“ก็มีกวางป่าหน้ามนมาชงให้ แล้วฉันจะชงเองทำไมละจ๊ะ ที่รัก”
ประโยคที่ฟังคล้ายๆ เกี้ยวพาราสี ทำให้สิมันตราต้องเม้มปากแน่นด้วยความขุ่นเคือง
“คราวหน้าจะใส่เกลือแทนน้ำตาล”
เธอว่าแล้วกระแทกถ้วยกาแฟลงตรงหน้ากุมภัณฑ์ ชายหนุ่มยกขึ้นมาจิบอย่างไม่ยี่หระในกิริยากระแทกกระทั้นนั้น เขาคลี่ยิ้มพร่างพรายเมื่อได้จิบรสชาติกาแฟที่ถูกใจ
“อืม...อร่อยจัง หวานพอดี๊พอดี” ว่าพลางยั่วยิ้ม สองตาเจ้าชู้โลมเลียร่างอรชรราวกับอยากกลืนกินหล่อน มันวาววับประดุจสายตาของยักษ์ใหญ่ยามเพ่งมองสมันสาว เขี้ยวเสน่ห์ที่โผล่แพลมให้เห็นรำไรยิ่งเสริมให้ใบหน้าเขาหล่อเหลาขึ้นไปอีก
“อย่ามายอเสียให้ยาก ฉันไม่ใช่สาวๆ ของคุณนะคุณยักษ์ ยอยังไงก็ไม่ขึ้นหรอกย่ะ ถอยไปได้แล้ว ฉันจะออก” เธอสั่งให้เขาหลีกทาง แต่นายยักษ์ปักหลั่นไม่ยอมถอยแต่อย่างใด
“คุณยักษ์ อยากตายรึไง!”
เธอแหวลั่นเมื่อเขาวางถ้วยกาแฟไว้บนบาร์ แล้วเดินหน้าดันร่างเธอจนชิดติดผนัง กักกันร่างเธอเอาไว้ด้วยมือข้างหนึ่งที่ยกมาค้ำยันผนังเหนือศีรษะเธอ
“เธอนั่นแหละ อยากตายหรือไงถึงได้ด่าว่าฉันเป็นเด็กไม่รู้จักโต ปากอย่างนี้ไง ทำงานที่ไหนก็โดนไล่ออก” เขาว่าโดยใช้เสียงเยาะหยันเล็กน้อย หน้าตาท่าทางต่างจากเมื่อครู่ลิบลับ
สิมันตราหน้าแดงก่ำ โกรธที่ถูกประณาม แต่ที่โกรธกว่านั้นคือใบหน้าคมของเขาเลื่อนลงมาจนลมหายใจราดรดปลายจมูกเธอ มันใกล้เกินไปแล้วนะนายยักษ์จอมหื่น
“ถอยออกไปเดี๋ยวนี้! ไม่อย่างนั้นฉันจะร้องให้บ้านแตกเลย”
สิมันตราขู่ฟ่อ กุมภัณฑ์ไม่รอให้หล่อนได้ทำอย่างนั้น เขาจับใบหน้าเนียนให้แหงนเงยขึ้นมา ก่อนจะจุมพิตหนักหน่วงบนริมฝีปากของสิมันตราอย่างโหยหิว ขบเม้มและดูดดึงอย่างต้องการลิ้มรสชาติที่ถวิลหามานาน
“อื้อ...อืม...”
เริ่มแรกนั้นสิมันตราดิ้นแรงด้วยความตกใจ ทว่าพอผ่านไปชั่วนาที รสจุมพิตหอมหวานที่ไม่เคยพานพบก็ทำให้ร่างงามอ่อนระทวย และชั่วนาทีอีกเช่นกันที่รสชาติอันน่าพิศวง ถูกกลบทับด้วยสามัญสำนึกส่วนดีจนเธอต้องหลั่งน้ำตาด้วยความละอาย
ชายหนุ่มถอนจูบเมื่อรับรู้รสเค็มปะแล่มของหยาดน้ำตาเม็ดใส
“ฉัน...ฉันขอโทษนะกวาง เธออย่าร้องไห้สิ ตบหน้าฉันก็ได้นะ เอาเลย ฉันพร้อมแล้ว” เขายืนนิ่งให้หญิงสาวบันดาลโทสะลงซีกแก้ม แต่ว่ามันไม่เกิดขึ้น หล่อนเอาแต่ยืนตัวสั่นอยู่อย่างนั้น
“ฉันก็อยากตบ แต่ว่าคุณ...คุณทำให้ฉันไม่มีแรง” เธอว่าขณะที่น้ำตาร่วงพรู
“งั้นก็อย่าร้องไห้สิ เธอโกรธฉันก็ตบตีฉันเถอะ อย่าร้องไห้เลย ฉันไม่ชินเวลาที่เธอร้องไห้” หัวใจกุมภันฑ์ปานจะหยุดเต้น เขารู้ว่าสิ่งใดคือต้นเหตุที่ทำให้หล่อนต้องร้องไห้ ก็เขานี่ไงเป็นทั้งต้นทั้งตอของเหตุเลย
“มานี่มา ฉันว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันหน่อย แต่ก่อนอื่น เธอต้องเช็ดน้ำตาก่อน” เขาสั่งทว่าสิมันตรายังเฉย มิหนำซ้ำคางมนๆ ยังเชิดขึ้น แสดงออกถึงความรั้นของเจ้าตัว
“ถ้าไม่เช็ดเอง ฉันจะใช้ปากฉันเช็ดให้เธอเดี๋ยวนี้”
เขาขู่ด้วยเสียงอันเซ็กซี่เหลือหลายในความคิดของสิมันตรา หญิงสาวรีบปาดน้ำตา เมื่อสำนึกได้ว่าไม่ควรให้เขาใช้ผ้าเช็ดหน้าของนายยักษ์ มาแตะต้องร่างกายอีก
กุมภัณฑ์จับจูงร่างสมันน้อยออกมาจากบาร์เครื่องดื่ม เขาเข้าไปขออนุญาตป้าเจรียงพาหล่อนไปคุยธุระกันในห้องทำงาน สิมันตราอิดออดไม่อยากไป แต่คุณนายวิภากลับเห็นดีเห็นงาม ด้วยว่าเห็นบางอย่างผิดปกติในตัวลูกชาย
หากนางวิภาเดาไม่ผิด สีลิปสติกที่เปื้อนบางๆ บนริมฝีปากกุมภัณฑ์ มันเป็นสีเดียวกับสีลิปสติกบนริมฝีปากของสิมันตราแน่ๆ และถ้าหากเป็นเรื่องจริงนางก็ขอเชียร์แม่กวางนี่แหละให้มาเป็นสะใภ้คนเล็ก มันดีกว่าให้ลูกชายคนรองไปคว้าสาวๆ ที่ควงกันชั่วข้ามคืนมาตบแต่งเป็นไหนๆ
นางครุ่นคิดพลางมองตามหลังคนทั้งสองที่จับจูงกันออกไป ก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะเจ้าเล่ห์ออกมาจนนางเจรียงอดไม่ไหวถามไถ่ด้วยใคร่รู้
“ขำอะไรคะคุณ”
“ปะ...เปล่านี่ แค่...คิดอะไรเพลินๆ” นางว่าแล้วหันไปหยิบหนังสือพิมพ์มาเปิดอ่านด้วยมาดคุณนาย มีรอยยิ้มพิมพ์ใจติดอยู่ที่มุมปาก ถึงแม้ว่าข่าวที่อ่านจะเป็นข่าวโจรชั่วบุกขึ้นบ้านท่านนายพลก็ตาม
ในห้องทำงานของกุมภัณฑ์ซึ่งอยู่ข้างๆ ห้องทำงานของพี่ชาย
“คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม”
กวางสาวถามอย่างประหม่า ขนาดตอนอยู่หน้าบาร์เครื่องดื่มซึ่งไร้ประตู เขายังกล้ากอดจูบลูบคลำเธออย่างถือสิทธิ์ แล้วนี่ในห้องหับอันมิดชิด เธอจะรอดพ้นเงื้อมมือนายยักษ์ได้อย่างไร
“ไม่ต้องกลัวน่า ฉันแค่มีเรื่องงานจะคุยกับเธอ และไม่พิศวาสแม่กวางร่างเตี้ยอย่างเธอหรอก ไม่รู้ว่าบรรดาเจ้านายหื่นกามของเธอเห็นความสวยเซ็กซี่ตรงไหน ถึงได้ตั้งหน้าตั้งตาปล้ำเธออยู่เรื่อย”
กุมภัณฑ์กวาดมองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าของกวางสาวหน้าสวย
สิมันตราค้อนขวับเข้าให้ เธอรู้ดีว่าตัวเองสะสวยเพียงไร บางครั้งความงดงามที่ได้มาโดยไม่ได้ร้องขอก็เป็นภัยให้เจ้าของได้ ขนาดป้องกันตัวเองในทุกๆ ทางที่ทำได้ในที่ทำงาน แต่ก็ถูกลวนลามจากเจ้านายหื่นกามอยู่เรื่อยๆ
“แน่ใจนะว่าฉันไม่สวย มีตาหรือเปล่ายะ”
สิมันตราประชดน้อยๆ ทำหน้ายู่จมูกย่นแล้วลดกายลงนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามกับโต๊ะทำงานตัวใหญ่
กุมภัณฑ์เดินมานั่งหมิ่นๆ ที่ขอบโต๊ะ พิจารณาคำพูดของสิมันตราแล้วก็เห็นว่าจริงทีเดียว หล่อนสวยมาก แต่จะให้เขาชื่นชมนั้นไม่มีทางเสียล่ะ
“สวยตรงไหนฮึ หน้าตาก็บ้านๆ ตารึก็โตเท่าไข่ห่าน แถมปากยังห้อยด้วย” เขาว่าพลางเชยคางมนขึ้นมาพิจารณา เอียงซ้ายเอียงขวาฝั่งละสองสามวินาทีให้เห็นชัดๆ