ตอนที่ 5 ผัวก็ใช่ย่อย

1231 คำ
พริ้งเพราที่แยกมาห้องทำงานเมฆินทร์ต้องแอบเบือนหน้าหนี ภาพปีใหม่กำลังวางอาหารกลางวันให้สามีเธอนั้นชวนหมั่นไส้ ถึงรู้ว่าในอนาคตพวกเขาจะต้องมีความรักให้กันแบบที่เมฆามีให้น้ำหอมก็ตาม ตัวร้ายอย่างเธอกับพราวตะวันจึงกลายเป็นมารขวางทางรักของคนอื่น คนรอบข้างก็ไม่ค่อยชอบหน้า ซึ่งตามบทแล้วเป็นแบบนั้น เธอพยายามทำความเข้าใจทุกคนแต่อดหงุดหงิดไม่ได้ คนดีฝั่งนางเอกล้วนแต่เอาตัวเองมายุ่งกับสามีคนอื่นแบบไร้สำนึก “โอ๊ย เป็นง่อยแล้วมั้ง ผัวฉันมันป่วยไข้ใกล้ตายเหรอถึงหอบอาหารมาถึงที่” เสียงพริ้งเพราแทรกขึ้นโดยที่เมฆินทร์ยังไม่ทันได้เอ่ยปากขอบคุณ “ใหม่ได้ยินจากคุณน้าว่าคุณคินไม่ค่อยทานอาหารกลางวันเลยเอามาให้ค่ะ” ปีใหม่หน้าหงอยเมื่อภรรยาของชายหนุ่มจิกกัด ปีใหม่เริ่มเข้าใจน้ำหอมทันที ทั้งพริ้งเพราและพราวตะวันนิสัยแย่พอกัน คำพูดคำจาไม่คิดรักษามารยาทหรือน้ำใจกับใครทั้งนั้น หากไม่พอใจก็สามารถด่าได้ตลอด ผู้หญิงแบบนี้ร้ายกาจมาก ท่านประธานกับรองประธานน่าสงสารที่สุด น้ำหอมพูดถูก พราวตะวันกับพริ้งเพราไม่ควรได้คู่ชีวิตดีขนาดนี้ “ผมไม่ค่อยทานในห้องครับ ผมไม่ค่อยชอบให้ห้องทำงานมีกลิ่นอาหาร ขอบคุณมากที่นึกถึง” เมฆินทร์พูดตัดปัญหา หากเขาดึงดันจะกินอาหารของปีใหม่ พริ้งเพราต้องอาละวาดแน่ เวลางานของเขามันควรเงียบ ไม่ใช่มีคนมาทะเลาะกันให้รำคาญหู “ถ้างั้นใหม่วางไว้ตรงนี้นะคะ” หญิงสาวไม่คิดจะนำมันกลับ อย่างน้อยก็ให้เมฆินทร์หยิบไปด้วย แค่นี้ก็พอให้พริ้งเพราตบะแตกได้ไม่ยาก… “ไว้ผมค่อยทานตอนเย็นครับ” ชายหนุ่มพยักหน้าเมื่ออีกฝ่ายยอมถอย “จริงเหรอคะ ทานแล้วช่วยแนะนำด้วยนะคะ ใหม่ยังทำอาหารไม่ค่อยเก่ง” ปีใหม่รู้สึกใจฟูขึ้นมาอีกรอบ ใบหน้าสวยประดับด้วยรอยยิ้ม คนทั้งคู่มองหน้ากันราวกับคู่พระนางในละครกำลังมีความรัก หมั่นไส้! ญาตินางเอกว่าน่าตบแล้ว ผัวเธอก็ใช่ย่อย ไวเท่าความคิดพริ้งเพราก็คว้าเอาอาหารนั้นโยนลงถังขยะโดยที่ใครก็คว้าเอาไว้ไม่ทัน “อุ้ย หกแล้วอดกิน” พริ้งเพราเอามือปิดปากทำท่าตกใจได้อย่างน่าหมั่นไส้ ใบหน้าจิ้มลิ้มใสซื่อผิดจากการกระทำก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง “พริ้งเพราทำอะไรของเธอ!” เมฆินทร์ลุกจากเก้าอี้มาประชิดตัวหญิงสาว เขาถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายแต่จะพูดอะไรมากกว่านี้ก็ไม่ได้ พริ้งเพราก็เหมือนแม่ของเขาที่พร้อมสำหรับการมีเรื่องตลอดเวลา “เปล่าค่ะ ออกไปสักทีสิคะ ผัวเมียเขามีเรื่องจะคุยกัน คนอยากเสนอตัวเป็นเมียน้อยไม่ควรเสนอหน้าอยู่นาน ออกไป!” เสียงหวานไล่อีกฝ่ายที่น้ำตาร่วงกราว ทว่าพริ้งเพราไม่คิดสงสาร คนแบบปีใหม่ก็ไม่ใช่คนดี คนดีที่ไหนจะตามอ่อยสามีคนอื่นได้ตลอดเวลา ไม่รู้ยัยป้าน้ำเน่าสอนมาอย่างไร ปีใหม่ข่มความโกรธก่อนจะหันไปทำหน้าเศร้ากับเมฆินทร์ ไม่นานจึงออกจากห้อง พริ้งเพราถอนหายใจก่อนจะตวัดสายตาขุ่นเคืองใส่ชายหนุ่มเจ้าของห้องทำงาน “ทำตัวไม่รู้จักโต เราอยู่กันแบบไหนเธอลืมเหรอพริ้ง” เมื่อไม่มีใครอยู่ในห้องเขาก็ทบทวนความจำให้แก่อดีตภรรยา เขาตกลงกับพริ้งเพราแล้วว่าให้อยู่กันแบบพี่น้อง ห้ามคิดอะไรเกินเลยเป็นอันขาด ซึ่งเธอก็ตอบตกลงแต่ยังทำนิสัยงี่เง่าอย่างเดิม “รู้แล้วจะทำไมคะ เราไม่ใช่ผัวเมียจริง ๆ พริ้งรู้หรอกน่า” ก็มันอดไม่ได้นี่ ยัยปีใหม่ชอบทำตัวเสนอหน้าออกอย่างนั้น “รู้แต่ก็ยังทำแบบนี้” ปากพริ้งเพราก็ว่ารู้ทุกอย่าง “ก็ไม่ชอบหน้าอะ คนอื่นไม่ได้เหรอ ผู้หญิงสวยมีตั้งมากมายแหนะ พี่คินเอาคนอื่นเถอะ ยัยนี่มันร้ายเหมือนพริ้งนั่นแหละ” ไม่ได้มองด้วยอคติแต่อย่างใด ทุกคนมีความร้ายกาจในตัวก็จริง แต่กับปีใหม่เธอไม่สนับสนุน หากในอนาคตต้องอยู่บ้านเดียวกัน พราวตะวันจะต้องรู้สึกโดดเดี่ยวมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว เพราะคนที่เธอรัก หันไปสนใจคนอื่นทั้งหมดและคนนั้นคือหลานยัยป้าน้ำเน่า “ไม่ต้องมายุ่ง ฉันหาเมียเองได้” เมฆินทร์ดุอย่างรำคาญแล้วถามต่อ “แล้วนี่มาทำไม” “คุณแม่จะตัดใจจากคุณพ่อเลยแวะมาบอก ถ้าคุณแม่จะมีความรักใหม่คงไม่ว่ากันนะคะ” คนพูดยิ้มอย่างมั่นใจว่าแม่สามีต้องทำสำเร็จ “ก็แล้วแต่ท่าน” ถ้าแม่ตัดใจได้ก็เป็นเรื่องดี เขาเห็นพวกท่านอยู่กันแบบนี้มานานก็เข้าใจ “เหมือนรออยู่เลยนะคะ” เป็นลูกชายอะไรอยากให้แม่ตัวเองกับพ่อหย่ากัน “ไม่รักก็แค่เลิก เหมือนคู่เราไง” เขาเข้าใจพวกท่านดี ไม่ว่าจะเลิกหรือไม่ พ่อกับแม่ก็ยังคงเป็นคนเดิม “ก็จริง พริ้งบอกคุณแม่แล้วว่าเราเลิกกัน ท่านไม่ได้ว่าอะไรนะคะ” “เธอบอกแม่เหรอ” ชายหนุ่มตกใจกับสิ่งที่คนตัวเล็กกล่าว เขาดึงแขนเรียวเข้าหาตัว พริ้งเพราเสียสติเหรอ เธอจะรีบโพนทะนาเรื่องเลิกกันทำไม แต่งงานกันได้ไม่กี่วันเท่านั้น “อื้อ เพิ่งบอกเอง” ร่างเล็กสะบัดแขนออกก่อนจะพยักหน้าและทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ทำงานเมฆินทร์ “มิจฉาชีพ” เขาต่อว่าเธออย่างโมโห “อะไรคะ” เอ้า! มาด่ากันเฉย “ได้สินสอดแล้วยอมเลิก มิจฉาชีพ!” เสียงห้วนต่อว่าอดีตภรรยาที่ยอมเลิกง่ายดายราวกับตั้งใจแต่งเอาสินสอด “พริ้งจะคืนอยู่แล้วค่ะไม่ต้องมาทวง” เธอหลับตาลงสงบจิตใจ เมฆินทร์คิดว่าเธออยากฮุบสมบัติเขาหรือไง “เหอะ ถ้าฉันเอาคืนก็เท่ากับไม่แมนสิ ฉันไม่เอาคืนให้คนด่าหรอก คิดซะว่าทำหาย” “รวยจริ๊ง!!!!” พริ้งเพราลุกหนีแต่ก็ไม่วายประชดสามีเก่าที่สรรหาคำพูดมาต่อว่าเธอไม่จบสิ้น “กลับไปได้แล้วเสียเวลาทำงาน ฉันไม่อยากคุยกับมิจฉาชีพอย่างเธอพริ้งเพรา” หากเขาจับเธอโยนเธอทิ้งได้ เมฆินทร์คงทำไปนานแล้ว พริ้งเพราก่อนแต่งงานว่าน่าหงุดหงิดแล้ว หลังแต่งงานยิ่งสร้างความหงุดหงิด กวนอารมณ์เขายิ่งกว่า “รู้แล้วไม่อยากคุยด้วยนักหรอก ออ ถ้าจะหาเมียใหม่เอาคนที่ปังกว่าพริ้งหน่อยนะคะ ยัยปีใหม่นั่นบอกเลยว่าไม่ผ่าน แต่ถ้าจะเอาก็ตามใจ เข้าใจว่าหาดีได้แค่นั้น!” คนโดนไล่สะบัดหน้าหนี ก่อนจากยังทิ้งถ้อยคำแสบสันให้คนฟังใจคันยุบยิบ พริ้งเพราทิ้งความบรรยากาศคุกรุ่นเอาไว้ในห้องทำงานที่เคยสงบ เมฆินทร์ไม่มีสมาธิอีกเลยเพราะโมโหที่โดนพริ้งเพราปั่นหัว ยัยเด็กมิจฉาชีพ! เขาสาบานเลยว่าจะหาเมียใหม่ที่ดีกว่า สวยกว่า นิสัยดีกว่ายัยเด็กปากเสียนี่ให้ได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม