Ep.5 : ก็แมนๆไปเลย

3002 คำ
หลังจากเกิดเรื่องวันนั้น การ์ดมากมายก็ถูกส่งมาเฝ้าที่หน้าร้านของฉัน ซึ่งฉันได้รู้จากคุณอัคคีเพื่อนสนิทของเขา ว่าการ์ดทั้งหมดเป็นคนของคุณหมอก ไม่ใช่ของคุณอัคคี แถมคนที่ชื่ออัสนียังคงส่งของไปหลอนฉันที่คอนโดอีกเป็นระยะ ชีวิตปกติของฉันอยู่ไหนนนนนน!!!!!! ชีวิตปกติของฉันหายไป พร้อมกับคุณหมอกด้วย เขาหายไปเหมือนตายมา เกือบสองอาทิตย์แล้ว การ์ดหน้าร้านที่ส่งมาก็แทบจะไม่ตอบอะไรฉันเลย ตึ๊งงงง~* ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดไลน์ที่กำลังแจ้งเตือน Tangmay Chat Line Tangmay : ฉันกำลังไปหาแกนะ จองตั๋วละ อาทิตย์หน้า Me : โอ๊ยยยย คิดถึงจัง Tangmay : นี่ แกรู้อะไรมะ อีพี่กอล์ฟ แม่งยังมาถามหาแก กับฉันอยู่เลยว่ะ Me : ช่างเขา ฉันบอกเลิกเขาไปแล้ว Tangmay : แกเลิกกับมัน แต่มันไม่เลิกเนี่ยดิ เออช่างมัน อย่าไปใจอ่อน Tangmay : ไง แล้วที่นั่นมีคนหล่อ ๆ บ้างปะ Me : คือ ดี มีแต่ขาว ๆ ฮ่ะ ๆ รีบมา ฉันเหงาจะแย่อยู่ละ Tangmay : โอ๊ย อยากเลื่อนไฟล์ทไปพรุ่งนี้เลย เมื่อได้ยินคำว่าขาว Me : เอออ รีบมา ถึงแล้วโทรมานะ ฉันจะขับรถไปรับที่สนามบิน จบการสนทนา นี่คงจะเป็นความปกติที่สุดที่ฉันจะมีได้ มันยังจะอันตรายอยู่ไหมนะ แต่การ์ดหน้าร้านเยอะขนาดนี้คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ให้ฉันได้มีความปกติสุข ในชีวิตหน่อยเถอะนะ ไม่กี่วันต่อมา....... ความปกติของชีวิตฉันมันปกติได้แปปเดียว เมื่อการ์ดปล่อยให้ผู้ชายท่าทางแปลก ๆ ใส่หมวกตกปลาปิดจนแทบไม่เห็นหน้าเข้ามาในร้าน คิดในแง่ดีเขาอาจจะเป็นคนที่ขี้อายมาก ๆ ผมขาวอะ แก่แล้วหรอ ฉันสบสายตา PR สาว ๆ ให้มาดูแลแขก แต่แขกคนนั้นกลับเรียกฉันแทน “ไม่ต้องเรียก เพราะผมมาหาคุณ นั่งสิ” เสียงทุ้มต่ำแบบนี้!!! ไม่น่าล่ะ การ์ดให้ผ่านเข้ามาได้ยังไง ที่แท้ก็เจ้านายตัวเอง “บนตักหรือที่โซฟาคะ” ฉันแกล้งแย่ คนที่เข้ามาหลอกว่าเป็นลูกค้าให้ฉันเปลืองโต๊ะ “บนตัก” ฉันนั่งลงบนตักของเขาอย่างว่าง่าย จะคุยกันให้ได้ยินชัด ๆ ก็ต้องใกล้เบอร์นี้แหละนะ “อย่าถอดหมวกออกมานะคะ ฉันกลัวจะมีพวกมันอยู่ในร้านด้วย เจ้าของร้านหลาย ๆ ร้านในแถวนี้ แวะเวียนมาที่นี่บ่อย ๆ ฉันกลัวคุณไม่ปลอดภัย” ฉันกระซิบที่ข้างหูของเขาเบา ๆ พร้อมกับหันซ้าย หันขวาเพื่อดูว่ามีคนแปลก ๆ แถว ๆ นี้ไหม ตอนนี้ไม่ไหว้ใจอะไรทั้งนั้นอะ “ห่วงตัวเองเถอะ” “ก็คุณมาคนเดียว ที่นี่ฉันมีคนตั้งเยอะ ก็ต้องห่วงคุณซิ” “ชอบถุงน่องตาข่าย” อีตาโรคจิต!!!!!! “ฉันให้คุณเอาไว้ใส่สักคู่ดีไหม ฉันต้องลุกแล้ว ปกติฉันไม่นั่งกับแขก หรืออกไปกับแขก” ฉันพยายามจะลุกขึ้น แต่กลับถูกเขาดึงตักเอาไว้ “งั้นคืนนี้ผมเหมาคุณเลยแล้วกัน” “ไม่ได้!!! ฉันสร้างมาตรฐานให้ตัวเอง ไม่งั้นแขกที่มาก็ต้องเหมาฉันเหมือนคุณแน่” “งี่เง่า...วุ่นวาย ถ้าผมไม่ปล่อย คุณก็ไปไหนไม่ได้อยู่ดี” เสียงกระซิบเบา ๆ ที่หลังหู มันทำเอาฉันขนลุก แต่เขาไม่พูดเปล่า ประทับริมฝีปากที่คอของฉัน แล้วออกแรงดูดอย่างแรง เดี๋ยว!!!!! คุณทำอะไรของคุณเนี่ยยยยย ดูดแรงแบบนี้เป็นรอยแดงแน่ ๆ “คุณทำแบบนี้ทำไม” ฉันรีบเอามือมาปิดรอยบนคอของตัวเองเอาไว้ ทำแบบนี้ฉันโกรธจริง ๆ นะ ฉันไม่ใช่ของเล่นสนุกของคุณนะ ฉันผลักเขาออกอย่างแรง “ถือเป็นค่าตอบแทนที่ผมตามส่งคุณทุกวันก็แล้วกัน แต่ถ้าคุณคิดจะปิดรอยนี้ของผม เราได้เห็นดีกันนะ” “มันเป็นรอยแดงแบบนี้ จะให้ฉันเดินไปไหนมาไหนด้วยรอยแบบนี้ คนจะมองฉันเป็นคนยังไง ฉันไม่อยากคุยกับคุณละ ฉันไม่สนุกด้วยหรอกนะ คุณทำแบบนี้ทำไม” ฉันพยายามจะลุก แต่เขากลับไม่ให้ฉันลุก “ผมแสดงความเป็นเจ้าของไง” “แต่คุณไม่ใช่เจ้าของฉันนะ” “อยากให้ผมเป็นรึเปล่า” ใครจะไปอยากให้คุณเป็นกัน ทำไมถึงมายัดเยียดความคิดของตัวเองให้ฉันแบบนี้ โกรธ โกรธมากจริง ๆ เขาอาจจะทำแบบนี้กับผู้หญิงมาแล้วมากมาย แต่คนนั้นต้องไม่ใช่ฉัน “ขอโทษค่ะ ตอนนี้เวลางาน ฉันไม่สามารถตอบได้ตอนนี้” ฉันลุกขึ้นจากตักของเขา โดยที่เขาก็ยอมปล่อยฉันไปแต่โดยดี ฉันทักทายแขกในบรรดาแขก Vip โดยที่ไม่เฉียดเข้าไปใกล้ใครอีกเลย คุณกำลังทำให้ฉันสับสน ฉันอาจจะโง่เอง ที่ไม่เข้าใจอ่า ว่าสิ่งที่คุณทำมันคืออะไร ว่าคุณจีบ หรือแค่สนุกขำ ๆ ถ้าแค่สนุกก็หยุดมันแค่ตรงนี้เลย เพราะฉันไม่สนุกด้วย เพราะแค่ฉันอยู่ใกล้คุณ หัวใจมันก็เต้นแรงแล้ว โอ้ยยย ใจง่าย ใจง่ายเกินไปแล้วเมล คืนนี้เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง ฉันขอให้พี่อายเรียกอีตาแขกใส่หมวก ขึ้นไปข้างบนให้ฉันหน่อย ฉันอยากคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว ฉันเข้ามารอในห้องพักพนักงานที่ยังว่างอยู่ พอเขาเปิดประตูเข้ามา ฉันก็ใส่เขาทันที “คุณทำแบบนี้ทำไม เห็นไหมมันมีรอยแดง แล้วถ้าแขกคนอื่นทำตามฉันจะทำยังไง พวกผู้ชายแบบคุณ คิดว่าผู้หญิงอย่างฉันง่ายนักใช่ไหมห๊าาาาาา เมื่อกี้อยู่ข้างล่างฉันด่าไม่ได้ ตอนนี้จะด่าให้หูชาเลย” “ไม่ได้คิดว่าง่าย แค่ไม่อยากให้ใครยุ่งไง” “คุณหมอกกกก ฉันไม่สนุกด้วยนะ ไหนคุณบอกไม่ชอบฉัน ก็อย่ามาแกล้งฉันแบบนี้ ฉันไม่สนุกด้วยนะ เดี๋ยวมาทำดี เดี๋ยวมาด่า เดี๋ยวก็บอกไม่ชอบ เดี๋ยวก็มาทำตัวเป็นเจ้าของ ฉันไม่ใช่ของเล่นของคุณหรอกนะ” เคลียร์เอาให้เคลียร์ “ไม่คิดอะไรจะตามไปส่งทำไมทุกวัน” “ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าคุณส่งจริง อาจจะโกหกก็ได้” ผู้ชายส่วนใหญ่ก็ชอบโกหกกันทั้งนั้น “ไม่ติดอะไรทำไมต้องตามดูแล” ดูแลงั้นหรอ?? “ไม่คิดอะไรทำไมวันนี้ต้องมาหา” แต่คุณหายไป 2 อาทิตย์ แล้ววันนี้กลับมา หมายความว่าไง “ไม่คิดอะไรทำไมต้องห่วง” เขาดูจริงจังจังเลย แววตาที่ซ่อนเอาไว้ใต้ปีกหมวก มันกำลังทำเอาฉันใจเต้นตึกตักอีกแล้ว “ไม่คิดอะไรทำไมผมต้องยอมเจ็บตัวเพื่อคุณ” ไม่มีความคิดใดดังขึ้นมาในหัว นอกจากเสียงหัวใจที่ดัง ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก “ไม่คิดอะไรทำไมผมต้องมาอธิบาย” “แล้วคุณคิดอะไรคะ” ฉันถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ “คิดถึง ตอบแบบนี้ได้ไหม” ฮึ่ยยยยยย มองต่อไม่ไหวแล้ววววววววววววว หัวใจเต้นเบากว่านี้หน่อย ไม่งั้นเขาจะได้ยินนะ “ไหนบอกไม่ชอบฉัน” “ไม่ชอบคนที่ชอบยั่วคนอื่นไปทั่ว แต่ชอบคนที่ยืนด่าผมฉอด ๆ อยู่นี่ ผมบอกว่าไม่ชอบผู้หญิงแรด” “แต่ฉันไม่ชอบคุณ อกหักไปซะ” ฉันรีบดันเขาออก เพราะทำอะไรไม่ถูก แต่เพราะฉันผลักเขาออก เขาถึงถอดหมวกที่มันปิดหน้าเขาออกฉันถึงได้เห็นสิ่งที่เปลี่ยนไป สีผมของเขาเปลี่ยนไป ทรงผมก็เปลี่ยนไป “ผมคุณ!!!” “รู้ไหม ผมจัดการกับคนที่หักอกผมยังไง” เอาอีกแล้วเขาแกล้งฉันแบบนี้อีกแล้ว เขาเดินเข้ามาใกล้ จนฉันต้องเดินถอยหลัง ยิ่งถอยเขาก็ยิ่งใกล้ ฉันถอยจนไปติดกำแพง แต่เขาก็ยังเอาหน้าเข้ามาใกล้ มือของฉันเลยต้องยกขึ้นมาปิดปากโดยอัตโนมัติ “อย่านะครั้งนี้ฉันจะโกรธจริง ๆ นะ” “เป็นของผมซะดี ๆ อย่าให้ผมต้องใช้กำลังเลย” เขาจะขืนใจฉันหรอ ไม่นะเตียงก็อยู่ข้าง ๆ แค่นี้ กรี๊ดดดดดด อย่านะ อีตาบ้าาาา ฉันมองหาอาวุธแล้วทางหนีทีไล่ ที่จะหนีเขาไปรอบ ๆ ห้อง “สัญญาว่านะนุ่มนวลกว่าทุกคนที่คุณผ่านมา” “ไม่ตลกนะ ฉันยังไม่เคยผ่านใครมากทั้งนั้น ถ้าเข้ามาอีกนิดเดียวฉันจะร้องให้คนช่วย อย่าแกล้งกันแบบนี้ ฉันกลัวจนจะร้องไห้แล้วเนี่ย” อีตาบ้ากลัวจริง ๆ แล้วนะ แกล้งหรือเอาจริงเนี่ย สับสนไปหมด กลัวด้วย น้ำตาอุ่น ๆ มันเริ่มคลออยู่ในลูกตา “ไม่แกล้งแล้ว ไม่แกล้งแล้ว แกล้งนิดเดียวขี้แยจังเลย ก็นึกว่าจะเก่งจริง ที่แท้ก็เด็กขี้แย” “เพราะฉันไว้ใจคุณต่างหาก” “ใครเขาให้มาไว้ใจคนที่ไม่ควรไว้ใจแบบผม ในโลกของคุณ ผมเนี่ยคือคนที่คุณไม่ควรไว้ใจที่สุด แล้วผมไม่อนุญาตแล้วนะ ให้เธอไปนั่งตักลูกค้าอะ” “ใช้สิทธิ์อะไรไม่ทราบ” “คุณทำแบบนี้ก็ไม่ต่างจากPR คนอื่น จะต่างก็แค่สีชุด ลูกค้าจะทำอะไรกับคุณก็ได้ แบบนี้เราจำกัดความเสียหายไม่ได้ ผมใช้วิธีมีที่ประจำของเราเอง แล้วให้ลูกค้าเดินเข้ามาหาเราเอง แบบนี้เราจำกัดความเสียหายได้ อย่างน้อย ไม่มีใครลวนลามคุณได้” “อ่ออออ ดี ๆ ฉันเคยคิดเหมือนกัน แต่ไม่กล้าทำเพราะกลัวเข้าไม่ถึงลูกค้า” “สวยแบบนี้ ไม่มีลูกค้าคนไหนไม่อยากเข้าถึงหรอกรู้ไว้” คุณหมอกช้อนคางฉันให้ฉันมองเขา อื้มมมม ทรงนี้ยอมรับเลยดีงามมากเลย ตาที่ดูจริงจังนี้มันชวนหลงไหลจังเลย ถูกมองตาแบบนี้เหมือนถูกสะกดให้มองแต่เขาเลย ใคร ๆ ก็อยากเข้าถึงฉันงั้นหรอ แล้ววว........ “แล้วคุณอยากเข้าถึงฉันไหม” อุ๊ปซ์....ฉันเผลอพูดอะไรออกไป ตายแล้วฉัน น่าอายที่สุด สรุปเราชอบอีตาบ้านี่รีไงนะ แต่ตอนนี้ฉันอยู่ตรงนี้ไม่ได้แล้ว ฉันรีบหนีออกจากห้องทันที เพราะตอนนี้หัวใจของฉันเต้นรัวเป็นกลองเลย อาทิตย์ต่อมา.... ฉันไปรับเพื่อนสาวคนสนิทที่สนามบิน ที่บินมาจากกรุงเทพเพื่อมาเที่ยวที่ร้านของฉันเลย ฉันเดินนำเพื่อนตัวดีไปที่รถ “คืนเดียวเอาของมาเยอะจัง” “ไม่เยอะเลย ฉันมาเพื่อตี้!!! ว่าแต่อีเมลนี่หน้าร้อน ทำไมมึงใส่คอเต่า???” “ก็แค่อยากใส่ไง” จะบอกได้ไงว่าเพื่อปิดรอยแดงที่ถูกคนบ้าทำเอาไว้ ฉันต้องรีบเอามือขึ้นมานาบหัวใจแล้วกดเอาไว้ทันที เพราะแค่คิดถึงเขาหัวใจมันก็เต้นผิดจังหวะ จนต้องกดให้เจ็บเพื่อให้มันเต้นปกติ ฉันมาตังมาที่คอนโดก่อน เพื่อเก็บของ แล้วก็นั่งเม้าส์กันถึงเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคนอื่น อะเรียกง่าย ๆ ว่านินทานั่นแหละ เรื่องผู้ชายของมัน และเรื่องผู้ชายของฉัน “อีพี่กอล์ฟ มาหาฉันทุกวัน บอกเลิกแล้ว เลิกเจ้าชู้เด็ดขาดแล้ว แกคือผู้หญิงคนเดียวที่มันอยากแต่งด้วย อย่าใจอ่อนนะมึง ทำได้มาตั้ง 2 เดือนแล้ว” เปล่า ทุกวันนี้ฉันไม่เคยคิดเรื่องผู้ชายคนนั้นเลย หมดรักไปแล้วรึไม่คงไม่ แต่แค่ฉันมีเรื่องให้คิดมากกว่า พรุ่งนี้จะตายไหม พรุ่งนี้ฉันจะถูกกลั่นแกล้งอะไรอีกไหม อยู่ที่นี่มันเถื่อน ฉันกำลังปรับตัว จากที่โดนแกล้งรับมือไม่ได้ แต่ตอนนี้แกล้งมา แกล้งกลับไม่โกงนะ “แกดูไม่ได้คิดถึงอีพี่กอล์ฟแล้วนิหว่า” “เออ ทุกวันนี้คิดว่า จะเอาเงินไหนจ่ายค่าคอนโดว้า พรุ่งนี้ร้านฉันจะโดนแกล้งอีกไหมว้า” “มึงงงงงง กูลืมไปเลย นี่ ๆ ๆ คอลเลคชั่นใหม่ กูซื้อมาฝาก คืนนี้เราจะใส่คู่ในได้พาร์...ตี้ เราจะเป็นฝาแฝด เดินเฉิดฉายอยู่ในร้าน ไปเลย ไปลองมาให้กูดูหน่อย” ตังรื้อกระเป๋าแล้วส่งถุงชุดมาให้ฉัน เอามาให้วันนี้ ใส่วันนี้ กะไม่ให้ซักเลยดิ ฉันรับชุดจากตังแล้วเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ ก่อนจะออกมาให้คนที่เจ้ากี้เจ้าการเรื่องชุดดู ตังเดินเข้ามาดูฉันแล้วจับหมุนไปรอบ ๆ ตัว “อีเมล ใครดูด มึงมีผู้ใหม่แล้วใช่มะ เหลามาทำไมไม่เห็นเคยเล่าวะ” ตังผลักหัวของฉันให้เอียง เพื่อจะดูรอยที่คอชัด ๆ ชิหายเลี้ยววววว ลืมมมมม “หรือลูกค้ามึง” “แกจะบ้าหรอออออ ไม่ใช่ อันเขาแค่แกล้ง ๆ กันเฉย ๆ ไม่มีอะไร” สมัยตอนเรียน พวกที่ตอบแบบนี้ ฉันรู้เลยมันตอแหลแน่ ตอนนี้ฉันดันเป็นซะเอง “อีเมลลลล ใครเขาแกล้งกันแบบนี้ แล้วอีที่แกล้งมึงอะ หล่อไหม” “เออ หล่อ มึง อย่ามาชวนกูบ้าผู้ชายได้ไหม” “ไหน ๆ มีรูปปะ หรือไม่ก็โทรเรียกมาเลย กูอยากเห็น แฟนใหม่หรอ” ตังรัวคำถามมาเป็นชุดด้วยความตื่นเต้น “รูปไม่มี ไม่เคยถ่าย เรียกมาไม่ได้เพราะไม่ใช่แฟน เขาจีบรึเปล่ายังไม่รู้เลย” “เรียกมา กูสแกนให้ ว่าจีบรึเปล่า กูเนี่ยผู้เชี่ยวชาญเลยนะ” แล้วอีตังก็ทำท่าขยับแว่น แล้วเชิ่ดขึ้น โดยที่มันไม่มีแว่นก็ตาม จะเรียกจริงหรอ ไม่เอาอะ ไม่เอาดีกว่า เอามาก็วุ่นวายเปล่า ๆ วันนี้ฉันจะได้สนุกกับเพื่อนให้เต็มที่ด้วย แต่แล้ว....... @ร้านเมรัย 22:01น. “มึงอย่างกับร้านปลุกใจเสือป่า ผู้ชายเยอะอะมึง อยู่กับความสวยความงามของชีวิตคือดีอ่า ม่ะ..ขอเซลล์ฟี่หน่อย ยิ้มสวย ๆ ชีสสสสส” แชะ!!! แล้วตังเองก็ถ่ายอีกหลายรูป ผู้หญิงกับเซลล์ฟี้ละนะของคู่กัน แล้วจู่ ๆ ชายสวมหมวกตกปลาใบโตก็เดินขึ้นมาที่ชั้นสอง เมื่อวานก็มา วันนี้มาทำไมอีก ไม่มีงานมีการทำรึไง ฉันหลบหลังเพื่อนสาว เพื่อไม่อยากให้เขาหาฉันเจอ “ดีใจจังวันนี้ไม่เจอในชุดกระต่าย” เสียงทุ้มต่ำ ทำเอาฉันรู้ว่าเขาหาเราเจอแล้ว “อีเมล คนนี้หรอ” เสียงกระซิบถามเบา ๆ จากตัง ทำเอาฉันต้องฟุบให้ต่ำลง “ไล่ออกไป บอกฉันอยู่ที่นี่ บอกฉันตายห่าไปแล้ว” “เชิญนั่งก่อนค่ะ ดื่มอะไรดีคะ” เดี๋ยว ๆ ๆ แกชวนเขานั่งทำไม!!!! อีเพื่อนทรยศ พอฉันรู้ว่าหนีไม่พ้นแล้ว ถึงได้ขึ้นมานั่งตัวตรง เพื่อเจอกับแขกที่ทำตัวลึกลับ จนหน้าสงสัยกว่า กว่าแขกปกติเสียอีก “ไม่ทำงานหรอคะ ถึงว่างมาได้ทุกวัน” “มีที่ไหน เจ้าของร้านถามลูกค้าแบบนี้” แต่ทำไมเราถึงไม่กล้ามองหน้าเขาล่ะ เพราะเมื่อวานดันพูดอะไรน่าอายออกไปนะสิ อยู่ใกล้คุณฉันไม่เป็นตัวเองเลย “ฉันชื่อตังค่ะ เป็นเพื่อนสนิทซี้ปึ้กของยัยเมล แล้วคุณคือออ....???” “ครับผมชื่อหมอก ยินดีที่ได้รู้จัก” “คุณจะไม่ถอดหมวกออกหน่อยหรอคะ ฉันจะรู้จัก คงจะเป็นแค่หมวกของคุณ” “ใส่ไว้แบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว” ฉันสบถขึ้นมาเบา ๆ “ทำไมหวงหรอ ถ้าตอบว่าหวงจะไม่ถอด...ดีมะ” คุณหมอกยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำให้ฉันต้องเบะปากใส่เขาทันที หลงตัวเองเกินไปมะ ทำไมฉันต้องไปหวงคุณ บ้า...แค่ห่วงกลัวว่าจะเจ็บตัวเพิ่มก็แค่นั้น ๆ แล้วคุณหมอกก็ค่อย ๆ ถอดหมวกของตัวเองออก ก่อนจะค่อย ๆ ให้มือลูบผมตัวเองไปด้านหลังน้อย ๆ “มึงงงง....หล่อว่ะ คนนี้หรอที่ทำรอยบนตัวมึงอะ” “อีตัง เบา ๆ” ฉันหยิบเข้าที่แขนของเพื่อนสาวที่เสียงดังเกินไป ลืมไปแล้วรึไงเขานั่งอยู่ใกล้เราแค่นี้ “ก็ว่าอยู่ ว่าทำไมเพื่อนของฉัน ถึงได้เลิกกับแฟนแล้วไม่เสียใจเลย ที่แท้คนดามอกหล่อขนาดนี้ จีบเพื่อนฉันหรอคะ ถามแบบตรง ๆ แมน ๆ เลย” ตังถามออกไปโดยไม่คิดถึงฉันที่นั่งอยู่ตรงกลางเลย “พอเถอะอีตัง มันไม่ใช่แบบนั้นหรอก เขาเนี่ยคงมีสาวในสต๊อกเป็นเข่ง จะมาจีบฉันทำไม” “ใช่ผมจีบ ถามมาแมน ๆ ก็ตอบแบบแมน ๆ แล้วกัน” คำตอบที่ทำเอาฉันต้องหันขวับไปมองคนที่ถามด้วยความตกใจ แต่ได้เพียงแค่รอยยิ้มกวน ๆ กลับมาเท่านั้น อีกด้าน....... Tang May ?อยู่ที่ Meray Bar Chiangmai [ผู้เยอะสุด ๆ อู้วววว] “เมลไปเปิดร้านที่เชียงใหม่งั้นหรอ หึ” ชายหนุ่มมองโทรศัพท์แล้วยิ้มออกมา เพราะในที่สุดเขาก็รู้แล้ว ว่าหญิงสาวที่เคยเป็นของเขาตอนนี้หายไปไหน รอพี่ก่อนนะเมล พี่จะไปง้อเดี๋ยวนี้แหละ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม