10. เข้าห้องเป็นว่าเล่น

1591 คำ
“ยอมเชื่อฟังแล้วค่ะ พอใจรึยังคะ” ฉันตอบออกไปพร้อมกับยื่นริมฝีปากออกไปเล็กน้อยแล้วทำแก้มพองลม “หึ ก็แค่เนี่ย เด็กดื้อ” เขาแค่นหัวเราะเอ่ยกลับมาเมื่อได้รับคำตอบที่น่าพอใจ พร้อมกับส่งมือหนาขึ้นยีผมของฉันจนหัวฟู “อือ อย่าแกล้ง” ย่นคอหนีฝ่ามือ เริ่มใจอ่อนกับฉันแล้วล่ะสิพี่อินแจ เห็นว่าแกล้งได้ก็แกล้งกันอยู่เรื่อยเลย แต่ก็ดีนะเราจะได้พูดคุยและมีโอกาสใกล้ชิดกันมากขึ้น หลังจากที่กินข้าวด้วยกันเสร็จพี่อินแจก็ขอตัวกลับห้องของตัวเองไป ส่วนฉันก็ต้องเป็นเด็กดีที่เชื่อฟังว่าที่แฟนในอนาคต เข้าไปอาบน้ำตามที่เขาได้บอกเอาไว้ เรียกว่าสั่งเอาไว้ก่อนออกจากห้องไป เฮ้อ ขอถอนหายใจหน่อยเถอะ กว่าจะอาบน้ำเสร็จก็ลำบากกันเลยทีเดียว เพราะฉันต้องคอยระวังไม่ให้น้ำโดยแผลด้วยไม่งั้นมันจะอักเสบขึ้นมาได้ หลังจากอาบน้ำเสร็จฉันก็เดินขากะเผลกอย่างกับเต่าคลานมาถึงเตียงนอนและล้มตัวลงทันทีอย่างหมดเรี่ยวแรง ขอแชทหาเพื่อนรักหน่อยละกัน ตั้งแต่กลับมายังไม่ได้คุยกันเลย ….. -Chat- Nicha: แกกลับไปแล้วเหรอ ไม่เห็นบอกฉันเลย ยังไม่ทันได้เข้าแชทก็เปิดมาเจอข้อความของณิชาที่ถูกส่งเข้ามาเสียก่อน ฉันลืมไปเสียสนิทเลยว่าก่อนออกจากมหาวิทยาลัยลืมโทรบอกณิชา รายนั้นน่ะชอบเป็นห่วงและยิ่งขี้บ่นอยู่ด้วย Khanom: ขอโทษที่ไม่ได้บอก ฉันปวดขาน่ะเลยกลับมาก่อน (สติกเกอร์ทำปากจู๋) Nicha: แล้วแกขับรถได้เหรอ อย่าบอกนะว่ากลับพร้อมโอปป้าของแก ณิชาตอบกลับมาเร็วปานติดจรวด Khanom: อืม Nicha: อร๊ายแก เดี๋ยวนี้มีกลับพร้อมกันด้วย เมื่อเช้าตอนพี่เขาอุ้มแกนะฉันตะลึงมากจ้า Khanom: ฉันก็ไม่คิดว่าเขาจะอุ้มแบบนั้น คิดแล้วเขินอะ Nicha: ฉันว่าพี่อินแจชอบแก Khanom: บ้าเหรอ ถ้าชอบก็ดีน่ะสิ ทุกวันนี้ฉันยังถูกหลอกด่าอยู่เลย เดี๋ยวก็ยัยบื้อ เดี๋ยวก็ยัยโก๊ะ Nicha: ด่าเพราะรักมั้ยแก Khanom: ขอให้รักเร็วๆ เถอะ เพี้ยง (สติกเกอร์พนมมือไหว้) Nicha: วันนี้ฉันเช็กชื่อให้แล้วนะ และอาจารย์ก็ไม่ได้สั่งงาน Khanom: งื้อ ขอบใจมากเพื่อนรัก ฉันรักเธอที่สุดเลย จุ๊บๆ Nicha: เก็บปากไว้จุ๊บโอปป้าของแกเถอะจ้า แล้วพรุ่งนี้แกมาเรียนไหวป่าว Khanom: ขอดูพรุ่งนี้เช้าอีกที ถ้าไม่ปวดมากพอเดินไหวก็จะไป Nicha: โอเค ….. เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดีหน่อยที่วันนี้มีเรียนบ่ายเลยกดเลื่อนมันไปหลายรอบเลย กว่าจะได้เวลาที่ฉันจะลุกออกจากที่นอนได้ก็ปาไปเกือบสิบโมง ฉันเปิดประตูพร้อมกับอ้าปากหาวเดินออกจากห้องมาอย่างงัวเงีย พร้อมกับยกสองแขนบิดขี้เกียจ “ว้าย” ร้องดังลั่นด้วยความตกใจ “พะ…พี่อินแจ” “ตื่นได้แล้วเหรอยัยขี้เซา” นี่ก็สรรหาคำมาว่าให้ฉันจริงๆ เลย “พี่เข้ามาได้ยังไงคะ” “ก็เปิดเข้ามาไง” ตอบแบบกวนๆ พร้อมกับยกคีย์การ์ดห้องของฉันให้ดู “เข้าออกห้องกันเป็นว่าเล่นแบบนี้คิดอะไรกับขนมรึเปล่าคะ อินแจโอปป้า” ฉันแกล้งแซวเล่นทำหน้ายิ้มทะเล้น อยากจะดูหน้าคนเย็นชาว่าเขาจะเขินหรือไม่ แต่เปล่าเลยจ้า “ไปอาบน้ำได้ละ” เขาเอ่ยไล่ให้ฉันไปอาบน้ำด้วยใบหน้าเรียบเฉย ฉันลืมไปเสียสนิทเลยว่าตัวเองยังอยู่ในชุดนอน การที่เห็นเขามาโผล่ในห้องของฉันแบบไม่รู้ตัวแบบนี้มันทำให้สมองไม่สั่งการอะไรทั้งนั้น นอกจากตรงเข้ามาคุยกับเขา ยัยขนมซื่อบื้อ ชอบทำตัวขายหน้าอยู่เรื่อยเลย หลังจากที่ฉันหยิบเสื้อผ้ากับผ้าเช็ดตัวเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำเสร็จแล้ว ก็ตรงปรี่เข้าห้องไปแต่งหน้าเติมความสวยกันสักหน่อย อยู่ต่อหน้าอินแจโอปป้าขนมต้องสวยค่ะ สายของวันนี้พี่อินแจทำข้าวผัดมาเผื่อฉันด้วย ส่วนเขานั้นกินจากที่ห้องมาแล้วล่ะ เพราะรายนั้นชอบตื่นเช้าแม้จะไม่ได้ไปเรียน “ขอบคุณค่ะ” ฉันส่งยิ้มหวานละมุนเอ่ยขอบคุณและนั่งลงจัดการข้าวผัดที่เขาลงมือทำจนหมดจาน “มีเรียนเหรอ” พี่อินแจมองฉันที่อยู่ในชุดนักศึกษากระโปรงพลีทจีบทวิสที่สั้นเพียงสิบหกนิ้วกับเสื้อพอดีตัว “ค่ะ ขนมมีเรียนบ่าย” “เดี๋ยวไปส่ง” “ไปส่ง พี่อินแจไม่มีเรียนเหรอคะ ขนมขับรถไปเองก็ได้นะ แค่นี้ก็รบกวนพี่เยอะแล้วค่ะ เกรงใจ” “อย่าดื้อ บอกว่าจะไปส่ง แค่ทำตามที่บอกก็พอ” แหม ชอบออกคำสั่งจริงเชียว “ก็ได้ค่ะ” เราออกจากคอนโดกันมาตอนประมาณเที่ยงครึ่ง คอนโดของเราอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากเท่าไร ใช้เวลาขับรถประมาณสิบถึงสิบห้านาทีก็มาถึงแล้ว ….. @มหาวิทยาลัย . “ขอบคุณนะคะ” ฉันเอ่ยขึ้นก่อนจะเปิดประตูลงจากลงจากรถ “เรียนเสร็จแล้วก็โทรหานะ เดี๋ยวมารับ” “ค่ะ” อยากจะบอกว่าทำตัวไม่ถูกเลยจ้า ตอนนี้มีแต่คนมองมาที่รถของพี่อินแจตั้งแต่ขับเข้ามาจอด และหนึ่งในนั้นที่จ้องมองมาทางฉันตั้งแต่ก้าวลงจากรถนก็คือ ‘ลูกพีช’ จะมองอะไรนักหนา “ใช้ได้นี่ ให้ท่ายังไงถึงให้เขามาส่งเธอได้” วาจากกระแทกแดกดันเอ่ยเสียงดังขึ้นตามหลัง แต่ฉันทำทีไม่สนใจ ลูกพีชเลยรีบย้ำเท้าเข้ามากระชากแขนจนคนโดนกระทำต้องหยุดเดิน “ปล่อย” เอ่ยเสียงแข็งพร้อมกับสะบัดแขนออกเงยหน้าขึ้นจ้องคนที่เข้ามาหาเรื่อง อย่าให้มากจนเกินไปนะลูกพีช ถึงจะเป็นคนยอมมาตลอดแต่ใช่ว่าจะยอมได้ตลอดไป ความอดทนของฉันก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน พยายามข่มอารมณ์โกรธและต่อว่าในใจ “ฉันบอกเธอแล้วใช่มั้ยว่าให้เลิกยุ่งกับพี่อินแจ” ลูกพีชพูดเสียงกร้าวอย่างไม่เกรงกลัวว่าใครจะมาได้ยิน สายตาเธอตอนนี้เอาเรื่องมากๆ “เธอก็ไปบอกเขาเองสิว่าให้เลิกยุ่งกับฉัน ถ้าไม่มีสิทธิ์ก็อย่ามาหาเรื่อง” “นี่เธอ” “ขนมมีอะไร นี่เธอมาหาเรื่องเพื่อนฉันอีกแล้วเหรอ รอบก่อนทำให้ขนมเจ็บตัวฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับเธอเลยนะยัยลูกพีช” ณิชาที่เพิ่งมาถึงก็ตรงดิ่งเข้ามาหาฉัน และเอ่ยเอาเรื่องลูกพีชทันที “ใครใช้ให้เดินไม่ดูทางเองล่ะ สมน้ำหน้า” ว่าจบลูกพีชก็เดินออกไป พร้อมกับเบะปากใส่อย่างน่าชัง “อีลูกพีชเน่า” ณิชาตะโกนด่าตามหลัง “พอแล้วแก คนมองกันเต็มเลย เราไปกันเถอะ” ฉันรีบห้ามปรามเพื่อนรักก่อนที่เธอจะสบถคำด่าออกมามากกว่านี้ ดีหน่อยที่ณิชายอมเชื่อฟัง เธอเดินเข้ามาคล้องแขนเพื่อให้ฉันมีที่เกาะกุมและพาเดินเข้าตึกคณะไป “แกก็ยอมมันซะอย่างนี้ มันถึงได้ใจ” “ฉันไม่อยากมีปัญหานี่นา แกก็อย่าไปสนใจนางนักเลย เดี๋ยวประสาทจะกินเอา” “จ้า คุณแม่พระ ประเสริฐศรีมณีเด้ง แกยอมมัน ใช่ว่ามันจะเลิกหาเรื่องแก” ฉันลอบถอนลมหายใจ รู้สึกเหนื่อยหน่ายเหมือนกันที่ต้องทะเลาะกันมาตั้งหลายปี หนีออกมาอยู่คนเดียวแล้วก็ยังไม่พ้นอีก วันนี้เรามีเรียนกันถึงบ่ายสาม พอใกล้เลิกเรียนฉันหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดส่งข้อความไปบอกให้พี่อินแจออกมารับ ป่านนี้ก็น่าจะมาถึงละมั้ง “ฉันไปรอพี่อินแจที่หน้ามอนะ” ฉันบอกกับณิชา เธอพยักหน้ารับก่อนจะโบกไม้โบกมือล่ำลากัน ณิชากลับบ้านพร้อมกับพี่ณัฐ ส่วนฉันก็เดินไปที่ป้ายรถเมย์หน้ามหาวิทยาลัยเพื่อนั่งรอพี่อินแจ วันนี้ดีหน่อยที่ขาไม่ปวดมากเดินได้คล่องขึ้นกว่าเมื่อวาน ฉันค่อยๆ เดินออกมาหน้ามหาวิทยาลัยก็เห็นเข้ากับรถของพี่อินแจที่จอดรออยู่ แต่นั่น ‘ยัยลูกพีช’ เธอกำลังเดินผ่านรถของพี่อินแจไปและเขาก็กำลังเลื่อนกระจกรถขึ้น ฉันหยุดเดินจ้องมองอยู่พักหนึ่งจนลูกพีชเดินลับตาไป จึงได้เดินเข้าไปหาพี่อินแจที่รถ ‘ยัยลูกพีชคงไม่ได้มาแวะคุยกับพี่อินแจใช่มั้ย’ “เมื่อกี้พี่คุยกับใครคะ” ฉันตัดสินใจถามออกไปทันทีที่เข้ามานั่งในรถ แม้จะรู้คำตอบอยู่แล้วว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แต่แค่อยากรู้ว่าพี่อินแจจะตอบมาว่าอย่างไร
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม