เห็นท่าทางเหม่อลอยของเขาแล้วนางก็ได้แต่ขมวดคิ้วอย่างงุนงง ไม่รู้ว่าเขาคิดสิ่งใดอยู่ แต่นางไม่คิดอยู่ตันหยางนานนัก แค่อยากมาพักผ่อนจิตใจหนึ่งหรือสองเดือนเท่านั้น นางเป็นห่วงบิดาและยังมีสำนักศึกษาอีก หากนางไม่อยู่นานๆ ก็เกรงบิดาจะได้ใจ กินอาหารไม่ตรงเวลา ทำงานเพลินจนไม่มีใครคอยเตือน “แล้วเจ้าไม่คิดถึงอี้เซียวหรือ? หากเจ้าไม่อยู่เขาคงไม่มีเพื่อนเล่น” เหตุใดจึงรู้สึกเหมือนตนเองไม่ต้องการให้นางจากไปนัก “ย่อมต้องคิดถึง” นางยิ้มบางๆ “เขาเป็นน้องชายที่น่ารัก แต่อี้เซียวมีแม่นางเฉียนอิ๋นอิ๋นดูแลมิใช่หรือ?” “แต่ข้าไม่เคยอี้เซียวสนิทกับผู้ใดเท่าเจ้ามาก่อน” เขาถอนหายใจหนักหน่วง “อาจเพราะข้าเคยดูแลเด็กๆ ก็เลยพอเข้าใจเขาบ้าง” นางยิ้มอ่อนโยน “ท่านเองมีงานการต้องรับผิดชอบมากมาย ท่านทำหน้าที่ของตนเองเต็มที่แล้ว อย่าได้คิดมากไปเลย” “ตั้งแต่ถูกลักพาตัวไปตอนเจ็ดขวบ เขาก็เป็นเช่นนี้ ราวกับวันเวลาขอ