“ไอ้ยอด”
“ครับเจ้านาย”
“แกว่าเจ้าสาวของฉันคิดแผนการอะไรอยู่หรือเปล่า”
“แผนการอะไรครับ”
“ก็เห็นมองฉันแล้วยิ้ม”
“ยิ้มแบบนั้นเขาเรียกว่ายิ้มทอดสะพานครับ คืนนี้เจ้านายก็จับรวบหัวรวบหางเลยครับ”
“แกรู้เยอะ”
“อ้าว... ก็เจ้านายถาม” พัฒน์เดินไปหาเจ้าสาวของเขา ก่อนจะโอบกอดเอวบางเอาไว้ ดึงมาหาให้แนบชิดกับตัวเขา
“ลุงพัฒน์!” เธออุทานท่าทีเขินอาย
“ทำไม กอดไม่ได้เหรอคะ เมื่อกี้ยังยิ้มยั่วฉันอยู่เลย”
“ใครไปยิ้มยั่วลุงพัฒน์ตอนไหน”
“ก็เมื่อกี้ไง”
“ยิ้มก็ไม่ได้หรือไง” เธอพยายามแกะมือที่โอบกอดเอวบางออกไป แต่เขาไม่ยอมปล่อย
“ยิ้มได้และคืนนี้ไม่รอดแน่”
“เหรอคะ ตื่นเต้นจัง คิกๆ” เธอเห็นเขาอยากแกล้ง เธอแกล้งกลับบ้าง จัดการโอบกอดรอบคอหนาของเขาเอาไว้ ดึงเขามากอดแนบแน่นก่อนจะหอมแก้มเขาฟอดใหญ่
“เฮ้ย!” เขาอุทานเผลอปล่อยเธอเพราะตกใจ ก่อนที่จะได้ยินเสียงคิกคักของยายตัวแสบเดินถอยห่างออกไป
“แสบนักนะ” เขาพูดได้แค่นั้น มองร่างกลมกลึงที่เดินเข้าไปในงานและเดินตามไปเงียบๆ มีผู้ชายหลายคนในงานมองเธอด้วยสายตาพึงพอใจ แต่ก็นั่นแหละ ได้แค่มองแต่เขานี่แหละ คืนนี้จะได้ทำมากกว่ามอง
ฤกษ์ส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวมาถึงในเวลาสามทุ่มเก้านาที คุณยายและญาติผู้ใหญ่ต่างเข้ามาอวยพร หลังจากจัดเตรียมห้องหอ ปูเตียง เรียงหมอนให้คู่บ่าวสาว
“ยายไม่ขออะไรมาก ขอให้เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันนะ แต่งงานกันแล้วเป็นครอบครัวเดียวกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกันเป็นสำคัญ จะโกรธหรือโมโหอะไรก็ขอให้ใจเย็น หันหน้าเข้าหากัน ความโกรธหรือโมโหมันไม่ได้ทำให้อะไรๆ ดีขึ้น ที่สำคัญก็คือการแคร์ความรู้สึกของคู่ชีวิตของเรา จะทำให้เราไม่ทำอะไร ซึ่งจะเป็นการทำร้ายกันและกันให้ต้องเจ็บช้ำน้ำใจ” บ่าวสาวทั้งสองก้มลงกราบแทบเท้าของคุณยายพิมพ์บงกช ญาติผู้ใหญ่ต่างอวยพรวันคู่บ่าวสาวออกไปจากห้องหอด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ ปล่อยให้คู่บ่าวสาวได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง
“อุ๊ย! ลุงพัฒน์อย่ากอดแรงสิคะ” เธอดิ้นหนีแต่เขายิ่งกอดรัดแนบแน่นขึ้น อยากแกล้งเธอกลับบ้าง
“คืนนี้เธอไม่รอดแน่”
“แล้วใครบอกว่าจะรอดกันล่ะคะ ลุงพัฒน์จะนอนทั้งที่ยังเหนียวตัวแบบนี้เหรอคะ ช่วยหนูดาวเช็ดเครื่องสำอาง แกะผมก่อน” เธอกอดรัดเขากลับแรงๆ พัฒน์ตกใจรีบปล่อย จึงได้ยินเสียงหัวเราะของสาวน้อยดังขึ้นมาในทันที
“คิกๆ”
“ทำไมชอบแกล้งฉันนัก”
“ก็ลุงพัฒน์ชอบทำหน้าดุใส่หนูดาว” เธออมยิ้มก่อนจะจูงมือเขาไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง
“ลุงพัฒน์แกะผม ส่วนหนูดาวจะเช็ดเครื่องสำอางนะคะ ต้องเช็ดให้สะอาดก่อนไปล้างหน้าค่ะ หน้าจะได้ไม่เป็นสิว” เธอบอกยิ้มๆ พัฒน์คิดว่าจะไม่ทำอะไรตามคำสั่งเธอเด็ดขาด แต่เสียงหวานๆ ของเด็กสาวก็ทำให้เขาเลื่อนมือไปแกะผมให้เธออย่างเผลอไผล มองเธอเช็ดเครื่องสำอางจนใบหน้าหมดจด และใบหน้าของเธอในตอนนี้ก็สะอาดไร้เครื่องสำอางใดๆ อีก
เธอเป็นคนผิวดี แก้มเนียนใสไร้สิวฝ้า เขามองแก้มของเธอทีไร ก็ทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยหัวใจเสียทุกครั้งไป
“ทีนี้ก็ไปอาบน้ำกันค่ะ” ประโยคของเธอทำให้หัวใจของหนุ่มใหญ่เต้นแรง สาวชวนไปอาบน้ำ เขาก็ทำตัวไม่ถูกน่ะสิ
“ลุงพัฒน์ช่วยรูดซิปชุดแต่งงานทางด้านหลังให้หน่อยสิคะ” เธอบอกเขาเสียงหวาน พัฒน์ไม่ได้คิดหรอกว่าเธอจะอ่อยเขาขนาดนี้ แต่ก็นะ แต่งงานกันแล้ว เธอไม่ปฏิเสธ ไม่ดิ้นหนีหรือคิดแผนการแกล้งเขาก็ควรจะดีแล้วไม่ใช่เหรอ
“ฉันรูปซิปให้ก็ต้องเห็นเธอแก้ผ้าน่ะสิ”
“คิกๆ ก็ใช่น่ะสิ หรือว่าลุงพัฒน์ไม่อยากเห็น”
“อยากเห็นสิ เอ่อ... เปล่าอยากเห็นเสียหน่อย ไม่ได้อยากเห็น ใครจะไปอยากเห็น” ทัดดาวถึงกับอมยิ้ม พัฒน์มีนิสัยแปลกๆ เขาจะปฏิเสธหากว่าเธออยากให้ทำอะไร แต่พอไม่อยากทำเขาก็จะอยากทำ อยากเอาชนะ
“งั้นก็ไม่ต้องเห็น”
“มาฉันรูดซิปให้” ประโยคของเขาทำให้เธอลอบอบยิ้ม เธอเป็นคนฉลาดรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา มีลูกล่อลูกชน ต่อไปก็รู้ว่าจะใช้ชีวิตคู่อยู่กับเขาเช่นไร เห็นพัฒน์ดุๆ แบบนี้จริงๆ แล้วใจดีมาก เธอมาอาศัยอยู่กับเขาและคุณยายของเขานานแรมปี จึงพอจะรู้นิสัยใจคอของเขาดี ว่าเขาเป็นคนเช่นไร และมีน้ำใจกับลูกน้องและคนอื่นเพียงใด
เธอไม่ได้นึกรังเกียจที่ได้แต่งงานกับเขา แต่มีความมสุขที่ได้อยู่กับเขามากพอๆ ที่แอบหลงรักเขามานานแล้ว แต่เก็บงำเอาไว้ในอกเพราะสำนึกว่าเป็นเพียงผู้อาศัยเท่านั้น
พัฒน์ยื่นมือสั่นๆ ไปรูดซิปทางด้านหลังชุดแต่งงานให้เธอ เขาตะครุบมือสั่นๆ ของตัวเองเอาไว้ พยายามจะไม่ให้มันสั่นไปมากกว่านี้ ท่าทีของเขาทำให้ทัดดาวแอบลอบยิ้ม
แผ่นหลังขาวเนียนของเธอทำให้เขาหายใจสะดุด จะเรียกว่าหายใจไม่ทั่วท้องก็ย่อมได้ ปลายนิ้วแกร่งของเขาลูบไล้แผ่นหลังของเธอเบาๆ ทำให้เด็กสาวครางออกมา นั่นยิ่งทำให้ความเป็นชายของเขาตื่นตัว
“ลุงพัฒน์ขา...” เสียงหวานๆ ของเธอทำเอาพัฒน์กะพริบตาปริบๆ แทบหลุดเข้าไปอยู่ในภวังค์หวานของสาวน้อยตรงหน้า
“ว่าไง” เขาเหมือนเพิ่งหาเสียงของตัวเองเจอเมื่อได้มองสบตาหวานหยดที่ช้อนขึ้นมามอง
“อุ้มหนูดาวไปอาบน้ำหน่อยสิคะ” เธอจับมือของเขามาสัมผัสกับชุดเจ้าสาว เขาปลดมันออกจากเรือนร่างกลมกลึงอย่างเผลอไผล
เรือนร่างสาวสดที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าทำให้คนมองถึงกับตาพร่ามัวไปชั่วขณะ หัวใจของหนุ่มใหญ่เต้นรุนแรงแทบจะโลดออกมานอกออก
พัฒน์จัดการตวัดอุ้มร่างของเธอขึ้นสู่อ้อมแขน ก่อนจะพาเธอไปอาบน้ำ พอเขาวางเธอลง เธอก็หยิบผ้าเช็ดตัวมานุ่ง ทำให้เขาต้องหลุดปากเอ่ยถาม
“นึกว่าจะแก้ผ้าเสียอีก นุ่งทำไม”
“คิกๆ”
“หัวเราะอะไรฉันนักหนา”
“จะยืนล้างหน้าแปรงฟันด้วยกัน ในขณะที่ลุงพัฒน์ยังอยู่ในเสื้อผ้าคลุมชุด แล้วจะให้หนูดาวยืนแก้ผ้าเหรอคะ”
“เออ... จริงด้วย” เขาถึงกับลูบท้ายทอยไปมา ก้มมองตัวเองแล้วหน้าแดงก่ำลามไปถึงใบหู พอทำท่าจะถอดชุดแต่งงานของตัวเองออก เธอก็เลื่อนมือมาปลดกระดุมเสื้อให้เขาเสียเอง
“เดี๋ยวหนูดาวปลดให้ลุงพัฒน์ดีกว่าค่ะ” เธอช้อนสายตาขึ้นมอง เขาก็ปล่อยให้เธอได้ทำแบบนั้น
พัฒน์รู้สึกว่าหายใจไม่ทั่วท้องเมื่ออาภรณ์ทุกอย่างถูกปลดออกจากเรือนกายของเขา เธอหยิบผ้าเช็ดตัวมาให้เขานุ่ง เขาเองก็บังเกิดความรู้สึกอยากปกปิดขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“แปรงสีฟันค่ะ” เธอบีบยาสีฟัน และส่งแปรงสีฟันให้เขา ก่อนจะหันไปแปรงฟันของตัวเอง เขาจึงต้องทำบ้าง ในขณะแปรงฟันก็เหลือบมองเธอเป็นระยะๆ
เธอมีผิวพรรณผุดผ่อง และสะอาดสะอ้านจนเขานึกชม แก้มเนียนใสที่เขามองเห็นนั้นทำให้อยากจะก้มลงไปหอมสักฟอดสองฟอดหลังจากเธอล้างหน้าแปรงฟันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“ไปอาบน้ำกันเถอะค่ะ” เธอจูงมือเขาไปที่อ่างอาบน้ำใบโต ก่อนจะอาบน้ำกับเขา พัฒน์ดึงร่างเธอมากอด เธอก็ยอมให้กอด ใจคิดว่าเจ้าสาวของเขาจะมาไม้ไหน
“ทำไมลุงพัฒน์ทำหน้าแบบนั้นล่ะคะ” เธอเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มสดใส
“ทำหน้ายังไง”
“ก็ไม่ไว้ใจหนูดาวไง เหมือนระแวง”
“ครั้งก่อนเธอหลอกฉันแก้ผ้าถ่ายคลิป แถมยังแอบจับหนอนยักษ์ของฉันอีก”
“หนอนยักษ์ คิกๆ” เธอหัวเราะจนท้องแข็ง
“หัวเราะอะไร”
“กล้าพูดนะคะ อวดอ้างของตัวเอง”
“คืนนี้จะได้ครางทั้งคืน”
“ลุงพัฒน์น่ะ ไม่เหนื่อยบ้างเหรอคะ” ก่อนงานแต่งเธอกับเขาก็ต้องเตรียมตัวอะไรกันหลายอย่าง กว่าทุกอย่างจะเสร็จสมบูรณ์เช่นนี้
“เหนื่อย แต่ก็ไม่เกี่ยวกับการเข้าห้องหอกับเมีย”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ” เธอลูบไล้แผงอกกว้างของเขา ช้อนสายตาขึ้นมอง เขาจึงตะครุบมือของเธอเอาไว้
“เอาไว้เราไปทำกันบนเตียงดีกว่านะคะ จะได้นอนสบาย” เธอรีบเบี่ยงหลบต่อรองเมื่อเขาก้มใบหน้าลงมาหา