ความอาลัย

995 คำ
เกิดใหม่...ใกล้เธอ 2 แต่เดิมแล้วตันหยงก็ไม่เชื่อเรื่องของชาติภพหรือการเวียนว่ายตายเกิดเท่าไหร่นัก แต่หลายๆวันมานี้เธอกลับจดจำเหตุการณ์เมื่อชาติภพที่แล้วได้ทุกเรื่องราว ตั้งแต่เกิดจนตาย แต่ปาฎิหารย์ที่เกิดขึ้นกับเธอตอนนี้ หญิงสาวได้แต่ปิดปากเงียบกริบ ไม่กล้าที่จะเอ่ยปากบอกเล่ากับใคร ถึงแม้ว่าอยากจะเล่าใจแทบขาดก็ตาม เพราะยังไม่พร้อมให้คนรอบข้างมองเธอเป็นบุคคลที่แปลกประหลาดในตอนนี้ ตันหยงมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าคฤหาสน์ของตระกูลวสุนันท์ซึ่งเป็นบ้านเก่าของเธอตั้งแต่ชาติก่อน ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะมาถูกบ้าน สภาพของบ้านก็ยังดูไม่แตกต่างไปจากเดิมเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมาจนถึงยี่สิบปีแล้วก็ตาม "แม่คะ หนูคิดถึงแม่" ตันหยงมายืนเกาะอยู่ตรงกำแพงรั้วสูงหน้าบ้าน ได้แต่แอบเมียงมองเข้าไปข้างใน ไม่กล้าแม้แต่จะกดกริ่งเรียก ถึงแม้ว่าแม่แพรวาในชาติปัจจุบันของเธอจะเป็นเพื่อนรุ่นน้องกับแม่ปณิดาของเธอเมื่อชาติที่แล้วก็ตาม แต่ในช่วงหลังๆนี้เธอสังเกตุว่าทั้งคู่นั้นแทบจะไม่ได้พบเจอกันเลย จะเรียกว่าตั้งแต่เธอเกิดมาในชาตินี้เลยก็คงไม่ผิด ถ้าจำอดีตชาติไม่ได้ ตันหยงก็คงจะไม่รู้จักแม่ปณิดาของเธอด้วยซ้ำ ส่วนสาเหตุเกิดจากเรื่องอะไรนั้น ตันหยงคงต้องกลับไปสืบสาวราวเรื่องกับแม่แพรวาของเธออีกครั้งหนึ่ง "คุณคะ มาหาใครคะ?" หญิงชราที่ยืนอยู่ในรั้วบ้านท่าทางใจดีคนนั้นถามขึ้นมาอย่างแผ่วเบาด้วยความสงสัย เสียงคุ้นเคยทำให้หญิงสาวต้องรีบหันไปมองพร้อมกับรอยยิ้มกว้างอย่างลืมตัวว่าเธอในชาตินี้ไม่ได้รู้จักกัน "ป้าศรี" ตันหยงเผลอหลุดเรียกชื่อของหญิงชราออกมาแต่คาดว่าอีกฝั่งคงจะไม่ทันได้ยิน น้ำตาคลอเบ้าขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ป้าศรีคือแม่นมของเธอเมื่อชาติที่แล้ว เธอรักท่านไม่ต่างจากผู้เป็นมารดาแท้ๆ "เอ่อ หนูน่าจะมาผิดบ้านค่ะ ขอโทษนะคะ" ตันหยงกล่าวเสร็จก็เดินจ้ำอ้าวจากไปอย่างเร่งรีบ เพราะเธอเกรงว่าจะร้องไห้ขี้แยจนดูเป็นคนสติไม่สมประกอบ ที่อยู่ๆเป็นคนแปลกหน้ามายืนร้องไห้อยู่หน้าบ้านคนอื่น "ใครน่ะศรี?" คุณปณิดาเจ้าของคฤหาสน์หลังใหญ่เดินตามออกมาทีหลัง และชะเง้อมองไปตรงประตูรั้วสูงหน้าบ้าน นางไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะเหตุใดถึงอยากเดินออกมาตรงนี้ "เอ่อ แม่หนูคนสวย ๆ ใส่ชุดนักศึกษาน่ะค่ะ มายืนนิ่งอยู่หน้าบ้านนานแล้ว อิฉันเลยเดินออกมาดูแต่แม่หนูบอกว่ามาผิดบ้าน" "อ๋อ อย่างนั้นเหรอ แต่ก็ระวังๆหน่อยนะ สมัยนี้มิจฉาชีพเยอะเชียวล่ะ" กล่าวเสร็จคุณปณิดาก็หันหลังจะเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์เหมือนเดิม ไม่รู้เหตุใดอยู่ๆถึงได้นึกถึงใบหน้าบุตรสาวผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว วี้ด~ อยู่ๆสายลมเย็นก็พัดขึ้นปะทะเข้ากับใบหน้าของหญิงสูงวัยเบาๆคล้ายกับใครบางคนเดินผ่านแล้วก็หายไป "วนิดาใช่มั้ยลูก?" คุณปณิดาถามขึ้นเบา ๆ ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือไม่ แต่ว่าในขณะนี้ตนนั้นคิดถึงบุตรสาวผู้ที่ล่วงลับไปแล้วเหลือคณา ยี่สิบปีที่ผ่านมาไม่เคยไม่มีวันไหนไม่คิดถึง ทั้งแต่วนิดาตายจากไปคุณปณิดาก็เก็บตัวอยู่แต่ในบ้านไม่คบค้าสมาคมกับผู้ใด ดั่งว่าชีวิตที่เหลือ จะอยู่เพื่อไว้อาลัยให้ผู้เป็นบุตรสาวอยู่เงียบๆจนกว่าจะสิ้นลมและตายจากไป หญิงสาวยังคงยืนแอบมองอยู่นอกรั้วน้ำตาไหลพรากเมื่อเห็นหน้าผู้เป็นมารดาในอดีตแต่ชาติอีกครั้ง "แม่ขา วนิดาอยู่นี่ไงคะแม่" ร่างผอมบอบบางของหญิงสูงอายุผมสีดอกเลา ถึงจะมองอยู่ห่างๆตันหยงก็มองออกว่าท่านชราขึ้นมากและก็ดูซูบผอมกว่าเมื่อก่อนมากเช่นกัน ใบหน้าของท่านนั้นดูเศร้าสร้อยจนหญิงสาวรู้สึกใจหาย คุณปณิดาค่อยๆเดินหายลับเข้าไปข้างในคฤหาสน์หรูหลังใหญ่ ตันหยงยังคงยืนร่ำไห้อาลัยคิดถึงผู้เป็นแม่ในอดีตแต่ชาติผ่านม่านดวงตา และไหลหยดลงมาเป็นหยดน้ำใสๆราวกับหยดน้ำค้างที่พร่างพราว แทบไม่น่าเชื่อว่าเธอกลับมาเกิดใกล้กันเพียงนี้ แต่ดูเหมือนว่าห่างไกลกันเหลือเกิน รู้จักเขาแต่พวกเขาเหล่านั้นไม่รู้จักเธอสักนิด ถ้าเผลอพูดออกไปตามความเป็นจริง คงได้โดนไล่ออกมาพร้อมกับคำกล่าวหาว่าเป็นบ้าบอแน่ๆ คิดได้แบบนี้หญิงสาวก็รู้สึกเศร้าใจ 'มันดีใช่มั้ยตันหยง ที่เธอจำอดีตชาติได้ ถ้ามันดีทำไมเล่าถึงได้รู้สึกเศร้าใจขนาดนี้' ตันหยงเกิดมาในชาตินี้ ในยุคแห่งความเจริญของเทคโนโลยีและอารยธรรมที่พัฒนาขึ้นในทุกๆด้านของมนุษย์ เธอแทบจะไม่เคยเชื่อถึงสิ่งเร้นลับที่พิสูจน์ทางวิทยาศาตร์ไม่ได้เลยแม้แต่นิด มันค่อนข้างจะน่าแปลกใจอยู่ไม่น้อยทำใจรับไม่ทัน ไม่รู้ว่าต้องเริ่มที่ตรงไหนก่อนดี รู้แต่เพียงว่าเธอเกิดมาเพื่อเขา เกิดมาเพื่อที่จะกลับมารักเขาอีกครั้ง เขาคนนั้นในอดีตชาติของเธอ...ชานนท์ผู้ชายคนเดียวที่ติดตรึงอยู่ในห้วงหัวใจของเธอ ไม่ว่าจะเป็นชาติก่อนหรือว่าชาติภพนี้ก็ตาม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม