“ อะไรนะฟ้าใส พี่เซนมีแฝดงั้นเหรอ ! ”
เปาแผดเสียงดังลั่นโรงอาหารจนฟ้าใสต้องรีบตะครุบปากของเธอเอาไว้
“ นี่เปา เบา ๆ หน่อยสิ คนหันมามองทั้งโรงอาหารแล้ว ” เธอบ่นอุบอิบพลางกระซิบข้างหูเพื่อน ใบหน้าอวบอูมยิ้ม แหย ๆ
“ ขอโทษ ก็เปาตกใจนี่นา มีอย่างที่ไหนคบหากันตั้ง ร่วมปีแต่พี่เซนไม่เคยบอกว่ามีแฝด ”
“ ตอนแรกฟ้าเองก็ตกใจเหมือนกันแหละ แต่พอได้ฟังเหตุผลแล้วก็ได้แต่เออออ เรามันคนนอกนี่นา ”
“ คนนอกอะไรกั๊น อีกหน่อยก็คนครอบครัวเดียวกันแล้วนี่ ” เปาเย้า ฟ้าใสหน้าแดงก่ำ
“ ก็ยังไม่ขนาดนั้นสักหน่อย แค่ดู ๆ กันอยู่เองนะ ”
“ ย่ะ แต่ว่าก็ว่านะฟ้า น่าแปลกใจอยู่นะที่เขาไม่ยอมบอก แล้วไอ้เหตุผลที่ว่าน่ะมันคืออะไรกันล่ะ ”
ฟ้าใสโยกตัวเข้ามาหาเปาแล้วลดเสียงให้เบาลง
“ ก็พี่โซ่เขาพึ่งออกจากคุก ”
“ ว้าย ! ” เปาร้องออกมาจากตกใจอีกครั้งแต่คราวนี้รีบตะครุบปากตัวเองเอาไว้
“ ขอโทษฟ้า ก็เปาตกใจนี่ อีตาพี่โซ่อะไรนี่ก็คือแฝด คนนั้นเหรอ ”
“ อืม ”
“ แล้วติดคุกเนี่ยนะ ข้อหาอะไรวะ ”
“ ฆ่าคนตาย ”
“ โอ๊ยตาย อกอีเปาจะแตก ขี้คุกขี้ตารางแบบนี้น่ากลัวจังเลย ”
“ นอกจากนั้นพี่เซนก็ยังบอกว่าพี่โซ่น่ะเป็นอันธพาลตั้งแต่เด็ก ชอบหาเรื่องมาให้ที่บ้านอยู่เป็นประจำ ชอบไปเกี่ยวพันกับยาเสพติด แล้วที่ติดคุกก็คือมีเรื่องกับเพื่อน ๆ กันเองแต่เมาแล้วไม่ได้สติก็เลยแทงกันตาย ”
“ ถ้าแบบนั้นก็ควรตัดหางปล่อยวัดแล้วแหละฟ้า ถูกของพี่เซนแล้วแหละที่ไม่อยากจะข้องเกี่ยวกับคนพรรค์นั้น แม้ว่าจะเป็นสายเลือดเดียวกันก็เถอะ ”
“ อืม ” ฟ้าใสรับคำเบา ๆ แต่สมองไพล่คิดถึงอย่างอื่นที่ไม่ได้เล่าให้เปาฟัง
ก็สัมผัสอันร้อนเร่าที่ผู้ชายคนนั้นตราประทับไว้บนตัวเธออย่างไรเล่า !
มันร้ายกาจเหลือเกิน มันเล่นเอาเธอนอนไม่หลับแทบทั้งคืน หลับตาลงคราวใดก็ได้ยินแต่เสียงสากห้าวครวญคราง เสียงเขาดูดเลียกลืนกิน สัมผัสจาบจ้วงจากทุกเรือนกายกำยำนั่นมันคุกคามเธอเหลือเกิน
จนกระทั่งตอนนี้ แค่เพียงนึกถึงเขาความร้อนก็วูบวาบ ลามเลียไปทั่วทุกอณูเนื้อ
มันต่างจากสัมผัสที่เธอเคยได้รับจากพี่เซน แปลกที่ ชายคนรักไม่อาจทำให้เธอตราตรึงได้อย่างคนคนนั้น... พี่โซ่
เลือดสาวฉีดพล่าน ใบหน้าใส ๆ ของฟ้าใสแดงก่ำจนกระทั่งเปาสังเกตเห็น
“ ฟ้า เป็นอะไร ทำไมหน้าแดง ๆ เผ็ดเหรอก๋วยจั๊บอะ ใส่พริกเยอะไปล่ะสิ ”
“ อะ... อ๋อ ใช่จ้ะ” ฟ้าใสอ้อมแอ้มตอบ
“ งั้นเลิกกิน เดี๋ยวเปากินให้เอ๊ง ” เปาว่าพลางยิ้มตาหนีแล้วเลื่อนชามก๋วยจั๊บมาจัดการเสียเอง ฟ้าใสได้แต่ยิ้มขำ ๆ
“ งั้นฟ้าไปซื้อน้ำก่อนนะ เปาเอาน้ำอะไร ”
“ เปาเอานมสดคาราเมลปั่น เพิ่มวิปครีมด้วยนะ เอาตังค์เปาไป เปาเลี้ยงเอง ” เปาว่าพลางยัดธนบัตรสีแดงใส่มือของเพื่อนสาวก่อนก้มหน้าก้มตารับประทานอาหารตรงหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง
ฟ้าใสเดินไปสั่งเครื่องดื่มและนั่งรอที่เก้าอี้ในร้าน เธอกวาดสายตามองไปเรื่อยเปื่อยแต่ก็ไปปะทะกับร่างสูงโปร่งของชายคนรักที่เขาเดินลงมาจากตึกเรียนเคียงข้างกับอาจารย์ผู้สอน
เซนเป็นผู้ชายดูดี สุภาพเรียบร้อยและอบอุ่น เป็นที่รักของอาจารย์ทุกท่านเสมอ รายได้เสริมที่เขาบอกกับฟ้าใสว่าเขาทำเพื่อส่งตัวเองเรียน คือมาจากการไปช่วยสอนรุ่นน้องบ้าง ช่วยเพื่อนทำรายงานบ้าง ซึ่งเธอมองว่าเขาช่างเป็น คนขยัน ไม่นิ่งดูดาย ขวนขวายพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
ใจไพล่คิดไปถึงอีกคน เหตุใดชีวิตทั้งสองจึงต่างกันราวฟ้ากับเหว ขาวกับดำ
แว้บหนึ่ง สีหน้า แววตา และคำพูดหยาบคายดุดันที่เซนพูดออกมาเมื่อวานถึงคนที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องฝาแฝดนั้นทำให้ ฟ้าใสขนลุก พอเข้าใจว่าอีกฝ่ายทำเรื่องเลวร้ายไว้มาก แต่ คนเป็นพี่น้องจะเกลียดชังกันได้ขนาดนั้นเชียวหรือ...
ความตั้งใจที่จะโบกมือให้เขารู้ว่าเธออยู่ตรงนี้ถูก ชะงักลง มันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้หัวใจของเธอสับสนและหวาดกลัวเซนอยู่นิด ๆ ตลอดมาเธอเห็นแต่เพียงมุมอบอุ่นอ่อนโยนของเขา แต่เหตุการณ์เมื่อวานทำให้เธอรู้สึกวิตก เล็กน้อย
เพราะตลอดมาที่คบหากัน ความที่ฟ้าใสเป็นคน ขี้เกรงใจและให้เกียรติคนอื่นอยู่เสมอ เธอจึงไม่เคยก้าวก่าย ไม่เคยไถ่ถามในสิ่งที่อีกฝ่ายไม่ได้บอกกล่าว หากบางคราวเธอก็มีความรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุ ว่าเซนนั้นปกปิดอะไรบางอย่างเอาไว้
เขาไม่ใช่เขาแบบที่เธอรู้จัก…
“ น้ำได้แล้วค่าน้องฟ้าใส ” พี่เชอรี่ เจ้าของร้านเครื่องดื่มเรียกเธอเสียงดัง ฟ้าใสเป็นถึงดาวมหาวิทยาลัย ใคร ๆ ในนั้นจึงรู้จักเธอเป็นอย่างดี ประกอบกับนิสัยเฟรนด์ลี่ยิ้มง่ายไม่ถือตัวจึงทำให้ใคร ๆ ก็นิยมชมชอบ
“ ขอบคุณค่ะพี่ลี่ ” ฟ้าใสเดินไปรับน้ำและจ่ายเงิน ก่อนเดินกลับมาหาเปาที่โต๊ะ
“ เออ เมื่อกี๊เปาเห็นพี่เซนเดินเข้ามาในโรงอาหาร กับอาจารย์พิไลอะ ฟ้าไม่โทรหาล่ะ ”
“ ไม่ดีกว่า เผื่อพี่เซนจะทานข้าวไปคุยธุระกับอาจารย์ไป เอาไว้เจอกันตอนหลังก็ได้จ้ะ ” บอกปัดทั้งที่ในใจหาได้คิดเช่นนั้นไม่
เธอนึกกลัวเซนขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล...