"ลูกหลานบ้านนี้งานดีทุกคน ถ้าโตเป็นสาวคงจะงามกว่านี้หลายเท่า" โซนทอดสายตามองไปยังกลุ่มหลานสาวของแทนไทกับพรพระพาย ก่อนจะหยุดสายตาเป็นประกายนั้นที่ร่างเล็กของอลินที่อยู่ใกล้กับนารา
"แน่นอนสิ พี่สาวยังสวยขนาดนี้ น้องสาวจะไม่สวยได้ไง" บัวเอ่ยยกยอตัวเอง แล้วยิ้มปนทะเล้น
"จ้า แม่คนงามของไอธาม" โซนหยอกเย้า
"พี่บัว มาว่ายน้ำกันค่ะ" เสียงใสๆ ของน้องสาวเอ่ยเรียกประสานเสียงกันพลางโบกไม้โบกมือ
"เดี๋ยวพี่ลงไป ธามไปว่ายน้ำกับบัวนะ" บัวตอบน้องๆ ก่อนจะหันไปชวนธาม เขาก็พยักหน้าเป็นการตอบ
"พี่โซนลงมาเร็วๆ" ปัณณ์เอ่ยเรียก
"พี่เรนกับพี่ธันน์ด้วย ลงมาว่ายน้ำกันครับ" ปุณณ์ส่งเสียงเรียกอีกคน
ธามกระตุกเชือกที่มัดรอบเอวบัวไว้เบาๆ แล้วช่วยบัวถอดเสื้อคลุมออกไปวางไว้ที่เตียงอาบแดด
"ไอ้เรนกูว่ากูเห็นอนาคตของอลินกับนีราตอนโตแล้ววะ บัวแม่งหุ่นโคตรเอ็กซ์เลยไอ้ธามจะรักจะหลงก็ไม่แปลก" โซนเอ่ยกระซิบกับเรน พลางมองรูปร่างของบัวที่เซ็กซี่ชวนขยี้ใจ ผิวเนื้อเนียนขาวผ่องอมชมพู หน้าอกอวบใหญ่ได้รูป ช่วงเอวคอด สะโพกผายงอนงามน่ามอง ชวนให้น่าหลงใหลยิ่งนัก เรนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ก่อนจะหันไปมองร่างเล็กของนีราอย่างไม่วางตา
"ป่ะพี่โซน พี่เรนว่ายน้ำกัน" ธันน์ชักชวน ก่อนจะพากันลงสระว่ายน้ำร่วมเล่นน้ำกับเด็กๆ
"พี่เรน" เสียงหวานสดใสเอ่ยเรียกเมื่อเรนว่ายน้ำโผล่มาตรงหน้า
"พี่....." ยังไม่ทันที่เรนจะได้เอ่ยอันใด เสียงเกรี้ยวกราดก็ดังขึ้นขัดจังหวะ
"เฮ้ยๆ ออกห่างเลยนะ ไม่ต้องใกล้ขนาดนั้นก็ได้" เดลยืนชี้นิ้วให้เรนถอยห่างออกมาจากลูกสาวสุดรักสุดหวง
"เฮีย!! มานี่เลยนะ เด็กๆ เล่นน้ำกันสนุกๆ จะไปขัดทำไมห๊ะ!!" เอวายืนเท้าเอวตวาดคนเป็นสามีเสียงแหว
"เดี๋ยวเฮียไป ...นายสามคนไปเล่นฝั่งนู้นเลย" เดลตอบเอวาโดยไม่หันกลับไปมอง จ้องเขม็ง ชี้นิ้วออกคำสั่งให้เรน โซน ธันน์ ไปเล่นน้ำอีกฝั่งของสระ
"ไม่มาใช่ไหม" เอวาค่อยๆ ถอดเสื้อคลุมออกจนเหลือแต่ร่างงามอวบอิ่มในชุดว่ายน้ำทูพีชสีแดงสด ท่อนบนเป็นแบบผูกคอเว้าลึก ท่อนล่างเป็นอันเดอร์แวร์แบบผูกเชือกที่สะโพกโค้งสวย ทั้งสองชิ้นสวยสดอยู่บนเรือนร่างที่ยังคงงดงาม ก่อนจะกระโดดลงไปในสระว่ายน้ำ
"นะ...น้อง น้องรอเฮียด้วย" เห็นดังนั้นเดลรีบกระโจนตามศรีภรรยาลงไป
"เมื่อกี้พี่เรนจะพูดอะไรเหรอคะ" นีราเอ่ยถามเมื่อแม่ดึงความสนใจของพ่อไปแล้ว
"พี่จะบอกว่าสร้อยข้อมือของนีราพี่ซ่อมเสร็จแล้วนะ"
"ไม่เห็นบอกเลย" เรนส่งข้อความมาหาทุกวัน แต่ก็ไม่เคยบอกว่าซ่อมสร้อยข้อมือเสร็จแล้ว
"พี่กะจะเอามาให้ตอนเจอนีราที่นี่ แต่ก็ยังไม่มีโอกาส"
"นีรามาเล่นน้ำกับป๊ามาลูก โอ๊ยยยยยน้อง เฮียเจ็บนะ" เดลส่งเสียงขัดจังหวะการสนทนาของลูกสาวกับเรนอีกครั้ง ก่อนจะร้องเสียงหลง ห่อตัวหนีมือของเอวาที่หยิกหัวนมเขาเต็มแรง
"ชอบไปยุ่งวุ่นวายกับลูกจริงๆ ...นีราเล่นน้ำกับทุกคนไปเถอะลูก"
"ค่ะหม่าม้า"
"กลับห้อง" มือบางใต้น้ำลูบสัมผัสความเป็นชายของสามี สบตาอย่างสื่อความหมาย นัยน์ตาดำขลับท่อประกายร้อนแรงขึ้นมาในพลัน ช้อนกายบางของเอวาขึ้นอุ้มเดินขึ้นจากสระ แต่ก็ยังมิวายหันมาสั่งกำชับลูกชายคนโตให้ดูแลน้องๆ
"ศิราดูน้องด้วยนะ ป๊ากับหม่าม้ากลับห้องพักก่อน อย่าให้ใครมายุ่มย่ามกับน้องละ"
"ครับปะป๊า" ศิรารับคำคนเป็นพ่อ ชักชวนธารากับวราว่ายน้ำเข้าไปหานีรากับนารา คอยดูแลทั้งสองคน
"ไปทะเลกันดีกว่า ภิณอยากเล่นน้ำทะเล" ภิณชักชวน ทุกคนเห็นพ้องต้องกัน พากันขึ้นจากสระว่ายน้ำไปยังชายหาด
"นั่นไงพี่นีรามาเป็นแก๊งเลย" เรนมองดูนีราวิ่งไล่จับปูตัวน้อยกับภิณอย่างสนุกสนาน รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาตลอดเวลา เขายิ้มจนรู้สึกเจ็บแก้ม
"จะหนีไปไหน" นีราวิ่งตามเจ้าปูที่มุดทรายหนี
"หนีหมดเลย พี่นีราอยู่นิ่งๆ ก่อน" พอสองสาวนั่งนิ่งๆ เจ้าปูตัวน้อยทั้งหลายก็โผล่ออกมาจากรูกันเต็มไปหมด
"ปูหนีบ" นีราร้องลั่นเมื่อถูกปูหนีบ
"นีราเป็นยังไงบ้าง" เรนรีบวิ่งเข้าไปดูด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
"ไม่เป็นไรค่ะ ปูหนีบเสื้อ" นีรายิ้มจนตาหยี ปูตัวหนึ่งใช้ก้ามของมันหนีบชายเสื้อที่เป็นผ้าพริ้วๆ
"พี่เอาออกให้" เรนจัดการเจ้าปูตัวจิ๋วให้หลุดออกจากชายเสื้อของนีรา
"ขอบคุณค่ะ"
"เจ้าตัวนี้มันดื้อ จับชุบแป้งทอดเสียดีมั่ง ...นาราดูนี่" ภิณว่าหลังจากเรนใส่เจ้าปูลงไปในกระป๋องรวมกับปูตัวอื่นๆ ก่อนจะวิ่งไปอวดนาราที่ก่อกองทรายอยู่กับฟ้าใส อลิน และโซนที่ตามติดอลินไม่ห่าง ทำให้เรนได้โอกาสอยู่กับนีรา
"คืนนี้ตอนงานปาร์ตี้พี่เอาสร้อยข้อมือให้นะ"
"ค่ะ แต่อย่าให้ปะป๊าเห็นนะ นีราขี้เกียจตอบคำถามปะป๊า" ไม่ใช่ว่าไม่อยากตอบคำถามของคนเป็นพ่ออย่างเดียว แต่นีรากลัวว่าพ่อจะทำอะไรเรนด้วย ถึงเธอจะอายุเพียงสิบห้าปี แต่เธอก็ดูออกว่าผู้ชายตรงหน้ารู้สึกอย่างไรกับเธอ ตั้งแต่วันแรกที่เธอได้สบตาผู้ชายคนนี้ ความรู้สึกบางอย่างก่อเกิดขึ้นมา มีบางอย่างดึงดูดให้เธออยากทำความรู้จัก รู้สึกไว้วางใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกัน
"ได้สิ"
"แล้วค่าซ่อมเท่าไรคะ"
"พี่ไม่คิดค่าซ่อมหรอก แต่พี่ขอค่าซ่อมเป็น....." เรนอ้ำอึ้ง นีราจึงถามอีกครั้ง
"เป็นอะไรคะ"
"ถ้าพี่คืนสร้อยข้อมือให้นีราไปแล้ว พี่ขอคุยกับนีราเหมือนเดิมได้ไหม"
"กลัวว่าถ้านีราได้สร้อยข้อมือคืน แล้วนีราจะบล็อกไลน์พี่เรนเหรอคะ"
"นีราจะทำแบบนั้นเหรอ"
"ถ้านีราทำล่ะ"
"งั้นพี่คงไม่คืนสร้อยข้อมือให้นีราแล้ว ถ้าสร้อยข้อมืออยู่กับพี่ พี่ก็จะได้มีข้ออ้างคุยกับนีราต่อ"
"จะเป็นเรนนี่ตลอดไปเหรอคะ"
"ถ้าเป็นเรนนี่แล้วได้คุยกับนีราพี่ก็ยอม" ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเรนส่งข้อความคุยกับนีราในนามเรนนี่ตลอด จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ขอแค่ได้คุยกับเธอตลอดไปให้เป็นอะไรก็ยอมทั้งนั้น
"นีราไม่บล็อกหรอกค่ะ นีราชอบคุยกับเรนนี่" เพียงเพราะถ้อยคำของเด็กสาวที่ตอนนี้เดินหนีไปรวมกลุ่มกับพี่น้องคนอื่นๆ ด้วยไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นใบหน้าที่เป็นสีแดงระเรื่อจากความเขินอาย ทำให้หัวใจแกร่งเต้นระรัว จนยากที่จะควบคุมให้เป็นจังหวะปกติ ริมฝีปากหนาค่อยๆ คลี่ยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ จนแก้มแทบปริ ความตื้นตันมันตีตื่นอยู่เต็มอก ไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกนี้ออกมาอย่างไร หากต้องเรียบเรียงเป็นคำพูดวันนี้ก็คงไม่จบสิ้น
เสียงหัวเราะของความสนุกสนานดังไปทั่วบริเวณ บ้างก็นั่งเล่นทราย บ้างก็วิ่งไล่จับปูลม บ้างก็จับกันโยนลงทะเลจนสำลักน้ำทะเลหน้าดำหน้าแดงกินน้ำทะเลกันไปคนละหลายอึก แต่ก็ยังหัวเราะกันลั่น โซน เรน ธันน์ก็ทำตัวกลมกลืนย้อนวัยไปกับเด็กๆ ก่อนสามหนุ่มเพื่อนซี้จะท้าแข่งเจ็ทสกี โดยในเกมนี้เรนเป็นผู้คว้าชัยชนะมาครอง โซนเข้ามาเป็นลำดับที่สอง แต่ถ้าหากเจ็ทสกีของธามไม่ขัดข้อง เขาต่างหากที่จะเป็นผู้ชนะในเกมนี้ คนแพ้ถูกทำโทษโดยการจับโยนลงทะเล และบัวก็ถูกโซนอุ้มโยนไปด้วย หลังจากนั้นทุกคนก็กลับห้องพักเพื่อเตรียมตัวสำหรับงานปาร์ตี้ในค่ำคืนนี้
"เฮียนั่งกินกุ้งไปเลย ปล่อยให้ลูกได้สนุกกับทุกคนไป มีแต่คนกันเองทั้งนั้น จะอะไรนักหนา" เอวาปรามคนเป็นสามีที่ตั้งท่าจะเข้าไปหาลูกสาวเพียงเพราะเรนนั่งใกล้นีรา ทั้งที่นั่งคนละฝั่งของโต๊ะ แต่เผชิญหน้ากัน ส่วนโซนก็นั่งระหว่างนารากับอลิน เดลจำใจนั่งกินกุ้งที่ภรรยาเป็นคนแกะ พูดคุยไตร่ถามสารทุกข์สุกดิบ และสัพเพเหระกับพวกผู้ใหญ่ และเพื่อนๆ
"กลัวมือเลอะ?" เรนมองนีราที่ใช้ช้อนส้อมค่อยๆ แกะเปลือกกุ้ง
"ค่ะ" นีราหัวเราะแหะๆ ก็เธอกลัวมือเลอะจริงๆ
"พี่แกะให้เอาไหม" เรนเอื้อมมือไปหยิบกุ้งเผาตัวโต
"ช่วยกันแกะดีกว่าค่ะ นีราแกะให้เฮียศิรา เฮียธารา วราแล้วก็นาราด้วย ค่อยไปล้างมือพร้อมพี่เรน" นีรานึกเรื่องสร้อยข้อมือขึ้นมาได้ จึงคิดใช้โอกาสตอนไปล้างมือเอาสร้อยข้อมือคืนจากเรน
เรนกับนีราช่วยกันแกะกุ้ง แกะปู เผื่อแผ่คนอื่นๆ ก่อนจะพากันไปล้างมือยังห้องน้ำด้านในรีสอร์ท
"พี่ล้างมือให้" เรนจัดการล้างมือของนีราด้วยความทะนุถนอม ราวกับกลัวว่ามือเล็กนั้นจะบอบช้ำ เมื่อทำความสะอาดมือทั้งของเธอและตนเองเรียบร้อย เรนก็หยิบสร้อยข้อมือออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
"ทำไมสวยขึ้น" นีรามองสร้อยข้อมือพร้อมกับยิ้มบางๆ
"พี่เพิ่มลูกปัดกับล็อกเก็ตเข้าไป ล็อกเก็ตเปิดได้ด้วยนะ" เรนเปิดล็อกเก็ตรูปหัวใจให้นีราดู
"อันนี้มีตัว N ซ่อนอยู่ด้วย แล้วอันนี้ล่ะ ตัว R นีรากับเรนนี่ใช่ไหมคะ" ริมฝีปากบางฉีกยิ้มกว้างยิ่งกว่าเดิม ชื่นชอบสิ่งที่เรนเพิ่มเข้ามาในสายสร้อย
"ใช่ พี่ชอบนีรา ตอนแรกพี่จะรอให้นีราโตกว่านี้ก่อนค่อยบอก แต่พี่กลัวว่าถ้าไม่บอกให้นีรารู้ ต่อไปพี่อาจจะเสียใจ" เรนตัดสินใจบอกความรู้สึกบางส่วนกับนีรา
"นีราก็ชอบพี่เรนค่ะ แค่ชอบก็พอนะคะ อย่ารักกัน"
"พี่เข้าใจ" เรนไม่ได้รู้สึกเสียใจหรือผิดหวัง แต่เข้าใจว่ายังไม่ถึงเวลาที่เขากับเธอจะรักกันได้
"พี่เรนเข้าใจว่ายังไงคะ"
"นีรายังเด็ก แล้วอาเดลก็หวงนีรามาก แต่พี่จะรอ รอวันที่นีราโต รอวันที่นีราพร้อม ตอนนี้ขอแค่ได้คุยกับนีรา ได้ส่งข้อความหา พี่ก็โอเคแล้ว"
"แต่เรื่องที่เราคุยกันจะให้ปะป๊ารู้ไม่ได้นะคะ"
"พี่ก็จะเป็นเรนนี่ของนีราไง"
"โอเคค่ะ เรนนี่ของนีรา"
"พี่ใส่สร้อยข้อมือให้นะ" นีรายื่นแขนให้เรนใส่สร้อยข้อมือให้ ทันทีที่ใส่เสร็จน้ำเสียงแข็งกร้าวของเดลก็ดังขึ้น นีราถอยห่างออกจากเรนโดยอัตโนมัติ
"ทำอะไรกัน" เดลมองหน้าเรนอย่างไม่ไว้วางใจ
"นีรากับพี่เรนมาล้างมือค่ะ แกะกุ้ง แกะปู ให้พวกเฮียศิรา มือเลอะก็เลยมาล้างมือกัน ปะป๊ามาเข้าห้องน้ำเหรอคะ"
"เปล่า นีราหายไปจากงานนาน ป๊าก็เลยเดินมาหา แล้วทำไมไม่ชวนนารามาเป็นเพื่อน"
"นารากำลังเล่นเกมกับพวกเฮียศิราค่ะ นีราล้างมือเสร็จแล้ว เราเข้าไปในงานกันดีกว่า"
"แล้วนายล้างมือเสร็จหรือยัง" เดลถามเรนด้วยน้ำเสียงห้วนแข็ง
"ยังครับ" เรนเปิดน้ำล้างมือ ถูวนไปมาภายใต้สายตาคมกริบที่มองมาอย่างจับพิรุธ
"ปะป๊าไปกันเถอะค่ะ" นีรากอดรัดท่อนแขนแข็งแรงของคนเป็นพ่อ ออกแรงดึงให้ตามตนเองออกไป
เรนถอนหายใจออกมาหนักๆ เมื่อได้อยู่ตามลำพัง ทั้งโล่งอก ทั้งหนักใจ ระคนปนเปกันไปหมด แต่ก็ยังมีความดีใจแฝงอยู่ด้วยที่นีรากับเขามีใจตรงกัน รู้สึกเช่นเดียวกัน คงต้องรอเวลาเท่านั้น รอให้เธอโตกว่านี้เสียก่อน เมื่อเธอเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย ทุกอย่างก็จะดีขึ้น