คลั่งรักเด็กขัดดอก
ตอนที่ 7 อย่าดื้อกับพี่นะอีหนูละไม
เมื่อกล้าเอ่ยความในใจออกไป ผลตอบรับมันกลับดีเกินคาด ละไมยอมเปิดใจให้ภูที่สารภาพบอกความรู้สึกที่แอบชอบมานานออกไป ทั้งคู่จึงเริ่มเปิดใจพัฒนาความรู้สึกและการกระทำให้กัน จากแม่บ้านกับเจ้านายกลายเป็นผู้หญิงคนพิเศษของเจ้านาย คิดแล้วก็เขอะเขินกับสถานะนี้เหมือนกัน...
“ อุ้ย! คุณภู ”
ผมมองละไมที่กำลังวุ่นวายอยู่ในครัว บอกเลยว่าผมนอนหลับฝันดีไปกับรอยยิ้มอย่างมีความสุขที่ละไมยอมเป็นผู้หญิงของผม ผมเข้าไปกอดมันจากด้านหลัง ทำละไมสะดุ้งตกใจ
“ ตกใจเหรอหรือว่าเขินกูกันแน่ ” ละไมหน้าแดงมากที่อยู่ๆผมก็เข้าไปกอดมันแบบนี้ ก็สถานะเปลี่ยนแล้วหนิ เด็กมันน่ารักผมก็อดใจไม่ไหวสิ
“ คุณภูปล่อยกอดละไมก่อนค่ะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า ”
“ ทำไมต้องกลัว นี่บ้านกู กูใหญ่ที่สุด อีกอย่างเรากำลังคบกันอยู่นะ ทำไมกูจะกอดแฟนตัวเองไม่ได้ ”
“ เราเป็นแฟนกันแล้วจริงๆเหรอคะ ”
“ ใช่สิ เราเป็นแฟนกันแล้ว หรือว่ามึงอยากเป็นเมียเลย ”
“ คุณภู... ” ละไมเขินอาย แก้มมันแดงยิ่งกว่ามะเขือเทศซะอีก ตีแขนผมเบาๆมันน่าหมั่นเขี้ยวจริงๆเลย เด็กเอ๋ยเด็ก
“ มึงยังไม่บอกกูเลยนะ ว่ามึงก็ชอบกู ”
“ ค่ะ ไมชอบคุณภู ”
“ น่ารักว่ะ มึงมันน่ารักจริงๆ ”
“ คุณภูคะ เรื่องของเราอย่าให้ใครรู้ได้ไหมคะ ” ผมปล่อยกอดทันทีที่ละไมเอ่ยแบบนี้ออกมา
“ ทำไมต้องไม่ให้ใครรู้ด้วยว่ะ คบกันกูมันอายมากขนาดนั้นเลย ” ผมเริ่มโวยวายดั่งคนแก่ขี้น้อยใจเอามากๆ อย่างว่าอีละไมทำเหมือนอยากปิดผมไว้ยังไงยังงั้นแหละ
“ ไมมาทำงานที่นี่ในฐานะลูกน้อง อยู่ๆเปลี่ยนสถานะ คำนินทาที่ไมเจอมันก็ต้องเพิ่มขึ้นอีกได้นะคะ ”
“ ไม่ได้ กูไม่ยอม ทุกคนต้องรู้ว่ามึงเป็นอะไรกับกู กูไม่ยอมให้ใครมาว่ามึงได้อีก มึงเป็นผู้หญิงของกูมันก็ต้องพิเศษกว่าคนอื่นสิว่ะ ”
“ แต่... ” ละไมจะพูดต่ออีก แต่ผมเอามือปิดปากมันไว้ ก่อนจะก้มลงไปจุ๊บปากมันเบาๆ แล้วลูบหัวมันอย่างเอ็นดูเด็กน้อย
“ อย่าดื้อกับพี่นะอีหนูละไม ”
“ คุณภู... ”
“ ฮ่าๆๆ ”
หัวเราะชอบใจอย่างผู้ชนะ คนอารมณ์ดีก็งี้ ได้อีละไมมาเป็นแฟนมันมีความสุขจริงๆ ละไมมันสวย มันน่ารัก รอยยิ้มของมันทำผมหลงมาก งานการแทบไม่ต้องทำ อยากอยู่กับอีละไมทั้งวัน มีแฟนเด็กแล้วมันกระชุ่มกระชวยจริงๆ
ผมยื่นข้อเสนออยากให้ละไมได้เรียนหนังสือในระดับอุดมศึกษา อยากให้มันได้เรียนปริญญาตรี แล้วมันก็ตกลงทันทีอย่างดีใจมาก น้ำตามันปริ่มอิ่มเอมด้วยความดีใจที่ได้เรียนต่อ ละไมเลือกที่จะเรียนออนไลน์เพื่อจะได้ช่วยงานที่ร้านอาหารของผม ค่อยไปสอบเป็นครั้งคราว ได้ยินแบบนั้นผมก็ไม่อยากขัดมัน แม้จะคบกับผมแต่มันกลับทำตัวเป็นแค่เด็กขัดดอกมาทำงานเหมือนคนปกติ ไม่มีอาการดีใจหรือแสดงออกหน้าออกตาเลยสักนิด ผมเชื่อแล้วว่าเด็กสร้างเจ๊รำภา คนของเจ๊เขาดีจริงๆ
“ ละไม ”
ผมนั่งในห้องทำงานมองละไมที่ทำงานอย่างตั้งใจ ไม่มีแม้จะอู้หรือกินแรงคนอื่น รับผิดชอบงานดีมาก ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะประจำแล้วเรียกละไมให้มาหา พนักงานคนอื่นมองตามเสียงผมที่เรียกละไม และนั่นก็คือสิ่งที่ผมต้องการ
“ คุณภูเรียกไมต้องการอะไรรึเปล่าคะ ? ”
“ นั่งสิ ” ละไมมันทำหน้างงที่ผมชี้ด้วยปากให้มันนั่งตรงข้ามร่วมโต๊ะกับผม มันขัดผมไม่ได้ มันก็ต้องนั่งลงข้างๆผมแต่โดยดี
“ อะไรคะ ? ” ละไมมันตกใจ เมื่อผมเลื่อนบัตรเอทีเอ็มสองใบไปตรงหน้ามัน
“ มันเป็นของมึง ”
“ คุณภูให้บัตรไมทำไมคะ ? ”
“ ใบแรกคือค่าใช้จ่ายในการเรียน ใบที่สองคือให้มึงใช้ในแต่วัน อยากได้อะไรก็กดเอา รหัสอยู่ในนั้น บัตรทั้งสองใบเป็นชื่องของมึง ”
“ ไมรับไม่ได้หรอกค่ะ คุณภูให้ไมเยอะแล้ว ”
“ ต้องรับได้ อย่าลืมสิว่ามึงเป็นผู้หญิงของกู กูอยากทำให้มึงรู้ว่ากูตั้งใจให้มึงเรียนจนจบไม่ใช่แค่พูดลมปากไปวันๆเท่านั้น ”
“ สิ่งที่คุณภูให้ไม ไมไม่รู้จะตอบแทนคุณภูยังไงแล้ว ”
“ อยู่ข้างๆกู อย่าทิ้งกูไปไหนก็พอ กูแก่แล้ว ”
“ แก่จริงๆค่ะ คุณภูแก่แล้ว ” อยากตบปากอีละไมสักที คนกำลังซึ้ง ถ้าไม่สวยนะผมตบไปแล้ว มันสวยผมต้องให้อภัย
“ แก่แล้วรักกูบ้างไหมล่ะ ”
“ .............. ” คราวนี้อีละไมไม่ตอบแต่หน้าแดงมาก อย่าว่าแต่มันเขินเลย ผมพูดเองยังเขินเองเลย ผมเอื้อมไปจับมือมัน
“ พยักหน้าเป็นคำตอบให้กูหน่อยสิ ว่ามึงรักกูเหมือนกัน ” อีละไมมันยิ้มหวานให้ผมแล้วพยักหน้าเบาๆ มันน่ารัก มันน่าฟัดชิบหาย ผมหมั่นเขี้ยวมันชิบหายเลยว่ะ ผมลุกไปจุ๊บหน้าผากมันอย่างลืมตัว
“ คุณภู ”
“ เขินว่ะ ”
“ ไมก็เขินค่ะ ”
“ ฮ่าๆๆ ”
ความรักของผมกับละไมที่สื่อถึงกันมันคละคลุ้งไปทั่วทั้งร้านอาหารแล้ว ทุกคนเริ่มรับรู้ว่าผมกับละไมเป็นอะไรกัน ไอ้บอยกับไอ้วีแฟนมัน ต่างเป็นกระบอกเสียงได้อย่างดี สาระแนเรื่องเจ้านายอย่างผู้รู้ทุกอย่าง การถูกนินทาของละไมคงหายไปได้บ้างแล้ว...
“ หน้าตาสดใสไปนะไอ้ภูเขา ”
เจ๊รำภาแม่ของผมผู้มีอำนาจบาตรใหญ่ เข้ามาหาผมที่ร้านอาหารในห้องทำงานส่วนตัวที่ห้ามคนนอกเข้าก่อนได้รับอนุญาต ทักทายผมด้วยรอยยิ้มกรุ่มกริ่มแบบนี้ ต้องรับมือไว้ให้ดี เจ๊แกร้ายและอันตรายมาก
“ ผมก็ปกติหรอกแม่ ”
“ ใช่เหรอว่ะ กูเห็นมึงกับหนูละไมสนิทกันมากเป็นพิเศษ ได้กันรึยัง ”
“ โอ๊ยแม่ ! ผมไม่ใช่คนฉวยโอกาสแบบนี้ ”
“ สาบาน ”
“ ผมไม่ทำแบบนั้นกับละไมต่างหาก ผมให้เกียรติละไมมันหรอก แม่ก็ผมไม่ได้เลวขนาดนั้น ” เจ๊รำภาผู้จิกกัดไอ้ภูเก่งที่หนึ่ง
“ ใครจะไปรู้ กูอยากอุ้มหลานไวๆหนิ ”
“ เราแค่กำลังคบกันเองแม่ เป็นแฟนกันอยู่ มันต้องไปทีละสเตปสิแม่ ”
“ ไม่ต้องรออะไรทั้งนั้น แต่งเลยยิ่งดี เรื่องครอบครัวหนูละไมกูจัดการแล้ว ”
“ จัดการแล้ว คืออะไรแม่ ? ”
“ ครอบครัวหนูละไมยกหนูละไมให้กู กูขอซื้อหนูละไมพร้อมยกหนี้และเพิ่มเงินให้หลายเท่าตัว ครอบครัวจึงขายให้กู ตอนนี้หนูละไมคือคนของกูเต็มตัวแล้ว ”
“ ........... ” ผมแอบตกใจกับสิ่งที่แม่พูด ครอบครัวยอมขายเพื่อให้หมดหนี้ ผมยังมีกระอักแล้วตัวละไมถ้ารับรู้จะรู้สึกยังไงว่ะ
“ กูจะให้มึงแต่งงานกับหนูละไมให้เร็วที่สุด ”
“ ผมไม่อยากบังคับละไม ”
“ หนูละไมคนของกู กูพูดยังไงก็ต้องยอม ”
“ เรื่องนี้ผมต้องคุยกับละไมก่อนนะแม่ ”
“ ก็รีบๆคุยเข้า กูอยากอุ้มหลาน ”
“ .............. ”
แล้วผมจะบอกกับละไมยังไงดีล่ะ ไหนจะเรื่องครอบครัวมัน ไหนจะเรื่องแต่งงาน ใจผมอยากแต่งกับละไมมากแต่ผมไม่อยากบังคับละไมมัน แม้จะอยากครอบครองแต่ก็อยากได้มาด้วยความเต็มใจเหมือนกัน มันถึงจะมีความสุขในชีวิตแต่งงาน...
“ ละไม ละไม ”
ผมเอ่ยขานเรียกละไมอยู่หน้าห้อง ที่ตอนเช้านี้ละไมยังไม่ตื่น ผมแอบเป็นห่วงเพราะทุกวันละไมจะตื่นแต่เช้า แต่วันนี้กลับยังไม่ออกจากห้อง ผมขานเรียกเท่าไหร่กลับไม่มีการขานตอบใดๆ ผมเป็นห่วงเปิดประตูเข้าไป แต่กลับไม่เจอตัวละไม ใจผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ ในสมองมันสั่งให้เดินไปที่ตู้เสื้อผ้า แล้วผมก็ตกใจเมื่อเสื้อผ้าของละไมหายไป เหลือแค่เสื้อผ้าที่ผมซื้อให้ นี่มันคืออะไร
“ ไอ้บอย เจอรึเปล่า ” เมื่อหาไม่เจอ ผมให้ไอ้บอยไปเช็กกล้องวงจรปิด แล้วสิ่งที่ได้
“ คุณละไมสะพายกระเป๋าออกไปตอนตี 1 คับ ”
“ !!! ”