แซ่เฉิน มันแซ่ต้นตระกูลของแป๋มนี่ ชักจะอย่างไงอย่างไงซะแล้วหรือว่า แป๋มย้อนเวลามาเพราะเกี่ยวดองกับแซ่เฉินนี่
“ขอบคุณนายท่าน”เจ้าบ้านเฮินประสานมือนอบน้อมแม้จะมองว่าเป้นเพียงชาวบ้านป่าทว่ามารยาทก้มีไม่น้อยทีเดียวแป๋มยิ้มพยักหน้าชื่นชม
“ฝ่าบาทออกปากชื่นชมรสชาติผักของท่านเจ้าบ้านว่าอร่อยสดใหม่ บอกผ่านขันทีมาข้าได้ฟังแล้ว ยิ้มแทบไม่หุบ5555หวังว่าจะคงความสดใหม่แบบนี้ไปนานๆ ”ทั้งหยอดทั้งประเลาแบบนี้หากเป็นแป๋มคงตัวลอยไม่สิจะลอยได้อย่างไรก็แป๋มอ้วนจะตายไป
“พี่จูเจี่ย ท่านเห็นไหม คนผู้นั้นมองท่านตาเป็นมัน”แป๋มเลิกคิ้วสูง จะมาไม้ไหนเจ้าเด็กนรกทำมาหาเรื่องคุยด้วยเรื่องเก่ายังไม่ได้สะสาง
“อย่า ดีใจไปเขาไม่ได้มองเจ้าเพราะเจ้าสวยหรอกแม่นางจูเจี่ย แต่เขามองเพราะเขาคงสงสัยว่า ทำไมพวกเราปล่อยหมูออกมาเดินเพ่นพ่าน”มะกอกในมือเขกลงบนหัวเด็กชายดังโป๊ก เจ้าตัวก่อกวนยกมือขึ้นลูบหัวปอยๆ
“ท่านแม่พี่สาว รังแกข้าอีกแล้ว” แป่มใช้ตะเกียบนมือชี้หน้า เจ้าน้องชายตัวแสบ เสี่ยวซงผู้นั้นอมยิ้มแก้มปริเมื่อได้ยินประโยคทั้งหมดแป๋ม เสมองไปเสียทางอื่น คนอะไรยิ้มสวยเป็นบ้า หากจะหุ่นดีกว่านี้นนี่คงหล่อเลยล่ะ ถึงจะมือเปื้อนขี้หมูทว่าใบหน้ากลับแจ่มใสไร้รอยกังวล ช่าง สุขสันต์กันเสียจริง ไร่แห่งนี้ แต่ละคนล้วนมีใบหน้าสุขสันต์ไม่มีใครที่อมทุกข์แม้แต่คนเดียวไม่เหมือนโลกใบเก่าที่แป๋มอยู่ช่างเคร่งเครียดบีบรัดจนแทบไม่มีอากาศหายใจ แป๋มเผลอสุดหายใจเข้าลึกๆ สุดเอา อากาศบริสุทธิ์สะอาดของบ้านป่าสมัยที่ไร้มลพิษเข้าไปเต็มปอดความเย็นสดชื่นจนเผลอยิ้ม เฮ้ออย่างน้อยก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด แม้จะมีแม่แบบยายป้ามีน้องนรก พ่อแสนดี และผู้ร่วมงานที่ ดูดีสุดๆ
“จูเจี่ย มาช่วยพ่อเก็บ ผักกาดหัว (หัวไซเท้า) ดีกว่า”เจ้าบ้านเฉินเรียกแป๋มเมื่อเห็นว่ากำลังจะไปโกยขี้หมูจะว่าไปเจ้าบ้านเฉินคงรักลูกคนนี้ไม่น้อยต่างจากยายป้านั่นที่รักแต่เด็กนรก น้องชายตัวแสบ
“จูจิ้น ไม่ช่วยแม่ของเจ้คัดล้างผัก ออกห่างๆ พี่สาวเสียบ้างไม่อย่างนั้นเป็นได้ทะเลาะกัน ท่านเจ้าบ้านพูดดักทาง จูจิ้นที่ทำท่าจะก้าวเดินตามแป๋มก็ชะงักฝีเท้าแป่มหันมาเบ้ปากใส่ยักคิ้วแผล็บๆ
“จูเจี่ยรู้ไหม หัวไซเท้าจะต้องปลูกอุณหภูมิต่ำไม่ร้อนเกินไปจึงได้ผลผลิตดีแล้วต้องรดน้ำให้ชุ่มตลอดจะได้กรอบอร่อย หากรดน้ำสม่ำเสมอการทำเค็มเป็นหัวใช้โป้จึง อร่อยไม่มีเสี้ยนเนื้อเหนียวนุ่ม กินกับข้าวต้มร้อนๆ อร่อยอย่าบอกใคร”แป๋มกลืนน้ำลายลงคอเมื่อพูดถึงหัวไช้โป้ กับข้าวต้มกุ้ย อยู่ๆ ทำไมอยากกินขึ้นมา
“พรุ่งนี้เช้า จะให้แม่ของเจ้าต้มข้าวต้มให้คนในบ้านกินเสียเลย สองสามวันมานี้อากาศหนาว ได้ข้าวต้มร้อนๆ ยามเช้า เทพบนสวรรค์ยังต้องโน้มลงมาขอชิม
ท่านเจ้าบ้านเฉินดึงหัวไชเท้าออกมาจากดินง่ายดาย แป๋ม นึกสนุกเลยลอง ดึงบ้านแต่โอ้โห้ต้องใช้แรงอย่างมากเลยทีเดียว ไม่น่าเชื่อ หรือว่าแป๋มไม่เคยจะออกกำลังกายเรื่องแบบนี้จึงถือว่าหนักหนา หงายหลังก้นจ้ำเบ้า เจ้าน้องชายตัวเแสบจูจิ้น หัวเราะตัวงอ
“จูเจี่ย คราวหลังพี่ต้องมีหลักให้ยึดเกาะไม่เช่นนั้นเห็นทีท่านพ่อต้องตามไปเก็บท่านขึ้นมาจากตีนเนินนู่นล่ะ”เจ้าน้องบ้านนี่กัดไม่เลิกใครกันช่าง สอนให้พูดแค่หกขวบทำไมปากร้ายนัก
“จูจิ้นอย่าว่าพี่เขาปกติจุเจี่ยไม่ค่อยชอบออกแรงวันนี้เห็นทีฝนจะตกเพราะพี่สาวเจ้าช่วยท่านพ่อถอนหัวผักกาดด้วย”อ้าว ยายจูเจี่ยนี่ปกติก็ไม่ทำอะไรหรือ เหมือนแป๋มไม่มีผิดเพี้ยน ทำให้คนอื่นว่าได้ เฮ้อป่านนี้แม่จะเป็นอย่างไรบ้างแม่ที่ไม่เคยบ่นเคยด่าแต่คอยยกทั้งอาหารและของว่างมาวางไว้ให้แป๋มหน้าโต๊ะคอม วันๆ แทบไม่ต้องขยับตัว นอกจากอย่างเข้าห้องน้ำ กินเสร็จก็พิมพ์นิยายพิมพ์ๆๆๆๆ และพิมพ์กินหน้าจอคอมดื่มหน้าจอคอม ดึกๆ ถึงจะคลานลงจากเก้าอี้เข้าที่นอนชีวิตวนเวียนซ้ำๆ จนอ้วนเป็นลูกขนุน ตอนเด็กๆ หน้าตาดี ไม่มีไขมันตอนนี้อ้วนจนบดบังความสวยเสียหมด
“เฮ้อข้าก็อยากผอม แต่จะทำอย่างไรได้ ลดหุ่นมันยากยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด”ท่านเจ้าบ้านยิ้ม
“ไม่ยากแค่เจ้าพูดว่าอยาก ข้าจะหาวิธีให้เอง”แป๋มยิ้มบ้าง มีวิธีจริงๆ หรือ
ในไร่ที่แสนจะอบอุ่นแสงแดดสีส้มแม้จะส่องสว่างแต่ไม่ทำให้รู้สึกร้อน วันนี้อากาศค่อนข้างหนาว
“จูเจี่ยเก็บไข่เป็ดกับไข่ไก่ ในเล้าให้แม่ด้วย”
แป๋มยังไม่ทันจะขยับตัว จูจิ้นวิ่งไปหยิบตะกร้า ออกไปก่อนแป๋มเสียอีก
“เสี่ยวซง มอง สองคนพี่น้อง ทำท่าจะขยับตัวตามไปช่วย
“เสี่ยวซง มาช่วยข้าหอบฟืน มาเก็บไว้ใกล้เตาผิงอากาศค่อนข้างหนาว ไม่แน่คืนนี้อาจมีหิมะแรก ดีที่เราเก็บผักบางส่วนส่ง วังหลงเสียเกือบหมดหิมะตกได้ก็ไม่น่าห่วงเท่าไหร่”เจ้าบ้านเฉิน เดินนำเสี่ยวซงที่ช่วยหอบฟืนมาเก็บไว้ในห้องครัวใกล้เตาผิง และเตาทำกับข้าว ข้างเล้าไก่ แป่มนึกภาพขี้ไก่และความสกปรกทว่าสิ่งที่เห็นไม่ได้อย่างที่คิด ยายป้ากวาดทำความสะอาดจนเอี่ยมอ่อง พื้นแห้งสะอาดตา มีเศษหางจากข้าวสาลีกองบนพื้นเป็นกระจุกบ้างก็ปูไปบนพื้นเล้าไก่ ไข่ไก่วางเรี่ยราดเหมือนถูกนำมาวางไว้ แป๋มเลิกคิ้วเมื่อจูจิ้น เก็บไข่ไก่ใส่ไปใน ตะกร้าหลายสิบลูก
“ ไก่ไข่ตัวอ้วนขนสี น้ำตาลแดง ไม่ได้ตื่นตกใจแต่กลับเดินเข้าหา ย่อตัวลงนอนหมอบเหมือนอยากจะออกไข่อยู่ตลอดเวลา แป๋มยิ้ม
“จูเจี่ย ไข่วันนี้เยอะกว่าทุกวันคงเป็นเพราะเมื่อวาน ท่านพ่อเก็บเศษผักในสวนมาให้มันจิกกิน เป็นอาหารว่าง”
“ไก่กินผักด้วยหรือ”
"มีแต่จูเจี่ยที่ไม่ชอบกินผักเจ้าวัวน้อย เจ้าลูกหมาหมุนคอกแล้วก็ไก่กินผักทั้งนั้นจูเจี่ยอชบกินแต่เนื้อสัตว์ถึงได้อ้วนแบบนี้”น้องรักหักเหลี่ยมโหด
“เจ้าไม่ชอบกินเนื้อหรือไรถึงพูดแบบนี้”
“เนื้อนะหรือกินเข้าไปนานๆ ก็ไม่ได้มีรสชาติดีอะไรสู้ผักก็ไม่ได้ ผักแต่ละชนิดรสชาติแตกต่างกันออกไป”
โอ้นี่ แป๋มถูกเด็กมือวานซืนลูบคมทำไมรู้มากขนาดนี้เจ้าเด็กนี่หากอยู่ในโลกปัจจุบัน คงเรียนหนังสือเก่งน่าดู
“แล้ว จูจิ้นชอบกินผักอะไรที่สุด”
“ผักชี”หาเด็กนี่ชอบผักชี ในที่ที่แป่มอยู่ถึงกับมีการ ตั้งกลุ่มในเฟชบุ๊คแอนตี้ผักชีแต่เด็กนี่กลับบอกว่าชอบผักชีที่สุด
“จูเจี่ยเล่าทำไมไม่ชอบกินผัก”
“ข้า...ข้ารู้สึกว่ามันเหม็นเขียว”