จางเจี่ยนั่งมองโทรศััพท์มือถือ เพื่อดูข้อความที่ส่งมาซึ่งเขายังอุ่นใจขึ้นมาบ้าง ที่หลี่หรงหรงยังไม่ได้บอกเรื่องราวของเขาให้กับคนรอบข้างฟัง จางเจี่ยคิดอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะไปข้อร้อง หลี่หรงหรงอย่าบอกเรื่องนี้กับใคร ซึ่งกว่าจะไปจางเจี่ยก็ใช้เวลาพอสมควรเพื่อทำใจ มันเป็นอะไรที่ยากเย็นมากที่จะเอ่ยปากขอร้องหลี่หรงหรง แต่เขาต้องรีบไปไม่งั้นชีวิตของเขาคงวุ่นวายแน่ จางเจี่ยจึงเดินออกจากห้องไปหาหลี่หรงหรง
จางเจี่ยเคาะประตูสักพักหลี่หรงหรงก็เปิดประตูออกมา หลี่หรงหรงมีสีหน้าตกใจนิดหน่อย หลังจากนั้นเธอก็ยิ้มที่มุมปาก
"มีอะไรจางเจี่ย"หลี่หรงหรงใช้สายตาเย็นชามองจางเจี่ย
"เข้าไปคุยข้างในได้มั้ย"
"ทีคุยกับผู้หญิงหน้าห้องอายเหรอ ทำไมเมื่อวานกอดกับผู้ชายไม่อาย"
"ผมอยากคุยธุระกับคุณ"จางเจี่ยมีสายตาที่เศร้าจนหลี่หรงหรงใจอ่อนขึ้นมาบ้าง ในฐานะคนเคยรักกันแต่เธอก็ยังไม่หายโกรธจางเจี่ยอยู่ดี
จางเจี่ยเดินเข้ามาในห้องของหลี่หรงหรงแล้วนั่งลง ส่วนหลี่หรงหรงก็นั่งลงช้างๆ
"มีอะไรว่ามา"หลี่หรงหรงถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว การมาของจางเจี่ยนั้นมาเพื่ออะไร
"คือ ผมอยากให้หรงหรงอย่าบอกเรื่่องนี้กับใคร"พูดจบจางเจี่ยก้มหน้าพร้อมถอนหายใจ
"รู้ตัวมานานหรือยังว่าชอบ เอ่อ แบบนั้น"หลี่หรงหรงเริ่มอ่อนลง
"ผมรู้ตัวที่นี่แหล่ะ"จากก้มหน้าจางเจี่ยเงยหน้าขึ้น
"หรงหรงก็เสียใจนิดหน่อยที่เห็นภาพแบบนั้น มันยากที่จะทำใจได้"ความจริงหลี่หรงหรงแท่บจะหมดรักจางเจี่ยไปนานแล้ว หลังจากติดพันลูกนักธุรกิจกำมะลอ แต่ที่กลับมาหาจางเจี่ยเพราะเธอไม่มีใครแล้วต่างหาก
"ผมขอโทษครับ"
"อย่างที่บอกหรงหรงไม่ได้โกรธแค่เสียใจ"
"รับปากผมได้มั้ยอย่าพึ่งบอกใคร ผมยังไม่พร้อมที่จะให้คนอื่นรับรู้"
"จางเจี่ยจะปิดบังต่อไป ทั้งทีใจของจางเจี่ยไม่ได้รักผู้หญิงนี่เหรอ"
"จางเจี่ยกลัวพ่อแม่รับไม่ได้ ส่วนเพื่อนๆผมไม่สนใจอะไรหรอกครับ"จางเจี่ยงหันหน้ามามองหลี่หรงหรง
"ก็ได้แต่"หลี่หรงหรงกำลังวางแผนการณ์ร้ายในใจ
"อะไร"สายตาไคร่รู้ของจางเจี่ยเป็นประกาย
"อยากแรกจางเจี่ยห้ามลาออกจากงานที่บริษัท"สาเหตุที่หลี่หรงหรงไม่อยากให้จางเจี่ยลาออก เพราะส่วนหนึ่งที่บริษัทของหลี่หรงเติบโต จางเจี่ยมีส่วนช่วยอย่างมาก จนพ่อแม่ของเธอเริ่มยอมรับหลังจากลูกนักธุรกิจกำมะลอ มาเป็นข้อมเปรียบเทียบและข้อสำคัญ หลังจากที่จางเจี่ยมาที่ไทย บริษัทของเธอทำอะไรติดขัดไปหมด
จางเจี่ยครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ถ้าเขายังทำงานอยู่ที่จีนโอกาสที่จะเจอต้นก็จะน้อยลง
"ถ้าจะมาหาแฟนปีละครั้งก็ได้แค่ช่วงพักร้อน มีเวลาเป็นเดือนหรือถ้ากล้าก็พาไปที่จีนก็ได้"หลี่หรงหรงรู้จักจางเจี่ยดีว่าไม่กล้าหรอก เพราะที่จีนยังไม่เปิดยอมรับเรื่องนี้มากนัก แต่สำหรับเธอไม่มีปัญหาอะไร
"ก็ได้ มีอย่างอื่นอีกหรือเปล่า"
"มีี จางเจี่ยต้องกลับจีนพร้อมหรงหรง"หลี่หรงหรงมองจางเจี่ยทันใดที่พูดจบ
"หรงหรงจะกลับวันไหน"
"สองสามวันยังไม่แน่ แต่หรงหรงไม่รีบเอาคำตอบหรอก"
"จะให้ผมกลับไปด้วยทำไม ในเมื่อหรงหรงก็รู้ความจริงแล้วนี่"
"หลี่หรงหรงมาที่ไทยเพราะมาง้อจางเจี่ย ถ้าให้หรงหรงกลับคนเดียวคนอื่นเขาจะคิดอย่างไร หรือจะให้หรงหรงบอกว่าจางเจี่ยมีแฟนใหม่เป็นผู้ชายเหรอ"หลี่หรงหรงยิ้มเยาะในท่าที แผนการณ์ของเธอเมื่อพาจางเจี่ยกลับไปได้ หลังจากนั้นอาจจะแค่คบกันหลอกๆแล้วค่อยแกล้งเลิก เมื่อเธอมีใครคนใหม่ที่คิดว่าคู่ควร เธอกลัวการเสียหน้ามากที่สุด
"ผมขอคิดดูก่อนนะ ผมขอกลับห้อง"จางเจี่ยลุกขึ้นทั้งๆที่คาใจหลายเรื่อง แต่เขาก็ไม่อยากคุยต่อแล้ว เพราะยิ่งคุยเขายิ่งพบปัญหาใหญ่มากขึ้นเป็นทวีคูณ จางเจี่ยจึงเดินออกจากห้องหลี่หรงหรงโดยที่ไม่มองหน้าเธอแม้แต่น้อย
เมื่อจางเจี่ยมาถึงที่ห้องเขา ก็เกิดความคิดที่จะไปอยู่ที่ห้องต้นซักคืน เพราะไม่อยากเจอหลี่หรงหรง และจะสะดวกถ้าไปปรึกษากับต้นเรื่องที่หลี่หงหรงเสนอมา จางเจี่ยจึงโทรหาต้นแต่เขาก็ไม่รับโทรศัพท์ โทรไปที่ทำงานกันเจ้าของร้านก็บอกว่าออกไปตั้งนานแล้ว จางเจี่ยรู้สึกเป็นห่วงเพราะที่ร้านนวดมาถึงโรงแรมใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที
จางเจี่ยจึงตัดสินไปดูต้นที่ห้อง ถ้าเจอจะได้อยู่ที่นั่นด้วย ถ้าไม่เจอจะได้ตามหาต่อไป เขาจึงรีบออกจากโรงแรมในทันที และเหมาตุ๊กตุ๊กไปยังห้องเช่าของต้น
ต้นหลังเลิกงานเขาก็รีบกลับห้อง ช่วงเวลาที่จางเจี่ยโทรมาหาเขาไม่ได้ยิน เพราะอยู่ในระหว่างขับรถซึ่งเสียงจะดังมาก
เมื่อต้นมาถึงห้องก็รีบเข้าไปในทันที โดยไม่ทันสังเกตว่ามีใครตามมาตลอดทาง พอต้นกำลังจะก้าวเข้าห้อง ก็มีร่างชายหนุ่มวิ่งมาผลักร่างต้นเข้าห้อง และชายหนุ่มนั้นก็เข้าตามไปด้วย
ต้นเซพอตั้งหลักได้จึงหันหน้ามอมอง
"ปรัชญ์ ต้นอุทานด้วยความตกใจ
ปรัชญ์ยืนยิ้มเขาต้องใช้ความพยายามมาก กว่าจะเข้ามาที่ห้องพักต้นได้ เนื่องจากต้องใช้วิธีตีเนียนกับ รปภ ว่าเป็นเพื่อนต้น และด้วยความเร่งรีบของต้นจึงไม่ทันระวังตัว นึกว่าเป็นคนเช่าห้องอื่นเดินตามมา
"เจอแฟนเก่าถึงกับตกใจเลยหรอ"ปรัชญ์ใช้มือลูบปลายคางของต้น
"มาที่นี่มีอะไร"ต้นปัดมือของปรัชญ์ออก
"คิดถึงมาหาไม่ได้เหรอ"ปรัชญ์เดินเข้ามาใกล้ๆ
"อย่ามายุ่ง เราเลิกกันแล้ว"
"แต่ปรัชญ์ไม่เลิกจะทำไม มีปัญหาอะไร ปรัชญ์จะมาอยู่นี่"
"หน้าด้าน"ต้นด่าด้วยความโมโหสุดที่จะยับยั้ง
"ต้นก็รู้นี่ปรัชญ์หน้าด้าน"ปรัชญ์หัวเราะชอบใจ
"มานี่ต้องการอะไรพูดมาตรงๆเลย"
"เปล่า ไม่ต้องการอะไรแค่อยากกับมาอยู่กับต้น คนมันเคยรักกัน อดคิดถึงไม่ได้หรอกใช่มั้ย"ปรัชญ์เดินวนไปทั่วห้องก่อนที่จะนั่งลงบนเตียงแล้วล้มตัวลงนอน
"ออกจากห้องต้นเดี่๋ยวนี้ ถ้าไม่ออกต้นจะแจ้ง รปภ ให้มาลากตัวปรัชญ์ไป"เสียงของต้นเข้มขึ้น
"เดี๋ยวปรัชญ์ก็กลับแค่มาหาต้นเฉยๆคิดถึงน่ะ"
"ไม่ต้องมาคิดถึงต้นหรอกปรัชญ์ พี่นนท์รออยู่ไปหาพี่เขาโน้น"
"ปรัชญ์ไม่สนหรอกนนท์น่ะ ปรัชญ์ชอบต้นมาากว่า"
ต้นแสยะยิ้มด้วยความชังอย่างที่สุด แล้วพลันคิดไปได้ว่าเมื่อวานเจอพี่นนท์ที่ร้าน หรือจะเป็นแผนการณ์อะไรสักอย่างที่ทั้งสองต้องการ ต้นคิดได้เพียงอย่างเดียวที่ปรัชญ์กลับมาเพราะเรื่องเงินมากกว่า
"เอาน่าไม่ต้องคิดมากปรัชญ์กลับแล้ว พรุ่งนี้ปรัชญ์จะมาหาใหม่"ปรัชญ์ลุกขี้นจากเตียงนอนและเดินไปหาต้น ยื่นหน้าจะไปหอมแก้มต้น แต่ต้นหลบหลีกไม่อยากให้มาถูกเนื้อต้องตัวแม้แต่น้อย
"หวงตัวซะด้วย "ปรัชญ์หัวเราะยิ้มร่าเดินออกไปที่ประตู เพราะเขาคิดว่าต้องค่อยๆซึมซับความหลังไปทีละน้อย พร้อมกับขู่ไปในตัว
พอปรัชญ์เปิดประตูออกไปเขาตกใจเล็กน้อย เมื่อเห็นจางเจี่ยในสภาพผมยุ่งเหยิง
"หวัดดี"ปรัชญ์ทักในทันที
"มาทำไมที่นี่"จางเจี่ยจ้องมองปรัชญ์
"มาหาแฟนไม่ได้เหรอ แล้วคุณมาทำไม ผมก็มาอย่างนั้นแหล่ะ"ปรัชญ์ยิ้มใส่จางเจี่ย
ก่อนออกไปจากห้องของต้น ปรัชญ์กระซิบข้างหูของจางเจี่ย
"ก่อนที่ต้นจะเป็นของคุณเขาเป็นของผมมาก่อน"ต้นหัวเราะแล้วเดินจากไป
พอปรัชญ์ออกไป ต้นรีบเดินมาหาจางเจี่ยในทันที พร้อมจับแขนของจางเจี่ยไว้
"ไม่จริงนะอย่าไปเชื่อที่ปรัชญ์"ต้นมีสีหน้าตื่นตระหนกตกใจกลัวใจจางเจี่ยหวาดระแวงในตัวเอง
"จะให้ผมเชื่ออย่างนั้นเหรอ"จางเจี่ยนิ่งสับสน ใจหนึ่งอยากเชื่อ แต่ด้วยความที่มีความหลังที่โดนหักอกมาก่อน จางเจี่ยจึงไม่ค่อยแน่ใจนัก และไม่มั่นใจว่าต้นจะลืมปรัชญ์ได้ รวมทั้งมีเรื่องของหลี่หรงหรงเข้ามา จางเจี่ยยิ่งเอนเอียงไปทางเชื่อปรัชญ์มากกว่า
ในระหว่างนั้นริโอ้และแทซองรีบเข้ามาในทันที เพราะทราบจากกันว่าจางเจี่ยตามหาต้นไม่เจอ และก่อนขึ้นมาริโอ้ได้เจอกับปรัชญ์ด้วย แล้วยิ่งมาเจอจางเจี่ยในสภาพหน้าบอกบุญไม่รับ ริโอ้จึงพอจะคาดเดาเรื่องที่เกิดขึ้นได้
"ต้น ปรัชญ์มันทำอะไรต้นหรือเปล่า"ริโอ้เดินเข้ามาหาต้นแล้วมองไปที่จางเจี่ย
"เปล่า"
"ก็ดีแล้ว"ริโอ้จึงหันไปมองจางเจี่ย
"ไม่มีอะไรหรอก เชื่อใจต้นได้ ต้นไม่ทำเรื่องแบบนั้นแน่นอน"ริโอ้พยายามสร้างความมั่นใจให้จางเจี่ย
แต่ไม่ค่อยจะได้ผลด้วยความหวาดระแวง เขาจึงยืนนิ่งๆด้วยสภาพจิตใจที่ย่ำแย่
"ผมกลับก่อนนะ บางทีสองสามวันผมจะกลับจีน"จางเจี่ยหันหลังกลับพร้อมเดินออกไปจากห้อง
"จางเจี่ยอย่าไป"ต้นวิ่งเข้าไปกอดเอวของจางเจี่ยไว้
"ผมยังทำใจไม่ได้ ให้เวลากับผมบ้างได้มั้ย"จางเจี่ยแกะมือของต้นออก แล้วเดินจากไปโดยไม่หันหน้ากลับมา
"จางเจี่ย"ต้นตะโกนอย่างดัง
ริโอ้จึงต้องเข้ามาดึงมือของต้นไว้ ในขณะที่เขากำลังจะตามจางเจี่ยไป
"รอให้จางเจี่ยใจเย็นก่อนก็ได้ พรุ่งนี้ค่อยไปหาแต่เช้า"
ต้นสะอึกสะอื้นอยากไปวันนี้ใจจะขาด แต่ก็เห็นด้วยกับริโอ้รอให้จางเจี่ยใจเย็นกว่านี้ก่อน เขาจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากรอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า
"เอาน่า อย่าคิดมากพรุ่งนี้ริโอ้จะไปเป็นเพื่อน คืนนี้ริโอ้กับแทซองก็จะนอนที่นี่ด้วย"
"อ่ะ"แทซองไม่คาดคิดว่าจะได้นอนที่นี่ แต่เขาก็ยินดีที่จะอยู่เป็นเพื่อนต้น ในขณะเดียวกันก็ส่งข้อความถึงคิมโยฮัน
"กลับด่วน ต้นกับจางเจี่ยทะเลาะกัน"
ตอนนี้แทซองเริ่มทำใจเรื่องคิมโยฮันได้แล้ว เขาจึงอยากให้กลับมาสานสัมพันธ์ต่อกับต้นมากกว่าจางเจี่ย ที่ใจไม่หนักแน่เหมือนคิมโยฮัน ที่เคยเจอเหตุการณ์เดียวกัน แต่คิมโยฮันเชื่อใจต้น
ถึงริโอ้จะเห็นใจจางเจี่ยแต่ก็รับไม่ได้ เมื่อเทียบกับคิมโยอันที่ไม่เคยมีท่าทีแบบนี้ต่อต้น เขาจึงมีความคิดขึ้นมาแว่บหนึ่งอย่างให้ต้นเลิกกับจางเจี่ย แต่เขาก็ต้องเลิกคิดเพราะริโอ้คิดว่าต้องแล้วแต่ต้น
จางเจี่ยไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะคิดวนแต่เรื่องของต้น ข้อสำคัญต้นไม่โทรมาหาเขาเลย ทุกครั้งที่ผิดใจกันต้นจะโทรมาหาตลอด เขาจึงจะรอต้นถึงตอนเย็น ถ้าต้นไม่มาหาหรือโทรมาเขาจะกลับจีนพร้อมหลี่หรงหรง ส่วนภาพที่เห็นจางเจี่ยจะพยายามทำใจให้ได้ ขอเพียงต้นมาหาเขาภายในสองสามวันนี้
ต้นมาหาจางเจี่ยที่โรงแรมแต่เช้า เขามาเพียงคนเดียวเพราะเห็นริโอ้กับแทซองหลับอยู่ ต้นเลยไม่อยากรบกวน เมื่อต้นเดินมาถึงหน้าห้องของจางเจี่ย หลี่หรงหรงก็ออกมาจากห้องพอดีและเห็นต้น เธอจึงเดินเข้าไปหาต้นเพื่อคุยอะไรบางอย่าง
"หยุดก่อน"ต้นกำลังจะเคาะประตูเรียกจางเจี่ยแต่ต้องหยุดชะงัก เพราะเสียงเรียกจากหลี่หรงหรง
"มีอะไร"ต้นหันหน้ามามองหลี่หรงหรงด้วยความสงสัยในท่าทีที่ดูไม่เป็นมิตร
"มีเรื่องจะคุยด้วย"
"เรื่องอะไร"
"ก็เรื่องของจางเจี่ย"หลี่หรงหรงยืนกอดอกมองหน้าต้นพร้อมยิ้มน้อยๆ
"ว่ามาเลยเรื่องอะไร"ต้นหันมาประจันหน้ากับหลี่หรงหรง"
"ถ้ารักจางเจี่ยก็เลิกกับจางเจี่ยซะ"
"ทำไมต้องเลิก คุณมีสิทธิ์อะไรมาสั่ง"ต้นมีน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ ในคำพูดและท่าทีของหลี่หรงหรง และรู้สึกเสียเวลาที่มายืนคุยกับเธอ
"ความรักของเธอกับจางเจี่ยไม่มีวันเป็นไปได้ เธอก็อาจจะรู้มาบ้างนี่ ที่จีนยังไม่ค่อยยอมรับเรื่องนี้ เธอก็คิดดูซิ ถึงจะยังคบกันอยู่ จางเจี่ยก็มาหารเธอได้แค่ปีละครั้งแค่เดือนกว่าๆ ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จางเจี่ยจะพาเธอไปจีนด้วย ถึงพาไปก็อยู่แบบหลบๆซ่อนๆ"หลี่หรงหรงเบิกตาขึ้นบนแล้วหันมามองต้น
"จางเจี่ยรับปากแล้ว จางเจี่ยจะมาทำงานที่ไทย"ต้นตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ
"เหรอ แต่จางเจี่ยรับปากฉันไว้แล้ว จะกลับไปกับฉันภายในสองสามวันนี้"หลี่หรงหรงใช้สองมือประสานกันแล้วเอียงคอมามองต้นด้วยสายตาผู้ชนะ
เมื่อต้นได้ยินสองสามวันจางเจี่ยจะกลับจีน ใจของเขาหายวับไปในทันที กว่าจะเรียกคืนมาได้ก็เพราะเสียงหลี่หรงหรง
"เงียบไปเลยเหรอ เมื่อรู้ความจริง เมื่อคืนจางเจี่ยมาปรับความเข้าใจกับฉันแล้ว ทั้งคืน"หลี่หรงหรงย้ำคำว่าทั้งคืน
"เธอมันก็แค่ชั่วคราวส่วนฉันนั้นของจริง และอีกอย่างฉันจะบอกความจริง กับครอบครัวของจางเจี่ยทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ ถ้าเธอรักจางเจี่ยก็ไปซะ"หลี่หรงหรงถลนตาใส่ต้น
หลี่หรงหรงวัดใจกับต้น ด้วยสีหน้าเธอดูมั่นใจแต่ก็ลุ้นหนักมาก
"ถ้าเธอไม่เชื่อก็ลองดูภายในสามวัน ถ้าจางเจี่ยไม่ติดต่อเธอไป ก็แสดงว่าเขาเลือกฉันไม่ใช่เธอ"
"เอ้า คืนจางเจี่ยด้วย"ต้นยื่นกุญแจรถให้หลี่หรงหรง
ต้นหลับตาหยุดคิดชั่วครู่ เขาก็เดินจากไปปล่อยให้หลี่หรงหรงยิ้มอย่างผู้ได้รับชััยชนะ หลี่หรงหรงยิ้มที่มุมปาก พร้อมยกมือที่ถือกุญแจควงไปมา แล้วเคาะประตูห้องของจางเจี่ย