Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
แล้วในตอนที่ฉันกับใบบุญกำลังคุยกันอยู่นั้นเสียงเตือนมือถือใบบุญก็ดังขึ้นแต่พอใบบุญมันหยิบขึ้นมาดูหน้ามันตึงขึ้นมาทันทีแบบนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ค่ะว่าใครโทรวีดีโอคอลมา
“อ่ะ...น้องชายแฝดนรกเธอคอลมา”
“มันคอลมาเครื่องเธอๆก็รับสิใบบุญ”
แล้วใบบุญมันก็ถอนหายใจแรงๆออกมาก่อนที่จะกดรับสายแบบไม่เต็มใจ
“มีอะไร”
[คิดถึง]
“ตอแหล!!”
[ฉันคิดถึงพี่สาวฉันไม่ใช่เธอยัยใบบาป]
“ฮึ่ย!!...ไอ้เจ้ากรรมนายเวร เอาไปเลยเวคุยเสร็จแล้วเอามือถือฉันไปล้างแอลกอฮอล์ให้ด้วยนะ”
พูดจบใบบุญก็ยัดมือถือที่มีหน้าของเจ้าขุนนั่งขำอยู่ในจอใส่มือฉันแล้วเดินกระแทกเท้าไปนั่งโซฟาด้วยใบหน้าบึ้งตึง จริงๆเลยสองคนนี้เจ้าขุนชอบแกล้งชอบแหย่ให้ใบบุญมันโมโหแบบนี้ประจำแหละค่ะว่าแล้วฉันคุยกับเจ้าขุนก่อนนะคะไม่รู้ว่าคอลมามีอะไรรึเปล่า
“ว่าไงขุน”
ฉันยกมือถือมาจ่อที่หน้าตัวเองแล้วเริ่มคุยกับเจ้าขุนน้องชายฝาแฝดตัวแสบของฉันที่อยู่เมืองไทย
[สรุปจะกลับไทยวันไหนเว]
“ก็อีกสองอาทิตย์ไงมีอะไรรึเปล่า”
[ไม่มีอะไรก็แค่ถาม]
“แปลกๆนะเจ้าขุนมีลับลมคมในอะไรรึเปล่า”
[เปล่า!!]
“เสียงสูงขนาดนี้ต้องมีอะไรแน่ๆอ่ะบอกพี่มาเดี๋ยวนี้นะ”
[ไม่มีก็ไม่มีดิเวสรุปอีกสองอาทิตย์กลับไทยชัวร์นะ]
“ก็เออสิ!”
[โอเค..งั้นก็แค่นี้แหละ]
“โทรมาถามแค่นี้เนี่ยนะเจ้าขุน”
[อือ!!...แต่อย่าพึ่งวาง]
“อะไรอีก”
[มีคนคิดถึง]
“ใครอีก!”
พอฉันถามเจ้าขุนออกไปแบบนี้เจ้าขุนมันก็แพลนกล้องออกไปอีกทางแล้วฉันก็เห็นเขาคนนั้นซึ่งตอนนี้เขาหันมายิ้มให้ฉันผ่านกล้องมือถือของเจ้าขุนที่เจ้าขุนแพลนไป
อีกด้าน
“คิดถึงนะเว”
หึ! แค่นี้แหละครับผมทันได้พูดแค่นี้เวนิสก็วางไปแล้วครับ เวนิสวางสายไปแล้ววางก่อนที่ผมจะพูดคำว่าคิดถึงจบด้วยซ้ำคงจะยังโกรธผมอยู่ไม่ใช่สิครับเวนิสไม่ได้แค่โกรธผมแต่น้องเกลียดผมเลยต่างหาก
ปึก ปึก
“เฮ้อ! ผมแม่งโคตรเห็นใจพี่เลยว่ะเมื่อไหร่เวนิสจะเข้าใจอะไรสักที”
เจ้าขุนครับน้องมันตบไหล่ผมเบาๆแล้วพูดประโยคนี้ออกมาเจ้าขุนคงอยากให้กำลังใจและปลอบใจผมเหมือนทุกครั้งเวลาที่ถูกเวนิสเมินเฉยใส่แบบนี้
"คงต้องให้เวลาเวนิสอีกสักหน่อยเพราะเรื่องที่เวนิสรับรู้มันคงสะเทือนใจเวมาก"
"สี่ปีแล้วนะพี่คินที่เวนิสแม่งไม่ยอมเข้าใจอะไรเลย"
เจ้าขุนพูดถึงพี่สาวตัวเองแล้วทำหน้าเหมือนเหนื่อยใจกับสิ่งที่เวนิสทำกับผมมาก ไม่ใช่แค่เจ้าขุนสิที่คิดแบบนี้ทุกคนในบ้านก็เหนื่อยใจกับความทิฐิที่เวมีให้ผมเว้นก็แต่ผมคนเดียวที่ไม่คิดอะไร
"ต่อให้พี่ต้องให้เวลาเวนิสทั้งชีวิตพี่ก็ยอมถ้ามันจะทำให้เวเข้าใจพี่และครอบครัวของพี่"
เจ้าขุนฟังที่ผมพูดน้องมันก็ได้แต่ยิ้มแล้วส่ายหัวเบาๆใส่ผม
"หลุดจากพี่ไปมันจะมีผู้ชายคนไหนทนเวนิสได้เหมือนพี่อีกวะ"
“ขอบคุณนะเจ้าขุนที่ทำให้พี่ได้เห็นหน้าเวนิสวันนี้”
“หึ...อีกสองอาทิตย์พี่ก็จะได้เห็นหน้าบอกบุญไม่รับแบบนี้ของเวนิสทุกวันจนเบื่ออ่ะยิ่งรู้ว่าป๊ายกตำแหน่งใหม่ให้พี่นะผมว่าบ้านแตกแน่แต่ก็ยังดีที่เวมาไม่ทันงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งใหม่พี่”
ความจริงผมก็กังวลเรื่องนี้เหมือนกันนะครับไม่อยากให้ลุงเวกัสจัดงานเลี้ยงแล้วป่าวประกาศเรื่องตำแหน่งหน้าที่การงานที่ลุงยกให้ผมเลยผมกลัวว่าเวกัสจะไม่เข้าใจแล้วเก็บไปน้อยอกน้อยใจว่าผมมาแย่งอะไรที่มันเป็นของน้องอีก
หลายวันผ่านไป
“อะไรนะ..เก็บของ”
“ใช่!”
พอฉันบอกให้ใบบุญเก็บของเตรียมตัวกับไทยใบบุญก็ทำหน้าเป็นเจ้าหนูจำไมอีกแล้วค่ะ
“เหลืออีกตั้งสองอาทิตย์นะเวที่เราจะกลับไทย”
"เราจะกลับเร็วขึ้นฉันเลื่อนไฟท์บินมาเป็นอาทิตย์หน้าไม่ต้องรอสองอาทิตย์แล้ว”
พอฉันบอกแบบนี้ใบบุญก็เอาแต่นั่งทำหน้างงค่ะไม่รู้จะงงอะไรก็แค่เลื่อนเวลากลับเมืองไทยให้เร็วขึ้นแค่นั้นเอง
“ทำไมเลื่อนอ่ะ”
“แล้วทำไมต้องสงสัยด้วยล่ะใบบุญ”
จริงๆเลยเชียวใบบุญต้องมีคำถามตลอดเวลาเลยสินะ
“เธอคิดจะทำอะไรเวนิสมีแผนร้ายอะไรอีก”
“โอ้โห!! ใบบุญนี่เธอเห็นฉันเป็นนางร้ายในละครหลังข่าวขนาดนี้เลยเหรอ”
ใบบุญนะใบบุญนี่เห็นฉันเป็นนางร้ายในละครหลังข่าวตลอดเลยแล้วคงไม่ต้องบอกหรอกค่ะว่าละครเรื่องนี้ใบบุญให้ใครเป็นพระเอกถ้าจะให้ฉันเป็นนางร้ายขนาดนี้
“เธอแน่ใจนะว่าเธอจะไม่ไปแผลงฤทธิ์อะไรที่เมืองไทยอีกอ่ะเธอไปรู้อะไรมาถึงได้รีบกลับบอกฉันมาก่อน”
ฉันไม่ได้รู้อะไรมาอย่างที่ใบบุญสงสัยหรอกค่ะแต่เซ้นท์ฉันมันบอกว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างแน่ๆเพราะไม่งั้นหลายวันก่อนเจ้าขุนคงไม่โทรมาถามเรื่องวันเวลาที่ฉันจะกลับไทย
“ไม่รู้สิแต่ถ้าวันที่ฉันกลับไปเหยียบเมืองไทยแล้วมีเหตุการณ์อะไรที่ฉันไม่พึงใจเธอได้เห็นร่างสองของฉันแน่ใบบุญ”