ทางที่ต้องเลือก

2609 คำ
จางเจี่ยนั่งมองโทรศััพท์มือถือ เพื่อดูข้อความที่ส่งมาซึ่งเขายังอุ่นใจขึ้นมาบ้าง ที่หลี่หรงหรงยังไม่ได้บอกเรื่องราวของเขาให้กับคนรอบข้างฟัง จางเจี่ยคิดอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะไปข้อร้อง หลี่หรงหรงอย่าบอกเรื่องนี้กับใคร ซึ่งกว่าจะไปจางเจี่ยก็ใช้เวลาพอสมควรเพื่อทำใจ มันเป็นอะไรที่ยากเย็นมากที่จะเอ่ยปากขอร้องหลี่หรงหรง แต่เขาต้องรีบไปไม่งั้นชีวิตของเขาคงวุ่นวายแน่ จางเจี่ยจึงเดินออกจากห้องไปหาหลี่หรงหรง จางเจี่ยเคาะประตูสักพักหลี่หรงหรงก็เปิดประตูออกมา หลี่หรงหรงมีสีหน้าตกใจนิดหน่อย หลังจากนั้นเธอก็ยิ้มที่มุมปาก "มีอะไรจางเจี่ย"หลี่หรงหรงใช้สายตาเย็นชามองจางเจี่ย "เข้าไปคุยข้างในได้มั้ย" "ทีคุยกับผู้หญิงหน้าห้องอายเหรอ ทำไมเมื่อวานกอดกับผู้ชายไม่อาย" "ผมอยากคุยธุระกับคุณ"จางเจี่ยมีสายตาที่เศร้าจนหลี่หรงหรงใจอ่อนขึ้นมาบ้าง ในฐานะคนเคยรักกันแต่เธอก็ยังไม่หายโกรธจางเจี่ยอยู่ดี จางเจี่ยเดินเข้ามาในห้องของหลี่หรงหรงแล้วนั่งลง ส่วนหลี่หรงหรงก็นั่งลงช้างๆ "มีอะไรว่ามา"หลี่หรงหรงถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว การมาของจางเจี่ยนั้นมาเพื่ออะไร "คือ ผมอยากให้หรงหรงอย่าบอกเรื่่องนี้กับใคร"พูดจบจางเจี่ยก้มหน้าพร้อมถอนหายใจ "รู้ตัวมานานหรือยังว่าชอบ เอ่อ แบบนั้น"หลี่หรงหรงเริ่มอ่อนลง "ผมรู้ตัวที่นี่แหล่ะ"จากก้มหน้าจางเจี่ยเงยหน้าขึ้น "หรงหรงก็เสียใจนิดหน่อยที่เห็นภาพแบบนั้น มันยากที่จะทำใจได้"ความจริงหลี่หรงหรงแท่บจะหมดรักจางเจี่ยไปนานแล้ว หลังจากติดพันลูกนักธุรกิจกำมะลอ แต่ที่กลับมาหาจางเจี่ยเพราะเธอไม่มีใครแล้วต่างหาก "ผมขอโทษครับ" "อย่างที่บอกหรงหรงไม่ได้โกรธแค่เสียใจ" "รับปากผมได้มั้ยอย่าพึ่งบอกใคร ผมยังไม่พร้อมที่จะให้คนอื่นรับรู้" "จางเจี่ยจะปิดบังต่อไป ทั้งทีใจของจางเจี่ยไม่ได้รักผู้หญิงนี่เหรอ" "จางเจี่ยกลัวพ่อแม่รับไม่ได้ ส่วนเพื่อนๆผมไม่สนใจอะไรหรอกครับ"จางเจี่ยงหันหน้ามามองหลี่หรงหรง "ก็ได้แต่"หลี่หรงหรงกำลังวางแผนการณ์ร้ายในใจ "อะไร"สายตาไคร่รู้ของจางเจี่ยเป็นประกาย "อยากแรกจางเจี่ยห้ามลาออกจากงานที่บริษัท"สาเหตุที่หลี่หรงหรงไม่อยากให้จางเจี่ยลาออก เพราะส่วนหนึ่งที่บริษัทของหลี่หรงเติบโต จางเจี่ยมีส่วนช่วยอย่างมาก จนพ่อแม่ของเธอเริ่มยอมรับหลังจากลูกนักธุรกิจกำมะลอ มาเป็นข้อมเปรียบเทียบและข้อสำคัญ หลังจากที่จางเจี่ยมาที่ไทย บริษัทของเธอทำอะไรติดขัดไปหมด จางเจี่ยครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ถ้าเขายังทำงานอยู่ที่จีนโอกาสที่จะเจอต้นก็จะน้อยลง "ถ้าจะมาหาแฟนปีละครั้งก็ได้แค่ช่วงพักร้อน มีเวลาเป็นเดือนหรือถ้ากล้าก็พาไปที่จีนก็ได้"หลี่หรงหรงรู้จักจางเจี่ยดีว่าไม่กล้าหรอก เพราะที่จีนยังไม่เปิดยอมรับเรื่องนี้มากนัก แต่สำหรับเธอไม่มีปัญหาอะไร "ก็ได้ มีอย่างอื่นอีกหรือเปล่า" "มีี จางเจี่ยต้องกลับจีนพร้อมหรงหรง"หลี่หรงหรงมองจางเจี่ยทันใดที่พูดจบ "หรงหรงจะกลับวันไหน" "สองสามวันยังไม่แน่ แต่หรงหรงไม่รีบเอาคำตอบหรอก" "จะให้ผมกลับไปด้วยทำไม ในเมื่อหรงหรงก็รู้ความจริงแล้วนี่" "หลี่หรงหรงมาที่ไทยเพราะมาง้อจางเจี่ย ถ้าให้หรงหรงกลับคนเดียวคนอื่นเขาจะคิดอย่างไร หรือจะให้หรงหรงบอกว่าจางเจี่ยมีแฟนใหม่เป็นผู้ชายเหรอ"หลี่หรงหรงยิ้มเยาะในท่าที แผนการณ์ของเธอเมื่อพาจางเจี่ยกลับไปได้ หลังจากนั้นอาจจะแค่คบกันหลอกๆแล้วค่อยแกล้งเลิก เมื่อเธอมีใครคนใหม่ที่คิดว่าคู่ควร เธอกลัวการเสียหน้ามากที่สุด "ผมขอคิดดูก่อนนะ ผมขอกลับห้อง"จางเจี่ยลุกขึ้นทั้งๆที่คาใจหลายเรื่อง แต่เขาก็ไม่อยากคุยต่อแล้ว เพราะยิ่งคุยเขายิ่งพบปัญหาใหญ่มากขึ้นเป็นทวีคูณ จางเจี่ยจึงเดินออกจากห้องหลี่หรงหรงโดยที่ไม่มองหน้าเธอแม้แต่น้อย เมื่อจางเจี่ยมาถึงที่ห้องเขา ก็เกิดความคิดที่จะไปอยู่ที่ห้องต้นซักคืน เพราะไม่อยากเจอหลี่หรงหรง และจะสะดวกถ้าไปปรึกษากับต้นเรื่องที่หลี่หงหรงเสนอมา จางเจี่ยจึงโทรหาต้นแต่เขาก็ไม่รับโทรศัพท์ โทรไปที่ทำงานกันเจ้าของร้านก็บอกว่าออกไปตั้งนานแล้ว จางเจี่ยรู้สึกเป็นห่วงเพราะที่ร้านนวดมาถึงโรงแรมใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที จางเจี่ยจึงตัดสินไปดูต้นที่ห้อง ถ้าเจอจะได้อยู่ที่นั่นด้วย ถ้าไม่เจอจะได้ตามหาต่อไป เขาจึงรีบออกจากโรงแรมในทันที และเหมาตุ๊กตุ๊กไปยังห้องเช่าของต้น ต้นหลังเลิกงานเขาก็รีบกลับห้อง ช่วงเวลาที่จางเจี่ยโทรมาหาเขาไม่ได้ยิน เพราะอยู่ในระหว่างขับรถซึ่งเสียงจะดังมาก เมื่อต้นมาถึงห้องก็รีบเข้าไปในทันที โดยไม่ทันสังเกตว่ามีใครตามมาตลอดทาง พอต้นกำลังจะก้าวเข้าห้อง ก็มีร่างชายหนุ่มวิ่งมาผลักร่างต้นเข้าห้อง และชายหนุ่มนั้นก็เข้าตามไปด้วย ต้นเซพอตั้งหลักได้จึงหันหน้ามอมอง "ปรัชญ์ ต้นอุทานด้วยความตกใจ ปรัชญ์ยืนยิ้มเขาต้องใช้ความพยายามมาก กว่าจะเข้ามาที่ห้องพักต้นได้ เนื่องจากต้องใช้วิธีตีเนียนกับ รปภ ว่าเป็นเพื่อนต้น และด้วยความเร่งรีบของต้นจึงไม่ทันระวังตัว นึกว่าเป็นคนเช่าห้องอื่นเดินตามมา "เจอแฟนเก่าถึงกับตกใจเลยหรอ"ปรัชญ์ใช้มือลูบปลายคางของต้น "มาที่นี่มีอะไร"ต้นปัดมือของปรัชญ์ออก "คิดถึงมาหาไม่ได้เหรอ"ปรัชญ์เดินเข้ามาใกล้ๆ "อย่ามายุ่ง เราเลิกกันแล้ว" "แต่ปรัชญ์ไม่เลิกจะทำไม มีปัญหาอะไร ปรัชญ์จะมาอยู่นี่" "หน้าด้าน"ต้นด่าด้วยความโมโหสุดที่จะยับยั้ง "ต้นก็รู้นี่ปรัชญ์หน้าด้าน"ปรัชญ์หัวเราะชอบใจ "มานี่ต้องการอะไรพูดมาตรงๆเลย" "เปล่า ไม่ต้องการอะไรแค่อยากกับมาอยู่กับต้น คนมันเคยรักกัน อดคิดถึงไม่ได้หรอกใช่มั้ย"ปรัชญ์เดินวนไปทั่วห้องก่อนที่จะนั่งลงบนเตียงแล้วล้มตัวลงนอน "ออกจากห้องต้นเดี่๋ยวนี้ ถ้าไม่ออกต้นจะแจ้ง รปภ ให้มาลากตัวปรัชญ์ไป"เสียงของต้นเข้มขึ้น "เดี๋ยวปรัชญ์ก็กลับแค่มาหาต้นเฉยๆคิดถึงน่ะ" "ไม่ต้องมาคิดถึงต้นหรอกปรัชญ์ พี่นนท์รออยู่ไปหาพี่เขาโน้น" "ปรัชญ์ไม่สนหรอกนนท์น่ะ ปรัชญ์ชอบต้นมาากว่า" ต้นแสยะยิ้มด้วยความชังอย่างที่สุด แล้วพลันคิดไปได้ว่าเมื่อวานเจอพี่นนท์ที่ร้าน หรือจะเป็นแผนการณ์อะไรสักอย่างที่ทั้งสองต้องการ ต้นคิดได้เพียงอย่างเดียวที่ปรัชญ์กลับมาเพราะเรื่องเงินมากกว่า "เอาน่าไม่ต้องคิดมากปรัชญ์กลับแล้ว พรุ่งนี้ปรัชญ์จะมาหาใหม่"ปรัชญ์ลุกขี้นจากเตียงนอนและเดินไปหาต้น ยื่นหน้าจะไปหอมแก้มต้น แต่ต้นหลบหลีกไม่อยากให้มาถูกเนื้อต้องตัวแม้แต่น้อย "หวงตัวซะด้วย "ปรัชญ์หัวเราะยิ้มร่าเดินออกไปที่ประตู เพราะเขาคิดว่าต้องค่อยๆซึมซับความหลังไปทีละน้อย พร้อมกับขู่ไปในตัว พอปรัชญ์เปิดประตูออกไปเขาตกใจเล็กน้อย เมื่อเห็นจางเจี่ยในสภาพผมยุ่งเหยิง "หวัดดี"ปรัชญ์ทักในทันที "มาทำไมที่นี่"จางเจี่ยจ้องมองปรัชญ์ "มาหาแฟนไม่ได้เหรอ แล้วคุณมาทำไม ผมก็มาอย่างนั้นแหล่ะ"ปรัชญ์ยิ้มใส่จางเจี่ย ก่อนออกไปจากห้องของต้น ปรัชญ์กระซิบข้างหูของจางเจี่ย "ก่อนที่ต้นจะเป็นของคุณเขาเป็นของผมมาก่อน"ต้นหัวเราะแล้วเดินจากไป พอปรัชญ์ออกไป ต้นรีบเดินมาหาจางเจี่ยในทันที พร้อมจับแขนของจางเจี่ยไว้ "ไม่จริงนะอย่าไปเชื่อที่ปรัชญ์"ต้นมีสีหน้าตื่นตระหนกตกใจกลัวใจจางเจี่ยหวาดระแวงในตัวเอง "จะให้ผมเชื่ออย่างนั้นเหรอ"จางเจี่ยนิ่งสับสน ใจหนึ่งอยากเชื่อ แต่ด้วยความที่มีความหลังที่โดนหักอกมาก่อน จางเจี่ยจึงไม่ค่อยแน่ใจนัก และไม่มั่นใจว่าต้นจะลืมปรัชญ์ได้ รวมทั้งมีเรื่องของหลี่หรงหรงเข้ามา จางเจี่ยยิ่งเอนเอียงไปทางเชื่อปรัชญ์มากกว่า ในระหว่างนั้นริโอ้และแทซองรีบเข้ามาในทันที เพราะทราบจากกันว่าจางเจี่ยตามหาต้นไม่เจอ และก่อนขึ้นมาริโอ้ได้เจอกับปรัชญ์ด้วย แล้วยิ่งมาเจอจางเจี่ยในสภาพหน้าบอกบุญไม่รับ ริโอ้จึงพอจะคาดเดาเรื่องที่เกิดขึ้นได้ "ต้น ปรัชญ์มันทำอะไรต้นหรือเปล่า"ริโอ้เดินเข้ามาหาต้นแล้วมองไปที่จางเจี่ย "เปล่า" "ก็ดีแล้ว"ริโอ้จึงหันไปมองจางเจี่ย "ไม่มีอะไรหรอก เชื่อใจต้นได้ ต้นไม่ทำเรื่องแบบนั้นแน่นอน"ริโอ้พยายามสร้างความมั่นใจให้จางเจี่ย แต่ไม่ค่อยจะได้ผลด้วยความหวาดระแวง เขาจึงยืนนิ่งๆด้วยสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ "ผมกลับก่อนนะ บางทีสองสามวันผมจะกลับจีน"จางเจี่ยหันหลังกลับพร้อมเดินออกไปจากห้อง "จางเจี่ยอย่าไป"ต้นวิ่งเข้าไปกอดเอวของจางเจี่ยไว้ "ผมยังทำใจไม่ได้ ให้เวลากับผมบ้างได้มั้ย"จางเจี่ยแกะมือของต้นออก แล้วเดินจากไปโดยไม่หันหน้ากลับมา "จางเจี่ย"ต้นตะโกนอย่างดัง ริโอ้จึงต้องเข้ามาดึงมือของต้นไว้ ในขณะที่เขากำลังจะตามจางเจี่ยไป "รอให้จางเจี่ยใจเย็นก่อนก็ได้ พรุ่งนี้ค่อยไปหาแต่เช้า" ต้นสะอึกสะอื้นอยากไปวันนี้ใจจะขาด แต่ก็เห็นด้วยกับริโอ้รอให้จางเจี่ยใจเย็นกว่านี้ก่อน เขาจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากรอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า "เอาน่า อย่าคิดมากพรุ่งนี้ริโอ้จะไปเป็นเพื่อน คืนนี้ริโอ้กับแทซองก็จะนอนที่นี่ด้วย" "อ่ะ"แทซองไม่คาดคิดว่าจะได้นอนที่นี่ แต่เขาก็ยินดีที่จะอยู่เป็นเพื่อนต้น ในขณะเดียวกันก็ส่งข้อความถึงคิมโยฮัน "กลับด่วน ต้นกับจางเจี่ยทะเลาะกัน" ตอนนี้แทซองเริ่มทำใจเรื่องคิมโยฮันได้แล้ว เขาจึงอยากให้กลับมาสานสัมพันธ์ต่อกับต้นมากกว่าจางเจี่ย ที่ใจไม่หนักแน่เหมือนคิมโยฮัน ที่เคยเจอเหตุการณ์เดียวกัน แต่คิมโยฮันเชื่อใจต้น ถึงริโอ้จะเห็นใจจางเจี่ยแต่ก็รับไม่ได้ เมื่อเทียบกับคิมโยอันที่ไม่เคยมีท่าทีแบบนี้ต่อต้น เขาจึงมีความคิดขึ้นมาแว่บหนึ่งอย่างให้ต้นเลิกกับจางเจี่ย แต่เขาก็ต้องเลิกคิดเพราะริโอ้คิดว่าต้องแล้วแต่ต้น จางเจี่ยไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะคิดวนแต่เรื่องของต้น ข้อสำคัญต้นไม่โทรมาหาเขาเลย ทุกครั้งที่ผิดใจกันต้นจะโทรมาหาตลอด เขาจึงจะรอต้นถึงตอนเย็น ถ้าต้นไม่มาหาหรือโทรมาเขาจะกลับจีนพร้อมหลี่หรงหรง ส่วนภาพที่เห็นจางเจี่ยจะพยายามทำใจให้ได้ ขอเพียงต้นมาหาเขาภายในสองสามวันนี้ ต้นมาหาจางเจี่ยที่โรงแรมแต่เช้า เขามาเพียงคนเดียวเพราะเห็นริโอ้กับแทซองหลับอยู่ ต้นเลยไม่อยากรบกวน เมื่อต้นเดินมาถึงหน้าห้องของจางเจี่ย หลี่หรงหรงก็ออกมาจากห้องพอดีและเห็นต้น เธอจึงเดินเข้าไปหาต้นเพื่อคุยอะไรบางอย่าง "หยุดก่อน"ต้นกำลังจะเคาะประตูเรียกจางเจี่ยแต่ต้องหยุดชะงัก เพราะเสียงเรียกจากหลี่หรงหรง "มีอะไร"ต้นหันหน้ามามองหลี่หรงหรงด้วยความสงสัยในท่าทีที่ดูไม่เป็นมิตร "มีเรื่องจะคุยด้วย" "เรื่องอะไร" "ก็เรื่องของจางเจี่ย"หลี่หรงหรงยืนกอดอกมองหน้าต้นพร้อมยิ้มน้อยๆ "ว่ามาเลยเรื่องอะไร"ต้นหันมาประจันหน้ากับหลี่หรงหรง" "ถ้ารักจางเจี่ยก็เลิกกับจางเจี่ยซะ" "ทำไมต้องเลิก คุณมีสิทธิ์อะไรมาสั่ง"ต้นมีน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ ในคำพูดและท่าทีของหลี่หรงหรง และรู้สึกเสียเวลาที่มายืนคุยกับเธอ "ความรักของเธอกับจางเจี่ยไม่มีวันเป็นไปได้ เธอก็อาจจะรู้มาบ้างนี่ ที่จีนยังไม่ค่อยยอมรับเรื่องนี้ เธอก็คิดดูซิ ถึงจะยังคบกันอยู่ จางเจี่ยก็มาหารเธอได้แค่ปีละครั้งแค่เดือนกว่าๆ ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จางเจี่ยจะพาเธอไปจีนด้วย ถึงพาไปก็อยู่แบบหลบๆซ่อนๆ"หลี่หรงหรงเบิกตาขึ้นบนแล้วหันมามองต้น "จางเจี่ยรับปากแล้ว จางเจี่ยจะมาทำงานที่ไทย"ต้นตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ "เหรอ แต่จางเจี่ยรับปากฉันไว้แล้ว จะกลับไปกับฉันภายในสองสามวันนี้"หลี่หรงหรงใช้สองมือประสานกันแล้วเอียงคอมามองต้นด้วยสายตาผู้ชนะ เมื่อต้นได้ยินสองสามวันจางเจี่ยจะกลับจีน ใจของเขาหายวับไปในทันที กว่าจะเรียกคืนมาได้ก็เพราะเสียงหลี่หรงหรง "เงียบไปเลยเหรอ เมื่อรู้ความจริง เมื่อคืนจางเจี่ยมาปรับความเข้าใจกับฉันแล้ว ทั้งคืน"หลี่หรงหรงย้ำคำว่าทั้งคืน "เธอมันก็แค่ชั่วคราวส่วนฉันนั้นของจริง และอีกอย่างฉันจะบอกความจริง กับครอบครัวของจางเจี่ยทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ ถ้าเธอรักจางเจี่ยก็ไปซะ"หลี่หรงหรงถลนตาใส่ต้น หลี่หรงหรงวัดใจกับต้น ด้วยสีหน้าเธอดูมั่นใจแต่ก็ลุ้นหนักมาก "ถ้าเธอไม่เชื่อก็ลองดูภายในสามวัน ถ้าจางเจี่ยไม่ติดต่อเธอไป ก็แสดงว่าเขาเลือกฉันไม่ใช่เธอ" "เอ้า คืนจางเจี่ยด้วย"ต้นยื่นกุญแจรถให้หลี่หรงหรง ต้นหลับตาหยุดคิดชั่วครู่ เขาก็เดินจากไปปล่อยให้หลี่หรงหรงยิ้มอย่างผู้ได้รับชััยชนะ หลี่หรงหรงยิ้มที่มุมปาก พร้อมยกมือที่ถือกุญแจควงไปมา แล้วเคาะประตูห้องของจางเจี่ย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม