ดราม่าจริงๆเลยชีวิต

1168 คำ
“ปริบ ปริบ” การ์ตูน สาวไทยเชื้อสายจีนวัย 28 ปี นอนทบทวนเรื่องราวที่อยู่ในหัว เธอนอนพักผ่อนอยู่ในคอนโดหลังจากทำงานมาทั้งสัปดาห์ ตื่นมาอีกทีก็มาอยู่ในร่างหญิงสาวคนนี้แล้ว หลังนอนเรียบเรียงเรื่องราวอยู่นานสรุปได้ว่า ร่างนี้ที่ชื่อว่า เสิ่นซูฉี อายุ 20 มีสามีชื่อ หยินลู่จิว เป็นหนุ่มหล่ออายุ 24 ที่ได้มาจากการจับคู่โดยแม่สื่อ เหตุผลง่ายๆ กิ่งทองใบหยก สวยหล่อคู่กัน ทั้งคู่มีลูกชาย 3 คน ลูกเลี้ยงที่สามีไปเอามาจากไหนอีกไม่รู้ 1 คน ทำให้ทั้งคู่จากที่ไม่ได้รักกันมากอยู่แล้วก็ยิ่งทะเลาะกันเข้าไปอีก ไม่ใช่ซูฉีไม่รักสามี แต่เธอคิดว่าสามีแอบมีภรรยาเลี้ยงไว้นอกบ้านอีกคน พอมีลูกก็เอาลูกสาวมาอยู่ในบ้านด้วย เธอช้ำใจทำให้พานไม่ชอบหน้าเด็กสาวไปด้วย สาเหตุการตายของซูฉีก็มาจากลูกเลี้ยงกับลูกชายคนเล็กของเธอ ฮุ่ยเจิน ไปเล่นกันแถวลำธารแล้วลูกชายเธอตกน้ำ กว่าจะมีคนไปช่วยก็ไม่ทันแล้วลูกชายคนเล็กจมน้ำตาย เธอก็ร้องไห้จนน้ำตาจะเป็นสายเลือด ถึงเธอจะไม่ได้สนใจลูกมากขนาดนั้นแต่ยังไงก็ลูกเธอย่อมรักอยู่แล้ว แล้วยิ่งการตายของลูกมีส่วนเกี่ยวข้องกับเด็กที่เป็นลูกของสามีกับใครก็ไม่รู้ เธอยิ่งเกลียดชังจนลงมือตบตีเด็กน้อย สามีเธอเข้ามาเห็นโดยที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรก็ผลักเธอกระเด็นหัวกระแทกของโต๊ะเพราะคิดว่าเธอจะทำร้ายลูกสาว ทำให้เธอล้มป่วยสลบไปถึง 2 เดือน พอตื่นมาอีกทีก็เป็นเธอมาอยู่ในร่างแล้ว “เห้ออ” ต่อไปนี้ฉันคือ ซูฉี สินะ เดิมเธอก็ไม่มีห่วงอะไรอยู่แล้ว จะว่าไม่มีก็ไม่ได้ครอบครัวเธอมี 5 คนรวมเธอ แต่เธอแยกมาอยู่ตัวคนเดียว ง่ายๆ คือตัดขาดครอบครัว ทำงานหาเงินปรนเปรอตัวเองไปเรื่อยๆ ที่อ่านนิยายมาก็เยอะ ชอบสุดก็แนวทะลุมิติ ไม่คิดว่าจะทะลุได้จริงน่ะสิ แล้วของวิเศษ พลังวิเศษอะไรนั่นมีรึป่าวนะ “เดี๋ยวนะ!!!” ซูฉี ลู่จิว ลูกชายจมน้ำตาย ลูกเลี้ยงของสามี กรี้ดดดดดดดด กระเทย!! นี่ไม่ใช่นิยายที่อ่านจบไปเมื่อช่วงที่เรียนมหาลัยหรอ ชื่อเรื่องจำไม่ได้ด้วยซ้ำ ที่สำคัญตอนนี้เธอคือ ซูฉี แล้วอีนังซูฉีมันเป็นตัวร้ายน่ะสิ แต่ยังดีที่ไม่ใช่นางร้ายเบอร์ 1. ส่วนผัวก็เป็นพระรอง โอ้โหหหหหหห ตอนอ่านก็เชียร์นางเอกอยู่หรอกนะ แต่พอมาเจอกับตัวเองว่าผัวมีใจให้คนอื่นมันก็อยากวีนขึ้นมาเลยถึงจะเป็นผัวซูฉีก็เถอะ ส่วนนางเอกก็แม่ดอกบัวขาวไง ซูฉีเป็นคนนิสัยตามนางร้ายนั่นแหละ เธอโมโหร้ายแต่ฉลาดวางแผน เทียบกับนางร้ายเบอร์หนึ่งจะว่าสูสีก็ได้เลย ที่ไม่ได้เป็นเบอร์หนึ่งน่าจะเพราะซูฉีไม่ได้ต้องการแย่งพระเอก เธอแค่อยากทำลายภาพลักษณ์นางฟ้า นางสวรรค์ที่สามีเธอชอบนักหนาจนเอามาเปรียบเทียบกับเธอเสมอ “ช่างเถอะ ถ้ามีใจชอบจริงก็จะหย่าให้” ถ้าจำไม่ผิดซูฉีสวยมากเหมือนกันแต่เป็นสวยแบบนางจิ้งจอก ไม่ได้สวยเหมือนดอกบัว สวยขนาดนี้ก็เชิ่ดต่อไม่รอแล้วจ้าที่รัก เดิมเธอก็เป็นคนที่เจนจัดมากๆ คนหนึ่ง ความรักอะไรนั่นก็ทำให้ช้ำใจเปล่าๆ เหมือนจุดจบอีนังซูฉีนี่แหละ อย่างอื่นเอาไว้ก่อน ตอนลุกจากเตียงไม่ได้เลย “ท่าน...ท่านแม่!!” หันมาเจอเด็กน้อยหน้าตาน่ารักทำหน้าตกใจอยู่หน้าประตูห้อง เธอพึ่งจะนึกออกว่า นั่นลูกชายคนโต หยินซานไห่ วัย 4 หนาว ของเธอ เขาก็วิ่งตะโกนแหกปากลั่นบ้านแล้ว สักพักก็มีเสียงคนเดินเข้ามาในห้องหลายคน น่าจะเป็นสามีแล้วก็ครอบครัวสามี ซึ่งไม่ผิดจากที่คิด แล้วยังมีหมอเข้ามาจับชีพจรอีกด้วย ได้ความว่าร่างกายอ่อนแอต้องบำรุง กินยาตามเทียบ หนึ่งเดือนก็น่าจะหายขาด เธอหันไปมองคนที่ออกันอยู่หน้าห้อง “นี่ไม่ใช่การรวมตัวคนเกลียดกันหรอกหรือไง” โดยเฉพาะแม่สามีกับสะใภ้ทั้งสองคน “เหอะ ดวงแข็งซะจริงนะ” นั่นไงมาแล้ว แม่สามีคนดี “พอเถอะท่านแม่ นางพึ่งฟื้นให้นางได้พักก่อนเถอะขอรับ” หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายเหลือแต่สามีกับลูกทั้งสองคนที่เหลือของเธอ เธอมองเด็กทั้งสองคนอย่างพิจารณา ซานไห่นั้นมาดแมนหน้าเหมือนพ่อ สมเป็นพี่ใหญ่ แต่แฝดน้องนี่สิ หยินอี๋นัว เธอสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่คุ้นเคย โอ้...คงไม่ใช่ลูกสาวแม่หรอกนะ ผิวขาว ปากแดง หน้าตาน่าจะได้เธอมาเต็มเก้าส่วนเลยล่ะ เพราะมีแค่ตาที่เหมือนพ่อเขาเท่านั้น แต่นั่นทำให้หน้าตาดูเซ็กซี่มากเลยล่ะ นี่แฝดจริงปะเนี่ย ส่วนพ่อเด็กนั้น แค่เห็นก็อยากวิ่งเข้าไปน้วยแล้ว เป็นผู้ชายที่ร่างกายแข็งแรงสูง น่าจะ 184 ผิวขาวแต่ดูแข็งแรงน่าดู ลุคคุณชายผู้สูงศักดิ์ อบอุ่นแต่กร้าวใจมาก โอ้...ก่อนหย่าก็ของลองสักหน่อยเถอะ เหอะ แต่คิดดูแล้วผู้ชายคนนี้ก็น่าตีจริงๆ นั่นแหละตอนแม่สามีกับพี่สะใภ้รุมรังแกเธอก็บอกแค่ให้เธอทำตัวดีขึ้นหรือไม่ก็มองเฉยๆ บัดซบจริงๆ คิดว่าจะต้องใช้ชีวิตกับผัวแบบนี้แล้วก็อยากจิกหัวเช้าเย็นเลยเชียว นั่น เห็นหัวเล็กโผล่มาแวบๆ หลังสามีเธอ คงจะเป็นเด็กน้อยคนนั้นสินะ เธอเมินหน้าหนี “ออกไปเถอะ ขอเวลาพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน” เสียง!!!! เบามาก ที่แย่กว่าเสียงคือกลิ่นปากค่ะ ฮืออออ มันขมในคอ นอนไม่หลับแน่ “ซานไห่ ไปเอาน้ำมาให้แม่ล้างหน้า บ้วนปากหน่อย” “ขอรับท่านแม่” เจ้าใหญ่วิ่งออกไปเสียงตึงตัง “อี๋นัว” “ขอรับ” เสียงตอบกลับแผ่วเบาอย่างเกรงกลัว แต่ก็แฝงความอยากเข้าไปหา “พรุ่งนี้พาพี่เข้ามาหาแม่ยามเฉินด้วยนะ” “ขอรับ” “ไปเข้านอนได้แล้ว” ซานไห่วิ่งเข้ามาพอดีเธอเลยไล่ให้เด็กๆ ไปนอน ความจริงบ้านนี้อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ ห้องที่เธออยู่น่าจะดัดแปลงมาจากโรงเก็บฟืน เพราะน่าจะเป็นห้องเดียวที่ว่างให้เธอมานอนคนเดียวแบบนี้ก็มีแค่ห้องที่มาจากโรงเก็บฟืนเท่านั้นแหละอากาศชื้นขนาดนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม