"แล้วเรื่องของจางเจี่ยต้นจะทำอย่างไร"คิมโยฮันถาม เพื่ออยากรู้คำตอบและจะได้สานรอยร้าวให้สมานดังเดิ่ม และนี่เป็นโอกาสของเขาเอง ที่เขาต้องไขว่คว้าไว้หลังจากแพ้ทางรัก ให้แกจางเจี่ยในครั้งที่แล้ว
"ต้นย้งไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรดี" ใจหนึ่งต้นอยากจะไปหาเจางเจี่ย เพราะเขาก็ยังรักจางเจี่ยอยู่ไม่เปลื่ยนแปลง แต่อีกใจหนึ่งเขาเริ่มท้อกับปัญหาที่ตามมาไม่หยุดหย่อน พร้อมกับปัญหาที่จิตใจของจางเจี่ยที่ไม่มั่นคงเหมือนคิมโยฮัน
"จะไม่ไปหาจางเจี่ยแล้วเหรอครับ"คิมโยฮันลุ้นคำตอบที่จะได้รับฟัง ด้วยสีหน้าที่บ่งบอกออกมาชัดเจน
"คงไม่ไปแล้วแหล่ะ เพราะไม่เห็นจางเจี่ยโทรมาเลย"ต้นรู้สึกเสียใจ เพราะส่วนหนึ่ง ใจของเขาอยากให้จางเจี่ยโทรมา เพียงแค่นี้เขาก็จะไปหาจางเจี่ยทันที แต่ก็รอมาร่วมสองวันยังไร้วี่แววของจางเจี่ย
"คิดว่าทำใจได้แล้วใช่มั้ย"คิมโยฮันถาม
"คงยังไม่ได้หรอก ถ้านานไปคงจะทำใด้เอง"ต้นรู้สึกใจหายวับหลังจากได้ยินคำถามนี้ ที่แสนจะแทงใจเขาจนสุดขั้ว
"ไม่ว่าต้นจะตัดสินใจอย่างไร โยฮันยินดีอยู่เป็นเพื่อน และพร้อมดูแลต้นตลอดไป"คิมโยฮันเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆแล้วจ้องมองหน้าของต้นอย่างเว้าวอน ให้เห็นใจความรักที่เขามีให้ต้น
"ขอบใจนะโยฮัน ต้นเข้าใจดีทุกอย่าง แต่ตอนนนี้ต้นขอเวลาให้กับตัวเองซักระยะ"ต้นหลบตาต่ำลงไม่สามรถสบตาคิมโยฮันได้ เพราะเขารู้สีึกสงสารและเห็นใจ ในความรักที่คิมโยฮันมีมาให้ แต่คนเราไมสามารถบังคับจิตใจให้ชอบใครได้ ถ้าเป็นไปได้ต้นก็อยากจะรักคิมโยฮัน เพราะจิตใจเขาเด็ดเดี่ยวเหนียวแน่นมากกว่าจางเจี่ย
ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่นั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขี้น
"เดี๋ยวผมไปเปิดประตูเองครับ"คิมโยฮันปล่อยมือที่จับไหล่ของต้นไว้ หลังจากนั้นเดินไปที่ประตูและเปิดออก
"คิมโยฮันมาก่อนแทซองอีก"แทซองชิงพูดก่อนใคร เพราะยังมี ริโอ้ ปัน และโมย่า หนุ่มร่วมแกงค์คนใหม่มาด้วย
"เปลื่ยนเจ้าของแล้วเหรอ เจ้าของห้องอีกคนไปไหนเนี้ย"ริโอ้แกล้งมองไม่เห็นต้น
"ยังมีอารมณ์มาเล่นอีกเนาะ ไอ้ริโอ้"ปันได้ทีใส่ไม่ยั้ง พร้อมยิ้มด้วยความสะใจ
มีเพียงโมย่าที่ยืนงง ในห้องที่ดูแคบไปถนัดตา เมื่อมีคนอยู่ในห้องถึงหกคน แต่ต้นก็ยินดีเพราะทำให้เขาได้คลายเหงาลงบ้าง
ใกล้ได้เวลาที่จางเจี่ยต้องไปสนามบินแล้ว เขายังกังวลเรื่องของต้นไม่หาย เพราะในความคิดและความรู้สึกยังปั่นป่วนว่าจะทำอย่างไรดี
"จางเจี่ยได้ส่งข้อความไปหาต้น เพื่อบอกว่าจะกลับวันนี้ แต่ก็ยังไร้การตอบกลับ เขารออยู่ครุู่ใหญ่ ก็ยังไร้วี่แววเสียงไลน์ เพราะจางเจี่ยกังวล เขายังไม่ได้สม้ัครวีแซทให้ต้น และไอดีของเขาก็ยังไมได้ให้ต้น เขาจึงส่งไปในไลน์อีกครั้ง และถ้าต้นยังไม่ติดต่อมาหาเขา จางเจี่ยก็จะกลับไปกับหลี่หรงหรงในทันที
จางเจี่ยดูเหมือนไม่สมหวัง เพราะไร้การตอบกลับจากต้น เขาจึงอยากโทรไปหาต้นบอกกล่าวเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ทันโทรเพราะหลี่หรงหรงมาเคาะประตูห้อง จางเจี่ยจำเป็นต้องออกไปเปิดประตูให้เธอเข้ามาภายในห้อง
"ไปได้แล้ว มัวแต่เล่นมือถืออยู่นั่นแหล่ะ"จางจี่ยเรีบเก็บโทรศัพท์เขากระเป๋า ต่อจากนั้นไปหยิบกระเป๋าเดินทางเพื่อจะได้กลับจีน
ส่วนเรื่องการโทรหาต้น จางเจี่ยคิดว่าจะไปโทรที่สนามบินก็น่าจะทันอยู่ ถึงเขาจะไม่อยากไป แต่จำใจและต้องการข้อเสนอท่ี่หลี่หรงหรงให้ไว้นั้นน่าสนใจ
ก่อนจางเจี่ยออกจากห้อง เขาได้มองไปรอบๆ บริเวณที่หลายครั้งเขาเคยมีความสุขกับต้น
"ไป๊"หลี่หรงหรงเรียก เขาจึงเดินตามหลี่หรงหรงออกจากห้องไปในทันที เพือไปยังสนามบินรอเวลาเครื่องบินออก
ส่วนฟากฝั่งของต้นก็แย่งกันคุย จนเสียงดังกลบข้อความไลน์ที่จางเจี่ยส่งมาให้ต้น ถึงแม้คนจะเยอะเพียงใดแต่ต้นก็ยังรู้สึกเหงา เศร้า ปวดใจ คิดถึงจางเจี่ย แต่ก็พยายามหักห้ามใจ ถึงอย่างนั้นความรู้สึกนั่นก็ผ่านเข้ามาเป็นระรยะๆ ต้นพยายามสลัดศีรษะให้คลายหายคิดถึงห่วงหา แต่ก็ไม่เป็นผล ซึ่งก็ไม่พ้นสายตาคิมโยฮันที่สังเกตเห็น
คิมโยฮันรู้สึกสงสารไม่อยากเห็นต้นเป็นแบบนี้ เขาจึงไม่ค่อยแน่ใจ ในเวลานี้เขาจะเดินตามความคิดเดิมได้หรือไม่ คือการเข้าแทรกกลางระหว่างต้นกับจางเจี่ย เพราะถ้าทำอย่างนั้นเขาก็ต้องเห็นต้นซ้ำใจอยู่อย่างนี้ เป็นเวลานานมากแน่นอน ส่วนเขาก็จะทำใจไม่ได้เช่นกัน ที่เห็นคนที่รักซ้ำใจวันแล้ววันเล่า เขาจึงลังเลและดูท่าทีของต้นอีกที
"ต้นเป็นอะไร นั่งเงียบเลย"คิมโยฮันมองด้วยสายตาที่ห่วงใหญ่
"ไม่มีอะไรหรอก"ต้นแสร้างยิ้มแห้งๆ เพื่อให้ทุกคนสบายใจ แต่ดูเหมือนจะไร้ผล บรรดาพ้องเพื่อนต่างนิ่งเงียบและหันมามองต้นเป็นตาเดียว
"เราว่าต้นเคลียร์เรื่องจางเจี่ยเดี่๋ยวนี้เลย"ริโอ้พูดขึ้น
"เห็นด้วย จะเอาอย่างไงก็ว่ามาเลย จะได้ไม่เสียเวลาไปวันๆหนึ่ง" ปันสนับสนุนความคิดของริโอ้ด้วยเช่นกัน
"ใช่ครับ โยฮันเห็นด้วย โยฮันพร้อมซับพอร์ตต้นทุกอย่างขอเพียงแค่บอกมา"คิมโยฮันตัดสินใจแล้ว ถ้าต้นจะกลับไปกับหาจางเจี่ยเขาก็ยินดี พร้อมช่วยเหลือทุกทาง เพื่อให้ทั้งคู่ได้สมหวังในรักนี้
"คือต้น"
"ไม่ต้องคือแล้ว ต้นยังรักจางเจี่ยอยู่ใช่มั้ย"ริโอ้ถาม
"ฮือ"ต้นพยักหน้า
คิมโยฮันเพียงได้ยินคำพูดนี้ ใจเขาแท่บสลายหายไปในทันที และคงหมดหวัง จะเข้าแทรกใจและกายของต้น
"ถ้างั้น ต้นมีปัญหาอะไรคาใจกับจางเจี่ยบอกมา"ริโอ้จ้องมองต้น เพื่อต้องการ ให้ได้คำตอบที่มาจากความรู้สีึก
"ก็จางเจี่ยเขาไม่เชื่อใจต้น ไหนจะแฟนเก่าเขาอีก เรื่องภายใจครอบครัวของจางเจี่ยอีก มันหลายเรื่องจนต้นท้อใจมากเหมือนกัน" ต้นถอนหายใจเฮือกใหญ่
"แค่นี้เอง ต้นไปถามจางเจี่ยเลย ว่าจะเอาอย่างไรค่อยมาตัดสินใจอีกที แค่เจอแฟนเก่าเขาหน้าห้องเอง ไม่ได้เข้าไปคุยกับจางเจี่ยไม่ใช่เหรอ"ริโอ้ยังไม่ยอมแพ้พูดต่อไม่หยุด ด้วยสีหน้าที่เป็นจริงเป็นจัง
"ทำไมเขาไม่โทรมาหาต้นล่ะ มาก็ไม่มา เขาคงคืนดีกับแฟนเก่าเขาไปแล้วมั้ง คนมันเคยมีความรักให้กันมาก่อน"ต้นยังคาใจเรื่องนี้อยู่มาก
"ถ้าจางเจี่ยไม่โทรมา ต้นก็ไม่โทรกลับ"ต้นตั้งความคิดนี้อย่างแน่วแน่
"สมมุติถ้าเขาโทรมาล่ะ"ปันถาม
"ต้องคิดดูก่อน"ต้นพูดยังไม่ทันจบ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
"สงสัยโทรมาแล้วมั้ง"ริโอ้ลุ้นหนัก
ส่วนคิมโยฮันในส่วนลึกของจิตใจ เขาขอให้ไม่ใช่จางเจี่ยเป็นพอ แต่ถ้าใช่เขาก็ยินดี ที่จะถอยหลังอีกครั้งซ้ำรอยเดิม
ต้นหยุดมองที่เบอร์โทรศัพท์ และเขาก็ต้องประหลาดใจนั่นคือเบอร์โทรของจางเจี่ย ริโอ้เห็นต้นถือโทรศัพท์มือถืิอว้นิ่งไม่ยอมกดรับ เขาจึงชะโงกหน้าไปดูว่าเป็นใครด้วยความสงสัย
"รับซิ จางเจี่ยโทรมา"ริโอ้คะยั้นคะยอทันที
ส่วนคิมโยฮัน ในความรู้สึกของเขาตอนนี้ ลุ้นหนักมากที่จะให้ต้นไม่รับโทรศัพท์
อีกฟากฝั่ง จางเจีี่ยนั่งรอขึ้นเครื่อง พร้อมกดโทรศัพท์หาต้นซึ่งก็ยังไม่รับ ในจังหวะเดียวกันนั้นหลี่หรงหรงเดินมาหาจางเจี่ยพอดี เขาจึงกดปิดวางสายทันที
"โทรหาใคร"หลี่หรงหรงถามทั้งที่แน่ใจว่าเป็นต้น
"เพื่อน"จางเจี่ยพูดห้วนๆ
"ไป ใกล้ถึงเวลาแล้ว อ๋อ ไม่ต้องโทรแฟนใหม่จางเจี่ย หรอก เขาคงไม่มาแล้วเชื่อเหอะ" หลี่หรงหรงถึงบอกไม่เชื่อ แต่ใจของเธอหวั่นไม่น้อยทีเดียว
จางเจี่ยก็เริ่มเอนเอียงไปทางหลี่หรงหรง เขาค่อนข้างมั่นใจว่าต้นคงจะเลิกกับเขาแน่นอนแล้ว
จางเจี่ยจึงนำโทรศัพท์มือถือยัดใส่กระเป๋าไว้ดังเดิม และเดินตามหลี่หรงหรงเข้าไปข้างในที่ให้ผู้โดยสารนั่งรอ
ต้นยืนมองโทรศัพท์ที่มีชื่อจางเจี่ยขึ้นหน้าจอ ต้นยังไม่ทันกดรับ โทรศัพท์ก็ถูกตัดสายทันที
"โทรกลับเลย ชักช้าทำไม"ริโอ้พูดด้วยความโมโห ที่ต้นทำอะไรไม่ได้ดั่งใจซ้กอย่าง
ส่วนคิมโยฮันลึกๆเขาดีใจ แต่ถ้าต้นโทรหาจางเจี่ย เขาก็พร้อมจะที่จะช่วยเหลือทุกทาง
ต้นครุ่นคิดอย่างหนัก ใจหนึ่งอยากจะโทรกลับ อีกใจหนึ่งอยากจะตัดใจ แต่ลึกๆอยากให้จางเจี่ยโทรมาเขาจะได้รับ ต้นยืนนิ่งซักพัก และยังไม่แสดงท่าทีจะโทรหาจางเจี่ย เมื่อต้นก้มดูมือถือ ก็เห็นข้อมความไลน์ที่จางเจี่ยส่งมา เขาก็ยังลังเลที่จะเปิดดู
"โทรไปเลยต้น เผื่อจางเจี่ยเขามีธุรอะไรน่ะต้น"ริโอ้ย้ำอีกครั้ง
ส่วนโมย่ากับแทซองเป็นผู้ฟังที่ดี และพร้อมเป็นกำลังเสริม เพื่อช่วยกันได้อย่างเต็มที่
"จางเจี่ยส่งไลน์มา"ต้นเอ่ยขึ้นมาลอยๆ
"เปิดเลย เผื่อมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเขา"ริโอ้คะยั้นคะยอต่อ พยายามหาเหตุที่ชวนเชื่อ ให้ต้นเปิดข้อมความไลน์ให้ได้
ส่วนคิมโยฮันก็อยากให้เปิด จะได้จบๆไม่ต้องมาคาราคชัง เพราะเขาไม่อยากจะลุ้นอะไรอีกแล้ว ทั้งตื่นเต้น ทรมานจิตใจทุกคร้ั้งที่ลุ้นเรื่องราวของต้น
"ก็ได้"เพราะต้นก็อยากรู้เหมือนกัน
เพียงต้นกดเปิดอ่านข้อความในไลน์ เขาอ้าปากค้างตาโต ทำอะไรไม่ถูกมืออ่อนแรงชั่วขณะ พร้อมกับโทรศัพท์มือถือที่ล่วงล่นลงกับพื้น
ไม่ใช่ต้นที่รีบเก็บแต่เป็นปันที่ก้มเก็บมาดู เขาอยากรู้ว่าข้อมความในนั้นเขียนว่าอะไร พอปันเก็บมาดูต้องตกใจมากกว่าต้นเสียอีก เพราะหน้าจอมือถือแต่เป็นรอยร้าวทั่วหน้าจอ ปันจึงยื่นให้ต้นดู
"ร้าวหมดแล้วกดอะไรก็ไม่ได้เลย"ปันพูดเสียงอ่อยๆ
"ต้น จางเจี่ยเขียนว่าไงบ้าง"ริโอ้เร่งเร้าคำตอบ
"จางเจียจะกลับจีนคืนนี้"ต้นตายังลอย เพราะกะทันหันเกินไปที่จะทันตั้งตัว
"แค่นี้เหรอ"ริโอ้ถาม
"มีอีกแต่ไม่ทันอ่าน"ต้นน้ำตาเริ่มไหล
เป็นครั้งทึ่สำคัญที่คิมโยฮันจะทำเพื่อต้น ถึงแม้เขาจะเจ็บเพียงใด แค่ได้เห็นน้ำตาที่ปริ่มออกมา ใจเขาแท่บจะขาดในเเฉียบพลัน เขาไม่สามารถทนเห็นภาพนี้ได้ คิมโยฮันยอมเจ็บ ขอเพียงให้ต้นได้ยิ้มออกอย่างมีความสุข
"เราไปที่สนามบินกันดีกว่า จางเจี่ยพึ่งโทรมาคงมีเวลาอีกพอสมควรที่เราจะไปหา"คิมโยฮันนำผ้าเช็ดหน้ายื่นให้ต้น เป็นอีกครั้งที่คิมโยฮันทำเช่นนี้ ในเวลาที่ใกล้เคียงกัน
ต้นรับผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำตาืที่หลั่งใหลออกมาไม่ขาดสาย ดั่งน้ำตกที่ไหลเรื่อยลงมาเรืีอยๆ
จางเจี่ยแอบเข้ามาที่ห้องน้ำและได้โทรหาต้น แต่โทรศัพท์ของต้น เสียหายไม่สามารถติดต่อได้ เขาโทรอยู่หลายครั้งจนเริ่มมีอารมณ์ ที่ไม่ค่อยพอใจต้นขึ้นมาอีก เขาจึงกดปิดและจะไม่โทรอีก และพร้อมจบกับต้นเขาแน่ใจว่าต้นต้องอยู่กับปรัชญ์แน่ ถึงปิดเครื่องไม่ยอมรับ
จางเจี่ยยืนนิ่งคิดชั่ววครู่ หลังจากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องน้ำ เพื่อไปหาหลี่หรงหรง จางเจี่ยรู้สึกน้อยใจเศร้าใจที่มีแฟน เป็นผู้ชายคนแรกก็โดนหักอก เขาตั้งใจไว้ว่าจะเลิกคบผู้ชายอีกต่อไปในอนาคต
ต้นใช้ความคิดอย่างหนัก ว่าจะจัดการปัญหานี้อย่างไรดี จะไปตามหาจางเจี่ยที่สนามบิน หรือตัดขาดไปในทันทีจะได้จบในคราเดียวเจ็บหนเดียว ไม่ต้องมาเจ็บซ้ำหลายครั้งจนใจจะรับไหว
"ว่าไงต้น ตัดสินใจเร็วๆ พวกเราพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างต้นนะ ริโอ้ถาม
"ต้น ทำตามที่ใจต้องการ ถ้าต้นยังรักจางเจี่ยอยู่ก็ไปหาเขาซะ ที่เขาโทรมาก็เพื่ออยากให้ต้นไปหามั้ง เมื่อวานโยฮันไปหาจางเจี่ย เขาบอกให้ต้นไปหาเขาเหมือนกัน นั่นแสดงว่าเขายังรักต้นอยู่ ส่วนเรื่องเข้าใจผิดค่อยมาเคลียร์กันทีหลัง จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย" โยฮันพูดยาวมากหลังจากที่เงียบไปนาน
"นะ ต้น"ปันออกแรงสนับสนุน
"แล้วทำไมจางเจี่ยไม่มาหาต้น นอนอยู่กับหลี่หรงหรงหรือเปล่าก็ไม่รู้"ต้นพยายามหาเหตผลพันแปดประการ มาหักล้างทุกครั้ง
"แล้วทำไมต้นไม่ไปหาเขาล่ะ"คิมโยฮันถามกลับ
"ก็ต้น เอ่อ เขาก็ต้องมาหาต้นก่อนซิ จางเจ่ี่ยเขาผิดต้องมาง้อต้น"ต้นมีท่าทีไม่พอใจ
"จางเจี่ยเขาก็คิดแบบเดียวกับต้นนั่นแหล่ะ"คิมโยฮันย้อนกลับ เพื่อให้ต้นได้เห็นภาพได้ชัด
"จางเจี่ยเขาผิด ต้นไม่ผิด จะไปง้อทำไม"ต้นไม่ยอมแพ้ทางคำพูด แต่จิตใจตอนนี้ หน้าของจางเจี่ยลอยมาในห้วงคำนึงตลอดวเวลา
"โอ๊ย เถียงกันอยู่นั่นแหละ ป่านนี้จางเจี่ยขึ้นเครื่องบินไปแล้วมั้ง"ริโอ้ตัดบทด้วยความโมโห ที่ยึดเยื้อทางคำพูดไม่จบสิ้นซักที
"เอาแบบนี้ ต้นไปถามจางเจี่ยที่สนามบินเลย ถ้าเขาไปก็จบ ถ้าเขายังจะอยู่ต่อทก็คบกันต่อ"คิมโยฮันสุดทนความรั้นของต้นจนอดรนทนไม่ไหว
คิมโยฮันจึงรีบจับมือของต้น ออกจากห้องไปในทันที ต้นขืนเพียงเล็กน้อย ใจหนึ่งก็อยากไปแต่ก็มีอะไรมาเหนี่ยวใจไว้ห้ามไป เขาก็ไม่รู้ความคิดเช่นนี้มาได้อย่างไร
ส่วน ริโอ้ ปันก็ดันร่างของต้นพร้อมกันไปในตัว ในท้ายที่สุดก็ออกพ้นประตูห้อง และทั้งหมดก็ฉุด ลาก ต้น จนไปถึงที่รถมอเตอร์ไซค์ของริโอ้
"โยฮันขับมอเตอร์ไซค์เป็นมั้ย"ริโอ้ถาม
"ขับได้อยู่"คิมโยอันพยักหน้า
"ฮ่ะ"ริโอ้ยื่นกุญแจให้คิมโยโฮัน
คิมโยฮันรับไว้และเสียบไว้ที่จุดสตาร์ทรถ หลังจากนั้นก็นำหมวกกันน็อคมาใส่ให้ต้น ทีแรกขัดขืนนิดหน่อยแต่พอเห็นสายตาคิมโยฮันก็ยอมแต่ด้วยดี เมื่อใส่ของของต้นเสร็จแล้ว โยฮันจึงใส่หมวกกันน็อคของเขาต่อในทันที และขึ้นคร่อมมอเตอร์เพื่อเตรียมไปสนามบิน
"ชักช้านะ ขึ้นรถไป"ริโอ้กับปันดันร่างดันต้นไปที่รถมอเตอร์ไซค์ ต้นจึงขึ้นนั่งซ้อนท้ายแต่โดยดี และเอามือจับที่บ่าของคิมโยฮันไว้ หลังจากจากนั้นคิมโยฮันก็เร่งเครื่องรถอออกไป
จังหวะเดียวกันรถตุ๊กๆมาพอดี ริโอ้จึงเรียกตุ๊กๆพร้อมนั่่งไปกับแทซอง เพื่อตามคิมโยฮันกับต้นไปสนามบิน
ส่วนปันกับโมย่าก็รอรถสักพัก แต่ไม่ใช่ตุ๊กๆเป็นสี่ล้อแดงปันจึงโบกรถให้จอด ก่อนขึ้นรถปันก็บอกคนขับให้ไปสนามบิน และทั้งสองก็นั่งคู่กันอีกครั้งบนรถสี่ล้อแดง