ร้านขนมไทยบ้านน้องเรียว
"แม่ขึ้นไปพักเถอะเดี๋ยวแพรวเก็บร้านเอง"
ฉันพูดกับแม่หลังจากที่ขนมที่ทำวันนี้ขายหมด ร้านนี้เป็นร้านขนมไทยของแม่ฉันเองค่ะจากที่เมื่อก่อนชื่อร้านเป็นชื่อของฉันตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นชื่อของแก้วตาดวงใจอีกคนของแม่ฉันไปแล้ว
"ไม่เป็นไรลูกช่วยกันเก็บจะได้เสร็จเร็วๆนี่ก็ใกล้เวลาที่ตัวแสบจะกลับมาแล้วขืนเก็บช้าเดี๋ยวได้มาป่วนกันพอดี"
แล้วคนที่แม่ฉันกำลังพูดถึงคือน้องเรียวค่ะ เด็กชายพิชานนท์ จิรภักดิ์ ลูกชายคนเดียวของฉันเองคงไม่ต้องถามหรอกนะคะว่าพ่อของลูกฉันเป็นใครฉันไม่อยากพูดถึงเขาเท่าไหร่แต่ที่ต้องตั้งชื่อลูกคล้องจองกับชื่อเขาทั้งชื่อจริงชื่อเล่นก็เพราะฉันอยากขอบคุณเขาที่เขาทำร้ายฉันจนเกิดสิ่งมีค่านี้กับฉันเพราะถ้าวันนั้นฉันไม่รู้ว่ามีน้องเรียวอยู่ในท้องฉันคงตายไปแล้วหลังจากเหตุการณ์วันนั้นที่ฉันหนีออกมาจากบ้านเขาได้ฉันก็หอบร่างอันสบักสบอมของฉันกลับมาหาแม่ฉันที่บ้าน
แวบแรกที่แม่ฉันเห็นสภาพของฉันแม่ฉันแทบช็อกแล้วก็เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดที่ฉันดันท้องๆกับคนที่เห็นฉันเป็นคนผิดคนไม่ดีฉันเสียใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภาพเหตุการณ์ต่างๆที่เขาทำกับฉันมันตามหลอกหลอนฉันแม้กระทั่งยามหลับ พอท้องก็ตกเป็นขี้ปากชาวบ้านฉันสงสารแม่ที่ทำให้ท่านต้องมาอับอายจนฉันเครียดแล้วเก็บตัวอยู่คนเดียวไม่ยอมเจอหน้าใครขนาดวันที่รับปริญญาฉันยังไม่ไปรับเลยแล้วฉันก็มีภาวะโรคซึมเศร้ารุมเล้าจนเกือบจะทำอะไรบ้าๆลงไปดีที่แม่ฉันมาเจอเข้าซะก่อนแล้วท่านก็เตือนฉันว่าถ้าฉันทำฉันไม่ได้ตายแค่คนเดียวแต่ฉันกำลังจะทำร้ายอีกหนึ่งชีวิตในท้องของฉันที่เขาไม่รู้เรื่องอะไรกว่าฉันกับแม่จะผ่านช่วงเวลานั้นมาได้เราต้องทุกข์ทรมานกันมากแต่พอน้องเรียวลืมตาขึ้นมาโลกทั้งใบของฉันมันก็สว่างขึ้นมาอีกครั้ง
ฉันกับแม่ย้ายบ้านมาอยู่ที่ใหม่ที่ไกลจากสังคมเดิมผู้คนเดิมๆที่ตราหน้าฉันว่าแรดว่าร่านจนท้องไม่มีพ่อฉันกับแม่ขายบ้านหลังเดิมที่เคยอยู่แล้วมาซื้อตึกแถวเล็กๆอยู่ชั้นล่างก็เปิดเป็นร้านขนมไทยโดยเปลี่ยนชื่อร้านจากพิริสาขนมไทยเป็นขนมไทยบ้านน้องเรียวส่วนชั้นบนก็เอาเป็นที่พักอาศัยของเราสามคนโชคดีที่ฝีมือแม่ฉันเป็นที่ติดใจของลูกค้าอยู่แล้วขนาดย้ายมาที่นี้ลูกค้าเก่าของแม่ที่เขารู้ก็ตามมาอุดหนุนลูกค้าใหม่ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆมีร้านค้าร้านขนมร้านกาแฟมารับขนมจากที่ร้านฉันไปขายอีกมากมายแล้วฉันก็ยังรับทำงานจัดเลี้ยงต่างๆอีกด้วย
ร้านของฉันเปิดตั้งแต่หกโมงเช้าพอบ่ายแก่ๆก็ขายหมดแล้วตัวฉันเองก็อยากทำเพิ่มนะแต่กลัวว่าแม่จะเหนื่อยเศรษฐกิจตอนนี้อะไรก็แพงรายได้จากร้านทางเดียวฉันคิดว่ามันไม่พอเลยคิดจะออกไปหางานประจำทำฉันเรียนจบบัญชีมาไปสมัครงานไว้หลายที่แล้วเหมือนกันแต่ยังไม่มีที่ไหนเรียกเลย
"แม่ถ้าแพรวได้งานประจำเราเปิดร้านแค่ครึ่งวันก็พอเนอะแม่จะได้ไม่เหนื่อย"
"แม่ไม่เหนื่อยหรอกลูกหนูต่างหากที่เหนื่อยถ้าต้องออกไปทำงานประจำอีก"
"ไม่ทำก็ไม่ได้หรอกแม่อีกเดี๋ยวน้องเรียวก็จะต้องเข้าโรงเรียนแพรวอยากให้ลูกเรียนโรงเรียนดีๆ"
"ก็แล้วแต่ลูกก็แล้วกันถ้าไหวก็ทำว่าแต่ที่สมัครไปมีที่ไหนติดต่อมาบ้างล่ะ"
"ยังเลยค่ะแม่แพรวก็รอๆทุกวันๆไม่เห็นมีที่ไหนเรียกเลย"
นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ฉันกังวลฉันยื่นใบสมัครไปตั้งหลายที่แต่ไม่มีที่ไหนเรียกฉันเลยน่ะสิ
"พาสุดหล่อมาส่งแล้วครับ"
ระหว่างที่ฉันกับแม่ช่วยกันเก็บของแล้วก็คุยกันอยู่นั้นเสียงของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้นมา
"โอ้โห!! ซื้ออะไรมาเยอะแยะคะเนี้ย"
พี่มาร์คค่ะเพื่อนบ้านฉันเองเพื่อนข้างบ้านที่บ้านเก่าของฉันครอบครัวพี่มาร์คเป็นครอบครัวเดียวในระแวกนั่นที่ไม่พูดจาว่าร้ายฉันตอนฉันท้องแต่กลับเป็นครอบครัวเดียวที่ช่วยเหลือฉันกับแม่มาตลอดรวมทั้งตึกแถวตึกนี้ด้วยมันเป็นของครอบครัวพี่มาร์คค่ะเขาขายให้ฉันถูกๆเลยและพอคลอดน้องเรียวพี่มาร์คก็ดูจะเห่อหลานคนนี้เอามากๆรวมทั้งคุณพ่อคุณแม่พี่มาร์คด้วย
แล้ววันนี้เขาก็รับน้องเรียวไปหาคุณพ่อคุณแม่เขามาขากลับก็อย่างที่เห็นของเล่นขนมเสื้อผ้าพี่มาร์คเปย์น้องเรียวอีกแล้วจนฉันต้องพูดปรามขึ้นมา
"แค่นี้เองแพรวแล้วอีกอย่างพี่ไม่ได้เป็นคนซื้อคุณปู่คุณย่าต่างหากที่ซื้อให้น้องเรียว"
พี่มาร์คส่งน้องเรียวที่หลับอยู่บนไหล่เขาให้แม่ฉันก่อนที่จะคุยกับฉันสงสัยเที่ยวจนเพลียเลยตัวแสบ
"ถึงอย่างนั่นก็เถอะค่ะเแพรวเกรงใจคุณลุงคุณป้ากับพี่มาร์คจะแย่แล้วแล้วนี่ไปไหนกันมาบ้างคะเนี้ยกลับมาหลับปุยเชียว"
ฉันถามพี่มาร์คออกไปเพราะดูท่าแล้ววันนี้น้องเรียวคงเที่ยวเยอะแน่ๆถึงได้หลับไม่รู้เรื่องแบบนี้
"ไปเดินเล่นที่ห้างแหละแม่พี่เขาไปเห็นเสื้อผ้าเด็กคอลเล็กชั่นใหม่มาเลยอยากพาเรียวไปเปย์ได้ชุดหล่อมาเยอะเลย"
"เฮ้อ!!แพรวไม่รู้จะขอบคุณพี่มาร์คกับคุณลุงคุณป้ายังไงแล้วนะเนี้ย"
"คิดมากน่าเรา! แล้วนี่สมัครงานไว้ได้ที่ไหนรึยัง"
"ก็พึ่งคุยกับแม่เรื่องนี้ไปเหมือนกันยังไม่มีที่ไหนเรียกแพรวเลยน้องเรียวก็โตขึ้นทุกวันๆค่าใช้จ่ายก็เยอะขึ้นแพรวละอยากได้งานเร็วๆ"
"ไปสมัครที่บริษัทเจ้านายพี่ไหมได้ยินมาว่าฝ่ายบัญชีจะลาออกคนหนึ่งนะแพรวลองไปสมัครดูไหม"
บริษัทเจ้านายพี่มาร์คงั้นเหรอน่าสนใจอยู่นะพี่มาร์คทำงานอยู่กับอัศวะกรุ๊ปบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ทำเกี่ยวกับธุรกิจโรงแรมที่มีหลายแห่งทั่วประเทศฉันรู้แค่นี้แหละไม่รู้หรอกว่าใครเป็นเจ้าของเพราะตลอดเวลาหนึ่งปีมานี้ฉันไม่ได้สนใจตามข่าวคราวอะไรเลยโดยเฉพาะข่าววงการธุรกิจ
"น่าสนใจค่ะพี่มาร์คแต่ว่าบริษัทใหญ่ขนาดนั้นเขาจะรับแพรวเหรอแพรวไม่มีประสบการณ์การทำงานเลยนะ"
"ลองไปสมัครดูเดี๋ยวพี่ช่วยคุยกับคุณแบมให้เพราะคุณแบมเป็นรุ่นน้องพี่แต่เธอโชคดีได้เป็นคู่หมั้นเจ้านายพี่เดี๋ยวพี่ให้คุณแบมเขาช่วย"
"หูย!!เดี๋ยวก็มีคนว่าแพรวเป็นเด็กเส้นสิ"
"สมัยนี้อยากได้งานดีๆเขาก็ใช้เส้นสายทั้งนั้นแหละเอาเป็นว่าพรุ่งนี้พี่มารับแพรวเตรียมตัวเลยก็แล้วกัน"
หลังจากที่พี่มาร์คกลับไปฉันก็เตรียมเอกสารที่จะใช้ไปสมัครงานกับพี่มาร์คพรุ่งนี้ขอให้ได้งานที่นี้ทีเถอะเพราะบริษัทใหญ่ขนาดนั้นเงินเดือนต้องสูงแน่ๆ
อัศวะกรุ๊ป
"เดี๋ยวแพรวขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นสองนะไปที่ฝ่ายบุคคลไปกรอกใบสมัครขึ้นไปเองได้ใช่ไหม"
"สบายมากไม่ต้องห่วงพี่มาร์คไปทำงานเถอะ"
"โอเค! ที่จริงพี่ก็บอกคุณนุดีหัวหน้าฝ่ายบุคคลไว้แล้วว่าน้องสาวพี่จะมาสมัครแพรวไปหาคุณนุดีได้เลยเดี๋ยวพี่ต้องรีบขึ้นไปพบเจ้านายไม่รู้มีเรื่องด่วนอะไรเรียกพี่แต่เช้า"
หลังจากที่คุยกับพี่มาร์คเสร็จฉันกับพี่มาร์คก็แยกย้ายกันฉันเดินไปกดลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังชั้นสองตามที่พี่มาร์คบอกจังหวะนั้นมีคนกำลังขึ้นลิฟต์พอดี เอ๊ะ!!ประตูลิฟต์กำลังจะปิดไม่ได้การฉันต้องรีบวิ่งไปให้ทันเขาจะได้ไม่ต้องยืนรอนาน
"ขอโทษนะคะรอด้วยค่ะ"
โชคดีที่คนในลิฟต์รอฉันเขากดเปิดประตูลิฟต์รอฉันจนฉันเข้ามาทัน
"ขอบคุณมากนะคะ...นาย"
"เธอ!!"