Chapter 1 วิวาห์วิวาท
ร่างบอบบางในชุดสีแดงมงคลนั่งนิ่งอยู่บนเตียงวิวาห์ที่ประดับตกแต่งเอาไว้อย่างประณีต ใบหน้างดงามกว่าครึ่งถูกปิดบังด้วยผ้าคลุมมงคลซึ่งปักลวดลายบุปผาชดช้อยด้วยดิ้นทองและดิ้นเงินสูงค่า ระยิบระยับงดงามบ่งบอกถึงฐานะมั่งคั่งของตระกูลเจ้าบ่าว
ริมฝีปากอวบอิ่มสีชาดเม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรง มือเรียวเล็กบนหน้าตักกำหมัดเข้ากันแน่น ฉายชัดถึงอารมณ์ขุ่นมัวของผู้เป็นเจ้าสาว หาใช่อารมณ์ปรีดาที่จะได้เข้าหอกับเจ้าบ่าวรูปงามที่สาวๆ ทั้งเมืองต่างเฝ้าฝันหา
ใช่แล้ว!
นั่นเพราะการแต่งงานในครั้งนี้หาได้เกิดขึ้นจากความรัก นางจำต้องแต่งงานกับบุตรชายเพียงคนเดียวของตระกูล ‘โจว’ เพื่อช่วยพยุงกิจการ ‘โรงเตี๊ยมสายน้ำ’ ของตระกูลตนเองเอาไว้
หากใครได้เดินทางมาเยือนแคว้นหู่เฉียงก็ต้องเคยเห็นโรงเตี๊ยมขนาดใหญ่สองแห่งตั้งโดดเด่นอยู่ข้างกัน หนึ่งคือโรงเตี๊ยมสายน้ำของสกุลอู่ สองคือโรงเตี๊ยมผืนฟ้าของสกุลโจว
ทั้งสองตระกูลเป็นอริกันมาเกือบยี่สิบปี ชิงดีชิงเด่น ด่าทอ ชกต่อย หรือแม้แต่ใส่ร้ายป้ายสีอีกฝ่ายเพื่อดึงลูกค้าให้เข้าโรงเตี๊ยมของตนเองให้ได้มากที่สุดก็ทำมาแล้ว
ศึกสองตระกูลนี้ใครต่างก็รู้กันทั่วว่าไม่อาจประสานรอยร้าว ดังนั้นจึงไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีวันนี้ วันที่สองตระกูลจะกลายเป็นทองแผ่นเดียวกัน
หึ! พวกคนสกุลโจวต่ำทรามนัก กดดันให้บิดายอมยกนางให้เป็นสะใภ้สกุลโจว เพื่อแลกกับการช่วยปลดหนี้จำนวนมหาศาล นางไม่มีทางเลือกอื่นจำต้องกตัญญูต่อบิดาอย่างยอมจำนน
แต่คิดหรือ...ว่านางจะยอมตกเป็นเบี้ยล่างของคนสกุลโจว ไม่มีวัน!
มือเล็กที่กำหมัดแน่นค่อยคลายออกแล้วเลื่อนมือไปสอดใต้หมอนดึงมีดสั้นที่ซ่อนเอาไว้ออกมากำชับแน่น ไขว้อาวุธแอบไว้ด้านหลัง แล้วเงี่ยหูฟังการมาเยือนของศัตรูด้วยใจจดจ่อ
แกร๊ก!
เสียงประตูห้องหอเปิดออกกว้าง ตามด้วยเสียงปิดลงอย่างเงียบเชียบ อู่ฉานอิงกัดฟันกรอดปฏิญาณกับตนเองว่าวันนี้นางจะต้องทำให้ใบหน้าอันหล่อเหลาของโจวจือหยวนอัปลักษณ์ให้จงได้
“ตื่นเต้นหรือ”
น้ำเสียงทุ้มเอ่ยถามราวกับไม่ใส่ใจนักขณะที่เขาเดินไปรอบๆ ห้องหอราวกับรู้ว่าการทำเช่นนี้จะยิ่งเป็นการยั่วยุให้อีกฝ่ายขึ้งเคียด
“คงใช่”
นางตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงห้วนสั้น นึกชังน้ำหน้าชายผู้นี้อย่างสุดขั้วหัวใจ นางยังจำได้ไม่ลืม กี่ครั้งกี่หนที่เขาแย่งลูกค้าของนางไปต่อหน้าต่อตา โรงเตี๊ยมของนางจึงร่อแร่ทรุดโทรม เงินขาดมือรอวันเจ๊งจนท้ายที่สุดต้องกู้หนี้ยืมสินมาใช้จ่ายช่วยพยุงกิจการเอาไว้
ทั้งหมดก็เพราะคนพวกนี้!
ชายใจทราม! ละโมบ! มักมาก!
คงวางแผนเอาไว้หมดแล้วเพื่อหวังจะฮุบกิจการโรงเตี๊ยมสายน้ำของตระกูลอู่สินะ
“ครั้งแรกของเจ้าสินะ”
โจวจือหยวนทรุดกายลงนั่งที่เก้าอี้กลม ยกขาข้างหนึ่งพาดลงบนหน้าขาอีกข้างด้วยท่วงท่าไม่ยี่หระ พลางยื่นมือไปหยิบไหสุราแล้วรินลงบนจอกเล็กๆ อย่างเชื่องช้าราวกับกำลังทอดอารมณ์ผ่อนคลาย ทั้งที่น้ำเสียงของเจ้าสาวนั้นฉายชัดว่าไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นด้วยเลยสักนิด
“หยาบคาย! สามหาว!”
อู่ฉานอิงตวาดกร้าวกรุ่นโกรธ กระนั้นกลับต้องบอกตัวเองซ้ำๆ ว่าคิดการใหญ่ต้องทำใจให้นิ่งประดุจผืนน้ำในทะเลสาบ ไม่เช่นนั้นแผนการที่นางวางไว้คงพังไม่เป็นท่า
แค่รอ...
รอให้โจวจือหยวนเดินมาเปิดผ้าคลุมหน้า นางก็จะใช้มีดตวัดลงไปที่ใบหน้าของเขาเพื่อเป็นการ ‘เอาคืน’ ที่เขาเหยียบย่ำตระกูลอู่ของนางมาโดยตลอด
คนอย่างอู่ฉานอิงฆ่าได้หยามไม่ได้!
“ข้าก็แค่หยอกเย้าเจ้าสาว เหตุใดใจเจ้าจึงขุ่นมัวง่ายนัก”
จือหยวนหัวเราะในลำคอพลางยกจอกสุราขึ้นดื่ม ท่าทางเช่นนั้นทำให้ใบหน้าหวานที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมถึงกับแดงก่ำ นางโกรธจนตัวสั่นแต่พยายามควบคุมอาการเอาไว้
“รีบเปิดผ้าคลุมหน้าเถอะ พิธีบ้าๆ นี่จะได้จบสิ้นเสียที เจ้าก็รู้นี่ว่าการแต่งงานครั้งนี้มันจอมปลอม เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นจากความรัก”
เค้นเสียงราบเรียบพูดออกไปทั้งที่ภายในใจนั้นเดือดยิ่งกว่าน้ำในการ้อนเสียอีก
“งั้นหรือ”
เขาพยักหน้าช้าๆ แล้ววางจอกสุราลง หยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ค่อยๆ หันใบหน้ามามองเจ้าสาวที่นั่งอยู่บนเตียงวิวาห์
ใบหน้าคมคร้ามหล่อเหลาราวกับเทพเซียน หน้าผากกว้างได้รูป ดวงตาคมราวกับนัยน์ตามังกร ริมฝีปากหยักยิ้มอยู่ตลอดเวลาอย่างคนช่างยียวนกวนโทสะ
สาวน้อยสาวใหญ่ในแคว้นหู่เฉียงไม่มีใครไม่รู้จักบุรุษหนุ่มรูปงามนาม ‘โจวจือหยวน’ ไม่ว่าจะร้องรำ เล่นดนตรี ต่อโคลงกลอน ท่องบทกวี ปรุงอาหาร ช่างจำนรรจาปราศรัย เขาล้วนเป็นเลิศทุกทาง จนสาวๆ ต่างตบเท้าเข้ามาดื่มกินที่โรงเตี๊ยมของเขาแทบทุกวัน
‘หล่อแต่เห็นแก่ตัว ข้าไม่มีทางชื่นชม!’
อู่ฉานอิงกระตุกมุมปาก เมื่อเขาสาวเท้ามาใกล้พลางดึงพัดที่เหน็บข้างเอวมาถือไว้ นางก็ยิ่งกำมีดในมือแน่นอย่างรอคอยโอกาส
เจ้าบ่าวยื่นพัดไปยังเบื้องหน้าเจ้าสาวเพื่อใช้พัดเปิดผ้าคลุมหน้าตามธรรมเนียม ทว่าจังหวะที่ผ้าคลุมหน้าหลุดออกเจ้าสาวก็ตวัดปลายมีดสั้นเข้าหาเขาอย่างรวดเร็ว
หึ!
เสียงหัวเราะในลำคอพร้อมกับเอี้ยวตัวหลบอย่างรวดเร็ว เขาตวัดพัดกลับมาแล้วตบลงไปที่ข้อมือของเจ้าสาวอย่างแรงจนมีดร่วงหลุดจากมือ
แกร๊ง!
ฉานอิงเม้มริมฝีปากเข้าหากัน แล้วใช้สันฝ่ามือหมายจะซัดใส่อีกฝ่ายให้บาดเจ็บ เจ้าบ่าวยังคงยิ้มกว้างคล้ายกำลังชมมหรสพขบขัน ยียวนยั่วยุให้อีกฝ่ายกรุ่นโกรธจนดวงตาแทบถลน
ไม่ว่าหญิงสาวจะซัดฝ่ามือใส่เขากี่หน เขาก็ใช้พัดปัดมือของนางออกได้อย่างง่ายดาย ก่อนจะพลิกข้อมือของนางแล้วดันร่างให้หมุนตัวเซเข้าปะทะอกกว้าง
ไม่ทันที่คนตัวเล็กจะได้ตั้งหลัก เจ้าบ่าวก็ก้มลงหอมแก้มฟอดใหญ่
“ชื่นใจ”
“เจ้าคนสามหาว!”
ทันทีที่หญิงสาวดิ้นออกจากอ้อมกอดของคนฉกฉวย นางก็ดีดตัวขึ้นบนอากาศแล้วยกเท้าถีบเข้าที่หน้าอกของชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว
คิดว่าไวแล้ว แต่เขากลับไวกว่า
จือหยวนยกมือขึ้นคว้าข้อเท้าของนางเอาไว้ได้อย่างแม่นมั่น จับนางหมุนไปในอากาศหลายตลบก่อนจะปล่อยนางลอยคว้างกลางอากาศ จังหวะที่นางเกือบร่วงหล่นถึงพื้นชายหนุ่มก็โผเข้าไปตวัดร่างบางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดได้อีกครั้ง