต่ขำสงสัยจะดื้อน่าดู...