แสนรักคลี่ยิ้มหวาน พลางยื่นช็อคโกแลตหลายชิ้น ที่มีติดอยู่ในกระเป๋าเป้ให้ลูกทัวร์ตัวน้อย “นี่ค่ะ ช็อคโกแลต พี่แสนรักซื้อจากร้าน [1]ดิวตี้ฟรี (Duty Free) ในสนามบิน น้องก้องกินไปก่อนนะคะ เดี๋ยวตอนเย็นๆ พี่แสนรักจะพาไปซื้อขนมกินค่ะ”
“ขอบคุณมากครับ พี่แสนรัก”
หมดปัญหาของน้องก้องที่หิวขนมแล้ว ก็ยังเจอปัญหาตามมาอีกระลอก
“น้องแสนรักจ๊ะ เอ่อ...พี่...เอ่อ...”
“คุณน้ำรินมีอะไรหรือเปล่าคะ บอกแสนรักได้เลยค่ะ” แสนรักเอ่ยบอก หลังจากลูกทัวร์คนหนึ่งอึกอักไม่กล้าเอ่ยพูดออกมา
ผู้ถูกเอ่ยถามขยับกายเข้าไปใกล้แสนรัก ก่อนจะกระซิบบอกเบาๆ ว่า “รอบเดือนพี่มา แล้วพี่ไม่ได้เตรียมผ้าอนามัยมาด้วยนะสิค่ะ”
“แสนรักเตรียมมาเผื่อค่ะ เดี๋ยวแสนรักหยิบให้นะคะ อยู่ในกระเป๋าเดินทางค่ะ”
“โอ้วว...น้องแสนรักนี่รอบคอบจริงๆ”
แสนรักยิ้มหวานกับคำชม แอบตอบอยู่ในใจว่าเธอเตรียมมาทุกอย่างแม้กระทั่งไม้จิ้มฟัน “คุณน้ำรินรอในห้องพักนะคะ แสนรักจะไปหยิบมาให้เดี๋ยวนี้ค่ะ”
“ค่ะ น้องแสนรัก พี่คิดไม่ผิดจริงๆ ที่เลือกมาเที่ยวกับเดอะ ทราเวล ไลน์ เฟรน เพราะนอกจากจะมีไกด์ที่น่ารักแล้ว ยังรอบคอบที่สุดเลย”
“ขอบคุณพี่น้ำรินที่ชมค่ะ แสนรักขอไปหยิบผ้าอนามัยให้ก่อนนะคะ”
แสนรักขอตัวเข้าไปในห้องพักของตนเอง พอประตูห้องปิดลงก็ลอบถอนหายใจยาวอยู่ชั่วขณะ บอกตัวเองว่าการทำอาชีพไกด์ไม่ได้ง่ายอย่างที่เธอคิดแม้แต่นิดเดียว ยิ่งมาเจอสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศคาลาส์ด้วย ยิ่งทำให้หญิงสาวคิดหนักกว่าเดิม
“สาธุๆๆ อย่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นเลย”
แสนรักยกมือพนมท่วมหัวขณะบนบานศาลกล่าว จากนั้นก็เดินตรงไปยังกระเป๋าเดินทางของตนเอง แต่ไม่ทันได้หยิบของใช้ยามจำเป็นไปให้กับลูกทัวร์ที่ชื่อน้ำริน ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นซะก่อน พอหยิบโทรศัพท์ออกมาเห็นว่าเป็นไซนันที่โทร.หา ก็รีบกดรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว
“มีข่าวคืบหน้ายังไงบ้างคะ ข่าวดีหรือข่าวร้ายคะ คุณไซนัน ”
“ข่าวดีครับ”
ไซนันเอ่ยตอบยิ้มๆ ผ่านการสนทนาทางโทรศัพท์ ก่อนจะเอ่ยบอกต่อให้แสนรักเป่าลมออกจากปากได้อย่างโล่งอกเป็นที่สุด
“ทหารนอกเครื่องแบบสามคนกำลังเดินทางมายังโรงแรม พวกเขาจะทำตัวเหมือนเป็นนักท่องเที่ยว เพื่อปะปนไปกับทัวร์ของคุณในวันพรุ่งนี้และตลอดทั้งทริป ก่อนถึงมื้อค่ำ ผมอยากให้คุณลงมาพบกับพวกเขาก่อน จะได้ทำความรู้จักกันไว้ด้วยครับ”
“ได้ค่ะ ฉันขอเวลาดูแลลูกทัวร์ให้เรียบร้อยก่อน น่าจะราวๆ หนึ่งถึงสองชั่วโมง เดี๋ยวฉันลงไปพบคุณค่ะ”
“ครับ พวกเราจะรอคุณในล็อบบี้ของโรงแรมครับ”
“ค่ะ คุณไซนัน”
แสนรักกดวางโทรศัพท์ไปแล้ว ใจชื้นขึ้นมาบ้างเมื่อมีทหารนอกเครื่องแบบมาคอยคุ้มกันพวกตน
“สู้ๆ ยายแสนรัก เธอต้องผ่านอุปสรรคไปให้ได้”
หญิงสาวให้กำลังใจกับตนเอง จากนั้นก็เปิดกระเป๋าเดินทาง หยิบผ้าอนามัยทั้งห่อไปให้ลูกทัวร์ ซึ่งป่านนี้คงรอเก้อแล้ว
ในขณะไซนันกับแสนรักเตรียมรับมือกับเหตุร้าย ที่อาจเกิดขึ้นกับกรุ๊ปทัวร์ของตน ทางด้านของกองโจรทะเลทรายที่โหดเหี้ยมมีหัวหน้ากองโจรคือนาฟซา ซึ่งเป็นที่หมายหัวของทางการประเทศคาลาส์ ก็กำลังคร่ำเคร่งอยู่กับการวางแผนปล้นกรุ๊ปทัวร์ ที่เพิ่งเดินทางมาจากประเทศไทยเช่นเดียวกัน
“หัวหน้าครับ วันนี้มีทัวร์มาจากประเทศไทยกลุ่มหนึ่ง ดูท่าว่าแต่ละคนกระเป๋าหนักอยู่ไม่น้อย” ชิยาด์ ลูกน้องคนสนิทไม่ทันได้เอ่ยจบ ก็ถูกนาฟซาผู้เป็นหัวหน้าสั่งการในทันที
“ปล้นพวกมันให้หมดตัว จับผู้หญิงที่มึงคิดว่าสาวและสวยที่สุดมาให้กู ตอนนี้กูเบื่อนังพวกผู้หญิงที่อยู่ในค่ายเต็มทน มีแต่หน้าเดิมๆ บริการก็ไม่ได้เรื่อง กูอยากได้สาวโสดชิงๆ คงสนุกน่าดูตอนได้ข่มขื่นพวกมัน”
นาฟซาแสยะยิ้มจนเห็นฟันเหลืองอ๋อย ดวงตาโชนไปด้วยความโหดเหี้ยมขณะสั่งชิยาด์ ซึ่งโหดไร้ความปราณีไม่แพ้ผู้เป็นหัวหน้า
ชิยาด์กระตุกยิ้มกับคำสั่งที่ถูกใจเป็นที่สุด “ถ้ายังงั้นผมกับลูกน้องจะจับตามองกรุ๊ปทัวร์กลุ่มนี้เป็นพิเศษ ทันทีที่พวกมันออกพ้นจากตัวเมืองหลวงคาลาส์ ผมจะลงมือปล้นในทันที และเท่าที่ผมสังเกตเห็น คนที่เป็นไกด์แลดูสาวและสวยเซ็กซี่ที่สุดในกรุ๊ปทัวร์นี้”
“มึงรีบไปลงมือ แล้วลากคอไกด์สาวที่ว่ามาให้กูทันที” นาฟซาสั่งรัวเร็ว แค่คิดว่าจะได้ข่มขืนเชลยที่ถูกจับตัวมา ร่างกายของเขาก็กระสั่นไปทั้งตัว
และลูกน้องชั่วทุกหยดเลือดอย่างชิยาด์ ก็รับคำเพื่อเอาใจผู้เป็นเจ้านาย “ได้ครับท่านนาฟซา ไม่เกินวันสองวัน หัวหน้าจะมีของเล่นใหม่เป็นไกด์สาวสุดเซ็กซี่จากประเทศไทย”
นาฟซาหัวเราะลั่นขณะมองตามลูกน้องที่เดินออกจากบ้านพักของเขา เพื่อไปทำตามคำสั่ง ปล้น ฆ่า จับตัวผู้หญิงมาข่มขืนให้ตายคาเตียง นั่นคืองานถนัดของพวกเขา
เช้าวันแรกของการทำหน้าที่เป็นไกด์ พาลูกทัวร์ท่องเที่ยวในดินแดนทะเลทราย ซึ่งขึ้นชื่อว่าสวยติดอันดับโลก แสนรักเต็มไปด้วยความกังวล สีหน้าของหญิงสาวดูไม่สดชื่นนัก กระนั้นก็พยายามฝืนยิ้มตลอดเวลาที่เอ่ยพูดถึงประวัติของประเทศคาลาส์
“ตอนนี้เรากำลังเดินทางไปทะเลทรายที่ชื่อเดอาร์ ซึ่งตั้งชื่อตามชื่อกลางของท่านชีคมาคิม เดอาร์ คาริม เจ้าผู้ปกครองประเทศ”
“ทะเลทรายเดอาร์ใหญ่มากไหมครับ พี่แสนรัก” น้องก้องช่างซักช่างถามด้วยความอยากรู้ อีกทั้งตื่นเต้นที่จะได้เห็นทะเลทรายของจริงแล้ว
“ใหญ่มากค่ะ ทะเลทรายเดอาร์กินพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของประเทศคาลาส์ อีกราวๆ ครึ่งชั่วโมงเราก็เดินทางไปถึงทะเลทรายแล้วค่ะ”
ขณะเอ่ยบอกข้อมูลกับน้องก้องและลูกทัวร์ทุกคน แสนรักก็ขยันหันหลังไปมองรถจิ๊ปคันหนึ่ง ซึ่งแล่นอยู่ด้านหน้ารถตู้ที่พวกเธอนั่งอยู่ แน่นอนว่ารถจิ๊บคันดังกล่าวมีทหารนอกเครื่องแบบนั่งอยู่ในนั้น เพื่อคอยคุ้มกันให้กับกรุ๊ปทัวร์จากประเทศไทยโดยเฉพาะ
“เดี๋ยวแสนรักจะให้ทุกท่านได้ชมวิวข้างทางตามสบายนะคะ หากใครต้องการน้ำดื่มหรือขนมขบเคี้ยวก็เรียกแสนรักได้เลยค่ะ”
[1] Duty Free คือร้านค้าปลอดภาษีที่ขายในสนามบิน ซึ่งร้านค้าจะตั้งอยู่ในโซนหลังจากผ่านด่านตำรวจตรวจคนเข้าเมือง