บทที่ 14 ถูกถอนหมั้นเพราะพิการ

1695 คำ
หญิงสาวอยากเปลี่ยนคำพูดที่กล่าวเมื่อวานนี้เหลือเกิน เธอมองว่า ‘นายท่าน’ คนนี้ดูเหมือนจะเป็นคนที่มีมันสมองดีมาก น่าจะมีไอคิวพอ ๆ กับตัวเธอเองในชีวิตก่อนเสียด้วยซ้ำ “น่าอิจฉาจริง ๆ” หลี่ซีเหมยเผลอหลุดปากพึมพำออกมา เลยทำให้สาวใช้ในกลุ่มหันมาพูดด้วย “นั่นสิ ถ้าเกิดพวกเราได้ติดตามหรือใกล้ชิดนายท่านบ้างก็คงจะดี อย่างน้อยถ้าหากที่นี่มีนายหญิงแต่งงานเข้ามา พวกเราก็จะได้ใกล้ชิดกับนายหญิงของบ้าน และที่สำคัญพวกเราก็จะได้รับของกำนัลเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง อีกทั้งยังได้ไปนู่นมานี่กับเจ้านายบ้าง” สาวใช้คนนั้นดันคิดไปว่าหลี่ซีเหมยอิจฉาพวกผู้ชายที่ได้ไปไหนมาไหนกับนายท่าน เธอจึงปล่อยเลยตามเลยเมื่อประเด็นการสนทนาเริ่มเข้าสู่เรื่องส่วนตัวของผู้เป็นนาย “นั่นสิ น่าเสียดายที่นายท่านยกเลิกการหมั้นไปแล้ว ไม่อย่างนั้นหากมีนายหญิง พวกเราก็มีสิทธิ์ได้เป็นคนสนิทของนายหญิงเหมือนกัน” สาวใช้คนอื่น ๆ ต่างพยักหน้าตอบรับอย่างเห็นด้วย และมีสีหน้าเสียดายที่ไม่มีนายหญิงเหมือนที่อื่น นี่เลยทำให้หลี่ซีเหมยได้รับข้อมูลใหม่ เรื่องการถอนหมั้นนั้นเธอไม่ได้มองว่ามันเป็นเรื่องผิดปกติอะไร มันเป็นเรื่องปกติเสียด้วยซ้ำที่หญิงสาวคนนั้นจะเปลี่ยนใจจากผู้ชายที่พิการ เพราะในยุคนี้ยังอยู่ในสังคมผู้ชายเป็นใหญ่ การมีหัวหน้าครอบครัวที่ร่างกายแข็งแรงก็เป็นเรื่องสำคัญ ‘หรือส่วนนั้นของเขาจะกระทบกระเทือนจนใช้การไม่ได้ไปแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ยิ่งแล้วใหญ่’ โดนคู่หมั้นทิ้งก็ว่าแย่แล้ว โอกาสในการสืบทอดทายาทของกลุ่มผู้มีอิทธิพลกลุ่มนี้จึงเรียกได้ว่าลดน้อยลงไป และหากมีเรื่องที่ส่วนนั้นใช้การไม่ได้ก็ยิ่งน่าสงสารกว่าเดิม ตอนนี้ในสมองของหลี่ซีเหมยยังมีข้อสงสัยในการมีทายาทสืบทอดตำแหน่งของหัวหน้าตระกูล หญิงสาวคิดว่าอนาคตของตระกูลซ่งช่างน่าหวาดเสียวเสียเหลือเกิน ทุกอย่างไม่ต่างยืนอยู่บนปากเหว “แล้วปกตินายท่านเป็นคนยังไงหรือ” หลี่ซีเหมยเอ่ยถามขึ้นมา “ก็…เป็นคนน่ากลัว น่ากลัวมาก เย็นชาเหมือนภูเขาน้ำแข็งเดินได้ ขนาดอยู่ในหน้าร้อนถ้าเกิดได้ยืนข้างนายท่านก็ยังหนาวสั่นได้เลย คิดดูเอาเถอะว่านายท่านเป็นคนยังไง” สาวใช้คนหนึ่งเกิดความลืมตัวเมื่อพูดถึงเจ้านาย จึงเล่าออกมาอย่างไม่เกรงกลัว “ขนาดพวกเราไปรับใช้นายท่านในห้องอาหาร ช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้นก็แทบหายใจไม่ออกแล้ว อาการแบบนี้เขาเรียกว่าอะไรนะ ใช่แล้ว...แรงกดดันของคนใหญ่คนโต น่ากลัวมาก ๆ แต่จะว่าไปพวกผู้ชายในนี้ โดยเฉพาะพวกคนสนิทของนายท่านก็มีกลิ่นอายแบบนั้นเหมือนกันนะ ส่วนใหญ่ก็แต่งงานกับพี่สาวใช้ที่เก่ง ๆ ทางนู้น” สาวใช้ตัวน้อยที่ทำงานได้ค่อนข้างดี จนเคยถูกพาเข้าไปรับใช้เจ้านายบอกเล่าประสบการณ์ตรง ก่อนจะชี้ไปทางกลุ่มสาวใช้แต่งงานแล้วที่นั่งอยู่ไม่ไกล “พี่สาวได้เข้าไปรับใช้นายท่านบ่อย ๆ เป็นอย่างไรบ้าง ฉันเข้าไปไม่กี่ครั้งยังแทบหายใจไม่ออก ยิ่งฤดูหนาวก็หนาวจนสั่นไปหมด ไม่รู้ว่าหนาวอากาศ หรือหนาวเพราะนายท่านเลย” สาวใช้ตัวน้อยยังพูดเจื้อยแจ้วต่อไป โดยไม่รู้ว่ากำลังถูกหลี่ซีเหมยคอยชักนำให้พูดในประเด็นที่อยากจะฟัง “นายท่านแค่เงียบเท่านั้น แต่ก็เป็นคนดี…เมื่อเทียบกับผู้มีอิทธิพลคนอื่นในเมือง แต่...ก็นั่นแหละนะ” สาวใช้วัยสามสิบพูดออกมา ตามประสบการณ์ของตนเอง “ฉันมีลูกพี่ลูกน้องห่าง ๆ คนหนึ่งทำงานอยู่ในบ้านผู้มีอิทธิพลคนอื่นในเมือง บอกว่าในบ้านทั้งวุ่นวายแย่งชิงอำนาจกันระหว่างพี่น้อง วุ่นวายแย่งชิงอำนาจกันระหว่างผู้หญิงในบ้าน แล้วเจ้านายส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ปฏิบัติต่อพวกเราดีเลย เมื่อปีก่อนเจอกันตอนกลับไปเยี่ยมบ้าน ฉันเห็นเขาโดนตีมาจนแขนขวาใช้การไม่ได้” “น่ากลัวมาก” สาวใช้ทำหน้าเหยเกเมื่อได้ยินแบบนั้น ทุกคนเงียบลงชั่วขณะหนึ่ง ในใจคิดว่าตนเองล้วนรู้สึกโชคดีที่ได้มาทำงานในบ้านนี้ และพบเจอกับเจ้านายที่ไม่ได้บ้าอำนาจอย่างนั้น “แม่บ้านหลี่มาแล้ว” เสียงสาวใช้เงียบลงกว่าเดิมเมื่อมีคนกล่าวแบบนั้น ไม่ใช่เพราะพวกเธอไม่กล้าพูดเรื่องเจ้านายต่อหน้าแม่บ้านคนสนิท แต่เป็นเพราะหลี่หงมาเพื่อเลือกสาวใช้ที่จะเข้าไปรับใช้ในวันนี้นั่นเอง น่าแปลกที่สาวใช้พูดว่าอิจฉากลุ่มลูกน้องหนุ่มที่ได้รับใช้นายท่านอย่างใกล้ชิด แต่เมื่อหลี่หงออกมาเพื่อเลือกคนเข้าไปรับใช้นายท่าน พวกเธอกลับหดหัวลงและยังพยายามทำตัวให้เล็กที่สุดเพื่อไม่ให้ถูกเลือก หลี่ซีเหมยเองก็ทำท่าทางแบบเดียวกันเพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกต ไม่นานก็สบตาเข้ากับป้าของตนเอง “อาเหมยเพิ่งหายดี เข้าไปพบหน้าพบตานายท่านเสียหน่อยแล้วกัน ส่วนอีกคนหนึ่ง หนิงหลันอยู่ที่ไหน” “อยู่นี่ค่ะป้าหลี่” หนิงหลันเป็นผู้หญิงที่อายุสามสิบกว่าแล้วแต่ยังสวยมาก เธอกลายเป็นอีกคนหนึ่งที่ได้เข้าไปรับใช้นายท่านเป็นประจำ “อีกคนหนึ่ง” หลี่หงกวาดสายตามองทุกคน แต่สาวใช้ทุกคนก็ล้วนหลบตาทั้งนั้น นางจึงคิดจะเรียกให้สาวใช้อายุมากสักหน่อยให้เข้ามาด้วยกัน แต่หลี่ซีเหมยกลับมองนิ่งไปยังสาวใช้ตัวน้อยข้าง ๆ หลี่หงจึงเอ่ยปากออกมา “มี่เฟินมานี่สิ วันนี้ก็เข้าไปรับใช้นายท่านเป็นเพื่อนกันกับอาเหมยแล้วกัน ยังไงทั้งสองคนก็อายุไล่เลี่ยกัน จะได้สนิทสนมกันเอาไว้” “ค่ะป้าหลี่” มี่เฟินสาวใช้ตัวน้อยที่ได้รับหน้าที่เพราะเหตุผลนั้นก็ได้แต่ตอบรับหน้าเจื่อน เมื่อหลี่หงเดินกลับเข้าครัว เธอก็รีบหันไปคุยกับหลี่ซีเหมยด้านข้างด้วยสีหน้าลำบากใจ “หลี่ซีเหมย ครั้งหน้ายืนอยู่ห่าง ๆ ฉันหน่อยนะ ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากเป็นสหายกับเธอนะ แต่ฉันไม่อยากเข้าไปรับใช้นายท่านน่ะสิ มันเหมือนจะตายให้ได้เลยจริง ๆ เธอเข้าใจฉันนะ” “อืม” หลี่ซีเหมยพยักหน้ารับแค่นั้น ไม่คิดว่าป้าจะเลือกเด็กสาวคนนี้จริง ๆ ดูแล้วนี่อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ร่างเดิมโดดเดี่ยวไม่มีสหายที่เป็นสาวใช้ในบ้านหลังนี้เลย นั่นก็เพราะป้าของเธอคอยดูแลอย่างดีเกินไป จนทำให้คนอื่น ๆ ไม่กล้าเข้าใกล้นี่เอง หากเข้าใกล้สนิทสนมกับหลี่ซีเหมยก็ต้องเข้าไปใกล้ชิดกับหลี่หงหรือแม่บ้านหลี่มากขึ้น นั่นก็หมายความว่า พวกเธอก็จะได้รับใช้ใกล้ชิดนายท่านมากขึ้น สำหรับสาวใช้คนอื่น ๆ ที่ไม่ค่อยชินกับแรงกดดันของนายท่าน มันเท่ากับนรกบนดินชัด ๆ หลี่ซีเหมยรับรู้ถึงความคิดของสาวใช้คนอื่น ๆ ที่ขยับตัวออกห่างตัวเธออย่างแนบเนียน จึงตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องครัว เนื่องจากในนี้ดูจะเป็นมิตรมากกว่า เพราะพวกแม่ครัวไม่ต้องระแวงหรือหวาดกลัวว่าจะโดนเรียกให้ไปรับใช้แบบใกล้ชิดนายท่าน แม้ว่าจะต้องสนิทสนมกับหลี่ซีเหมยที่เป็นถึงหลานสาวแม่บ้านก็ไม่เป็นอะไร “ว่าอย่างไร ซีเหมย ฉันคิดว่าเธอจะหยุดพักอีกสักวันแล้วค่อยกลับมาทำงานเสียอีก” “...” หลี่ซีเหมยไม่ตอบ เธอเพียงแค่ยิ้มให้เท่านั้น ก่อนจะเดินไปหาป้าที่ยืนอยู่ไม่ไกลและกำลังเตรียมชากาแฟให้กับเจ้านายอยู่ “ป้าคะ ฉันอยากรู้ว่าเจ้านายเป็นคนยังไง” “อาเหมยอย่าพูดไป” ผู้เป็นป้ารีบหันไปห้ามหลานสาวเอาไว้ ก่อนจะใช้นิ้วชี้แตะที่ปากตนเองเบา ๆ “ทุกคนในบ้านนี้จะไม่พูดจาส่งเดช โดยเฉพาะวิพากษ์วิจารณ์เจ้านาย มันเป็นเรื่องไม่สมควรที่สุด” “ฉันแค่อยากรู้เกี่ยวกับนายท่านเอาไว้เท่านั้น เพราะนายท่านสำคัญกับป้ามาก” นี่คือความตั้งใจจริงของหลี่ซีเหมย เพราะป้าของเธอให้ความสำคัญกับนายท่านแซ่ซ่งคนนี้เสียเหลือเกิน หญิงสาวเลยต้องรู้เรื่องเขาเอาไว้ให้มาก ถึงอย่างไรคำโบราณที่ว่า รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งก็ใช้ได้ผลวันยังค่ำ “เด็กดี” หลี่หงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความเอ็นดูหลานสาว แต่ก็ต้องรีบผละจากไปเพื่อนำกาแฟไปให้เจ้านายเสียก่อน เมื่อหลี่ซีเหมยหันหลังกลับมาก็เห็นสาวใช้ตัวน้อยมี่เฟินยืนอยู่พร้อมรอยยิ้มแป้น “เธออยากรู้เรื่องนายท่านหรือ อยากรู้อะไรเกี่ยวกับนายท่าน แต่เรื่องทั่ว ๆ ไปในบ้านหลังนี้ใคร ๆ เขาก็รู้กันหมดแล้ว ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนายท่านบ้าง เพราะถึงอย่างไรพวกเราก็ต้องอาศัยนายท่านคุ้มกะลาหัว” “ฉันไม่ค่อยได้สนใจอะไรนักหรอกนะ และเพิ่งทำใจเรื่องครอบครัวได้” หลี่ซีเหมยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ทำให้สาวน้อยตรงหน้าที่ดูจะอ่อนไหวง่ายเกิดความเห็นอกเห็นใจขึ้นมา “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ฉันจะเล่าคร่าว ๆ ให้เธอฟังก่อน เผื่อว่าเจอนายท่านจะได้ไม่ทำผิดกฎ” “อืม ขอบใจนะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม