ประมาณหกโมงเย็นของวันเดียวกัน อมเรศกลับจากทำงานตามปกติ เขารู้สึกแปลก ๆ ตั้งแต่เช้าที่ไปทำงานกระทั่งตอนนี้ ซึ่งกลับมาเรียบร้อยยังไม่ทันได้ขึ้นห้องแต่อย่างใด เพราะอมเรศอยากพักด้วยการนั่งดื่มน้ำหวานเย็น ๆ ถอดเสื้อสูทออกเหลือไว้แต่เพียงเสื้อเชิ้ต ท่ามกลางคนรับใช้ที่รายล้อมหลายคน เพื่อคอยดูแลเจ้านายหนุ่มตามคำสั่งของหม่อมอมรา แต่แล้วอารมณ์ผ่อนคลายมีอันต้องสะดุดลง เมื่อวัฒนะวิ่งเข้ามาหาด้วยอาการเดิม ๆ คือกระหืดกระหอบ
“คุณชาย!!! คุณชายครับ!!!” วัฒนะเรียกโดยไม่ทันได้มองว่าอมเรศได้ยินแล้ว แต่เรียกซ้ำเสียจนอมเรศชักสีหน้าเลยทีเดียว
“มีอะไรก็ว่ามา จะเรียกทำไมตั้งสองครั้ง” อมเรศว่า
“มีคนมาขอพบคุณชายครับ” วัฒนะบอกสั้นๆ พลางหายใจหอบ
“ใคร ? ผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่ฉันก็ไม่ได้นัดเอาไว้ทั้งคู่ มีธุระอะไรกับฉันบอกเอาไว้หรือเปล่า”
“บอกครับ เป็นผู้หญิงวัยประมาณยี่สิบกว่า ๆ แล้วก็เด็กผู้หญิงอีกคน ขาวหมวยน่ารักเลยครับ บอกว่ามีธุระกับคุณชายตอนนี้อยู่ที่หน้าบ้านผมยังไม่ให้เข้ามา”
“ฉันไม่มีธุระอะไรกับคนพวกนี้นะ ว่าแต่บอกชื่อหรือเปล่า”
“ไม่ได้บอกครับ แต่... เธอบอกว่ารู้จักกับเฮียย่งเส็งพี่ชายของคุณชายน่ะ”
สิ้นประโยคเท่านั้นแหละอมเรศก็ตาลุกวาวทันที ไม่ต้องสนว่าคนที่มาหาเป็นใครอีกแล้ว ขอแค่รู้จักกับพี่ชายของเขา เท่านี้ก็ให้พอ
“รู้จักกับเฮียเหรอ ไปตามมาพบฉันเดี๋ยวนี้เลย แล้วให้คนหาน้ำหาท่ามาต้อนรับด้วย” อมเรศบอกด้วยความร้อนใจทันที
“ได้ครับคุณชาย” ว่าแล้ววัฒนะก็รีบออกไปตามแขกที่ไม่รู้จักให้มาพบกับอมเรศในทันที
แขกแปลกหน้าผู้มาเยือน หนึ่งคือหญิงสาววัยยี่สิบห้า อีกหนึ่งคือสาวน้อยวัยสิบขวบ รูปร่างหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม ปากนิดจมูกหน่อย ผิวขาวราวกับหยวกกล้วย ทั้งคู่อยู่ในชุดที่แสนจะมอมแมม ไม่เหมือนคนที่อยากมาพบหม่อมราชวงศ์อมเรศอย่างเป็นทางการเลย
“ทางนี้เลย คุณชายอยู่ในห้องรับแขก” วัฒนะเป็นคนบอกพร้อมกับผายมือให้ทั้งคู่เข้าไปอย่างสุภาพ ท่ามกลางสายตาเหยียด ๆ ของคนรับใช้ที่เห็นการแต่งตัว แล้วประเมินล่วงหน้าว่าพวกมาขอเงินอะไรเทือกนั้น
“ขอบคุณจ้ะ” หญิงสาวเป็นคนกล่าว พร้อมกับจูงมือสาวน้อยที่มาด้วย ประหนึ่งพี่กับน้อง ในมืออีกข้างมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่คล้ายกับจะมาอยู่อาศัยเสียอย่างนั้น ทั้งคู่เดินตามวัฒนะมาจนถึงห้องรับแขกและเห็นชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟาที่หันหลังให้กับทางเข้า ทั้งคู่มองไปรอบ ๆ เหมือนคนกำลังตื่นตะลึงกับวังอันหรูหรา โอ่อ่า
“นั่นไงคุณชายอมเรศ หรือคุณชายอั้ม เข้าไปสิท่านรออยู่” วัฒนะบอกอีกครั้งแต่ก็ยังคงเดินนำเช่นเดิม เพราะสองพี่น้องยืนนิ่งไม่ยอมขยับ
“คุณชายครับ มาแล้วครับ” วัฒนะเข้ามารายงานเจ้านายหนุ่ม ก่อนจะคุกเข่าลงกับพื้นข้าง ๆ อมเรศ
“เรียกเข้ามาเลยจะรออะไร ฉันใจร้อน” เมื่ออมเรศเอ่ยเช่นนี้ วัฒนะจึงกวักมือเรียก ทั้งสองจึงได้เข้ามาในห้องรับแขก และเดินอ้อมๆ พร้อมกับก้มหลังเล็กน้อย เพราะรู้ดีว่าคนที่ตนมาพบนั้นเป็นถึงคุณชาย และด้วยความที่รู้จักมารยาท หญิงสาวที่ดูเหมือนจะเป็นพี่ก็คุกเข่ากับพื้นก้มหน้าเล็กน้อย พร้อมกับเรียกสาวน้อยแสนน่ารักมานั่งพื้นใกล้ ๆ จากนั้นจึงยกมือขึ้นไหว้อมเรศอย่างนอบน้อม
“สวัสดีค่ะ” หญิงสาวกล่าวทักทายก่อนพร้อมกับยกมือไหว้
“เราสองคนเป็นใคร ทำไมถึงบอกว่ารู้จักเฮียย่ง” อมเรศเริ่มยิงคำถามทันทีด้วยความร้อนใจ แต่พลันสายตาของเขาดันจับสังเกตไปที่สาวน้อยวัยสิบขวบ ว่ากำลังมีอาการคล้ายกับจะร้องไห้เมื่อเอ่ยถึงเฮียย่ง
“แล้วคุณชายรู้จักเฮียย่งจริง ๆ หรือเปล่าคะ” หญิงสาวย้อนถามเสียงสั่นเครือเช่นกัน
“ใช่ เฮียเป็นคนที่ฉันนับถือเหมือนพี่ชายแท้ ๆ แล้วเรามีความสัมพันธ์อะไรกับเฮียล่ะ” อมเรศถามแต่เธอไม่ตอบ กลับเอื้อมมือไปเปิดกระเป๋าแล้วหยิบซองจดหมายสีขาวออกมา พร้อมกับซองสีน้ำตาลขนาดใหญ่
“เฮียย่งเสียชีวิตแล้วค่ะ และฝากสองสิ่งนี้มาให้คุณชาย” เธอบอกพร้อมกับยื่นทั้งสองซองให้กับอมเรศ แต่นั่นล่ะมันทำให้เขาตกใจมาก แทบจะช็อกจนไม่สามารถรับจดหมายนั้นเอาไว้ในมือได้เลยทีเดียว
“เฮีย เฮียเสียชีวิตอย่างนั้นเหรอ ไม่จริงหรอก ฉันไม่เชื่อ” อมเรศมีอาการอึกอักน้ำเสียงขาดหาย หัวใจเต้นแรงเหมือนจะเป็นลมเสียอย่างนั้น
“อ่านดูในจดหมายนะคะแล้วจะรู้ เฮียบอกให้คุณชายเป็นคนเปิดเพียงคนเดียว และต้องนำมาให้ถึงมือคุณชายให้จงได้”
“แปลว่าเธอไม่ได้อ่านข้อความในจดหมายใช่ไหม”
“ไม่ค่ะ ไม่มีใครรู้ว่าเฮียเขียนอะไรเอาไว้ แล้วซองสีน้ำตาลคืออะไรก็ไม่มีใครรู้ เฮียบอกให้เรารีบหนีมาหาคุณชาย” เมื่อสิ้นประโยคพูดแน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องธรรมดา ฉะนั้นการคุยกันในห้องรับแขกเช่นนี้ไม่ใช่ผลดี อมเรศจึงเลือกที่จะพาทั้งคู่เข้าไปในคุยในห้องทำงานอย่างเป็นส่วนตัวแทน เพื่อจะได้ไม่มีใครมาได้ยินความลับ
“ไปคุยกันที่ห้องทำงานฉัน วัฒช่วยเฝ้าหน้าห้องด้วย อย่าให้ใครเข้าไปรบกวน” อมเรศบอกพร้อมกับหันไปสั่งวัฒนะด้วย
“ได้ครับคุณชาย” เมื่อรับคำเสร็จแล้ววัฒนะจึงลุกขึ้น พร้อมกับเปิดทางให้อมเรศเดินนำก่อน แต่ไม่วายที่เขาจะปรายตามองสาวน้อยที่มาด้วย ซึ่งเธอเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น