ยุทธการจับผิดnc18

3185 คำ
หลังจากที่ได้วางแผนจับผิดจางเจี่ยกันมาแล้ว โดยมี ต้น นำทีม มีริโอ้เป็นทัพเสริม คราวนี้มีพี่นารีเป็นตัวช่วยอีกคน พอเลิกงานต้นจึงมาหาจางเจี่ยที่ห้อง จางเจี่ยจะชวนออกไปข้างนอกอต่ ต้นก็ไม่ไปเพราะว่าจะสืบเรื่องราวแฟนเก่าจางเจี่ยให้ได้ ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย "ต้นอยากรู้จังว่าจางเจี่ยอยู่ที่จีนทำงานอะไร" ต้นช้อนตามองจางเจี่ย "ทำงานบริษัทเอกชน" "แล้วลางานมานานๆไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ย" "ผมลาพักร้อนสองเดือน วันหยุดผมเยอะ เพราะไม่ค่อยได้ลา ทำงานอย่างเดียว"จางเจี่ยเกิดความสงสัย ทำไมวันนี้ต้นมาแปลก "เมื่อก่อนต้นก็ไม่ได้เป็นหมอนวดหรอกนะ เป็นพนักงานเสริฟอยู่ที่ร้านอาหารฝรั่ง" "ทำไมออกล่ะ"จางเจี่ยสงสัย "ร้านมีปัญหาด้านการเงิน ต้นเลยโดนให้ออก" "แล้วต้นมาเป็นหมอนวดได้อย่างไรล่ะ" "ริโอ้เป็นอยู่ก่อนแล้ว เห็นต้นตกงาน ริโอ้เลยชวนมาเป็นหมอนวด" "ริโอ้เป็นเพื่อนที่ดีมากเลยนะ" "ใช่ ริโอ้เป็นเพื่อนที่ดีมากเลย" เอ้ ต้นมาผิดแผนลืมตัว แทนที่จะถามจางเจี่ย แต่จางเจี่ยมาเหนือเมฆ ต้นเลยชิงถามก่อน "จางเจี่ยอยู่แถวไหนของประเทศจีนหรอ"ต้นถามไปอย่างนั้นแหล่ะ "ผมอยู่เจ้อเจียงแต่มาทำงานที่กวางตุ้ง" "อ่อ แล้วอยู่คนเดียวหรอที่กวางตุ้ง" "อยู่คนเดียว" "แล้วแฟนเก่าที่เลิกล่ะ"เริ่มเข้าทางต้นแล้ว แต่ต้นกลับใจเต้นไม่เป็นจังหวะ "ไม่ได้อยู่ด้วยกันไปมาหาสู่กันแค่นั้น" "เหมือนต้นกับจางเจี่ยเลย"ต้นเริ่มเขยิบเข้าประเด็น พร้อมเหล่ตามองจางเจี่ย "ถ้าต้นจะมาอยู่กับจางเจี่ยก็ได้นะ "จางเจี่ยยิ้มถ้าต้นมาอยูด้วยจะดีมากทีเดียว ในความคิดของจางเจี่ย "มาอยู่ได้ แต่ถ้าจางเจี่ยกลับไปจีนแล้วล่ะ ต้นจะอยู่ที่ไหน"ต้นเริ่มทำเสียงอ่อยๆ "ต้นก็กลับไปอยู่ที่ห้องต้นน่ะซิ" ต้นแอบหน้าชา รู้สึกว่าหมดประโยชน์แล้วคงทิ้งคาอยู่ที่ไทย "แต่ผมจะจ่ายค่าห้องทิ้งไว้ให้ต้นเอง" จางเจี่ยเขยิบร่างเข้ามาจับมือต้นไว้ เจอคำนี้เข้าไปต้นเริ่มใจอ่อนไม่อยากถามอะไรต่อ แต่ก็ตัดใจความดีนี้ทิ้งไป ต้องเดินตามแผนเดิมคือ รู้ให้ได้ว่าแฟนเก่าจางเจี่ยเป็นผู้หญิงหรือเปล่า "ที่จีนมีร้านนวดมั้ย ต้นอยากไปนวดที่โน้น จะได้อยู่กับจางเจี่ยตลอดเวลา"ต้นทิ้งไพ่ครั้งสำคัญ จางเจี่ยอ่ำอึ้ง กุกกัก ไม่พูดอะไรได้แต่นั่งนิ่งๆ ไม่ใช่ไม่อยากให้ต้นไป ใจจริงงเขาอยากเอาต้นไปอยู่ด้วย แต่ที่บ้านของเขารวมทั้งเพื่อนสนิท ไม่ใครู้ว่าเขาชอบผู้ชาย ส่วนตัวจางเจี่ยก็พึ่งมาเปิดใจกับต้นเป็นครั้งแรก ต้นเห็นจางเจี่ยนั่งนิ่งไป เขาเลยหยุดถามเรื่องนี้ต่อ เพราะจริงๆแล้วต้นก็ไม่ได้อยากไปที่จีนหรอก แค่จางเจี่ยจะจ่ายค่าห้องให้ต้นก็ดีใจแท่บแย่แล้ว เพราะเงินที่หาได้จะได้เอาไปใช้หนี้ต่างๆให้หมด "ต้นขอถามอะไรสักอย่างได้ามั้ย" "ได้ซิ หลายอย่างก็ได้"จางเจี่ยหันมายิ้มให้ต้นอีกครั้ง "ทำไมถึงเลิกกับแฟนเก่า"ต้นแอบชำเลืองสายตาของจางเจี่ย "เราทัศนคติเริ่มไม่ตรงกัน ไม่พูดแล้วพูดไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เหมือนเรื่องของต้นกับปรัชญ์" ร้ายมากในความคิดของต้น นอกจากจะไม่บอกความจริงแล้ว ยังเอาเรื่องของต้นมาเป็นเหตุผลรับรอง "ฮือ"ต้นพยักหน้า แต่แอบเสียดายเกือบจะได้เรื่องแล้ว ในขณะที่ต้นกำลังจะหาคำพูดใหม่ เสียงวีแซทขอจางเจี่ยก็ดังขึ้น จางเจี่ยหยิบมาดูแล้วก็กดปิด ต้นแอบชำเลืองมองแต่เห็นไม่ช้ด ว่าเป็นรูปผู้หญิงหรือผู้ชาย ต้นรู้สึกทรมานจิตใจมาก เขาเลยตังใจจะถามตรงไปในทันว่า แฟนเก่าต้นเป็นผู้หญิงหรือผู้่ชาย จางเจี่ยเมื่ออ่านข้อความที่หลี่หรงหรงส่งมา อีกไม่กี่วันเธอก็จะมาที่เชียงใหม่ สาเหตุที่หลี่หรงหรงมาหาจางเจี่ย เพื่อขอคืนดี ในวันที่หลี่หรงหรงบอกเลิกจางเจี่ย สาเหตุก็มาจากทางครอบครัวาของหลี่หรงหรง ไม่อยากได้เขาเป็นเขย เพราะถ้าเทียบจากฐานะจางเจี่ยเป็นแค่พนักงานในบริษัทธรรมดาคนหนึ่ง ส่วนหลี่หรงหรงเป็นถึงหลานสาวท่านประธาน ความรักทั้งสองเกิดจากตอนเรียนมหาวิทยาลัย แล้วเกิดชอบพอกันจึงกลายเป็นความรัก เมื่อเรียนจบจางเจี่ยอยากไปทำานที่อื่น แต่หลี่หรงหรงไม่ยอม อยากให้ไปทำงานที่บริษัทของท่านตาหลี่หรงหรง ด้วยความรักที่มีต่อหลี่หรงหรงมาก จางเจี่ยเลยยอมทำตามทุกอย่างที่หลี่หรงหรงต้องการ กาารเลิกครัังนั้นทำให้จางเจี่ยปวดใจอย่างมาก เพราะเขารักหลี่หรงหรงมากแต่หลี่หรงหรงอาจรรักเขาไม่มากพอ จางเจี่ยเลยเกิดความเสีบใจอย่างหนัก และมีความคิดว่าถ้ากลับจีนคราวนี้เขาจะลาออกจากงาน และไปทำงานที่อื่นเพื่อความบริสุทธิใจ และสิ่งหนึ่งที่จางเจี่ยเริ่มคิด ว่าจะมาทำงานที่ประเทศไทย แต่เขาก็ยังไม่แน่ใจเท่าไรนักจึงยังไม่บอกกับต้น ต้นตัดสินใจเด็ดขาด ว่าจะถามให้ได้ว่าแฟนจางเจี่ยเป็นผผู้หญิงหรือเปล่า "จางเจี่ยต้นมีอะไรจะถามบอกต้นตรงๆนะต้นไม่โกรธหรอก และอีกอย่างจางเจี่ยก็อยากโกรธต้นะ " "ได้จะถามอะไรหรอ"จางเจี่ยรู้สึกหวั่นใจ ต้นถอนหายใจอยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่กล้าพูดออกมา "พูดมาเลยต้น" จางเจี่ยก็อยากรู้เหมือนกันว่าเป็นเรื่องอะไร "แฟนเก่าจางเจี่ยเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย"ต้นจ้องหน้าจางเจี่ยอย่างเขม็ง เพื่อความอยากรู้ จางเจี่ยรู้สึกตกใจ แต่ไม่ประหลาดใจ เพราะเขาคาดคิดไว้แล้วว่า สักวันหนึ่งจะต้องโดนถามเรื่องนี้ เหตุผลหนึ่งคือ ต้นเป็นผู้ชายคนแรกที่มีความสัมพันธ์รัก หลายสิ่งหลายอย่างเลยไม่ราบรื่น ้จาคิดว่าต้นเลยคาในเรื่องนี้ด้วย ในเมื่อปิดไปก็ไม่มีประโยชน์ จางเจี่ยเลยตัดสินใจบอกความจริง "ผู้หญิงครับ"จางเจี่ยจับดังร่างของต้นมากอดไว้ "จางเจี่ยขอโทษนะที่ไม่ได้บอกต้น แต่จางเจี่ยไม่รู้จะบอกอย่างไรดี" "คิดมากนะ ต้นแค่อยากรู้เฉยๆ ความสัมพันธ์เรายังเหมือนเดิม " "จริงนะ ต้นไม่โกรผม " "จริงซิ" ในใจต้นไม่ได้โกรธจางเจี่ยจริงๆ แต่แอบระแวงเพราะต้นไม่แน่ใจว่า จางเจี่ยอาจกลับไปรักผู้หญิงอีกหรือเปล่า ซึ่งแตกต่างจากต้นที่ไม่มีวันจะไปรักผู้หญิงได้อีกแล้ว เพราะต้นรู้ตัวมาตั้งแต่เด็ก ตอนเด็กชอบเล่นกับผู้หญิง พอโตมาออยากมีแฟนเป็นผู้ชาย ส่วนผู้หญิงคบเป็นเพื่อนสาว "ต้นสงสัยว่า จางเจี่ยมาชอบต้นได้อย่างไร" ต้นพยายามดันร่างของจางเจี่ยออก เพื่อรอฟังคำตอบ "ผมก็ไม่รู้นะ ตอนอยู่ที่จีนก็ไม่ได้รู้สึกชอบผู้ชาย พอมาเจอหน้าต้น ความรู้สึกก็เปลื่ยนไป อยากอยู่ใกล้ๆต้น อยากเห็นหน้าต้นทุกๆวัน เมื่อเราได้อยู่ด้วยกัน ไปไหนมาด้วยกัน มันเกิดเป็นความรัก ผมยังไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ที่ผมแน่ใจได้คือผมรักต้น และจะไม่มีวันเปลื่ยนไปรักผู้หญิงเด็ดขาด"จางเจี่ยจับมือต้นไว้แน่นเป็นการสัญญา "ผมจะรักต้นจนวันตาย" ต้นไม่ค่อยอยากจะเชื่อในสิ่งที่จางเจี่ยพูด เพราะต้นเคยเห็นมามากต่อมาก ที่สุดท้ายก็กลับไปอยู่กับผู้หญิงมีครอบครัว อยู่กันอย่างมีความสุขหรือเปล่าเขาไม่แน่ใจ แต่มีแน่นอนที่กลับไปแบบเหมือนเดิม จางเจี่ยเห็นต้นนิ่งไปก็เลยไม่แน่ใจว่า ต้นจะเชื่อในสิ่งที่เขาพูดหรือเปล่า "ต้นไม่เชื่อที่ผมพูดหรอ" จางเจี่ยมองหน้าของต้นไม่วางสายตา "ไม่ใช่ไม่ได้เชื่อ แต่ต้น.." ต้นหยุดพูุด จางเจี่ยเห็นไม่ได้การ ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ เขาจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า มันเป็นความจริงที่เขารักต้นจนวันตาย จะไม่มีเปลื่ยนใจเด็ดขาด จางเจี่ยเลยตัดสินใจ จับศีรษะของต้นเข้ามาใกล้ๆใบหน้าของเขา แล้วบรรจงใช้ริมฝีปากของเขาประกบริมฝีปากต้นทันที ต้นไม่ทันตั้งตัวเลยจะพยายามผลักออก แต่ต้านแรงจางเจี่ยไม่ไหว แถมรุกหนักมาขึ้น ในขณะเดียวกันจางเจี่ยก็ลุกขึ้นช้อนร่างต้น ให้อยู่ใต้วงแขนของเขา แล้วยกขึ้นแต่ริมฝีปากของจางเจี่ยก็ยังไม่คลายออกจากต้น จางเจี่ยค่อยๆเดินมายังเตียงนอน และจับร่างของต้นนอนลงบนที่นอน แล้วตัวของเขาก็ลงนอนข้างๆ จางเจี่ยยังไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอย เขาสานต่อสัมพันธ์รักต่อไป ส่วนต้นรู้สึกรักครั้งนี้ที่จางเจี่ยมอบให้มันไหลลื่นไม่ไร้เดียงสาอย่างครั้งก่อน ต้นนั้นแอบภูมิใจที่จางเจี่ยพยายามทำเพื่อเขา จางเจี่ยประกบริมฝีปากของต้น ดูดดื่มพัลวันสลับแลกกันอย่างกระหาย จางเจี่ยซุกซอนไซรซอกคอต้นอย่างบ้าคลั่ง สัมผัสทุกอณูไม่ให้ขาด เขาถกเสื้อของต้นออกจนเหนือศีรษะ ใช้มือบี้บีบนมชมพูที่หลงใหล ปากก็ขยับเม้มทั่วบริเวณ เขาสูดดูดดมทั่วเรือนร่าง จนต้นต้องสั่นสะท้านครางออกมา อารมณ์จางเจี่ยเตลิดไปไกล เขามองท่อนล่างที่มีกางเกงขวางอยู่ จางเจี่ยจึงจัดการถอดออกจนหมดสิ้น เห็นภายในกายของต้นจนไม่มีเหลือ เขาไม่กล้าสัมผัส ต้นเหมือนรู้ จึงห้ันข้างนอนตะแครงให้จางเจี่ย เขาเห็นแผ่นหลังยาวไปถึงปลายเท้า ที่ขาวนวลผ่องใสดังหยวกกล้วย จางเจี่ยจึงปลดอาภรณ์ทุกชิ้นไม่มีเหลือ จนเหลือเพียงร่างกายที่เปลื่อยเปล่า จางเจี่ยลูบไล้สะโพกของต้น แถมตีดัง เพี้ยะ ต้นถึงกับสะดุ้ง จางเจี่ยนั้นหมั่นเขี้ยวจึงทำเช่นนั้น เขานอนตะแครงตามต้นที่นำทางและซันขาขึ้น จับมังกรคู่กายที่ผงาดพร้อมรบ ค่อยๆบรรจงทีละนิดเพราะกลัวต้นเจ็บ ส่วนมือก็กอดต้นบีบขย้ำเนินอก ใบหน้าของเขาก็ซุกซอนไซร้ซอกคอต้นไม่หยุดหย่อน ปรนเปรอให้ต้นจนอิ่มหนำ เมื่อมังกรคู่กายไปสุดทาง จางเจี่ยจึงเริ่มขยับสะโพกอย่างช้าๆ ไม่เร่งรีบค่อยๆทำด้วยความใจเย็น จนต้นรู้สึกแปลกใจในลีลาที่เนิบนาน แต่ได้ความรู้สึกสุขซ่านทั่วเรือนร่าง เมื่อเข้าที่เข้าทางจางเจี่ยจึงเพิ่มความเร็ว โยกถี่กระชั้นชิดไม่ขาดช่วง โหมแรงที่มีใส่สุดทุกท่วงท่า ใส่ลีลาที่มีแต่ก่อนให้ถึงใจ จางเจี่ยดันร่างของต้นพลิกคว่ำ ส่วนตัวเขาค่อยๆตามทาบทับร่างของต้น หลังจากนั้นใช้มือยันเตียง ท่อนล่างแทรกส่วนกลางลำตัวด้านหลังของต้น เมื่อทุกอย่างพร้อมจางเจี่ยจึงเริ่มใช้กำลังกายถาโถมใส่ไม่ยั้ง จนเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่นลั่นห้อง ต้นถึงกับครางด้วยความสุขสม ท่อนล่างได้เสียดสีผิวผ้าปูที่นอนจนเคลิ้ม ยิ่งจางเจี่ยใส่ไม่หยุดยิ่งสะท้านอารมณ์สุขสม จางเจี่ยใช้พละกำลังที่มี โหมโยกสะโพกถี่ไม่หยุดค้าง ใส่เต็มหน่วงเมื่อใกล้ถึงจุดหมาย ในไม่ช้าอารมณ์ที่ถวิลหากำลังตามมา จางเจี่ยรู้สึกได้ภายในจะออกสู้โลกภายนอก เขาจึงเร่งความเร็วครั้งสุดท้ายจนทำนบเขื่อนแตก น้ำไหลนองล้นทะลักทั่วด้วยความแรง จางเจี่ยเหนื่อยฟุบพับทับร่างต้น ต้นผลักร่างจางเจี่ยให้นอนหงาย ส่วนเขาก็จัดการความสุขด้วยตัวเอง จางเจี่ยเห็นเช่นนั้นจึงอยากช่วย ด้วยการไล่สัมผัสนมชมพูเพิ่มรสชาติ ด้วยสองแรงแข็งขันจึงเร่งความสุขสมให้เกิดเร็วขึ้น ไม่ช้าฝนห่าใหญ่ก็ตกลงมา กระจายทั่วบริเวณเรือนร่างของต้นอยู่หลายห่า สองร่างนอนคู่กันบนเตียง โดยมีผ้าห่มผืนใหญ่ปิดร่างกายไว้ ต้นอนอยู่บนแขนที่ที่แต่มัดกล้าม พอได้หนุนกับหนุนสบายศีรษะ ต้นหันนอนตะแครงแล้วออกกอดจางเจี่ยที่หน้าอก มีกล้ามที่แน่นมาก "วันนี้ผมทำดีมั้ย"จางเจี่ยอมยิ้ม เพราะเขารู้อยูู่แล้วว่าต้นพอใจ "ฮิอ " ต้นพยักหน้า แต่ก็ยังไม่วางใจ เพราะต้นเป็นเพียงชายคนแรกที่จางเจี่ยได้สัมผัส แต่ถ้าเจอผู้หญิงออดอ้อนอีกเขาอาจเผลอใจ ต้นจึงเตรียมตัวใช้แผนสองล่อเหยื่อ "พรุ่งนี้เราไปเที่ยวผับกันมั้ย ริโอ้กับปันก็ไปนะ แล้วก็มีพี่นารีไปด้วย เราไปคลายเครียดกัน และทำความรู้จักเพื่อนของต้นให้มากขึ้น" "ไปซิ ต้นชวนไปไหนผมไปหมดนั้นแหล่ะ เพราะทั้งชีวิตผมให้ต้นคนเดียว" "อยู่ที่จีนปากหวานอย่างนี้หรือเปล่า" "ไม่นะ ปากหวานกับต้นคนเดียว" "ไม่เชื่อ"ต้นเอื่อมมือไปบี้ปากของจางเจี่ย จางเจี่ยเลยจับมือของต้นออก ดึงมือต้นออกห่าง หลังจากนั้นพลิกตัวก้มลงจูบต้นอีกครั้ง พร้อมอีกหนึ่งครั้ง ยามค่ำคืนต่อแผนสอง ทั้งกลุ่มนัดมารวมตัวกันที่ผับแถวคูเมือง กว่าต้นกับจางเจี่ยออกมา กลุ่มเพื่อนสนิทก็มากันครบ ปัน ริโอ้ นารี ซึ่งมารออยู่ที่โต๊ะข้างในผับแล้ว "ทำไมพึ่งมา"ริโอ้ถามก่อน "พ่อสุดหล่อมัวแต่งตัวอยู่นั่นแหล่ะ"ต้นจับแขนจางเจี่ยแล้วเงยหน้ามอง "ก็หล่อจริงหนอ ไม่เหมือนผัวพี่" นารีพูดด้วยความอิจฉา แต่จริงๆก็ยินดีกับต้นอย่างมากที่เลิกกับปรัชญ์ได้ แล้วมาเจอจางเจี่ยสุดหล่อ แต่ก็แอบหวั่นใจเหมือนกัน ว่าน้องรักคนนี้จะสมหวังในรักหรือเปล่า นารีจึงต้องมาสานต่อแผนสอง เพื่อจับผิดจางเจี่ยว่ายังชอบผู้หญิงอีกหรือเปล่า "ลืมแนะนำอย่างเป็นทางการ นี่พี่นารี" จางเจี่ยยิ้มให้นารี ส่วนนารีก็ยิ้มตอบ "พวกเราสั่งเบียร์มาแล้วนะ สั่งเผื่อต้นกับจางเจี่ยด้วย นั่งลงดื่มกันเลย" ต้นจางเจี่ยนั่งลงข้างกัน "เอ้า ชนแก้ว" ทั้งหมดจึงนำแก้วมาชนกันแล้วหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน แต่หลังจากนี้จะสนุกหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ ทั้งกลุ่มเตรียมใจไว้แล้ว "ปันมองแต่ฝรั่งอยู่นั้นแหล่ะ"ริโอ้ตะโกนใส่หู "อาหารตา นานนานมาที"ปันมองค้อนริโอ้ ยังเคืองไม่หายที่ไม่ยอมไปดูหนังด้วย "ไม่ได้เลยนะ"นารีแซวขึ้น ในระหว่างทั้งกลุ่มกำลังพูดคุย แซวกันไปมาก็มีผู้หญิงสาวสวย ใส่เสื้อรัดรูปเปิดส่วนบนจนเห็นร่องอก ส่วนกระโปรงก็แสนสั้นเลยสะโพกมานิดหน่อย จนเห็นขาอ่อนที่ขาวเป็นยองใย "สวัสดีทุกคน จำ จีจี้ได้มั้ย" สาวสวยที่นารีไหว้วานมาเติมเต็มแผนการณ์ "จำได้แล้วจีจี้หายไปไหนมา"การแสดงขั้นเทพของต้นเริ่มเปล่งประกาย ต้นจับแขนจางเจี่ยเขย่าๆ เบา จางเจี่ยก็หันมายิ้มให้ต้นแล้วพยักหน้า จีจี้เดินเข้ามาหาต้น แล้วแกล้งเอาร่างกายไปโดนจางเจี่ย ส่วนจางเจี่ยก็พยายามเขยิบถอยห่าง "สวยมากเลยไปทำอะไรมา"ต้นถาม "ทำอะไรที่ไหนสวยธรรมชาติ คนมันสวยอยู่แล้ว แต่งนิดแต่งหน่อยมมันก็สวยแล้วเธอ แต่ใครจะไปสู้เธอได้ สวยน้อยกว่าฉันแต่ดันมีแฟนหล่อด้วย" จีจี้ใช้แขนขยับให้ไปโดนตัวของจางเจี่ยอีก ซึ่งจางเจี่ยยังนิ่งเฉยอยู่ "เราลืมแนะนำไปเลย นี่จางเจี่ยแฟนเรา" "ยินดีที่รู้จัก"จีจี้เอื้อมมือไปขอจับ เธอเลยต้องก้มตัวลงจนเห็นร่องอกชัดเจน และมันอยู่พอดีกับสายตาของจางเจี่ย เขาพยายมหลบสายตาไปทางอื่น แต่ก็หวั่นไหวนิดหน่อย "ยินดีที่รู้จักเช่นกัน"จางเจี่ยเอื่อมมือไปจับด้วย และได้สัมผัสมือที่อ่อนนุ่มกว่าต้นมาก แถมจีจี้ใช้นิ้วหัวแม่หมดลูบตรงฝามือด้านในของจางเจี่ย จนเขาเริ่มมีความรู้สึก "จับกันนานไปแล้วนะ"นารีแกล้งพูดขึ้น จางเจี่ยเลยรีบดึงมือออกในทันที แล้วยกแก้วเบียร์มาดื่มแก้เก้อ ส่วนต้นก็สังเกตุอาการของจางเจี่ย ในความรู้สึกของต้นก็รู้สึกมีพิรุธนิดหน่อย "นั่งก่อนซิ เมื่อยแย่เลย "นารีพูดขึ้น "จะโชว์หุ่นไปถึงไหนจีจี่ "ริโอ้พูดแต่สายตาแอบชำเลืองจางเจี่ย "ใช่สาวสวยเมื่อยแย่เลย"นารีก็เช่นกันแอบชำเลือง "นั่งเก้าอี้ผมก็ได้ เดี่ยวผมยืนเอง"จางเจี่ยกำลังจะลุกขึ้น ต้นรู้สึกหมั่นไส้ ในความเป็นสุภาพบุรุษของจางเจี่ย "จางเจี่ยไม่ต้อง ขยับมาทางพี่นี่ เดี่ยวให้จีจี้นั่งข้างๆต้น " นารีมองไปรอบๆเห็นเก้าอี้ว่างมีอยู่ "ปันไปขอหยิบเก้าอี้ตรงฝรั่งนั่งเหลือตั้งสองตัว" นารีขยิบตาให้ปัน ปันทำตามอย่างว่าง่าย เพราะจะได้ไปคุยกับฝรั่งหนุ่มหล่อ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม