บทที่2 คนดูแล

2015 คำ
ณ คฤหาสน์ตระกูลจักราเทพ ขวัญพิชชามีสีหน้าเป็นกังวลเมื่อหล่อนไม่สามารถติดต่อเพื่อนสนิทอย่างยาหยีได้เลยหลังจากที่อีกฝ่ายบอกว่าจะออกไปดื่มกับเพื่อนเพื่อฉลองที่ได้สละโสด เธอกดโทรหาเพื่อนสาวหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับใดๆมาเลยจนกระทั่งเธอต้องโทรไปสอบถามกับมารดาของนวิยา เมื่อทราบว่ายาหยีไม่ได้กลับบ้านทั้งคืนเธอก็ยิ่งเป็นห่วงมากขึ้น “ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะลูก” “ของขวัญติดต่อยัยยาหยีไม่ได้น่ะค่ะคุณพ่อ แถมยังไม่ได้กลับบ้านทั้งคืนเลย” “แล้วลูกรู้หรอว่ายาหยีออกไปไหนกับใครในตอนแรก” “รู้ค่ะ เห็นว่าเป็นเพื่อนที่มหาวิทยาลัยแต่เพื่อนกลุ่มนี้ของขวัญไม่รู้จักหรอกค่ะ” “อาจจะมีการดื่มกันบ้างพ่อว่าลูกอย่ากังวลเกินไปเลยนะ มาหาพ่อที่ห้องทำงานหน่อยสิพ่อมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย” “ตะ แต่ว่า...” หญิงสาวยังมีท่าทีลังเลเล็กน้อยแต่พอผู้เป็นพ่อเน้นย้ำก็ยอมเดินตามท่านไปแต่โดยดี “เรื่องนี้สำคัญจริงๆลูก” “ก็ได้ค่ะ” เมื่อเข้ามาอยู่ในห้องทำงานแล้วขุนทศก็บอกเรื่องสำคัญกับลูกสาวทันที เรื่องนี้บิดาของเขาสั่งเสียไว้ก่อนที่ท่านจะจากโลกนี้ไปว่าถ้าหากสามารถช่วยเหลืออะไรบ้านนั้นได้ก็ให้ช่วยเหลือกันไป “คุณดาราวรรณสุขภาพไม่ดี เขาอยากให้ลูกไปดูแลเขาอย่างใกล้ชิด พ่อยังไม่ได้ตอบตกลงเพราะคนที่ตัดสินใจได้คือลูก” ขุนทศบอกกับลูกสาวน้ำเสียงกังวล เขาไม่รู้ว่าลูกสาวจะตอบกลับอย่างไรแต่ในใจหวังว่าทุกอย่างจะเกิดขึ้นเพราะความสมัครใจของลูกสาว “ของขวัญยินดีจะไปดูแลคุณป้าค่ะคุณพ่อ” หญิงสาวตอบกลับแทบจะทันที ขวัญพิชชาหรือที่ถูกเรียกว่าคุณหนูของขวัญรักและเคารพดาราวรรณดั่งมารดาแท้ๆ หลังจากที่ท่านเข้ามาดูแลเธอต่อจากมารดาผู้ล่วงลับจากอุบัติเหตุ “ไม่ได้เป็นการฝืนใจใช่ไหมลูก” “ไม่ได้เป็นการฝืนใจเลยค่ะคุณพ่อ ท่านเมตตาของขวัญมาก ของขวัญทราบดีค่ะคุณพ่อ” “ถ้าอย่างนั้นพ่อก็สบายใจ แต่มีข้อแม้คือว่าลูกต้องย้ายเข้าไปอยู่ในเรือนดารารัสแบบนั้นลูกโอเคหรือเปล่า” คนเป็นพ่อรีบบอกเงื่อนไขก่อนที่ลูกสาวจะตัดสินใจ “ได้ค่ะ ของขวัญไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าห่วงว่าคุณพ่อจะไม่มีใครดูแล” “เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะลูกเพราะพ่อยังแข็งแรงดี อย่าลืมสิว่าบ้านเราตรวจสุขภาพประจำปีอยู่เสมอ” “ลืมไปเลยค่ะว่าบ้านเราน่ะสายสุขภาพ คุณปู่กับคุณแม่เป็นหมอส่วนคุณพ่อตอนนี้เป็นเจ้าของโรงพยาบาล คิกๆ” หญิงสาวหัวเราะชอบใจ “พ่อเห็นลูกสมัครใจพ่อก็สบายใจแล้วล่ะ” “แล้วจะเริ่มไปดูแลคุณป้าเมื่อไรคะคุณพ่อ” หญิงสาวถามออกไปน้ำเสียงอบอุ่น “อาทิตย์หน้าน่ะลูก ลูกว่าเร็วไปไหม” คนเป็นพ่อถามกลับน้ำเสียงราบเรียบ “ไม่เลยค่ะ ของขวัญจะเตรียมตัวให้พร้อม รับรองว่าจะดูแลคุณป้าอย่างดีเลย” หญิงสาวให้คำมั่นสัญญา ไม่ว่าจะหน้าที่ไหนเธอก็พร้อมจะทุ่มเททำมันอย่างเต็มที่ “ลูกสาวของพ่อแสนดีที่หนึ่ง” คนเป็นพ่อเอ่ยชมลูกสาวยิ้มๆ สาวน้อยในอดีตเวลานี้โตเป็นสาวพร้อมดูแลคนอื่นบ้างแล้วล่ะ เขารู้สึกชื่นใจจริงๆ “อะ เอ่อคุณพ่อคะยัยยาหยีโทรกลับมาแล้วค่ะ” โทรศัพท์ในมือของเธอสั่น พอเห็นว่าเป็นใครก็ยิ้มออก “ออกไปคุยกับเพื่อนเถอะลูกพ่อหมดธุระแล้ว” “ค่ะ” ของขวัญโวยวายกับเพื่อนทันทีเมื่ออีกฝ่ายโทรกลับมา ส่วนยาหยีนั้นเลือกที่จะโกหกเพราะรู้ดีว่าของขวัญเป็นห่วงตนเองแค่ไหน บอกตามตรงว่าเธอเองก็รู้สึกตกใจมากที่ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองนอนเปลือยกายอยู่ข้างผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกัน เธอดื่มเข้าไปไม่กี่แก้วแต่นั่นทำให้เธอรู้สึกมึนงงเป็นอย่างมากเพราะปกติแล้วเธอแทบจะไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์เลย เธอไม่ได้ฟูมฟายออกมาเพราะลึกๆแล้วเธอรู้สึกพึงพอใจผู้ชายคนนี้เป็นอย่างมาก เขาพูดจาดีแถมยังดูแลเอาใจใส่เธอ เป็นเขานั่นแหละที่มาส่งเธอถึงหน้าประตูบ้าน “ตอนนี้อยู่ที่บ้านแล้วใช่ไหม” “ใช่จ้ะ ยาหยีอยู่บ้านแล้ว มีอะไรหรือเปล่า” “โล่งอกไปทีนึกว่าแกจะโดนผู้ชายหิ้วไปกินซะแล้ว เล่นหายไปทั้งคืนติดต่อไม่ได้” “บะ บ้าหรอคิดอะไรอย่างนั้นล่ะ” “ก็ฉันเป็นห่วงแกจริงๆนี่หน่า แกก็รู้ว่าเรามีกันแค่สองคน ฉันไม่ไว้ใจเพื่อนคนอื่นของแกหรอกนะยาหยี” หญิงสาวบอกออกไปตามตรง “เอาเป็นว่าฉันปลอดภัยดีพอใจไหมจ๊ะ” ตอนนี้เธอก็ปลอดภัยดีจริงๆนี่หน่าเพียงแต่แค่สูญเสียอะไรบางอย่างไป “พอใจสิ แต่หลังจากนี้ฉันคงไม่ค่อยได้ไปหาแกบ่อยๆแล้วนะ อยู่คนเดียวไม่เหงาใช่ไหม” “แกจะไปไหน อย่าพูดอะไรแปลกๆสิ” “ไปทำภารกิจสำคัญน่ะ เอาไว้เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังนะ” “เดี๋ยวนี้หัดมีความลับหรอ มาเปิดเรื่องแบบนี้เพื่อนก็อยากรู้น่ะสิ” “ฮ่าๆ ไม่ใช่เรื่องอะไรใหญ่โตหรอก ฝากโรงพยาบาลด้วยนะช่วงนี้ฉันอาจจะไม่ได้เข้าไปดูแลเรื่องบริหารเพราะต้องทำภารกิจ” “มีการเงินคนเก่งอย่างยาหยีซะอย่างไม่ต้องห่วงไปนะ” “จ้าๆ สบายใจแล้ว” เพราะมีเพื่อนคนนี้อยู่ไงเธอเลยไม่รีรอที่จะตอบตกลงไปดูแลดาราวรรณ ณ เรือนดารารัส อนุชิตและคนในครอบครัวออกมายืนต้อนรับการมาของหญิงสาว ดาราวรรณถูกลูกชายกำชับให้นั่งรอที่ห้องนั่งเล่นเพราะไม่อยากให้ท่านถูกลมหนาวที่กำลังพัดผ่านอยู่ด้านนอกตัวเรือนหลังงาม ทันทีที่รถยนต์คันหรูจอดสนิท หญิงสาวใบหน้ารูปไข่ ผิวพรรณขาวอมชมพูก็ก้าวเท้าออกมาจากรถทันที อิงทัชสะดุดกับรองเท้าผ้าใบที่เธอสวมใส่ เขาคิดว่าเธอจะแต่งตัวสวยๆมาเอาใจเขาและอารักษ์แต่เปล่าเลยมันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด นอกจากรองเท้าแล้วก็ยังเป็นเสื้อผ้าของเธอ ของขวัญสวมเสื้อยืดตัวโปรดกับกางเกงยีนส์ขายาวมีรอยขาดเล็กน้อยท่าทางทะมัดทะแมง ใบหน้าของหญิงสาวไม่ได้มีการแต่งแต้มอะไรและนั่นทำให้เธอดูอ่อนกว่าวัย อิงทัชไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอจ้องมองคนตรงหน้าจนเธอต้องกระแอมออกมาเบาๆ “ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งนะคะ ดิฉันชื่อของขวัญ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะย้ายมาอยู่ที่นี่เพื่อดูแลคุณป้าดาราวรรณค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” หญิงสาวกล่าวแนะนำตัวน้ำเสียงสดใส หล่อนรู้สึกว่าเรือนดารารัสตรงหน้าสวยงามราวกับหลุดมาจากเทพนิยาย ดอกกุหลาบกำลังชูดอกอวดโฉมความสวยงามให้เธอเห็น เธอชอบที่นี่มากทุกอย่างลงตัวไปหมด “ปู่ยินดีต้อนรับหนูเสมอนะ” “พ่อเองก็ยินดีต้อนรับหนูเหมือนกัน มองหาคุณดาราวรรณใช่ไหมลูก ป้าเขาอยู่ข้างในน่ะ” “จะไม่แนะนำผมหน่อยหรอครับคุณปู่” “นั่นตาอารักษ์ ลูกชายของจันทร์ฉายภรรยาอีกคนของตาอมรณ์เทพน่ะหนูของขวัญ” “สวัสดีค่ะคุณป้า สวัสดีค่ะพี่อารักษ์” หญิงสาวยกมือไหว้อารักษ์แล้วก็หันไปสบตากับชายหนุ่มที่ดูเงียบขรึม ตั้งแต่เธอมาเขายังไม่ได้เอ่ยคำใดออกมาสักคำ “สวัสดีค่ะพี่...” “อิงทัช เข้าบ้านเถอะครับคุณปู่คุณแม่รอนานแล้ว” เขาบอกชื่อของตัวเองสั้นๆแล้วก็เลิกสนใจเธอเพื่อหันไปพูดกับอนุชิตแทน “ใช่ๆ เข้าบ้านกันเถอะลูก” “ไปข้างในกันนะจ๊ะ วันนี้บ้านเราเตรียมของกินต้อนรับหนูเพียบเลย” จันทร์ฉายรีบมาเอาอกเอาใจว่าที่ลูกสะใภ้ในอนาคตทันที เมื่อเห็นว่าคนที่รอคอยมาถึงแล้วดาราวรรณก็รีบโผเข้าไปโอบกอดทันที เธอคิดถึงสาวสวยคนนี้มาตลอด “คิดถึงจังเลยลูก นี่ลูกชายป้านะจ๊ะ” “เจอกันแล้วค่ะ หนูก็คิดถึงคุณป้าเหมือนกันค่ะ” ความสนิทสนมที่ของขวัญมีให้กับดาราวรรณทำให้จันทร์ฉายรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก “อย่ามัวแต่กอดกันเลยนะคะ หนูของขวัญเพิ่งมาเหนื่อยๆคงจะหิวอะไรแล้วแน่ๆ” จันทร์ฉายรีบขัดไม่อยากให้ของขวัญใกล้ชิดกับดาราวรรณ “จริงด้วย ตั้งโต๊ะเสร็จหรือยัง” “เรียบร้อยแล้วค่ะคุณท่าน” “งั้นก็ไปทานของอร่อยกันเถอะ ถ้าหนูอยากทานอะไรเป็นพิเศษบอกได้เลยนะลูก” “ค่ะ” หญิงสาวรู้สึกว่าเธอได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นไปจนถึงร้อนเลยล่ะ ต่างคนต่างพยายามเอาใจเธอโดยที่เธอไม่รู้เลยว่าจะทำแบบนั้นไปทำไม อาหารบนโต๊ะมีแต่ของโปรดเธอทั้งนั้นทำให้วันนี้เธอรู้สึกเจริญอาหารเป็นพิเศษ อิงทัชรู้สึกทึ่งเพราะหญิงสาวตรงหน้าสามารถทานอาหารได้เยอะมากซึ่งขัดกับรูปร่างบอบบางของเธอ หรือที่ใครบอกว่ากินเท่าไรก็ไม่อ้วนจะมีอยู่จริง “เติมข้าวอีกไหมลูก” “ของขวัญกินอิ่มจนท้องจะแตกแล้วค่ะคุณป้า ขอบคุณสำหรับมื้ออร่อยนะคะ” หญิงสาวตอบกลับแทบจะทันที ขืนให้กินเข้าไปอีกคืนนี้เธอต้องแย่แน่ๆ “ป้าเห็นหนูชอบป้าก็ดีใจจ้ะ ห้องของหนูอยู่ใกล้ๆป้าเลยนะจ๊ะ แล้วก็ใกล้ห้องพี่อิงทัชเขาด้วย ขาดเหลืออะไรบอกพี่เขาเลยนะลูก” “ถึงห้องพี่จะไม่ได้อยู่ใกล้แต่พี่ก็พร้อมดูแลความเรียบร้อยของน้องของขวัญนะครับ” อิงทัชไม่ตอบแต่เป็นอารักษ์รีบเสนอตัวเองแทน “ขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะคะ” วันนี้หญิงสาวยังไม่ได้เริ่มทำหน้าที่ของตนเพราะว่าคุณปู่อยากให้ว่าที่หลานสะใภ้ได้พักผ่อนและปรับตัวเข้ากับที่นี่ให้ได้มากที่สุด พอมีเวลาส่วนตัว เธอก็ล้มตัวลงนอนกลิ้งไปมาอยู่บนเตียงกว้าง แต่แล้วใบหน้าของคนหน้าผุดขึ้นมากวนใจเธอซะงั้น คนเป็นแม่ช่างพูดช่างจาแต่ทำไมคนเป็นลูกถึงได้เคร่งครึมขนาดนั้นนะ ผิดกับอารักษ์ที่ขยันโปรยเสน่ห์ให้กับเธออยู่หลายต่อหลายครั้ง ยอมรับเลยว่าอิงทัชเป็นผู้ชายที่อยู่ในอุดมคติของเธอจึงไม่แปลกที่เขาจะเข้ามาวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอ “เย็นชาขนาดนั้นจะไปนึกถึงทำไมเนี่ย พอๆไปเตรียมยาที่คุณป้าต้องทานพรุ่งนี้ดีกว่า” หญิงสาวพยายามหาอะไรอย่างอื่นทำเพื่อค่าเวลา ตกดึกเธอรู้สึกหิวน้ำด้วยความเคยชินจึงร้องหาสาวใช้ข้างกายแต่เพราะที่นี่ไม่มีพี่แป้งเธอจึงต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ทุกคนต่างก็เข้านอนกันหมดแล้วเธอเลยเลือกที่จะไม่เปิดไฟและเดินช้าๆเข้าไปในห้องครัว “สดชื่นมาก ขนขึ้นไปด้วยดีกว่า” “คิดจะเป็นขโมยหรอ” “ว๊าย!” หญิงสาวตกใจแทบหงายหลังดีที่คนตัวโตประคองร่างบอบบางของเธอเอาไว้ได้ แต่มันจะดีกว่านี้ถ้าหน้าอกหน้าใจเธอไม่ได้แนบชิดไปกับอกแกร่งของเขา โชคดีที่ไม่ได้เปิดไฟเพราะไม่อย่างนั้นเขาคงเห็นแก้มที่ขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย ก็จะไม่ให้เธออายได้อย่างไรในเมื่อเธอไม่ได้สวมอะไรไว้ข้างใน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม