พี่ธามหยิบอุปกรณ์มากมายมาวางไว้บนเตียง มีทั้งแผ่นไม้ขนาดย่อมลักษณะแบนมีด้ามจับ แส้เดี่ยว แส้ตีม้า ไม้เท้าที่ทำมาจากหวาย แถมยังมีแส้พู่แบบที่เธอเคยเห็นแวบ ๆ ในห้องที่โรงแรมตอนที่เธอเจอพี่ออสตินอยู่กับพี่พาย
“นี่อะไรคะ?” ขวัญข้าวหยิบแผ่นไม้แบน ๆ ที่มีด้ามจับขึ้นมาเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่เธอไม่รู้จัก
“แพดเดิ้ล เอาไว้ตี ที่หนูถืออยู่เป็นแบบไม้เวลาตีจะปวดมากกว่าแบบหนัง ทิ้งรอยช้ำไว้มากกว่าด้วย” ธามอธิบาย
“หนูลองตีพวกพี่เลยได้ไหมอะ?” สาวน้อยถามแล้วเอื้อมมือไปหยิบแส้เดี่ยวขึ้นมาถือก่อนจะตวัดมันไปมาเล่น ๆ กลางอากาศดังหวืด
สองหนุ่มหล่อเห็นแส้เดี่ยวในมือสาวน้อยแล้วถึงกับสะดุ้ง
“เฮ้ย! ตัวเล็ก อย่าเล่น! วางลงก่อน ในบรรดาแส้ทั้งหมด แส้เดี่ยวเจ็บที่สุด ถ้าอยากลองตีพวกฉันใช้แส้ม้าก็พอ เจ็บน้อยที่สุด” ลอยด์เอ่ยปากบอกทันที ไม่ได้คิดจะเป็นทาสให้เธอเพลย์ แต่เมื่อเห็นหน้าใส ๆ ใจมันก็เสือกลังเลขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“แล้วแส้พู่ล่ะคะ หนูแอบเห็นตอนพี่ออสตินอยู่กับนายของพี่เขา เขามีแส้พู่ หนูเอาแส้พู่ฟาดพวกพี่ได้ไหมอะ?” สาวน้อยเอื้อมมือไปหยิบแส้พู่มาแล้วถามอย่างเว้าวอน อยากลองในสิ่งที่คู่หมั้นทำกับสาวอื่นบ้าง
“ไม่ได้! แส้พู่ก็ยังเจ็บกว่าแส้ม้าอยู่ดี ฉันไม่ได้เป็นพวกมาโซคิสม์เหมือนคู่หมั้นเธอนะ จะมาตีฉันได้ยังไง แค่ให้ลองเอาแส้ม้าตีนี่ก็ปรานีมากแล้ว” ลอยด์โวยวายขึ้นมาทันควัน
เข้าทางหนูเลย... ขอแค่ลองได้ตีแค่นั้น ให้เอาอะไรตีหนูก็ยอม
ขวัญข้าวทำเป็นก้มหน้าเหมือนจะผิดหวังที่พี่ลอยด์ยืนยันว่าจะให้เธอใช้แค่แส้ม้าตีพวกเขาแต่ความจริงกลับแอบอมยิ้ม พอใจที่พี่ ๆ รับปากจะยอมให้เธอตี
“แต่ก่อนที่จะตีเราต้องมาตกลงกันก่อน พวกพี่และหนูต้องเป็นสวิตช์ โอเคไหมคะ? เปลี่ยนกันเป็นดอมและซับ” ธามเอ่ยเรื่องที่สำคัญที่สุดขึ้นมาก่อน
“แต่หนูอยากเป็นนายหญิงอะ” สาวน้อยพูดเสียงอ่อย
“พี่เคยบอกแล้วไงคะว่าความจริงหนูก็คือนายหญิง พี่ยอมให้หนูเป็นนายหญิงทั้งชีวิตเลยค่ะ แต่เวลาเพลย์เราต้องเปลี่ยนกันสิ ไม่อย่างนั้นหนูจะเรียนรู้การเป็นนายหญิงอย่างรวดเร็วได้ยังไงคะ? คนจะเป็นหัวหน้าที่ดีก็ต้องเคยเป็นลูกน้องมาก่อน หากพวกพี่ทำอะไรไม่ดีหนูจะได้จำไว้และไม่ไปทำกับพี่ออสตินของหนูไงคะ” ธามกล่อมน้องเสียงหวาน
ลอยด์หรี่ตามองเพื่อนทันที เรื่องอื่นไอ้ธามอาจฉลาดน้อยกว่าเขา ทั้งเรื่องการใช้คน การใช้กำลัง การวางแผนตลบหลังคู่อริ แต่เรื่องล่อลวงหญิงสาวทั้งหลายไอ้ธามมันฉลาดกว่าเขาหลายเท่านัก
“ก็ได้ค่ะ... แล้วเป็นซับต้องทำยังไงบ้างคะ? การเป็นทาสมันต้องเจ็บตัวไหม? หนูไม่อยากเจ็บตัวนะ” สาวน้อยตอบตกลงแล้วทำปากยื่นอย่างแง่งอนก่อนจะเอ่ยปากถามเขาเสียงอ่อน
“ความจริงทาสกับซับไม่เหมือนกันนะยัยตัวเล็ก ซับคือคนที่มอบอำนาจในการควบคุมให้กับดอม อาจมอบให้ตลอดเวลาหรือมอบให้เป็นช่วงเวลาก็ได้และต้องมีการตกลงเซฟเวิร์ดกัน แต่ทาสต้องยอมทำตามคำสั่งดอมทุกอย่างแบบถวายหัวห้ามมีข้อโต้แย้งห้ามมีเซฟเวิร์ด อาจจะฟังดูสับสนนิดหน่อย เวลาเพลย์บางทีคนก็ใช้ทั้งสองคำสลับกันไปมาได้ แต่ฉันต้องการให้เธอเข้าใจตรงนี้ให้แน่ชัดก่อน เวลาเธอไปเพลย์กับคนอื่นจะได้มีความรู้ติดหัวบ้าง ดังนั้นถ้าจะตกลงเป็นทาสใครให้ไตร่ตรองดูให้รอบคอบไม่ใช่ทำหน้าซื่อบื้อแล้วตกลงเป็นทาสเขาเฉย” ลอยด์พูดดักคอขึ้นมาก่อน ในใจคิดภาพขวัญข้าวไปนั่งเป็นทาสให้คนอื่นตีก้นไม่ออกเลยแม้แต่น้อย
...ตอนนี้ในหัว สองคนที่จะตีก้นยัยตัวเล็กได้มีแต่กูกับไอ้ธามเท่านั้น!
ขวัญข้าวพยักหัวหงึก ๆ รับทราบแล้วจดบันทึกลงไปในแท็บเล็ต
“กับพวกพี่หนูยอมเป็นซับให้ได้ เรียกหนูว่าทาสก็ได้หนูไม่แคร์ แต่อย่ามาทำร้ายหนูให้เจ็บนะ” สาวน้อยเตือนก่อน
สองหนุ่มหล่อได้ยินคำเตือนก็ได้แต่หัวเราะน้อย ๆ
เพลย์ซีนที่ไม่เจ็บมันมีน้อยมากเลยนะยัยเตี้ย! มันก็ต้องมีนิด ๆ หน่อย ๆ แหละวะ ไม่ต้องเจ็บตัวก็ต้องมีอายกันแหละ
สองเพื่อนรักมองตากันแล้วคิดในใจ
“เอาเป็นว่าพี่สัญญาว่าจะทำให้หนูเจ็บน้อยที่สุดนะคะ ในเมื่อเราตกลงเรื่องใครจะเป็นนายใครจะเป็นทาสแล้ว วันนี้เราจะมาตั้งเซฟเวิร์ดกันนะคะ พอตั้งเสร็จพี่จะลองให้หนูตีพวกพี่ จากนั้นพวกเราเปลี่ยนกัน ให้พวกพี่ตีหนูบ้าง ดีไหมคะ?” ธามลองถามเธอดู
ขวัญข้าวนิ่วหน้าทันที
“งื้ออออ... หนูตีพวกพี่อย่างเดียวไม่ได้เหรอคะ? พวกพี่ต้องตีหนูคืนด้วยเหรอ?”
“ก็ตกลงกันแล้วว่าจะเป็นสวิตช์ไง เปลี่ยนกันเป็นดอม เธอได้กำไรนะ คิดดูสิ ได้ตีพวกฉันตั้งสองคน พวกฉันแต่ละคนได้ตีเธอคนเดียวเอง” ลอยด์พูดขึ้นมา น้ำเสียงเหมือนตัวเองเสียเปรียบ
เทคนิคการพูดง่าย ๆ พูดยังไงก็ได้ให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกเหมือนได้เปรียบ แต่สุดท้ายยัยตัวเล็กก็ต้องโดนกูฟาดก้นแน่ ๆ คืนนี้
หนุ่มหล่อหน้าตี๋แสร้งทำหน้าเหมือนขัดใจกับข้อเสนอจนสาวน้อยพยักหน้าตกปากรับคำเขาจึงแอบยกยิ้มร้ายที่มุมปาก
“ก็ได้ค่ะ... งั้น... มาตั้งเซฟเวิร์ดกันดีกว่านะคะ หนูใช้คำว่า ‘หยุด’ หรือ ‘อย่า’ เลยได้ไหม?” สาวน้อยถาม เธอศึกษามาเป็นอย่างดีแล้วว่าเซฟเวิร์ดคือคำที่ใช้เวลาจะบอกให้ดอมหยุดเพลย์เพราะซับทนไม่ไหวแล้ว
“ไม่ได้ค่ะ ถ้าหนูใช้คำพวกนั้นแล้วไปเจอดอมที่คลั่งมาก ๆ เคลิ้มหรือมีความสุขเวลาหนูเจ็บ พวกเขาอาจรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจจนคิดว่าคำที่หนูพูดออกมาเป็นเพียงแค่การเพลย์ที่ทำให้เขาเกิดอารมณ์ ดังนั้นเซฟเวิร์ดหรือคำปลอดภัยที่ไม่ใช่ ‘หยุด อย่า ไม่นะ’ จึงจะดีที่สุดค่ะ ส่วนใหญ่เขาจะใช้สี เช่น แดงคือหยุด เหลืองคือให้ทำเบาลงหรือช้าลง เขียวคือทำได้ หรือหนูอยากกำหนดอย่างอื่นที่หนูชอบก็ได้” ธามอธิบาย
“แต่ถ้ากำหนดยากเกินไปแล้วพวกฉันจำไม่ได้พวกฉันก็ไม่หยุดนะ บอกไว้เลย” ลอยด์เสริมขึ้นมาก่อน
“งื้อออ... จะไม่หยุดได้ไงอะ พูดเซฟเวิร์ดก็ต้องหยุดสิ ถ้าไม่หยุดหนูจะตีคืนให้ตายเลย” สาวน้อยท้วงทันทีแล้วทำหน้างอ ก่อนจะนิ่งนึกเซฟเวิร์ดของเธอ
“หนูขอเป็น...มะเขือเทศคือหยุด แครอทคือเบาลง คะน้าคือทำได้ ได้ไหมคะ? เห็นไหม หนูฉลาด เลือกตามสีสัญญาณไฟจราจรเลย จำง่าย รับรองถ้าหนูพูดพี่ ๆ ไม่ทางลืมแน่ค่ะ” ขวัญข้าวพูดขึ้นมาหลังจากคิดมาแล้วครู่หนึ่ง
“ฉลาดบ้าอะไร ตะกละล่ะไม่ว่า นั่นเซฟเวิร์ดเอาไว้เวลาเพลย์ในซีนหรือจะทำผัดผักรวม?” ลอยด์นิ่วหน้าแล้วถาม ในใจอดขำกับเซฟเวิร์ดของเด็กสาวไม่ได้ ตั้งแต่เขาเพลย์มาผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะเลือกใช้สีแดงเขียวเหลือง หรือไม่ก็พวกผลไม้ต่าง ๆ พวกแอปเปิล สตรอว์เบอร์รี่ที่น่ารัก ๆ หน่อยเป็นเซฟเวิร์ด เห็นมียัยเตี้ยนี่แหละที่มาเป็นร้านอาหารตามสั่งเลยทีเดียว
“โอเค เราได้เซฟเวิร์ดแล้ว เซ็กซ์เมนูที่หนูให้พวกพี่มาพี่จะถือว่าเป็นซอฟต์ ลิมิตของหนูนะคะ อะไรจะเป็นฮาร์ด ลิมิตของหนูคะ?” ธามสรุปทันทีแล้วถามต่อ
“อะไรที่นอกเหนือจากที่เขียนคือฮาร์ด ลิมิตของหนูหมดค่ะ” ขวัญข้าวตอบทันที
ซอฟต์ ลิมิตคือสิ่งที่เธอยืดหยุ่นให้กระทำได้จนกว่าเธอจะเอ่ยเซฟเวิร์ดให้หยุดหรือให้เบาลง ส่วนฮาร์ด ลิมิตคือสิ่งที่เธอไม่ยอมกระทำเด็ดขาดไม่ว่าจะในสถานการณ์ไหนก็ตาม
“หา?! ไม่นะยัยบื้อ! ถ้าทุกอย่างนอกเหนือจากนี้เป็นฮาร์ด ลิมิต แค่สั่งให้เธอช่วยตัวเองให้ดูก็ไม่ได้งั้นสิ?!” ลอยด์ถามเสียงสูงทันที
“ไอ้พี่ลอยด์บ้า! แล้วใครจะมานั่งช่วยตัวเองให้พวกพี่ดูล่ะยะ! ผัวหนูก็ไม่ใช่!” ขวัญข้าวสวนขึ้นมาทันที
เชี่ย... ไอ้ลอยด์แม่งจะทำไก่ตื่น
ธามคิดในใจแล้วหาทางเบี่ยงเบนประเด็น
“เออ... พี่ว่าหนูกลับไปคิดฮาร์ด ลิมิตของหนูเป็นการบ้านนะคะ วันนี้เราเข้าบทเรียนกันก่อนเลย หนูไปเปลี่ยนชุดนี้ในห้องน้ำตรงนั้นแล้วเดี๋ยวเรามาเรียนการเพลย์ในซีนแรกของชีวิตหนูกัน” ธามเปลี่ยนเรื่องทันทีแล้วเดินไปตรงหัวเตียง หยิบชุดบอดี้สูทหนังสีดำพร้อมถุงน่องตาข่ายสีเดียวกันยาวถึงแค่ต้นขาและรองเท้าส้นสูงสีแดงมาให้สาวน้อยพร้อมกับชี้ไปที่ห้องน้ำที่ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของห้อง
“หา?! หนูต้องเปลี่ยนชุดด้วยเหรอคะ? ใส่ชุดนี้ไม่ได้เหรอ?” ขวัญข้าวถามแล้วชี้ไปที่ชุดเดรสสั้นแค่เข่าสีชมพูหวานที่เธอสวมอยู่
“ทำไม? อายเหรอ? ถ้าแค่นี้ยังอายก็ไปเป็นนายหญิงของไอ้ออสตินไม่ได้หรอก” ลอยด์พูดยั่วยุขวัญข้าวขึ้นมาทันที ขนาดตัวเขาเองยังทนคำยุไม่ได้มีหรือเด็กสาวอย่างขวัญข้าวจะทนได้?
“ใครว่าหนูอาย? หนูแค่ถามต่างหาก ชุดนี้มันไม่ใช่รสนิยมของหนู วันหลังถ้าจะเตรียมชุดขอสีขาวหรือสีชมพูเท่านั้นนะคะ หนูไม่ชอบสีดำ พี่ ๆ รอตรงนี้ได้เลย เดี๋ยวนายหญิงจะมาฟาดไม่ยั้งเลยคอยดู! ฮ่า ๆ ๆ ๆ!” สาวน้อยประกาศเสียงดังแล้วหัวเราะอย่างบ้าคลั่งก่อนจะรับชุดจากพี่ธามแล้วเดินไปยังห้องน้ำที่พี่ธามชี้ให้เธอดูก่อนหน้านี้เพื่อเปลี่ยนชุด
สองหนุ่มหล่อมองตามหลังหญิงสาวไปแล้วหัวเราะน้อย ๆ ดูท่าทางสาวน้อยไม่ได้เขินอายแต่อยากได้ชุดสีชมพูจริง ๆ
พวกเขาเริ่มชินกับความแปลกของเธอแล้วแหละ ทีนี้คงต้องหาชุดหนังสีชมพูให้เธอสักหลายชุดแล้วเริ่มทำตัวให้ชินกับนายหญิงที่ชอบสีชมพูของพวกเขาด้วย