Chapter 6 ข้าจะกลืนกินเจ้า
“อื้อ อื้อ ขะ...ข้า ข้า...”
นางหอบหายใจแรงขึ้นอีก ดวงตากลมโตปรือต่ำราวกับเปลือกตาหนักอึ้ง ริมฝีปากอ้าเผยอครวญเสียงหวานก่อนจะก้มลงกัดที่ไหล่ของเขาเต็มแรง
“อื้อ”
ยิ่งเสียวก็ยิ่งถู ยิ่งถูก็ยิ่งเสียว
“จะเสร็จแล้วเหรออิงเอ๋อร์ของข้า”
เขาถามพลางจูบไซ้ไปทั่วทรวงอกราวกับหวงแหน หญิงสาวบอกไม่ถูกเลยว่า ‘อิงเอ๋อร์ของข้า’ ที่เขาเอื้อนเอ่ยออกมานั้นทำให้นางเสียวจนถึงขีดสุด
“อื้อ ขะ...ขะ...ข้าไม่ไหวแล้ว”
นางกดสะโพกกระแทกแล้วบดถูเพื่อให้ปลายหัวหยักเสียดสีกับเมล็ดเสียวให้มากที่สุดก่อนจะเกร็งกระตุกไปทั้งร่างในขณะที่จือหยวนนั้นกอดกระชับนางแนบแน่นแล้วปลดปล่อยสายน้ำแห่งชาติพันธุ์สีขาวขุ่นออกมา
เป็นการเสพสมที่ไม่ได้สอดใส่ ทว่าทั้งคู่กลับถึงฝั่งฝันได้อย่างร้อนแรงและสุขสม
ฉานอิงลืมสิ้นซึ่งทิฐิในใจ หญิงสาวทิ้งตัวอย่างเหนื่อยอ่อนลงในอ้อมกอดของเขา นางไม่เคยเสียวจนเสร็จแบบนี้มาก่อน ทว่าเขากลับสอนให้นางรู้จักความสุขที่เกิดจากการสัมผัสชิดใกล้ อีกทั้งยังทำให้นางเสร็จสมไปถึงสองครั้งติดๆ กัน
กอปรกับเมื่อคืนนางไม่อาจข่มตานอนเพราะเครียดที่ต้องแต่งงานล้างหนี้ เป็นเหตุให้นางอ่อนเพลียเป็นทุนเดิม
นางเหนื่อยอ่อนจนหายใจแผ่วเป็นจังหวะเนิบช้า น้ำอุ่นที่แช่กายยิ่งทำให้นางรู้สึกผ่อนคลายจนผล็อยหลับไปในที่สุด
แสงยามเช้าสีทองเรืองรองจากดวงอาทิตย์ที่เพิ่งโผล่พ้นจากเส้นขอบฟ้าทำให้ดวงตาของฉานอิงค่อยๆ เปิดขึ้นด้วยความง่วงงุน กะพริบเปลือกตาขึ้นลงช้าๆ ปัดไล่ความง่วงซึมออกไปจากร่างกาย
‘เช้าแล้ว!’
หัวสมองประมวลผลอย่างงุนงง ความเหนื่อยล้า ความเครียด และความวิตกกังวลทำให้หัวสมองสับสนจนหลงคิดว่านางต้องรีบตื่นไปดูแลโรงเตี๊ยมสายน้ำซึ่งเป็นกิจการตกทอดของตระกูลอู่เช่นทุกวัน
“อ๊ะ...”
หญิงสาวร้องเสียงหลง หัวใจวูบไหวเมื่อความเสียวซ่านแล่นปราดไปทั่วทั้งร่างโดยไม่ทันตั้งตัว
นะ...นี่มันอะไรกัน!
นางรู้สึกราวกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำลังเคลื่อนกายอยู่ภายใต้ผ้าห่มหนา แล้วภาพเหตุการณ์ในคืนเข้าหอก็ย้อนชัดฉายซ้ำอีกครั้งในห้วงแห่งความทรงจำ จนใบหน้าคนเพิ่งตื่นนอนแดงระเรื่อราวกับแก้มเด็กทารก
“อื้อ...ยะ...หยุดนะ!”
ความง่วงงุนหายไปจนหมดสิ้น กระจ่างในทันทีว่าสิ่งที่ยุกยิกขยับไปมาอยู่ภายใต้ผ้าห่มคือสิ่งใด
“หยุดนะโจวจือหยวน เจ้าคนลามก!”
นางยกขาขึ้นหมายจะถีบคนตัวโตที่มุดอยู่ใต้ผ้า ทว่า... มันไม่ใช่วันของนาง ไม่ว่านางจะขยับกายทำสิ่งใดจึงผิดพลาดไปเสียหมด
“อื้อ...”
เพราะนางยกขาขึ้นสูงจึงเป็นการเปิดโอกาสให้คนตัวโตซุกใบหน้าลงไปยังกึ่งกลางหว่างขาได้อย่างพอดิบพอดี แล้วโดยที่ถ้อยคำด่าทอยังไม่ทันได้พ่นออกจากริมฝีปากงาม นางก็ถึงกับต้องครางไม่เป็นภาษา เมื่อลิ้นร้อนสากชื้นของเขาตวัดเสียไปไปยังกลีบอวบอูมของบุปผางาม
“อะ...อะ...อื้อ ยะ...หยุด อื้อ หยุดนะ!”
หัวใจเจ้ากรรมไหววูบราวกับกำลังร่วงหล่นจากที่สูง ก่อนจะเต้นกระโจนราวกับเสียงกลองศึกในสมรภูมิรบ เมื่อคืนเขาใช้นิ้วปรนเปรอกลีบบุปผาหวานหอมจนนางแทบแดดิ้น พอรุ่งเช้าเขากลับใช้ปลายลิ้นร้อนลามเลียตวัดเร้าราวกับต้องการให้นางขาดใจตายลงตรงนี้! เดี๋ยวนี้!
“หวานล้ำ...”
คนตัวโตพึมพำภายใต้ผ้าห่ม ริมฝีปากหยักได้รูปจูบไปตามกลีบอวบอูมทั้งสองข้างแผ่วเบา ก่อนที่ลิ้นสากจะตวัดเร้าสัมผัสลงไปยังจุดที่อ่อนไหวที่สุดของอิสตรี แน่นอนว่าเพียงแค่ปลายลิ้นสัมผัสนางก็ถึงกับระทดระทวยโอนอ่อน สะโพกสวยเผลอแอ่นกระดกยกขึ้นโดยไม่รู้ตัว เปิดจังหวะให้ชายหนุ่มใช้สองมือโอบประคองแก้มก้นทั้งสองข้างเอาไว้อย่างถนัดถนี่
“ข้าจะกลืนกินเจ้า”
สิ้นสุดคำพูดวาบหวามเขาก็ซุกใบหน้าลงไปยังแกนกลางกายอวบอูม เลีย ตวัด แล้วห่อปลายลิ้นดุนดันจนร่องเสียวค่อยๆ ชื้นแฉะ
เพียงไม่นานน้ำใสก็ค่อยๆ ไหลออกมาให้เขาได้ดื่มกินด้วยความเอร็ดอร่อย
“อะ...อะ...อาห์”
สองมือเล็กจิกลงไปบนฟูกนอน ใบหน้าหวานสะบัดแรงไปมา ริมฝีปากคู่สวยเม้มสนิทเป็นเส้นตรงแต่แล้วก็เผยอครวญครางก่อนจะกลับไปขบเม้มดังเดิมสลับไปมาอย่างไม่รู้ว่านางควรจะจัดการกับความเสียวและความรู้สึกหวามไหวอย่างไรดี
“จะ...จือหยวน ดะ...ได้โปรด ได้โปรด”
นางร้องขอด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เกร็งสะท้านไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย หัวใจเต้นระส่ำราวกับจะแหวกทรวงอกออกมา ใบหน้าแดงระเรื่อคล้ายเป็นปื้นริ้ว เนื้อกายสั่นระริกตอบสนองต่อความซ่านเสียวที่ชายหนุ่มกำลังปรนเปรอให้อย่างน่าละอาย
“ฮืม...”
เขาแค่ส่งเสียงทุ้มนุ่มตอบกลับมาเท่านั้น ทว่ามันกลับทำให้คนตัวเล็กรู้สึกอุ่นวาบเข้าไปในหัวใจได้อย่างประหลาด ให้ตายเถอะ! นอกจากนางจะไม่รังเกียจสัมผัสจากศัตรูแล้ว นางยังรู้สึกดีกับเสียงทุ้มนุ่มอ่อนโยนของเขาอีกด้วย
ไม่นะ! ข้าจะไม่มีทางใจอ่อนกับศัตรูเด็ดขาด!
“อะ...อะ...อื้อ ซี๊ด!”
ความตั้งมั่นคลอนแคลนดั่งใบไผ่ต้องลมปลิดปลิว ฉานอิงร้องครางเสียงหลงเมื่อเขาแหย่ดุนปลายลิ้นเข้าไปตรงปากทางแคบชื้น
เวลานี้ผ้าห่มผืนหนาที่เคยปกคลุมเรือนกายถูกสะบัดร่วงไปกองอยู่ข้างเตียง เปิดเปลือยให้เห็นคนตัวโตที่กำลังคุกคามกลีบบุปผาของนางอย่างอาจหาญ
จือหยวนจับเรียวขาคู่งามทั้งสองข้างอ้าออก ก่อนจะวางเรียวขาไว้บนไหล่หนาของเขา แล้วก้มลงจูบซับดื่มด่ำเกสรหวานจนสะโพกงามงอนถึงกับสั่นน้อยๆ ด้วยความซ่านหฤหรรษ์
“อื้อ...”
เปลี่ยนมาประคองก้นงอนด้วยมือเพียงข้างเดียว ก่อนที่มืออีกข้างจะเลื่อนขึ้นไปบีบเฟ้นทรวงอกอิ่มเต็มมือ ทั้งบีบ ทั้งเคล้น ในขณะที่ริมฝีปากและปลายลิ้นยังคงดื่มกินความหอมหวานของอิสตรีราวกับหิวกระหาย