“พี่ดรีม ตื่นหรือยังคะ นี่เมเองนะ!”
เสียงจากหน้าบ้าน ปลุกปฐวีที่กำลังฝันหวานให้ตื่นขึ้นมาอยู่กึ่งกลางระหว่างความจริงกับความฝัน เขาคว้าหมอนเข้ามากอดรัดฟัดเหวี่ยงชุดใหญ่ สานต่อสิ่งที่ทำค้างคาไว้เพราะในฝันหมอนใบนั้นคือหน้าดาริกา แต่ก่อนที่จะแนบปากจูบเสียงก็ดังขึ้นมาอีกรอบ และรุกล้ำถึงขั้นมาเคาะประตูที่อยู่ห่างจากโซฟาตัวนี้ไม่กี่เมตร!
“พี่ดรีม! ตื่นหรือยังคะ ไม่สบายหรือเปล่า พี่ดาให้เมมาดู”
ปฐวีหลุดจากความฝันสิบแปดบวก เขาจำน้องคนนี้ได้ ขืนไม่รีบออกไปได้โหวกเหวกโวยวายไม่รู้จักจบสิ้นแน่ ถึงจะขี้เกียจแต่ปฐวีก็จากชุดรับแขก เขามองเข้าไปทางประตูห้องนอนดาริกา มั่นใจว่าดาริกาน่าจะยังไม่ตื่น เขาออกไปเปิดประตูบ้าน
“พี่ดรีม! อ้าว... พี่วีเหรอคะ” ตาใสเป็นประกายสอดรู้สอดเห็น “อย่าบอกนะว่าพี่วีย้ายเข้ามาอยู่กับพี่ดรีมแล้ว” ถามแล้วเขินเอง สาวน้อยแอบกรี๊ดอยู่ในใจ เชียร์ปฐวีมากกว่าภูมินทร์
“เปล่าหรอกจ้ะ พอดีว่าพี่ดรีมปวดท้องก็เลยมาอยู่เป็นเพื่อน ตอนนี้ยังไม่ตื่น ไม่รู้ไหวไหม น้องเมเข้าไปดูเองนะ” พูดกับน้องเพราะพริ้งตามประสาคนมีน้องสาว ถือโอกาสนั้นแก้ตัวให้ดาริกาไปด้วย คงจะไม่เหมาะนักถ้าน้องเมเอาไปเล่าต่อว่าเห็นเขากับดาริกาค้างคืนด้วยกัน ถึงยังไงดาริกาก็เป็นคนที่เขาแคร์
แต่ เอ่อ… เห็นสายตาน้องเมแล้ว ปฐวีก็ชักจะไม่แน่ใจว่าน้องจะเอาไปพูดต่อตามที่เขาบอกหรือเปล่า รัศมีความฟินสูงมาก
“ดูแลพี่ดรีมดีอย่างนี้คบกันแล้วแน่เลย พวกพี่น่ารักจัง”
“เปิดร้านเสร็จแล้วเหรอ” ปฐวีเปลี่ยนเรื่อง
“เรียบร้อยแล้วค่ะ พี่ๆ กำลังเริ่มอบขนม แต่พอดีว่าพี่ดาส่งข้อความมาหาให้เมแวะเข้ามาดูพี่ดรีม เมก็เลยแวะมา ถ้าพี่วีไม่ว่าอะไร เมขอเข้าไปหาพี่ดรีมในบ้านนะคะ” กระตือรือร้นขออนุญาต ไม่รอให้ปฐวีตอบกลับวิ่งผ่านประตูเข้าไปข้างใน
“น้องเม เดี๋ยวก่อน พี่มีเรื่องอยากคุยด้วย”
“มีอะไรเหรอคะ” สาวน้อยหมุนตัวกลับมาเร็ว ยิ้มแฉ่ง
ปฐวีนอนเพิ่งตื่น หน้ายุ่ง หัวฟูนิดหน่อย แต่ก็พยายามจัดแต่งทรงผมให้เรียบสุดเท่าที่จะทำได้
“ปลายเดือนหน้าติดอะไรไหม”
“มีสอบค่ะ แต่ตารางยังไม่ออก ทำไมเหรอคะ”
“พี่ดรีมมีแข่งที่พม่า พี่กลัวพี่ดรีมไม่มีเพื่อนสนิทไปด้วยกัน ถ้าน้องเมว่าง ไปกับพี่ดรีมหน่อยนะ พี่ออกค่าใช้จ่ายให้”
จากที่ยิ้มกว้างอยู่แล้ว ตอนนี้ปากน้องเมฉีกไปถึงใบหู
“พี่วีใจดีที่สุดเลย ถ้าเมว่าง เมจะไปกับพี่ดรีมนะคะ เมว่าแล้ว ว่าพี่ดรีมจะต้องชอบพี่วีมากกว่าพี่มีน ขอตัวก่อนนะคะ”
น้องเมยิ้มหน้าระรื่นเข้าไปหาดาริกาในห้องนอน
ปฐวีออกจากบ้านไปยืดเส้นยืดสาย ช่วงนี้งานเยอะขับรถตรวจไซต์งานทั่วสารทิศสลับกับเข้าออฟฟิศ กลับถึงบ้านก็ต้องเคลียร์งานที่เป็นเอกสาร กว่าจะเสร็จก็ดึกดื่นเที่ยงคืนเป็นประจำ ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นชาติ ท้องส่วนล่างเริ่มจะย้อยๆ ออกมา ขืนปล่อยเนื้อปล่อยตัวมากกว่านี้ คงอดถอดเสื้อโชว์กล้ามท้องให้สาวดูอีกนาน ปฐวีไม่อยากปีนกำแพงกลับบ้าน เสี่ยงพลาดท่าหกล้มกระดูกกระเดี้ยวหัก จะออกไปทางหน้าร้านแต่บังเอิญได้ยินเสียงน้องเมแว่วออกมาจากห้องนอนดาริกา
“พี่ดรีมกับพี่วีอยู่ด้วยกันแล้วเหรอคะ! เมไม่รู้เลยว่าคบกัน… ไม่เชื่อ! เมว่าพี่สองคนคบกันแล้วชัวร์ เมื่อกี้พี่วีบอกเมให้ไปย่างกุ้งกับพี่ดรีม บอกอีกนะคะว่าจะออกค่าใช้จ่ายให้เม ใจดีมาก!”
กินลำโพงซ้ายขวาประจำหน้าเวทีหมอลำเข้าไปหรือไงนะ ถึงเสียงดังมาถึงตรงนี้
ปฐวียิ้มไม่หุบ อยากรู้ว่าดาริกาตอบกลับว่ายังไง พยายามจะเงี่ยหูฟังหล่อนก็พูดเบาเหลือเกิน ได้ยินแต่เสียงน้องเม
“ถ้าเมไม่ติดสอบ เมจะไปเป็นเพื่อนพี่ดรีม พี่วีจะได้สบายใจ ว่าแฟนของเขาไม่ได้ไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองคนเดียว... ฮั่นแน่! เมพูดแค่นี้พี่ดรีมก็เขินจะแย่แล้ว มีแฟนก็ดีนะคะ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย”
“เหลวไหลน่าน้องเม พี่ก็บอกแล้วว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน!”
ปฏิเสธเสียงแข็งเลยนะแม่คุณ!
ปฐวีร่ายคาถาใส่ผ้าม่าน ในที่สุดสาวเจ้าของห้องก็เลื่อนเปิดออกรับแสงยามสาย ปฐวีสบสายตาแม่เสือสาวเข้าจังๆ หล่อนทำหน้าเข้มใส่ ตอบกลับรอยยิ้มของเขาด้วยการดึงผ้าม่านปิดกลับเข้าที่เดิม
ปฐวีแยกเขี้ยวใส่แม่คนขี้หวง กลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวยกแล็ปท็อปมาทำงานต่อในร้านขนม
ที่บอกจะมาเปิดร้านช่วย เขาล้อเล่น มาให้กำลังใจเฉยๆ เมื่อคืนทำงานอยู่ระเบียงห้องนอนชั้นสอง บังเอิญมองเห็นกุญแจห้อยคาประตู ก็เลยอู้งานยาวถึงช่วงสายวันนี้ เขาจิบกาแฟขณะพิมพ์งานก๊อกๆ แก๊กๆ อยู่ตามลำพัง ดาริกาก็มาถึงร้านเรียบร้อย เข้าครัวช่วยลูกน้องอบขนมสำหรับเตรียมขาย และสำหรับคนที่สั่ง
ส่วนครัวกับส่วนหน้าร้านแยกออกจากกันชัดเจน แต่คนในร้านสามารถมองเห็นการทำงานผ่านกระจกใส มั่นใจได้ว่าขั้นตอนการทำขนมสด สะอาด ร้อยเปอร์เซ็น ปฐวีแอบมองดาริกาเป็นระยะ หล่อนมีเสน่ห์มาก หน้าตาไม่หวานจ๋า แต่กลับเป็นแม่ค้าขนมหวาน
ดาริกาวางมือจากงานครัว ยกอาหารเช้ามาเสิร์ฟ พร้อมกับกล่องพยาบาลเล็กๆ ปฐวีใจเต้นตุบๆ เอาหน้าเข้าไปให้หล่อนทำแผล ยิ้มไม่หุบจนกระทั่งหล่อนทำแผลให้เสร็จ น่าหมั่นไส้เสียจนดาริกาจะแปลงร่างเป็นแมวกางเล็บแหลมคมขึ้นมาข่วน
“ขอบคุณครับ” เขาร้องลั่น ตะปบฝ่ามือเข้ากลางเบ้าตา ดาริกาตกใจผงะไปด้านหลัง ปฐวีรีบเฉลย “อ๊ะ! ความรักเข้าตา”
“วันหลังขอมุกที่ขายได้นะคะ ไม่ใช่มุกในตลกคาเฟ่ รีบกิน รีบไปทำงาน สายแล้ว ไม่กลัวถูกหักเงินเดือนหรือไง”
“อีกหน่อยก็ไป มีขนมฝากส่งแถวนั้นหรือเปล่า”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณยังเจ็บอยู่ ดรีมไม่อยากใช้งาน”
“น่ารักอย่างนี้ ใครไม่อยากได้เป็นแฟนก็บ้าแล้ว”
ทำตาหวานส่งความรักไปให้ แม่ยอดดวงใจก็แสนใจร้ายจะเอาสองนิ้วมาจิ้ม ปฐวีหัวเราะลั่นในร้านที่มีเขาเป็นลูกค้าคนพิเศษแค่คนเดียว ดาริกาปล่อยให้เขาทำงานกับจัดการมื้อเช้า กลับเข้าไปทำขนมในครัว ปฐวีกินมื้อเช้ารวดเร็วดั่งสายฟ้าแลบสลับกับพิมพ์งานมือลุกเป็นไฟ ยี่สิบนาทีต่อจากนั้นเขาเก็บแล็ปท็อปใส่ในกระเป๋า เขายกจานชามเข้าไปวางไว้จุดล้าง ดาริกามองเห็นพอดี ออกมาหาพร้อมกับถุงกระดาษขนาดใหญ่
“ดรีมทำขนมมาให้ แทนคำขอบคุณที่คุณไปให้กำลังใจดรีมทั้งวัน แล้วก็มีของเพื่อนๆ คุณด้วยนะ”
ดาริกายกถุงกระดาษ เขายิ้มค้างอยู่หลายวินาที ดาริกาต้องเขย่ามือดึงความสนใจกว่าที่ปฐวีจะได้สติ รับขนมจากหล่อน
“ไม่อยากแบ่งใคร ขอเก็บไว้กินเองไม่ได้เหรอ”
“ตั้งหลายกล่อง กินคนเดียวยังไงหมด เบาหวานถามหากันพอดี” ดาริกาดุ หน้าเลอะแป้งบนแก้มนวลมีคราบหลายจุด เสริมหล่อนให้ดูน่ารักน่าเอ็นดูไปกันใหญ่ “ดรีมเดินไปส่งที่รถ”
ผลักประตูกระจกออกมาด้านนอก มีโต๊ะเล็กๆ ตั้งเรียงรายในสวนให้ลูกค้าเลือกนั่งตามอัธยาศัย ทั้งสองเดินมาถึงลานจอดรถเล็กรับรองได้ห้าคัน ที่เหลือจะเป็นรถจักรยานยนต์ แต่ลูกค้าส่วนใหญ่จะเดินทางมาด้วยรถไฟฟ้าหรือไม่ก็รถสาธารณะแล้วเดินตามทางเท้า บิ๊กไบท์คันโก้ป้ายทะเบียนประมูลจอดเด่นหน้าร้าน ปฐวีเปิดกล่องสัมภาระท้ายรถนำถุงขนมเข้าไปเก็บในนั้น กอดหมวกกันน็อกไว้กลางอก การแต่งตัวของเขาเหมือนหนุ่มนักขับมากกว่าพนักงานออฟฟิศ เนื่องจากต้องขับรถไปดูหน้างานก่อสร้างบ่อยๆ
“พรุ่งนี้วันหยุด อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า”
“ไม่อยากไปไหน อยากนอนดูซีรีส์ทั้งวัน”
“เปลี่ยนใจเมื่อไหร่ก็บอกนะ จะพาไปเที่ยวทะเล”
“ทะเลกรุงเทพเหรอ” ทักเขาแล้วขำเอง ทะเลนั้นไม่อยากไปหรอก หล่อนโตมากแล้ว ไม่ใช่พ่อแม่ที่พาลูกหลานไปเล่นน้ำ แต่ถ้าปฐวีจะพาไปเล่นเครื่องเล่นหวาดเสียวก็น่าสนใจไม่น้อย
“ทะเลพัทยาต่างหากล่ะ พอดีว่าต้องไปดูงานแถวนั้น”
“ไปไกลจัง ขับรถไปกลับวันเดียวเหรอ”
“ใช่ แต่ถ้ามีคนไปด้วย ก็อาจจะอยู่ค้างสักคืน”
“ฝันไปเถอะ ตายสิบชาติก็อย่าหวังว่าจะได้เห็นขาอ่อน”
“แยกห้องต่างหากล่ะแม่คุณ คิดมาก!”
“ถ้าไม่ได้คิดอะไรแล้วจะทำหน้ามีเลศนัยทำไม รีบไปทำงานเลยไป สายโด่งแล้ว เข้าสายมากๆ จะให้พี่หมอกหักเงินซะให้เข็ด”
“หักไม่กลัว กลัวไม่หัก ไว้เจอกันตอนเย็นครับคุณว่าที่แฟน”
กอดหมวกกันน็อกไว้กลางอกโบกมือลากันเหมือนคู่รัก
ดาริกาโบกมือกลับบ้าง “ขับรถดีๆ นะคะ เป็นห่วงขนม”
“จำไว้เลย” ปฐวีแกล้งงอน สวมหมวกกันน็อก โบกมือลาดาริกาอีกครั้งก่อนจะขับรถออกไป
ดาริกายืนส่งเขาจนลับตากลับเข้ามาในร้านและพบกับสายตา จิ้น จากกลุ่มพนักงาน บ้าน่า จะมองด้วยสายตาแบบนั้นทำไม เขาเข้ามาช่วยงานบางครั้งก็เอางานมานั่งในร้านทุกวัน ทำเหมือนไม่เคยเห็นไปได้ ดาริกาทำไม่รู้ไม่ชี้ตรงเข้าครัวไปทำขนมต่อ ทำไปก็อมยิ้มไป
ดีใจที่เขาอยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน
ทั้งที่ไม่ได้น่าสนใจ แค่ทำขนมขายไปวันๆ