“ค่ะ น้าจบบอกว่าจะแวะมารับค่ะ” พลอยชมพูบอกแล้วนั่งลงบนเสื่อ
“ไปกับผมก็ได้ จะพาไปแนะนำให้พนักงานในห้องครัวรู้จักด้วย”
“ได้ค่ะ คุณพบรอแป๊บนะคะ ติ๊บขอไปใส่รองเท้าก่อน” ร่างสมส่วนรีบลุกขึ้นเดินเท้าเปล่ากระย่องกระแย่งเพื่อไปสวมรองเท้าที่ถอดอยู่ไกลๆ พบรักมองตามแล้วส่ายหน้า กะเปิ๊บกะป๊าบแบบนี้เดี๋ยวก็ได้หกล้มเหมือนตอนนั้นอีกหรอก
“โอ๊ย!” เสียงอุทานของหญิงสาวกับการทรุดตัวลงนั่งทันทีทำให้พบรักที่มองตามหญิงสาวทุกฝีก้าวรีบวิ่งเข้าไปหาเธอ
“เป็นอะไร” ชายหนุ่มนั่งลงใกล้ๆแล้วถามน้ำเสียงติดดุ เพราะเขาคิดว่าเธอเดินไม่ระวัง
“เหยียบอะไรก็ไม่รู้ค่ะ” พลอยชมพูนั่งพับเพียบอยู่กับพื้นดินร้อนระอุ หญิงสาวหงายฝ่าเท้าขึ้นมาดู เลือดสีแดงสดเลอะเต็มฝ่าเท้าขาวๆ ทั้งมีเศษดิน เศษใบไม้ และมีเศษขี้วัวติดอยู่ด้วย
พบรักกวาดสายตามองบริเวณที่หญิงสาวนั่งอยู่ แล้วเขาก็พบเศษแก้วชิ้นใหญ่อยู่ใกล้ๆ แถมยังมีรอยเลือดติดอยู่เล็กน้อยด้วย
“เหยียบเศษแก้ว แผลน่าจะลึกพอสมควร” ชายหนุ่มคาดคะเนเอาจากเลือดที่ไหลออกมาค่อนข้างเยอะ พอเขาเงยขึ้นมองหน้าคนเหยียบเศษแก้วก็เห็นเธอทำหน้าตาบิดเบ้ น้ำตาร่วงเผาะ
“เจ็บมากเหรอ”
พลอยชมพูส่ายหน้าจนเส้นผมที่รุ่ยร่ายอยู่แล้วกระจาย
“เจ็บค่ะ แต่ทนได้”
“แล้วร้องไห้ทำไม”
“ติ๊บกลัวคุณพบไล่กลับบ้าน ติ๊บเพิ่งมาทำงานวันแรกก็เกิดเรื่องซะแล้ว คุณพบอย่าไล่ติ๊บกลับบ้านนะคะ แผลแค่นี้ไม่นานก็หาย ระหว่างที่แผลยังไม่หาย ให้ติ๊บช่วยงานอย่างอื่นที่ไม่ต้องเดินไปก่อนนะคะ”
“ห่วงเรื่องไม่เป็นเรื่อง ลุกไหวไหม” พบรักว่าเสียงเข้มดุ นึกฉุนคนบาดเจ็บ แทนที่เธอจะห่วงตัวเอง ดันมาห่วงว่าเขาจะไล่กลับบ้านเสียได้ พิลึกคน
“ไหวค่ะไหว” พลอยชมพูอยากจะทำให้เขาเห็นว่าเธอไม่เป็นอะไรมาก หญิงสาวจึงพยายามลุกขึ้นยืนเอง แต่แผลใหญ่บาดลึกที่ฝ่าเท้าไม่เป็นใจเอาเสียเลย เพราะเพียงแค่เธอวางเท้าข้างซ้ายที่เป็นแผลลงบนพื้นนิดเดียว เธอก็ถึงกับสะดุ้งเซจนเกือบล้ม หากไม่ได้วงแขนแข็งแรงรีบยื่นเข้ามาประคองไว้ ก็คงได้ล้มลงไปนั่งพับเพียบแทบพื้นแน่ๆ
“ดื้อแบบนี้นี่เอง มิน่าล่ะถึงได้ดั้นด้นมาทำงานไกลถึงนี่” พบรักว่าเสียงเข้ม เขาพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ ก่อนย่อตัวลงเล็กน้อยเพื่อช้อนอุ้มเอาร่างคนเจ็บตัวขึ้นมาแนบอก
“อุ๊ย! คุณพบ! ติ๊บเดินเองได้ค่ะ ไม่ต้องอุ้ม ปล่อยสิคะ” คนไม่อยากถูกอุ้มโวยวายเสียงดัง ทว่าคนอุ้มไม่ต่อปากต่อคำด้วย พบรักปรามหญิงสาวด้วยการส่งสายตาดุมองเธอครู่หนึ่ง คนถูกอุ้มจึงรีบเม้มปากแน่น ยอมให้เขาอุ้มดีๆ ชายหนุ่มอุ้มหญิงสาวเดินตรงไปยังก๊อกน้ำที่มีสายยางต่อไว้ เขาวางเธอให้นั่งลงบนก้อนหินใหญ่ใกล้ๆ ก่อนผละไปเปิดก๊อก ดึงสายยางติดมือมาด้วย แล้วนั่งลงล้างแผลให้เธอ
“อุ๊ย!” พลอยชมพูสะดุ้งโหยงเมื่อน้ำโดนแผล
“ล้างเศษดินเศษหญ้าออกก่อน แล้วจะพาไปล้างแผลกับฉีดยากันบาดทะยักที่โรงพยาบาล”
“ต้องฉีดยาด้วยหรือคะ” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก รีบชักขาหนีน้ำจากสายยาง
“อืม” พบรักมองหญิงสาวด้วยสายตาตำหนิ เธอจะทำเสียงตื่นตกใจเกินเหตุทำไมนะ
“ไม่ฉีดยาได้ไหมคะ”
“อยากตายหรือไง”
คนถูกขู่น้ำตาร่วงเป็นเผาเต่า เธอไม่กลัวตาย แต่เธอกลัวเข็ม
“ใครเขาจะอยากตายกันเล่า ติ๊บไม่อยากฉีดยา ติ๊บไม่ชอบเข็มฉีดยา มันเจ็บ ไม่ไปโรงพยาบาลได้ไหมคะ”
พบรักถอนหายใจแรง ผู้หญิงบ้า...แผลใหญ่เลือดไหลขนาดนี้เจ็บกว่าถูกเข็มฉีดยาจิ้มเสียอีกยังทนได้ กะอีแค่ต้องไปฉีดยากลับโวยวาย ยายคุณหนูดัดจริต
“ไม่ไปโรงพยาบาลนะคะคุณพบ แค่ล้างแผลก็พอแล้ว ติ๊บไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ”
“ต้องไป!” น้ำเสียงกระชากห้วนและดุทำให้คนใจเสียเพราะกำลังจะโดนพาไปฉีดยาร้องไห้โฮออกมา
“โฮ! คุณพบใจร้าย บอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรสิ ทำไมไม่เชื่อกันบ้าง ฮึกๆ ไม่ฉีดยานะ ติ๊บไม่ฉีดยา”
พบรักส่ายหน้าเอือมระอา เขาไม่สนใจถ้อยคำโวยวายและน้ำตานองหน้าของหญิงสาว ชายหนุ่มล้างแผลให้จนคิดว่าสะอาดแล้ว จึงลุกขึ้นเดินไปปิดก๊อกน้ำ แล้วเดินกลับนั่งคุกเข่าลง เลือดยังคงไหลออกไม่หยุด เขาจึงล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋ากางเกง เอามามัดปิดแผลไว้เพื่อห้ามเลือด
“ต้องห้ามเลือดไว้ แผลใหญ่ขนาดนี้คงได้เย็บแผลด้วย” พบรักบอกหญิงสาวโดยไม่มองหน้าเธอ
“อะไรนะคะ ต้องเย็บแผลด้วยเหรอ ฮึกๆ ไม่เอาไม่ฉีดยา ไม่เย็บแผล ไม่ไปโรงพยาบาล”
“โวยวายเป็นเด็กไปได้ น่ารำคาญ” พบรักบ่นเสียงดัง ตาดุมองคนที่สะอื้นฮัก ทำให้คนถูกมองรีบเม้มปากแน่นกลั้นเสียงสะอื้นไว้ทันที
เมื่อมัดแผลเรียบร้อยแล้ว พบรักจึงช้อนร่างหญิงสาวขึ้นอุ้มแนบอกอีกครั้ง คราวนี้เธอยอมแต่โดยดีไม่มีโวยวาย แต่พอเขาพาเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว หญิงสาวก็เอ่ยบอกเขาเสียงแผ่ว
“ไม่ไปโรงพยาบาลนะคะ”
พบรักถอนหายใจแรง เขาหลุบตามองหน้าหญิงสาวเพียงแวบเดียว ก่อนบอกเสียงราบเรียบเย็นเยียบชวนขนลุก