“คุณป๋ามีเรื่องจะคุยกับผมใช่ไหมครับ” คนฉลาดอย่างโลแกนมีหรือจะไม่รู้ถึงความไม่ชอบมาพากลของคนตรงหน้าจึงสอบถามตรง ๆ
“สมแล้วที่เป็นทายาทของลอเรนส์โซ คุณคงคิดว่าป๋าเป็นพ่อที่แย่สินะ ถึงได้ให้ลูกสาวแต่งงานกับคุณเพื่อแลกกับบุญคุณ แต่ป๋ามีเหตุผลมากกว่านั้น”
“ยังไงเหรอครับ”
“อาการป่วยของป๋าทรุดลงทุกวัน จะตายวันไหนยังไม่รู้เลย ป๋ากลัวว่าวันที่ป๋าจากไปลูกสาวจะไม่มีคนดูแล นอกจากคุณโลแกนแล้วป๋าไม่ไว้ใจใครอีก คุณโลแกนให้สัญญากับป๋าได้ไหมว่าจะดูแลเธออย่างดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้”
น้ำเสียงจริงจังของพ่อตาทำให้ลูกเขยไม่อาจปฏิเสธคำขอร้องได้จึงตอบตกลง แม้ในอนาคตเขาและเธออาจจะไม่ได้อยู่ในสถานะสามีภรรยาแล้วก็ตาม
“ครับ ผมสัญญา ไม่ว่าอนาคตผมกับเธอจะลงเอยแบบไหน แต่ผมจะดูแลเธอให้เอง”
“ป๋าเข้าใจ เพราะแบบนี้ป๋าถึงอยากให้คุณโลแกนมีลูกกับเฟรี่”
“แต่ผมไม่เข้าใจ”
“เพราะวันใดที่คุณโลแกนเลิกกับเธอ และวันนั้นป๋าไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้ว เฟรี่จะมีลูกคอยเป็นกำลังใจ เธอจะมีชีวิตอยู่เพื่อลูกของเธอ เฟรี่ขาดแม่ตั้งแต่เด็ก ๆ ป๋าไม่อยากให้เธอรู้สึกว่าตัวเองเหลือตัวคนเดียวบนโลกใบนี้ การมีลูกจะช่วยให้เธอไม่เหงา หวังว่าคุณโลแกนจะเข้าใจเรื่องนี้”
“ครับ ผมเข้าใจ แต่เรื่องลูกผมบอกตรง ๆ ว่าต้องขอคิดดูก่อน เพราะผมกับเฟรี่ไม่ได้รักกัน”
“ป๋าเข้าใจ แค่คุณรับปากจะดูแลเฟรี่ ป๋าก็ตายตาหลับแล้ว”
เจ้าสัวพียิ้มอย่างคนอ่อนแรงให้กับลูกเขย ถึงแม้เขาจะได้รับการดูแลจากแพทย์ที่ดีที่สุดก็ใช่ว่าจะหายง่าย ๆ ยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งยากที่จะรักษา เพราะฉะนั้นในวันที่ยังมีลมหายใจจึงขอทำสิ่งที่คิดให้สำเร็จ
หากวันใดที่ต้องจากโลกใบนี้ไปเขาจะได้ไม่ต้องกังวลอีก ส่วนเรื่องทรัพย์สมบัติก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเพราะตนเองได้ทำพินัยกรรมเรียบร้อยแล้ว ขอแค่คนที่ได้ไปไม่ละโมบโลภมากอยากได้ของคนอื่นก็พอ
ในขณะที่พ่อตากับลูกเขยกำลังคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว ในห้องครัวก็กำลังร้อนระอุเพราะปารดาเข้ามากระแหนะกระแหนพี่สาวต่างมารดาของตนเองอย่างเช่นทุกครั้งที่ได้เจอหน้ากัน
เนื่องจากการเลี้ยงดูแบบตามใจและถูกมารดาสอนให้เกลียดพี่สาว ทำให้สองพี่น้องไม่เคยลงรอยกันเลยสักครั้ง
“หลีกไป ฉันกำลังจะเอาผลไม้ไปให้คุณป๋า”
“กลับมาถึงได้ไม่นานก็รีบเอาหน้าเลยนะคะพี่เฟรี่”
“แล้วไง มันหนักหัวเธอเหรอ”
“พี่เฟรี่!”
“อย่าเอาฉันไปเทียบกับเธอ เพราะฉันอยู่คนละชั้นกับคนอย่างเธอ ปารดา”
“นั่นน่ะสิ ถ้าคุณหนูเฟรี่อยู่ชั้นเดียวกับรดา คงไม่มีทางแต่งงานกับคุณโลแกนเพื่อเงินหรอก จริงไหมคะคุณแม่”
“ใช่แล้วลูกรดาของแม่ ถ้าคุณหนูเฟรี่อยู่ชั้นเดียวกับเราคงไม่ตัดสินใจแบบนั้น”
“อิจฉาเหรอถึงได้มาหาเรื่องฉัน จริง ๆ อยากได้ผัวของฉันจนตัวสั่นสินะ ร่านทั้งแม่ทั้งลูก โดยเฉพาะแม่”
“นังเฟรี่ อย่ามาพูดถึงแม่ฉันแบบนี้ แกว่าฉันไม่กล้าตบแกหรือไง”
“หึหึ ก่อนจะมาแต่งงานกับคุณป๋า แม่เธอทำอาชีพอะไรก็รู้อยู่แก่ใจ
นี่ถ้าไม่ติดว่าท้องคงไม่ได้มาเชิดหน้าชูคอเป็นคุณนายแบบนี้หรอก จริงไหมคะคุณน้าปารวี”
“มันจะมากไปแล้วนะคะคุณหนูเฟรี่ น้าอยู่ของน้าดี ๆ ทำไมต้องพาดพิงกันด้วย”
“อย่าพูดกับนังนี่ให้เสียเวลาเลยค่ะคุณแม่ รดาอยากตบมันใจจะขาด ปากดีนัก”
“กล้าเข้ามาตบก็เชิญ แต่ตบมาฉันต่อยกลับแน่ รู้ใช่ไหมฉันได้เทควันโดสายดำ”
“แก! แกมันลูกที่ไม่มีใครรัก แม่ก็ตายไปตั้งแต่เด็ก คุณป๋าก็ไม่สนใจ สมน้ำหน้า”
“ฮ่า ๆ ๆ แล้วแกดีกว่าฉันนักนี่ เป็นลูกของคุณป๋ารึเปล่าก็ไม่รู้ ดีไม่ดีแกอาจจะเป็นเด็กไม่มีพ่อก็ได้นะนังปารดา”
“ดูถูกกันเกินไปแล้วนะคะคุณหนูเฟรี่”
“แม่จัดการมันเลย หนูดูต้นทางให้เอง”
“เข้ามาสิ ฉันจะได้เลาะปากทั้งแม่ทั้งลูกทีเดียว ทนมานานแล้วเหมือนกัน”
จังหวะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังตั้งหน้าตั้งตาจะมีเรื่องกัน อยู่ ๆ ปารดาก็หันไปเห็นโลแกนจึงสะกิดมารดาแล้วกระซิบกระซาบเบา ๆ พร้อมสั่งน้ำตาให้ไหลออกมาด้วยความน่าสงสาร ทำให้เฟรียางงเป็นไก่ตาแตกก่อนจะถึงบ้างอ้อว่าเหตุใดสองแม่ลูกมหาภัยถึงได้เปลี่ยนท่าทางกันเร็วนัก
แต่สิ่งที่สองแม่ลูกได้รับจากโลแกนคือความเย็นชา ไม่มีคำถามใด ๆ จากปากของชายหนุ่มสักคำ นอกจากบอกภรรยาว่าเจ้าสัวพีให้ลงมาตามเพราะหายไปนาน
หญิงสาวจึงพยักหน้ารับพลางแสยะยิ้มมุมปากด้วยความสะใจที่สามีของตนเองไม่สนใจ จากนั้นก็เอาจานผลไม้ขึ้นมาถือแล้วเดินสะบัดหน้าออกจากห้องครัวทันที
โดยไม่สนใจอาการของแม่เลี้ยงและน้องสาวต่างมารดาที่กำลังอ้าปากเหวอเพราะแผนการบีบน้ำตาเรียกความสนใจจากผู้ชายไม่สำเร็จ
จริง ๆ แล้วโลแกนลงมาได้สักพักและได้ยินทุกอย่างเต็มสองรูหูแต่ไม่อยากเข้ามาขัดจังหวะ ทว่าเมื่อเห็นภรรยากำลังจะโดนรุมจึงปรากฏตัวเพื่อช่วยเหลืออย่างเนียน ๆ และก่อนที่เขาจะเดินตามเฟรียาขึ้นไปหาเจ้าสัวก็ได้หันไปบอกสองแม่ลูกด้วยน้ำเสียงดุดันว่า
'ถ้าไม่อยากเดือดร้อนให้อยู่ห่าง ๆ จากภรรยาของเขาซะ'