มู่เฟยเหลียนกลอกตาเล็กน้อย สุดท้ายก็ถามออกไปตามตรง “น้ำใจที่ท่านหยิบยื่นให้ครานี้ มีผลทั้งต่อข้าน้อยและหลวนเจี้ยนเสียนใช่หรือไม่” “ฮึ เจ้ากับเขาพรากจากกันมิได้เชียวหรือ” แม้น้ำเสียงของอีกฝ่ายจะแดกดันเพียงใด ทว่ามู่เฟยเหลียนกลับคลี่ยิ้มราวกับไม่รับรู้ “หากเขาไม่ทำหน้าที่คุ้มครองข้า เกรงว่าจะไม่คุ้มค่าเบี้ยที่ควักจ่าย” เมื่อพูดคุยเรื่องสำคัญเสร็จเรียบร้อย มู่เฟยเหลียนก็รู้สึกว่าภายในรถม้าค่อนข้างอุดอู้ จึงเตรียมจะออกไปยืดเส้นยืดสายด้านนอก นึกไม่ถึงว่าทันทีที่ขยับตัว เสียงทุ้มเข้มก็เอ่ยรั้งนางไว้เสียก่อน “มู่เฟยเหลียน” “เจ้าคะ” “ข้าหวังว่าเจ้าจะเป็นสตรีที่ดวงแข็ง” เด็กสาวหันหน้ากลับมา พบสีหน้าจริงจังของหยางหวู่ก็นิ่งไปเล็กน้อย ประหลาดใจที่ชายหนุ่มพูดจาราวกับว่ากำลังเป็นห่วงนาง ใบหน้ากระจ่างใสระบายรอยยิ้มอ่อนโยน ตอบกลับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงร่าเริง “ข้าน้อยเดิมพันกับดวงของตนเองอยู่ทุกวัน